คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Chapter nineteen ::: 100% :::
Flirt Love วุ่นรักป่วนหัวใจนายนักดนตรี
วอเทอร์
ตอนที่ 19
หลังจากที่แจ็คสันกลับมาจากทริปเที่ยวภูเขากับยูคยอมแล้ว คนตัวเล็กก็มีหน้าที่ไปศึกษาเล่าเรียนตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือมาร์คเพื่อนรักของเขา แจ็คสันไม่รู้เรื่องราวระหว่างมาร์คกับแบมแบมเลยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ครั้นจะให้ไปถามเพื่อนของเขาก็คงจะแปลกๆไปบ้าง มันคงไม่ดีเท่าไหร่ถ้าจะไม่ถามเรื่องที่เพื่อนไม่อยากจะเล่า เขาทำได้เพียงแค่เปลี่ยนเรื่องไม่ให้มาร์คนั้นจมอยู่กับความเครียดของตัวเอง
แต่แล้วนานเข้าแจ็คสันก็เริ่มที่จะทนไม่ไหว การเปลี่ยนเรื่องมันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีเลยสักนิด แบบนี้มันแปลกเกินไป ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนั้นกันแน่ แจ็คสันอึดอัดกับอะไรๆที่เป็นอยู่ในตอนนี้ทั้งหมด เขาเม้มริมฝีปากตัวเองอย่างใช้ความคิด นั่งเรียนไปโดยที่ตัวและใจไม่ได้มีสมาธิอยู่กับสไลด์บนจอของอาจารย์เลยแม้แต่น้อย มาร์คที่มีรอยยิ้มสดใสให้แจ็คสันเสมอๆหายไปไหนก็ไม่รู้ ซึ่งแจ็คสันจะไม่ทนมันอีกต่อไปแล้ว !
อาจารย์ที่บรรยายอยู่หน้าห้องสั่งงานและบอกเลิกคลาสก่อนที่เธอจะเดินออกไป มาร์คก้มหน้าก้มตาเก็บของใส่กระเป๋าของตัวเองก่อนทำท่าจะลุกขึ้น ใบหน้าหวานดูซีดเซียวและไร้วิญญาณ แจ็คสันคว้าข้อมือของมาร์คเอาไว้ก่อนที่เพื่อนตัวเล็กจะลุกไป
“เดี๋ยวก่อนมาร์ค”เสียงแจ็คสันเอ่ยห้าม
“มีอะไรหรอ”เสียงแหบๆของมาร์คเอ่ยตอบออกมาเนิบๆ แจ็คสันที่ไม่ชอบท่าทางและบรรยากาศแบบนี้ของมาร์คแล้วยิ่งพาลอารมณ์เสียเข้าไปใหญ่ มาร์คจะทำกับเขาเกินไปแล้วนะ
“เป็นอะไรทำไมไม่บอกเรา”แจ็คสันถามออกไปตรงๆทันทีเลย เขาอึดอัดมามากพอแล้วที่จะต้องมาทนมองเห็นสภาพเพื่อนรักที่ดูย่ำแย่แบบนี้
“มันไร้สาระอะ ปล่อยฉันไว้แบบนี้แหล่ะ”พอแจ็คสันได้ยินคำตอบแบบนั้นของมาร์ค คนตัวเล็กแทบอยากจะร้องไห้ออกมาทันที เห้ย คือเขาสองคนเป็นเพื่อนรักกันไม่ใช่หรอ หรือแจ็คสันเข้าใจอะไรผิดไปเองคนเดียว มาร์คบิดข้อมือออกจากการจับกุมของแจ็คสัน ก่อนที่จะเบือนหน้าหนี ในใจมาร์คเองก็รู้สึกผิดมากเหมือนกัน แต่จะให้ทำยังไงได้ แจ็คสันไม่จำเป็นต้องมากังวลเรื่องของเขา ลำพังปัญหาของเพื่อนตัวเล็กเองมันก็มากพอแล้ว
“เราเป็นเพื่อนกันนะมาร์ค นายบ้าไปแล้วอ๋อ นายแม่งแย่ ไม่เข้าใจอะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ อึดอัดว่ะ”แจ็คสันพูดจบก็คว้ากระเป๋าเป้ของตัวเองก่อนจะเดินหนีมาร์คออกมาจากห้องบรรยาย แววตาที่ดูเจ็บปวดของแจ็คสันทำมาร์คชะงักไปเหมือนกัน มาร์คทำพลาดอีกแล้วหรอ มาร์คจะเสียเพื่อนดีๆอย่างแจ็คสันไปแล้วงั้นหรอ มาร์คได้แต่เงียบ มือเรียวก้มเก็บของต่อใส่กระเป๋า และเดินออกไปจากห้อง
คนตัวเล็กเดินหนีมาตามโถงทางเดินเรื่อยๆ มือเล็กๆถูกใช้ขึ้นมาปิดหน้าตัวเองเอาไว้ แจ็คสันรับความรู้สึกพวกนี้ไม่ไหวอีกแล้ว ท่าทางเฉยชาเฉยเมยกับทุกๆสิ่งบนโลกของมาร์ค เพื่อนเขาคนเดิมหายไปไหน แจ็คสันไม่อยากได้มาร์คแบบนี้ ได้โปรดเถอะนะพระเจ้า ช่วยพามาร์คเพื่อนรักคนเดิมของแจ็คสันกลับมาที
แจ็คสันเดินเตะฝุ่นไปเรื่อยๆด้วยความรู้สึกวูบโหวงภายในจิตใจ คิดๆดูแล้วก็รู้สึกผิดกับมาร์คอยู่ไม่น้อยที่ตัวเองระเบิดอารมณ์ใส่แบบนั้น เอาจริงๆเขาก็ไม่น่าไปทำแบบนั้นเลย พอเจอท่าทางน่าโมโหนั่นของมาร์คเขาก็ไม่สามารถคุมอารมณ์ตัวเองได้เลย ยิ่งคิดถึงตอนที่มาร์คบิดข้อมือออกจากมือเขาแล้วแจ็คสันก็ยิ่งเจ็บปวดที่ใจ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากไปขอโทษมาร์ค ไม่รู้ว่ามาร์คจะอยากเลิกคบเขาแล้วหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นแจ็คสันเองก็คงเสียใจ เสียใจที่สุดเลยด้วย
แจ็คสันไม่อยากรู้สึกค้างคาใจแบบนี้อีกแล้ว ไหนจะความรู้สึกผิดที่ทำต่อมาร์คตีตื้นขึ้นมาในใจอีก แจ็คสันเครียดที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ ตอนนี้คนตัวเล็กต้องไปถามหาความจริงทุกๆอย่างจากแบมแบมให้ได้ ในเมื่อมาร์คไม่พร้อมแจ็คสันเชื่อว่าแบมแบมก็ต้องเป็นคนที่พร้อม ถ้าต้นเหตุความเสียใจของเพื่อนรักของเขาคือแบมแบมล่ะก็ เขาจะไม่มีวันให้อภัยเด็กหนุ่มเป็นแน่คอยดู
มือเรียวคว้ามือถือขึ้นมาก่อนจะกดต่อสายไปหาใครบางคน เมื่อได้เวลาและสถานที่แล้วแจ็คสันไม่รอช้าที่จะรีบไปพบอีกฝ่ายให้เร็วที่สุด
ร้านอาหาร
แจ็คสันผลักประตูเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาคุ้นเคยอย่างดีเลยแหล่ะ เพราะมันคือร้านอาหารของพี่แจบอมหรือร้านที่แจ็คสันเคยทำงานอยู่ เขามาที่นี่อีกครั้งแต่คราวนี้ไม่ใช่ฐานะพนักงานแต่เป็นลูกค้าของร้าน แจ็คสันมาเพื่อพบกับ ‘แบมแบม’
และแล้วการรอคอยของแจ็คสันก็สิ้นสุดลงเมื่อคนตัวเล็กเหลือบมองไปทางประตูร้านและเห็นคนที่เขากำลังนั่งรออยู่อย่างแบมแบมกำลังเดินเข้ามาหาเขาที่โต๊ะ แจ็คสันผายมือเป็นเชิงให้แบมแบมนั่งลง เด็กหนุ่มก็ทำตามอย่างว่าง่าย
“สั่งอะไรกินก่อนไหม พี่เลี้ยงเอง”แจ็คสันพูดอย่างใจดีและเป็นมิตร แต่สีหน้าที่ดูหม่นหมองของแจ็คสันเล่นเอาแบมแบมก็สำนึกผิดแทบไม่ทันเหมือนกัน คิดไว้แล้วว่าต้องมีปัญหา ไม่อย่างนั้นพี่แจ็คสันคงไม่นัดเขามาคุยเป็นการส่วนตัวแบบนี้หรอก
“ไม่ดีกว่าครับ คุยเลยก็ได้”แบมแบมตอบปฏิเสธออกไป เด็กหนุ่มไม่มีความกล้ามากพอที่จะสบตาลูกแก้วใสของแจ็คสันเลย แบมแบมรู้ว่ามาร์คและแจ็คสันเป็นเพื่อนที่รักกันมากๆ ไม่ต้องบอกเขาก็รู้ว่าแจ็คสันโกรธเขาเต็มๆเลย
“ถ้างั้นพี่เข้าเรื่องเลยนะ”แจ็คสันพูดเกริ่นแต่ก็ไม่ได้เว้นจังหวะไว้นานนักคำถามแรกก็ถูกส่งไปหาเด็กหนุ่มแบมแบมเลยแทบจะทันที
“เกิดอะไรขึ้นระหว่างเรากับมาร์ค”แจ็คสันถามตรงๆ
“คือผม...”
