ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ท่อนที่9
กลับไปทางเจ้าหญิงนาเบล
หลังจากที่เบลรับประทานอาหารค่ำกับพ่อแม่ของเธอเสร็จ เธอก็ขึ้นไปที่ห้องนอนของตนเอง เธอปิดประตูห้องจากนั้นก็ไปเปิดหน้าต่าง เพื่อดูพระจันทร์ซึ่งจะเต็มดวงในวันพรุ่งนี้ ทุกครั้งทุกคืน เธอมักจะมาชมจันทร์ก่อนที่จะเข้านอนเสมอ มาตั้งแต่ตอนที่อายุ 14 ปีแล้ว โดยเฉพาะในวันพระจันทร์เต็มดวงที่สว่างไสว เธอก็มักจะลงไปนั่งเล่นที่สวนด้านล่างระเบียงห้องเธอเสมอ เนื่องจากมันสว่างมากจนมองเห็นทุกอย่างได้ดี
“อิๆๆ คนบ้า ไม่สิ หมาบ้าต่างหาก ฮิๆๆ” เบลหวนไปคิดถึงเรื่องเมื่อเย็นอีกแล้ว ไม่รู้ทำไม ทุกทีที่คิดถึงเรื่องนั้นทีไร หน้าก็มักจะแดงร้อนผ่าวไปหมด ใจเต้นสั่นระรั่วไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พอไปถามเพื่อนเขาก็บอกว่าถ้ามีอาการแบบนี้แสดงว่าเธอกำลังมีความรัก..... ความรักเหรอ เบลกำลังจะคิด...ว่าตัวเองคงเจอรักเข้าให้แล้ว แต่เธอก็ฝืนหักห้ามใจไม่ให้คิดเช่นนั้น เพราะอีกฝ่ายนั้น เป็นแค่(นึกเอาเอง)หมานี้หน่า
“ก๊อกๆๆ ลูกเบล ขอพ่อเข้าไปหน่อยได้รึเปล่า” ราชาซีโร่มาเคาะประตูห้อง ทำให้เบลรีบทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แล้วไปเปิดประตูให้ผู้เป็นพ่อ “มีอะไรเหรอค่ะ แวะมาหาหนูเสียดึกดืนแบบนี้ เสด็จพ่อ” เบลถาม ซีโร่ไม่ตอบ เดินมาลากเก้าอี้ไปนั่งเสียเฉยๆ (ขนาดแต่งงานกับไอริสแล้วยังไม่หายจากโรคเย็นอีกนะแก....) เบลจึงเดินไปนั่งที่ขอบเตียง หันหน้าไปหาผู้เป็นพ่อ
“พ่อขอคุยกับลูกเรื่องเพื่อนของลูกหน่อย” ซีโร่ถามเบลแบบตรงๆโดยไม่อ้อมค้อม ทำให้ผู้ถูกถามตกใจในคำถามเล็กน้อย “เพื่อนของหนูที่โรงเรียนเหรอค่ะ....พวกเขาก็นิสัยดีกันทุกคนเลยนี้ค่ะ” เบลตอบ ซีโร่ส่ายหน้าแบบเย็นชา “ไม่ใช่ พ่อหมายถึงเพื่อนของลูกในช่วงที่ไม่ได้เรียนนะ” ซีโร่ถาม มองไปที่เบลซึ่งทำท่านึกคิดอะไรบางอย่างอยู่เล็กน้อย
“(เพื่อนตอนหลังจากเลิกเรียนนะรึ......ใครน้า.........ฉันไม่เคยไปไหนหรือไปเล่นกับใครเลยนี้หน่า นอกจาก......)” ความคิดของเบล
“ไงลูก ตกลงว่าใครเหรอ?” ซีโร่ยืนจ้องเขม้งไปที่เบล เบลทำท่าอึกอักไม่กล้าจะพูด แต่ก็พูดออกไปแบบไม่ชัดเจนว่า “ม....มี...มีอยู่คนหนึ่งค่ะ....เออ...ต...แต่เขาไม่ใช่คนนะค่ะ” เบลก้มหน้าไปซะแล้ว
“ไม่ว่าเพื่อนของลูกจะเป็นอะไรพ่อก็ยอมรับ แต่ขอให้เขาคนนั้นเป้นคนดีก็พอ ว่าแต่ตกลงเพื่อนของลูกนี้เป็นใครเหรอ” ซีโร่ถามและมองเบลด้วยสายตาที่มุ่งมั่นและแนวแนจนดูน่ากลัว แต่คำพูดของซีโร่ก็ทำให้เบลกล้าที่จะเอ่ยพูดขึ้นมา
“หมาป่าธรรมดา....เออ....มีขนสีเงิน รู้สึกจะเป็นพันธุ์ยุโรปตัวนึงค่ะ” ถึงกระนั้นก็เถอะ จิตใจเบลก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกแล้ว-*- แต่ราชาซีโร่ดูเหมือนจะพอใจในคำตอบที่ได้มาก “ลูกเบล...ลูกคิดว่าเพื่อนของลูกเป็นแค่หมาป่าธรรมดาเหรอ” เบลงุนงงกับคำถามของซีโร่เป็นอันมาก “เอ๊ะ? มีอะไรเหรอค่ะพ่อ ทำไมพ่อถึงได้ถามอะไรแบบนี้” ซีโร่ถอดหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะพูดว่า
“ในป่าฟาเรนเซียนี้มีสัตว์อยู่สองรูปแบบ คือ แบบที่เป็นสัตว์ธรรมดา กับ แบบที่เป็นมนุษย์สัตว์ ซึ่งมนุษย์สัตว์นั้นก็มีจิตใจดังเช่นมนุษย์ธรรมดานี้แหละ แต่มีร่างกายที่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ เป็นกึ่งมนุษย์ได้ และยังสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ธรรมดาได้อีกด้วย ดังนั้น......พ่อจึงอยากจะบอกลูกว่า.....เพื่อนของลูกเป็นแวร์วูฟนะ....”