“พูดยากหรอ?”แจ็คสันมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป ไอ้อาการอึกอักชวนโมโหของแบมแบมนี่มันอะไรกัน ความโกรธครอบคลุมแทบไปทั่วทั้งความรู้สึกของแจ็คสันแล้วตอนนี้
“ไม่ครับ ผมผิดเอง เราทะเลาะกันผมกับพี่มาร์ค ก็เลยห่างๆกันไปสักพัก...”
“เล่าต่อสิ”แจ็คสันตั้งใจฟังเงียบๆไม่ได้แสดงอาการยินดียินร้ายอะไรและสงบสติอารมณ์ตัวเองลงไปบ้างแล้ว
“ผมเผลอตะคอกใส่พี่มาร์คไปแล้วเดินหนีออกมา…”
“...ที่โรงเรียนผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เธอเข้ามาทำความรู้จักกับผมก่อน ตอนนั้นผมกำลังมีปัญหากับพี่มาร์ค เธอเป็นคนเดียวที่คอยอยู่ข้างๆผมตอนที่ผมกำลังไม่มีใคร”แจ็คสันขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกมาร่างเล็กพยักหน้ารับคำที่แบมแบมบอกเล่า
“เธอทำให้ผมรู้สึกดีและลืมเรื่องเครียดๆเกี่ยวกับพี่มาร์คไป มันก็เลย...เธอดีกับผม แล้ววันหนึ่งเธอก็บอกกับผม ว่าเธอชอบผม”แบมแบมเล่าออกมา สายตาเหม่อลอยไม่ได้โฟกัสกับสิ่งรอบตัวในตอนนี้แล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแจ็คสันมีสีหน้าอย่างไรและรู้สึกอย่างไร
“...แบมนอกใจเพื่อนพี่หรอ”แจ็คสันถามขึ้นท่ามกลางความเงียบที่ปกคลุมเขาทั้งสองคน
“..ครับ...แต่ว่ะ..”แบมแบมยอมรับ
กรอด
“...อีเหี้ยแบม”แจ็คสันหลุดครางคำหยาบออกมาแผ่วเบาไม่ตะคอก ไม่ดุ ก็แค่พูดออกมาเบาๆ แต่คนที่น่ารักเรียบร้อยอย่างแจ็คสันถึงกับเอ่ยคำหยาบขึ้นมาได้เนี่ย แบมแบมถือว่าสุดยอดมาก ฟันขาวเผลอขบกัดกรามแน่นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ ยิ่งฟังคำตอบจากแบมยิ่งรู้สึกเกลียดสิ่งที่เด็กคนนี้ทำกับเพื่อนของเขา แจ็คสันคิดถึงมาร์คมากในตอนนี้ อยากจะกอดอีกคนเอาไว้แน่นๆ ไม่น่าเลยจริงๆ คิดผิดที่สุดในชีวิตเลยที่เลือกจะเข้าข้างแบมแบมมาตลอด พอดูสภาพเพื่อนรักของเขาตอนนี้ ใบหน้าหวานที่แสนเศร้าไม่ต่างจากคนตายเลยสักนิดแจ็คสันก็ยิ่งโกรธและนึกโทษตัวเอง คนตัวเล็กยกมือขึ้นห้ามอีกฝ่ายเมื่อแบมแบมทำท่าจะพูดต่อ
“พี่แจ็คสันฟังผมก่อน”แบมบอก แจ็คสันสะบัดหน้ามองเด็กหนุ่มชัดๆอีกครั้งหนึ่ง แบมแบมได้แต่เอ่ยขอร้องคนรุ่นพี่ แจ็คสันมองแบมแบมอย่างช่างใจก่อนจะตอบอืมในลำคอเบาๆ
“ผมรักพี่มาร์คจริงๆ เรื่องทั้งหมดผมไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ ผมคิดอะไรตื้นๆเอง พี่แจ็คสันไม่ต้องหายโกรธผมก็ได้ แต่ผมอยากให้พี่แจ็คสันรู้เฉยๆ ขอโทษนะครับที่ทำให้ผิดหวัง ขอบคุณมากๆที่ก่อนหน้านั้นช่วยผมจีบพี่มาร์ค”แบมแบมบอกขอโทษออกมาด้วยความสำนึกผิด แบมแบมสำนึกผิดได้มันก็ดีนั่นคือสิ่งที่ดี แต่ระหว่างแบมกับมาร์คที่มันไม่เหมือนเดิมนี่สิกี่พันล้านคำขอโทษมันก็ไม่เหมือนเดิมปะวะในเมื่อมาร์คเพื่อนเขาคนเดิมยังไม่กลับมา
“แล้วแบมจะเอายังไงต่อ พี่ไม่ได้อยากโกรธแบมหรือรู้สึกอะไรไม่ดีกับแบมนะ แต่พี่เป็นห่วงมาร์คเพื่อนพี่มีค่ากับพี่มาก เผื่อน้องแบมจะยังไม่รู้ ตอนที่น้องแบมมีผู้หญิงคนนั้น เพื่อนพี่มีใครหรอ ก็เปล่าเลย...”แจ็คสันบอกเหตุผลแท้จริงของเขา ฟันขาวเผลอขบกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ แจ็คสันเหนื่อยล้าและพาลคิดถึงที่พักใจอย่างแฟนหนุ่มตัวสูงอย่างคิมยูคยอม คิดได้ดังนั้นก็เลิกกัดปากไปโดยปริยาย ราวกับว่ายูคยอมจะมาดุทั้งๆที่ยูคยอมไม่รู้หรอกว่าเขากัดปาก ยิ่งมานั่งฟังอะไรแบบนี้แล้วคนตัวเล็กรู้สึกเสียใจมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้รู้ว่าเพื่อนของเขาต้องพบเจอกับอะไรบ้าง
“ผมเองก็ยังไม่รู้ พี่มาร์คไม่พูดกับผมเลยตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล”แบมแบมบอกเสียงอ่อย เด็กมัธยมได้แต่ทำหน้าเครียดอย่างไม่รู้วิธีแก้ปัญหา
“มาร์คเข้าโรงพยาบาลหรอ ทำไมพี่ไม่รู้”แจ็คสันเกิดอาการงงขึ้นมาแทบจะทันที เขาไปเที่ยวแค่สามสี่วันเกิดเหตุมากมายกับเพื่อนคนสำคัญได้ขนาดนี้เชียวหรือ แจ็คสันสับสนไปหมด กระบอกตารู้สึกร้อนผ่าว อยากจะบอกมาร์คสักครั้งว่าเขาขอโทษที่งี่เง่า แต่ดูเหมือนว่าอะไรๆก็ดูแย่และยากไปหมด แจ็คสันไม่สามารถแบกรับความเครียดพวกนี้ได้คนเดียวเลยจริงๆ เขาคิดถึงยูคยอม คิดถึงมาร์ค
“ครับ พี่มาร์คไม่ยอมทานข้าว จนป่วยเข้าโรงพยาบาล”แบมแบมเล่าออกมา เด็กหนุ่มได้แต่ถามคำตอบคำ แบมแบมไม่ได้อยู่จุดที่จะสามารถอธิบายทุกๆอย่างให้แจ็คสันฟังได้อีกแล้ว แจ็คสันเลิกอดทนก่อนจะเอ่ยวาจาออกไปด้วยความโกรธ
“พี่อยากจะฆ่านายที่สุดเลยแบม !”แจ็คสันพูดเสียงเข้มก่อนจะลุกเดินออกไปจากร้านของแจบอม สวนกับจินยองที่เดินเข้าร้านมาพอดี จินยองได้แต่แปลกใจที่อยู่ๆแจ็คสันก็เดินดุ่มๆออกไปเลย ไม่มัวมามองสนใจทักทายเพื่อนร่วมติ่งอย่างเขาเลยสักนิด อดจะเกาหัวอย่างงงๆไม่ได้ พอมองไปที่โต๊ะโต๊ะหนึ่งในร้านกลับเห็นเด็กมัธยมคนหนึ่งที่กำลังนั่งหน้าเศร้าอยู่ ไม่ผิดแน่ เด็กคนนี้คือแบมแบมที่แจ็คสันเคยเล่าให้ฟังว่าช่วยแบมแบมจีบเพื่อนตัวเองที่ชื่อมาร์คอยู่ สองคนนั้นเป็นอะไรหรือเปล่านะ จินยองเองถึงแม้สนิทกับแจ็คสันได้ไม่นานก็เป็นห่วงไม่ได้ยังไงแจ็คสันก็คือเพื่อนกัน เขาจำต้องเก็บความสงสัยไว้ในใจแล้วไปช่วยแฟนหนุ่มในครัวต่อ
คอนโดของแจ็คสัน
หลังจากที่เดินออกมาจากร้านแล้วแจ็คสันก็กลับมาที่คอนโดของเขาทันที กลับมาเพื่อสงบสติอารมณ์ที่มันผสมปนเปกันไปหมดให้คงที่และเรียบเรียงความคิด สิ่งที่ต้องทำเสียใหม่
ตู้เย็นหลังใหญ่ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของแจ็คสันก่อนร่างนุ่มนิ่มจะก้มดูว่ามีอะไรที่พอกินเล่นได้บ้าง ก็ได้นมช็อกโกแล็ตติดมือมาหนึ่งกล่อง เจาะนมดื่มแล้วก็ยิ่งรู้สึกเหงาและคิดถึงยูคยอมมากขึ้นไปอีก อยากจะเข้าไปอ้อน เข้าไปซุกอกยูคยอม อย่างน้อยยูคยอมก็ช่วยบรรเทาความเครียดของแจ็คสันได้เป็นอย่างดี
กล่องนมที่กินไปเพียงครึ่งกล่องถูกวางลงบนโต๊ะขนาดเตี้ยใกล้กับโซฟากำมะหยี่สีแดงกลางห้องแจ็คสันเข้าแอพพลิเคชั่นไลน์แอพประจำที่ไว้ใช้คุยติดต่อกับยูคยอมก่อนจะพิมพ์ทักแชทอีกฝ่ายไป ถ้าพี่เขาซ้อมอยู่แจ็คสันก็อดคุย ถึงเป็นแฟนกันแต่แจ็คสันก็ไม่ได้รู้ลึกถึงขนาดที่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน ยูคยอมต้องไปทำงานไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าจะโทรไปตามจิกบ่อยๆ
แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นโชคดีของแจ็คสันที่รอไม่ถึงห้านาทียูคยอมก็พิมพ์ข้อความตอบกลับมา แจ็คสันเผยรอยยิ้มน่ารักบางๆก่อนจะรีบกดพิมพ์แชทตอบร่างสูง
(15.23) พี่ครับ : JKSNWG852
K.Gyeom : ว่าไง (15.27)
(15.27) ว่างไหม : JKSNWG852
K.Gyeom : ว่างสิ มีอะไรหรือเปล่า ไม่โทรมาล่ะ (15.28)
(15.28) มีเรื่องเครียดนิดหน่อย : JKSNWG852
ห้องสนทนาแอพพลิเคชั่นชื่อดังสีเขียวสว่างระหว่างยูคยอมกับแจ็คสันไม่มีบทสนทนาอะไรเพิ่มเติมหลังจากที่แจ็คสันพิมพ์ออกไป มันขึ้นว่าปลายทางอ่านข้อความนี้แล้ว แต่แจ็คสันกลับต้องขมวดคิ้วขึ้นนิดๆเมื่อเห็นว่าหลายนาทีแล้วยูคยอมก็ยังไม่ยอมตอบข้อความอะไรกลับมา จนมีสายเข้าจากยูคยอมนี่แหล่ะ แจ็คสันสไลด์มือถือเพื่อเป็นการรับสายโทรศัพท์
“พี่กำลังยุ่งใช่ไหมเนี่ย”แจ็คสันถามเสียงปกติ
(ไม่หรอก แจ็คสันสำคัญกับพี่มากกว่าอีก แล้วเป็นอะไรมีเรื่องอะไรหรือเปล่าหื้ม)ยูคยอมส่งเสียงเชิงถามคนรัก เห็นแจ็คสันพิมพ์แชทมาแบบนั้นเขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ถึงได้เดินเลี่ยงมาหาที่หลบมุมแล้วแอบคุยโทรศัพท์กับแจ็คสันนี่แหล่ะ
“จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องของแจ็คโดยตรงหรอก เกี่ยวกับมาร์คน่ะ”แจ็คสันบอกออกไปแต่ก็ไม่ได้เล่ารายละเอียด
(ยังไม่ดีกันอีกหรอ กับเด็กที่ชื่ออะไรนะ บีม? บอม? ชื่ออะไรสักอย่างนี่แหล่ะ แล้วเป็นยังไงบ้างตอนนี้)ยูคยอมตอบกลับแจ็คสัน รู้สึกโล่งใจมากขึ้นที่คนที่มีปัญหาไม่ใช่แจ็คสันแต่เป็นเพื่อนของเจ้าตัว ยูคยอมพอจะรู้แหล่ะว่าแจ็คสันเป็นคนรักเพื่อนมาก
“ชื่อน้องแบมครับ งือ นั่นแหล่ะ แจ็คเครียดอ่า สองคนนั้นไม่ดีขึ้นเลยสักนิด แถมมาร์คก็มาเรียนด้วยสภาพที่เหมือนว่ากำลังจะตาย ดูเหม่อๆ แจ็คไม่ชอบแบบนี้เลย เป็นห่วงมาร์ค”แจ็คบอกเสียงหงอยๆ
(เป็นห่วงเพื่อนล่ะสิ แล้วเราจะเอายังไงต่อล่ะ หาอะไรทำให้เพื่อนเลิกซึมดีไหม)ยูคยอมลองเสนอกิจกรรมสนุกสนานให้ทำดูเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง
“แจ็คก็อยากจะทำแบบนั้นอะ แต่ว่า...วันนี้ทำพลาดไปแล้ว เผลอทำไม่ดีกับมาร์คไปแล้วอะ ทำไงดี ฮื่อ”แจ็คสันขมวดคิ้วปากเล็กๆพูดฟ้องยูคยอมไม่หยุดราวกับว่ายูคยอมจะช่วยแก้ปัญหาทุกอย่างได้
(ทำไมเป็นแบบนั้นไปได้ล่ะ ไม่ได้คิดมากไปเองใช่ไหม)ยูคยอมถาม
“เปล่า คือ...มันอึดอัดอะก็เลยเผลอพูดทำร้ายจิตใจมาร์คไป แล้วตอนนี้ก็โคตรรู้สึกผิดเลยอะ กลัวมาร์คจะไม่อยากเป็นเพื่อนด้วยกันกับแจ็คแล้วอะ งื่อ เครียด”
(ไม่เอาน่ะ อย่าคิดมากเลย มาร์คเป็นเพื่อนกับแจ็คสันมาตั้งนานจะไปเลิกคบง่ายๆได้ยังไงล่ะ เอาอย่างนี้ไหม เดี๋ยวพอวางสายกับพี่แล้วเราก็ค่อยโทรไปขอโทษมาร์คจะได้สบายใจขึ้น มีอะไรก็บอกพี่นะอย่าเก็บไว้คนเดียว เข้าใจไหมครับ)น้ำเสียงละมุนถูกส่งมาจากยูคยอมแจ็คสันที่ถือสายฟังอยู่ก็ใจชื้นขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง แต่ก็ยังคงหวั่นใจเรื่องมาร์คอยู่ดี
“เข้าใจครับ”แจ็คสันตอบรับเรียบๆ
(โอเค พี่เชื่อว่ามาร์คจะไม่โกรธเรา จะวางเลยไหมจะได้รีบไปปรับความเข้าใจกัน)
“ไม่เอา ไม่พร้อมง่า”แจ็คสันงอแง ยูคยอมฟังเสียงงอแงงุ้งงิ้งๆของแจ็คสันก็อดขำในลำคอเบาๆไม่ได้ เด็กน้อยตัวกลมน่ารักได้ตลอดเวลาเลยสินะเนี่ย อยู่ใกล้มือไม่พ้นจะโดนเขาคว้าไปกอด
(งั้นใจเย็นขึ้นแล้วเราก็ค่อยโทรหามาร์คดูเป็นไง แต่อย่านานนะ ยิ่งนานก็ยิ่งปรับความเข้าใจกันยาก น้องมาร์คคงไม่ใจร้ายกับเราหรอกเชื่อพี่ได้เลย)ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูสบายๆของยูคยอมก็ทำเอาแจ็คสันผ่อนคลายจากความเครียดลงไปเหมือนกัน สติที่ขาดผึงตอนแรกก็เริ่มกลับมา แจ็คสันหายใจเข้าลึกอย่างพยายามปรับอารมณ์
“งื่อ ขอบคุณน้าที่คุยเป็นเพื่อน”แจ็คสันลากเสียงยาวบอกกับยูคยอม ถ้าตอนนี้เฟสไทม์คุยกันอยู่ดวงตากลมโตก็คงจะมองเห็นว่ายูคยอมกำลังยิ้มให้กับความน่ารักของเขา
(ด้วยความยินดีเสมอครับตัวเล็ก)ยูคยอมตอบรับเสียงหวานจนแจ็คสันอดจะย่นจมูกด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้ อารมณ์ดีอะไรนักหนา ใช้ชีวิตศิลปินราวกับไม่มีเรื่องเครียดเลยนะยูคยอมอา
“ทำไมดูอารมณ์ดีแปลกๆ มีไรดีๆเกิดขึ้นหรอ”แจ็คสันถามเรื่องของยูคยอมขึ้นบ้าง
(ไม่รู้จริงดิ มัวแต่เครียดจนลืมพี่ไปแล้วดิ เสียใจจัง)ยูคยอมเอ่ยตัดพ้ออย่างหยอกเล่นก่อนจะหัวเราะเบาๆให้รู้ว่าไม่ได้งอนอะไรจริงจัง
“ง่า ก็นิดนึง แล้วตกลงอารมณ์ดีอะไร”แจ็คสันไม่ลืมประเด็นถามในสิ่งที่ยังคงสงสัย
(ทางรายการทีวีติดต่อมาที่ค่าย บอกว่าอยากจะให้พี่ไปเข้าร่วมโครงการรูมเมทโฮลแชร์รูมแชร์อะ เป็นรายการที่อยากไปมานานมากแล้วแต่ยังไม่ได้เคยไปสักที)ยูคยอมบอกอย่างอารมณ์ดี ยูคยอมอยากไปออกรายการนี้ก็เพราะว่าเขาจะได้เจอคนรู้จักใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ และได้ประสบการณ์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาอีกเยอะมากเลยแหล่ะ เพราะงั้นโอกาสทองมาถึงทั้งที เขาไม่มีทางปฏิเสธทางรายการแน่นอน
“อ๋อจำได้แล้ว ได้ไปแล้วอะดิ ดีใจด้วยน้า”แจ็คสันบอกแสดงความยินดี
(ขอบคุณครับ เดี๋ยวพี่ต้องวางแล้วนะ แล้วจะโทรหาครับ อย่าลืมไปคุยกับมาร์คนะ บาย)ยูคยอมเอ่ยลาแจ็คสันตอบกลับไปสั้นๆในประโยคทำนองคล้ายกัน
มือเล็กวางสายจากยูคยอมและเปลี่ยนเป็นกดโทรศัพท์ไปที่บันทึกการโทรก่อนจะเลื่อนไปเจอชื่อของมาร์ค แจ็คสันเอนตัวลงนอนก่อนจะหันหน้าเข้าพนักพิงโซฟาและกดสายโทรออก จากนั้นก็รอฟังเสียงสัญญาณ
ตู๊ดดด...ตู๊ดดด...ตู๊ดดด...ติ๊ด!
(...)แจ็คสันมั่นใจว่ามาร์ครับโทรศัพท์ของเขาแล้ว เป็นเขาเองที่กระทำไม่ต่างจากมาร์คเลยนั่นก็คือการเงียบใส่กัน ไม่ได้โกรธกัน ก็แค่ต่างฝ่ายต่างรู้สึกผิดต่อกันเท่านั้นเอง
“แจ็คสันเอง”แจ็คสันทำลายความเงียบโดยการพูดก่อน
(...นี่ก็มาร์คเอง)มาร์คเงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบเบาๆ
“...”มาร์คนิ่งแบบนี้แจ็คสันก็เริ่มเสียความมั่นใจไปเหมือนกันนะ จิตใจของแจ็คสันกลับมาว้าวุ่นอีกครั้งหนึ่ง กลัวว่ามาร์คจะไม่อยากเป็นเพื่อนกันแล้ว...
(ขอโทษนะ)มาร์คพูด แจ็คสันรีบตอบทันที
“อื้อ ขอโทษเหมือนกันที่พูดไม่ดีใส่ ขอโทษจริงๆ”แจ็คสันบอกบ้าง เสียงเล็กเอ่ยอย่างหวั่นๆ
(ไม่เป็นไรหรอก ที่พูดมันก็จริงแหล่ะ ไม่คิดมากหรอก)มาร์คบอกไปเพื่อให้แจ็คสันเลิกใส่ใจและคิดมาก
(ทำอะไรอยู่ล่ะ)มาร์คถามน้ำเสียงปกติ
“กินนมอะ แล้วมาร์คทำอะไร”เป็นแจ็คสันที่ถามกลับบ้าง
(อ่านหนังสือ วันนี้เรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเลย)มาร์คบ่นออกมาเบาๆ แจ็คสันผ่อนคลายมากขึ้นและเริ่มชวนมาร์คพูดคุยต่อไปอย่างเป็นปกติ
“คิดเหมือนกัน เรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเลยอะ เพราะอาจารย์ป้าพูดเข้าใจยากแน่ๆ”แจ็คสันบ่นบ้างเสียงกระเง้ากระงอดทำให้มาร์คขำออกมาน้อยๆตามสไตล์ที่ชอบทำอยู่เป็นประจำ
(ใกล้ๆสอบนายก็มาติวที่บ้านสิ)มาร์คเอ่ยชวนเพื่อนสนิท แจ็คสันไม่ลังเลที่จะตอบตกลง
“แน่นอน มาร์คต้องติวหนังสือให้เรานะ”แจ็คสันเอ่ยอ้อนเพื่อนสนิทผมบลอนด์
(ฉันก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้นนะแจ็คสัน นายก็ตั้งความหวังเกินไป)มาร์คบ่นกลับออกมาบ้าง แจ็คสันหลุดหัวเราะและยิ้มให้กับโทรศัพท์
“ฮ่ะๆ อย่างนั้นหรอ”ปากสีสดเอ่ย
“มาร์คยิ้มอยู่หรือเปล่า ตอนนี้เรากำลังยิ้มอยู่เลยนะ”แจ็คสันถามใสซื่อ มาร์คเองที่ก็รู้สึกตัวว่าตัวเองหลุดออกจากปวงความเศร้าและความเครียดแล้วก็ตอนที่เขาขยับเลื่อนมุมปากให้กลับมาอยู่ในระดับปกตินั่นแหล่ะ เหนือสิ่งอื่นใดเลยคือมาร์คยังมีแจ็คสันอยู่
(ยิ้มสิ)มาร์คตอบ
“มีอีกเรื่องหนึ่ง ขอโทษนะแต่เราไม่พูดไม่ได้อะ”แจ็คสันบอกขอโทษมาร์คล่วงหน้าก่อนจะเริ่มพูดอีกครั้งหนึ่ง มาร์คค่อยๆหุบยิ้มลงคนตัวเล็กกำชายเสื้อตัวเองแน่น
“กับแบมแบมเป็นยังไงบ้าง”แจ็คสันกลั้นใจถามออกไป มาร์คนิ่งเงียบไร้การตอบรับใดๆทั้งสิ้น แจ็คสันรู้สึกได้ถึงความอึดอัดที่มาร์คกำลังเป็นอยู่แต่เขาต้องอดทนและเอ่ยถามเพื่อนรักต่อ
(…)มาร์คยังคงใช้ความเงียบเป็นตำตอบ
“อย่าปล่อยให้ค้างคาแบบนี้เลยมาร์ค เราไม่อยากให้มาร์คต้องเจ็บ เราเป็นห่วงนะ”มาร์คที่ได้ฟังแจ็คสันพูดก็ผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วเบา ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเจ็บที่หัวใจ ตั้งแต่ตอนนั้น เขาออกมาจากโรงพยาบาล เขาก็ไม่เคยเปิดโอกาสให้แบมแบมเข้าถึงตัวอีกเลย มันก็คง..เหมือนกับการบอกลากันกลายๆล่ะมั้งนะ
ไม่ใช่ว่ามาร์คไม่รักแบมแบม ถ้าไม่รักเขาจะรู้สึกเจ็บปวดอยู่แบบนี้หรอ มาร์คแค่ต้องการเวลา…เวลาอีกนิดหน่อยเท่านั้น มาร์คไม่ได้เข้มแข็งไปเสียทุกเรื่อง เรื่องบางเรื่องก็เหมือนว่ามาร์คพร้อมที่จะอ่อนแอ โดยเฉพาะเรื่องของแบมแบม มันเจ็บนะ ที่มารู้ว่าตัวเองโดนคนรักนอกใจ
ไม่รู้เหมือนกันว่านานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกรักใครมากๆเหมือนอย่างที่เคยเป็น ความเจ็บและความเสียใจจากรักครั้งเก่ายังคงตามหลอกหลอนและวนเวียนอยู่ในหัวและมาร์คก็ไม่เคยเปิดใจให้ใครได้เข้ามาในหัวใจของเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนบางคนพยายามเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา แบมแบมทำสำเร็จ ความพยายามของเด็กหนุ่มข้างบ้านของมาร์คก็ทำเอามาร์คเองก็หวั่นไหวได้เหมือนกัน เจอหน้ากันแทบทุกวันจะไม่ให้รู้สึกอะไรเลยก็คงต้องบอกว่ามาร์คโกหก เขารู้สึกดีมาตลอดแต่ก็ไม่เคยคิดที่จะกล้าเสี่ยง ใครๆก็รู้ว่าอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนการลงทุนที่เสี่ยงขนาดนี้ มาร์คจึงไม่ขอทำธุรกิจนี้ แต่จนแล้วจนรอดแรงรบเร้าจากเสียงรอบข้างก็กดดันให้มาร์คลองเสี่ยงดู เหรียญที่โยนออกไปมาร์คเพียงแค่หวังว่ามันจะเป็นด้านที่เขาอยากให้หงาย แต่คงเป็นเพราะมาร์คไม่ยอมดูผลลัพธ์ที่ได้ล่ะมั้ง
ภาวนาให้ออกหัว แต่เหรียญก็กลับออกก้อย…
(ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกแจ็คสัน ฉันสบายดีน่ะ …ขอบคุณสำหรับทุกๆเรื่องที่ทำให้นะฉันก็ไม่รู้เหมือนกันเลยว่าจะไปหาเพื่อนที่ดีแบบนายได้จากที่ไหน)หลังจากที่เงียบไปนานมาร์คก็เอ่ยตอบแจ็คสัน
“มาร์คเป็นเพื่อนที่เรารักที่สุดเสมอนะ เราไม่เป็นห่วงได้ยังไงล่ะ เพื่อนเราทั้งคน”แจ็คสันบอกกับมาร์ค มาร์คได้แต่รู้สึกขอบคุณแจ็คสันในใจ แจ็คสันดีกับเขามากจริงๆ
(ฉันก็รักนายที่สุดเหมือนกัน แจ็คสัน)เสียงคำบอกรักธรรมดาๆแต่น่าแปลกที่ใจของแจ็คสันเต้นแรง ก็จริงๆแล้วมาร์คน่ะ เป็นคนที่แจ็คสันชอบมากๆเลย ชอบมากกว่าที่ชอบยูคยอมอีก ไม่ได้ชอบแบบแฟนนะ ชอบอารมณ์แบบคนๆนี้โคตรโดนใจ แจ็คสันรู้สึกแบบนี้กับมาร์คมานานมากแล้ว ทุกๆอย่างที่มาร์คเคยทำให้ถึงเป็นคำตอบได้อย่างดีว่าทำไมถึงรู้สึกดีกับมาร์คขนาดนั้น เพื่อนแท้ที่ดีกับเรามันหายากมากจริงๆ แต่พอมีมาร์คแจ็คสันว่าเขาไม่ต้องไปหาใครแล้วล่ะ
“ฮื้อออ เขิน”แจ็คสันหวีดออกมา มาร์คหัวเราะเสียงดังเลยเช่นกัน เขาพอจะนึกออกว่าอาการของแจ็คสันตอนนี้เป็นยังไง ไม่รู้ว่าแจ็คสันจะประทับใจในตัวเขาอะไรนักหนา เขาบอกรักเพื่อนตัวเล็กไม่บ่อยหรอก แต่ทุกครั้งที่พูดออกไปแจ็คสันก็มักจะมีอาการหน้าแดงแล้วชอบเอามือปิดหน้าอย่างเขินๆทุกที บางทีก็สงสัยว่าเพื่อนตัวเล็กแอบคิดอะไรกับเขาจริงๆหรือเปล่านะ
“แจ็ควางสายแล้วนะ เดี๋ยวไว้จะโทรไปใหม่”ในที่สุดแจ็คสันก็ยอมกดตัดสายเพื่อนสนิทผมบลอนด์
“หิวจัง…”แจ็คสันครางออกมาเอามือเล็กๆตีพุงเล่น
“ขี้เกียจทำอาหารชะมัด ข้างนอกก็ขี้เกียจไปด้วย”แจ็คสันยังไม่เลิกบ่นกับตัวเอง
ในที่สุดแจ็คสันก็ต้องตัดใจยอมลุกขึ้นมาหาอะไรทานรองท้อง ขนมปังที่ถูกราดด้วยซอสสตรอว์เบอร์รีรสโปรดถูกราดอย่างลวกๆก่อนที่ฟันซี่เล็กจะกัดกิน เดินกินเล่นอยู่ในห้องสักพัก แจ็คสันค่อยๆไล่สายตามองรูปภาพตามผนังห้องไปเรื่อยๆ ที่ผนังห้องเป็นเหมือนกระดานความทรงจำสำหรับแจ็คเพราะแทบทุกตารางนิ้วมีแต่รูปของยูคยอม แจ็คสันหัวเราะหน่อยๆให้กับรูปที่ยูคยอมทำหน้าตลกๆ
ไล่สายตามาจนถึงริมสุดของห้อง มุมนั้นเป็นปฏิทินที่คอยบอกวันที่และจดวันสำคัญต่างๆ ไม่รู้ว่าอะไรที่ดลใจให้แจ็คสันก้มมองปฏิทินก่อนจะพบว่าอีกไม่กี่วันก็ใกล้จะถึงวันครบรอบที่คบกันกับยูคยอมแล้ว
ไม่รู้ว่ามันจะหยุมหยิมเกินไปหรือเปล่านะทั้งๆที่แจ็คสันเองก็เป็นเด็กผู้ชาย แต่แหม วันครบรอบที่คบกันทั้งทีเลยนะ รู้สึกว่ามันก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่แน่ยูคยอมอาจจะให้ความสำคัญมากกว่าที่เขาให้อีกนะ ยิ่งเป็นแบบนั้นยิ่งไม่ได้เลยเดี๋ยวยูคยอมเสียใจ
แล้วแจ็คสันก็หาข้อสรุปได้โดยการไปเปิดหาข้อมูลในเน็ตดูว่าเขาควรจะทำอย่างไรดีบ้าง เมนูอาหารมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัว คิดถึงอาหารหลายๆอย่างที่คนตัวสูงชอบกิน มีเซอไพรส์แสนพิเศษ มีอาหารแสนอร่อย ทุกอย่างก็ครบแล้ว จริงสิ แจ็คสันจะลืมข้อสำคัญข้อนี้ไปไม่ได้คือการโทรไปหายูคยอม ถ้าเกิดว่ายูคยอมไม่ว่าง ทุกอย่างก็จบ ภาวนาขอให้ยูคยอมว่างในวันเสาร์นี้ด้วยเถอะ
ตู๊ดดด…ตู๊ดดดด….ติ๊ด!
(ฮัลโหล)เสียงยูคยอมดัง หืม เดี๋ยวนะเกิดอะไรขึ้นกับกล่องเสียงของยูคยอมอะ ทำไมเสียงเหมือนผู้หญิงเลย แจ็คสันถึงกับขมวดคิ้วยุ่งๆทันที
“พี่ยูคยอมหรือเปล่าครับ”แจ็คสันถามเพื่อเช็คความแน่ใจ
(อะฮ่าๆ ฉันไม่ใช่ยูคยอมหรอกค่ะ ฉันแค่มารับโทรศัพท์แทนเขาเฉยๆ)เสียงปลายสายหัวเราะดังลอดออกมา แจ็คสันเผลอกัดปากตัวเอง ยูคยอมอยู่ไหนทำไมถึงมีพวกผู้หญิงมารับสายให้ล่ะ
“คุณเป็นใครหรอครับ”แจ็คาสันถามในสิ่งที่ตนเองสงสัย
(ฉันชื่อฮอยองจีค่ะ เป็นเพื่อนสนิทกับยูคยอม)แจ็คสันขมวดคิ้วหนักขึ้นมาอีก จากประสบการณ์ติ่งไม่ต่ำว่าสี่ปี(รวมตอนเป็นเด็กฝึก)เขาจำได้ว่ายูคยอมไม่มีเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกันชื่อฮอยองจีอะไรนั่น
“ขอสายพี่ยูคยอมหน่อยได้ไหมครับ”แจ็คสันเพิ่มคำนำหน้าชื่อเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขาไม่ใช่น้องชายของยูคยอม แจ็คสันไม่กล้าไปป่าวประกาศกับใครๆหรอกนะว่าตัวเองเป็นอะไรกับยูคยอม บ้างก็มีคนรู้ บ้างก็ไม่
(ยูคยอมไปอาบน้ำน่ะค่ะ)เธอเอ่ยบอก
(จะให้ฉันบอกว่าใครโทรมาดีคะ)ยองจีเอ่ยถามเสียงใสอย่างไม่ได้คิดอะไร
“น้องชายครับ ชื่อแจ็คสัน”ร่างเล็กเอ่ยบอกอย่างไม่เต็มใจนัก แจ็คสันรู้สึกวูบโหวงในหัวใจแปลกๆ เพื่อนสนิทอะไรกัน แล้วยูคยอมไปอาบน้ำคืออะไร แปลว่าอยู่บ้านเดียวกันหรอ รูมเมทยูคยอมก็พี่จีมินที่เป็นผู้ชายตัวเล็กๆไม่ใช่หรอ อะไรกันน่ะ ความรู้สึกแบบนี้แจ็คสันไม่เห็นจะเข้าใจเลย ไม่รู้ว่าทำไมใจของแจ็คสันถึงได้เจ็บจังเลยนะ มือของตัวเองถูกใช้มาทาบทับร่างกายบริเวณหัวใจ ทำไมมันถึงได้รู้ชาไปหมดแบบนี้
พอพูดจบแจ็คสันไม่ทันได้ฟังอะไรอีกเขารีบกดตัดสายทิ้งก่อนจะวางมือถือทิ้งไว้บนโต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา และคว้าหมอนอิงมากอดนอนเหยียดหันหน้าเข้าโซฟา ตากลมโตกลิ้งหลุกหลิกไปมา แจ็คสันกำลังไม่เข้าใจ มีบางอย่างที่แน่ชัดมากๆเลยคือแจ็คสันไม่ชอบให้มีคนมารับโทรศัพท์ของยูคยอม มือถือเป็นของส่วนตัวไม่ใช่หรอ เขาเองยังไม่เคยไปเล่นมือถือยูคยอมโดยที่ไม่ขอเลยนะ เธอเป็นใครกันแน่ จะเป็นเพื่อนสนิทอย่างที่บอกมาจริงๆหรอ
In your eyes noses lips the way she used to touch my skin your hea…ติ๊ด!
หลังจากที่ปล่อยมือถือให้ส่งเสียงร้องเสียงดังอยู่นาน แจ็คสันก็เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาดูและเป็นอย่างที่คิดยูคยอมโทรกลับมาหาเขา แจ็คสันสไลด์รับสายยูคยอม เขาทำเสียงร่าเริงเหมือนว่าตัวเองไม่ได้คิดมากอะไร ยูคยอมจึงไม่ได้สนใจที่จะอธิบายอะไรให้แจ็คสันฟังมากนัก เพียงบอกแต่ว่าตนย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านที่ถ่ายรายการแล้ว แจ็คสันพยายามเข้าใจ
(แจ็คสันโทรมามีอะไรหรอ)ยูคยอมถามเสียงธรรมดาปกติ
“อ๋อ เค้าจะโทรมาถามว่าเสาร์นี้ว่างไหม”แจ็คสันบอกธุระของตัวเอง
(มีถ่ายรายการตอนเช้ากับเที่ยง เย็นๆก็ว่างแล้วนะ)ยูคยอมที่คว้าสมุดจดตารางงานขึ้นมาดูก็เอ่ยตอบแฟนตัวเล็กออกไป
“หรองั้นดีเลย วันเสาร์มากินข้าวที่บ้านแจ็คนะ”แจ็คสันเอ่ยนัดร่างสูง ยูคยอมส่งเสียงตอบรับก่อนจะจดรายการลงไปในสมุด เมเนเจอร์ของเขาเป็นคนให้สมุดอันนี้มาเผื่อเหตุฉุกเฉินถ้าเขามาดูแลยูคยอมไม่ได้ ร่างสูงจะได้รู้ตารางงานของตัวเอง
(เอาสิ คิดถึงตัวเล็กจังเลยไม่เจอหน้าตั้งหลายวันแล้ว)ยูคยอมบอกเสียงงอแงราวกับจะอ้อนแจ็คสัน
“คิดว่าเค้าไม่คิดถึงพี่หรือไง._.”แจ็คสันบอกเสียงกระเง้ากระงอดใส่ยูคยอม ยูคยอมที่ทำงานเหนื่อยๆพอถูกคนตัวเล็กอ้อนใส่กันแบบนี้ก็หายเหนื่อยแต่มันจะแปรเปลี่ยนไปเป็นความคิดถึงแจ็คสันมากกว่าเดิมน่ะสิ
“เปิดกล้องกันไหม”แจ็คสันถามยูคยอมออกไป ยูคยอมไม่ได้ตอบอะไรกลับแต่พอสักพักหน้าจอก็เปลี่ยนเป็นร่างสูงของแฟนหนุ่ม ที่กำลังยิ้มเผล่ใส่กล้อง ยูคยอมนั่งอยู่ที่เก้าอี้ในบ้านที่ถ่ายรายการ
(คิดถึงจังครับ)ยูคยอมบอกสายตาซุกซนไปมาเพราะแจ็คสันใส่เสื้อยืดตัวหลวมนอนคว่ำอยู่บนโซฟากำมะหยี่สีแดงเข้มที่ยูคยอมคุ้นเคยเป็นอย่างดี แจ็คสันที่รับรู้ว่าตัวเองกำลังถูกแทะโลมทางสายตาจากอีกฝ่ายก็รีบดึงเสื้อขึ้นเพื่อไม่ให้มันเห็นวับๆแวมๆอีก
“มองอะไรน่ะ !”แจ็คสันหน้าขึ้นสี ยูคยอมที่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มากระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยตอบ
(อยู่มุมนั้นแหล่ะ อย่าขยับ)ยูคยอมยืนขึ้นและก้าวเท้ายาวๆเดินไปเปิดประตู ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าห้องนอนส่วนตัวของตัวเอง ไม่เชิงส่วนตัวหรอกเพราะว่ามีรูมเมท แต่ดูเหมือนว่ารูมเมทของยูคยอมจะไม่อยู่ ทำให้ตอนนี้มีแค่ยูคยอม ยูคยอมก้าวเข้าห้องน้ำไปเพราะที่ห้องน้ำเป็นที่เดียวที่ไม่มีกล้องคอยจับภาพไมค์ที่คอยรับเสียงก็ถูกยูคยอมถอดทิ้งไว้บนเตียง
“ตลกแล้ว พี่หื่นหรอไง น่าเกลียดจริงๆเลย”แจ็คสันบ่นออกมาเบาๆก่อนจะเปลี่ยนท่าเป็นนอนหงายแทน แต่ถือกล้องไปนานๆคนตัวเล็กก็เมื่อยแขนโทรศัพท์ที่ถืออยู่จึงอยู่ในระดับต่ำกว่าใบหน้าของแจ็คสันเล็กน้อย มุมกล้องที่เหมือนกับว่าถ่ายช้อนใบหน้าน่ารักนั่นอยู่ แถมแจ็คสันก็เริ่มเพลียแล้วด้วย ขนมปังที่กินไปตอนแรกเหมือนต่อชีวิตแจ็คสันได้จากหิวก็กลายเป็นง่วง
(มีแฟนน่ารักเกินไปไง)ยูคยอมพูดชม ทำเอาแจ็คสันเอ๋อไปชั่วขณะ มันก็เขินบ้างแหล่ะนะโดนแฟนชมกันตรงๆแบบนี้
“ใครแฟนพี่อะ”แจ็คสันยิ้มแก้มกลมเอ่ยแกล้งคนตัวสูง หัวเราะชอบใจเมื่อยูคยอมชี้นิ้วคาดโทษเขา
(อยากโดนจัดหนักจริงๆใช่ไหมแจ็คสันอา)ยูคยอมพูดขู่เสียงต่ำ แจ็คสันได้แต่แลบลิ้นให้ยูคยอมอย่างไม่กลัว เพราะยูคยอมอยู่ในโทรศัพท์ไม่มีทางทำอะไรเขาได้แน่ๆ แต่แจ็คสันก็เริ่มหวั่นใจขึ้นมาไม่น้อยเมื่อยูคยอมกระตุกยิ้มร้าย ตอนแรกที่ชอบใจก็เริ่มกลัวขึ้นมา
(เล่นเกมกันไหมล่ะ ใครแพ้ต้องถอด…หึ)ว่าจบก็แสยะยิ้มร้ายออกมาอีกที แจ็คสันขนลุกซู่ขึ้นมาความกลัวเริ่มเกาะกินในจิตใจ แต่ด้วยความที่ศักดิ์ศรีมันค้ำคออยู่แจ็คสันดันตอบตกลงออกไปแล้ว และดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะลืมไปว่ากำลังท้าทายอยู่กับใคร
คิมยูคยอมเซียนเกม เกมงี่เง่าอย่างเป่ายิ้งฉุบยูคยอมก็ชนะได้อย่างง่ายดาย
“เกมอะไร”
(เป่ายิ้งฉุบง่ายๆ ใครถอดหมดก่อนต้องทำตามที่อีกฝ่ายสั่ง กล้าไหมล่ะ)
“มาเหอะ แจ็คไม่กลัวแจ็คอะอย่างเซียนด้านเป่ายิ้งฉุบเป่าร้อยชนะร้อย”แจ็คสันทำเป็นพูดข่มแฟนหนุ่มทั้งๆที่ในใจนี่ตุ๊มๆต่อมๆแล้วไม่บอกก็รู้ว่าใครจะแพ้จะชนะ มันเห็นๆอยู่แล้ว!
(เริ่มนะ ค้อน กรรไกร กระดาษ!)
ยูคยอมออกกระดาษ
แจ็คสันออกกรรไกร
คนตัวเล็กยิ้มกริ่มตาแรกชนะไปได้อย่างใสๆ ในใจก็กระหยิ่มยิ้มย่อง เขาเอาหน้าไปชิดกล้องก่อนจะบอกยูคยอมว่าให้ถอดเลย ยูคยอมยังคงนิ่งแล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อหนึ่งเม็ด
เดี๋ยวววว !???
แจ็คสันอยู่ในสภาพเสื้อยืดไม่มีกระดุมให้แกะเหมือนอีกฝ่ายสักหน่อย แบบนี้มันขี้โกงกันชัดๆเลยนี่นา แจ็คสันชี้นิ้วไปทางยูคยอมก่อนจะอ้าปากพะงาบๆเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็พูดไม่ได้ ต้องจำใจแข่งต่อ
ตอนนี้แจ็คสันกำลังแย่ เนื่องจากตอนแรกที่เขาเริ่มเล่นเกมกับยูคยอม เขาชนะรวดเดียวสามครั้ง แต่ตอนนี้ผ่านมาสองตาแล้ว แจ็คสันแพ้ ยังดีที่เขาสวมถุงเท้าอยู่เลยยังพอเหลือตัวถ่วงเวลาอยู่บ้าง
ยูคยอมยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่รู้สึกว่ามันช่างเจ้าเล่ห์ที่สุดที่เคยได้รับแล้ว สายตาดุจเหยี่ยวตวัดมองมาที่ร่างกายของเขาราวกับจะกดดันให้เขาถอดเสื้อออก แจ็คสันไม่เหลือตัวเลือกมากนักคนตัวเล็กเปลี่ยนเป็นไปตั้งกล้องไว้ที่ปลายเตียงแทนก่อนจะเริ่มถอดเสื้อ(เขาเดินเข้ามาเล่นในห้องนอนของตัวเองก่อนที่จะเริ่มเล่นเกม คงไม่ดีถ้าจะนั่งแก้ผ้าไม่ในห้องนั่งเล่น ถึงมันจะไม่มีใครแต่แจ็คสันก็รู้สึกอุ่นใจกว่าถ้าจะเข้ามาเริ่มเกมในที่ส่วนตัวของเขาเอง) เสื้อยืดสีดำทรงโอเวอร์ไซส์ตามแบบฉบับแจ็คสันถูกถอดออกไปแล้ว โชคร้ายของแจ็คสันที่วันนี้เขาไม่ได้ใส่เสื้อกล้าม ก็เพราะว่าอากาศมันเริ่มร้อนแล้วน่ะสิ แดดที่ร้อนมากๆจึงเป็นสาเหตุให้แจ็คสันใส่เพียงแค่เสื้อยืดตัวเดียวไม่เหมือนทุกที
(อย่าขี้โกงสิถ้าเอาผ้าห่มปิดแบบนั้นพี่ปรับแพ้เลยนะ)
“ง่ะ ทำไมใจร้ายจัง ก็มันน่าอายนี่นา”แจ็คสันทำปากจู๋คิ้วขมุ่นเล็กๆ ยูคยอมเองเห็นแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้ ปากสีแดงสดนั้นน่าจูบชะมัดเลย แต่ยูคยอมก็ไม่สามารถทำได้ คร่ำครวญไม่นานเพราะกลัวโดนปรับแพ้ก็ต้องยอมพับผ้าห่มเก็บไว้ข้างๆแทนแล้วหันมาแข่งเกมต่อ
(โทษตัวเองเถอะแจ็คสันอา)ว่าจบเกมเปลื้องผ้าก็ดำเนินต่อไป และแจ็คสันก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อเขาแพ้อีกแล้ว แจ็คสันไม่เหลืออะไรให้ถอดแล้วนอกจากกางเกง อากาศในห้องหนาวเย็นเพราะเครื่องปรับอากาศแต่แจ็คสันกลับรู้สึกหน้าร้อนๆเมื่อเผชิญกับสายตาอยากรู้อยากเห็นของยูคยอมที่จับจ้องมาที่ตัวเขา
.
.
.
คนตัวเล็กได้แต่นอนดีดดิ้นอย่างรับตัวเองและความจริงไม่ได้ ฮื่อ แต่จะสารภาพก็ได้นะว่ามันรู้สึกดีมาก หม่ามี๊ครับ น้องเจียเป็นเด็กใจแตกไปแล้ว~ แจ็คสันนอนกอดตุ๊กตามูมินก่อนจะเอ่ยรำพึงรำพันขอโทษทุกสรรพสิ่งในใจ หัวสมองก็พาลนึกถึงเรื่องเมื่อตอนเย็นเล่นเอาใบหน้าหวานรู้สึกเห่อร้อนขึ้นมาเสียอย่างนั้น ที่ดูทุเรศกว่านั้นคือส่วนล่างของเขาที่มันขยายตัวขึ้นมาเพราะการนึกถึงยูคยอมนี่แหล่ะ แจ็คสันใช้มือเล็กๆของตัวเองดันท่อนเอ็นให้กลับลงไปและไม่มาดันกางเกงของเขา แจ็คสันจัดการนอนคว่ำหน้าลงไปเพื่อเป็นการตัดปัญหา แต่ยิ่งแจ็คน้อยถูกสัมผัสมากเท่าไหร่ ท่าทางก็ดูจะไม่จบลงง่ายๆแจ็คสันจึงต้องกัดฟันข่มใจนอนหลับไปเลยทั้งๆที่เวลาบอกสองทุ่มเศษๆเท่านั้นเอง ไม่นานคนตัวเล็กก็เคลิ้มหลับเข้าสู่ห้วงนิทราไป
โปรดติดตามตอนต่อไป
ปล.เราตัดสินใจแล้วว่าซีรีย์หน้าเอาคู่ชิปเดิมคือยูคยอมแจ็คสันนะงับ แต่คู่อื่นจะเป็นใคร หรือจะไม่มีต้องรอติดตามกันน้า
ปล.1ตอนแรกเปิดมาดราม่าระหว่างเพื่อนเลยเนอะ 55555 ความสัมพันธ์แบมมาร์คจะระหองระแหงกันไปอย่างนี้อีกไม่นานค่ะ พี่มาร์คใจแข็งกับน้องได้ไม่นานหรอก เอาใจช่วยน้องแบมด้วยน้า ใครโมโหที่แบมนอกใจพี่มาร์ค เอาไม้มาตีน้องได้เลย กล้าดียังไงนอกใจพี่มาร์คเนี่ยหะแบมมมมม ฝากติดตามด้วย
ปล.2 ตอนนี้มีตัวละครใหม่มาเพิ่มด้วย เป็นผู้หญิงสวยน่ารัก แต่เธอมาพร้อมกับความร้าวฉานค่ะ เดี๋ยวรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ต้องรอติดตามน้า จากนี้ไปจะทำงานให้หนักขึ้นค่ะขอบคุณคนอ่านทุกคนที่มอบความรักให้ฟิคเรื่องนี้น้า ทุกยอดวิวทุกยอดคอมเม้นท์เป็นแรงผลักดันของเราจริงๆค่ะ
พอรู้ว่าส่วนใหญ่จะข้ามทอล์คกัน แงงงงง อ่านก็ดีนะ เผื่อมีเรื่องชี้แจงจะได้ทราบโดยทั่วกัน
ขอบคุณทุกความคิดเห็นที่มันทำให้เรายิ้มกว้างนะคะ รักคนอ่าน
? cactus
ความคิดเห็น