หลังจากที่เบลรับประทานอาหารค่ำกับพ่อแม่ของเธอเสร็จ เธอก็ขึ้นไปที่ห้องนอนของตนเอง เธอปิดประตูห้องจากนั้นก็ไปเปิดหน้าต่าง เพื่อดูพระจันทร์ซึ่งจะเต็มดวงในวันพรุ่งนี้ ทุกครั้งทุกคืน เธอมักจะมาชมจันทร์ก่อนที่จะเข้านอนเสมอ มาตั้งแต่ตอนที่อายุ 14 ปีแล้ว โดยเฉพาะในวันพระจันทร์เต็มดวงที่สว่างไสว เธอก็มักจะลงไปนั่งเล่นที่สวนด้านล่างระเบียงห้องเธอเสมอ เนื่องจากมันสว่างมากจนมองเห็นทุกอย่างได้ดี
“อิๆๆ คนบ้า ไม่สิ หมาบ้าต่างหาก ฮิๆๆ” เบลหวนไปคิดถึงเรื่องเมื่อเย็นอีกแล้ว ไม่รู้ทำไม ทุกทีที่คิดถึงเรื่องนั้นทีไร หน้าก็มักจะแดงร้อนผ่าวไปหมด ใจเต้นสั่นระรั่วไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พอไปถามเพื่อนเขาก็บอกว่าถ้ามีอาการแบบนี้แสดงว่าเธอกำลังมีความรัก..... ความรักเหรอ เบลกำลังจะคิด...ว่าตัวเองคงเจอรักเข้าให้แล้ว แต่เธอก็ฝืนหักห้ามใจไม่ให้คิดเช่นนั้น เพราะอีกฝ่ายนั้น เป็นแค่(นึกเอาเอง)หมานี้หน่า
“ก๊อกๆๆ ลูกเบล ขอพ่อเข้าไปหน่อยได้รึเปล่า” ราชาซีโร่มาเคาะประตูห้อง ทำให้เบลรีบทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แล้วไปเปิดประตูให้ผู้เป็นพ่อ “มีอะไรเหรอค่ะ แวะมาหาหนูเสียดึกดืนแบบนี้ เสด็จพ่อ” เบลถาม ซีโร่ไม่ตอบ เดินมาลากเก้าอี้ไปนั่งเสียเฉยๆ (ขนาดแต่งงานกับไอริสแล้วยังไม่หายจากโรคเย็นอีกนะแก....) เบลจึงเดินไปนั่งที่ขอบเตียง หันหน้าไปหาผู้เป็นพ่อ
“พ่อขอคุยกับลูกเรื่องเพื่อนของลูกหน่อย” ซีโร่ถามเบลแบบตรงๆโดยไม่อ้อมค้อม ทำให้ผู้ถูกถามตกใจในคำถามเล็กน้อย “เพื่อนของหนูที่โรงเรียนเหรอค่ะ....พวกเขาก็นิสัยดีกันทุกคนเลยนี้ค่ะ” เบลตอบ ซีโร่ส่ายหน้าแบบเย็นชา “ไม่ใช่ พ่อหมายถึงเพื่อนของลูกในช่วงที่ไม่ได้เรียนนะ” ซีโร่ถาม มองไปที่เบลซึ่งทำท่านึกคิดอะไรบางอย่างอยู่เล็กน้อย
“(เพื่อนตอนหลังจากเลิกเรียนนะรึ......ใครน้า.........ฉันไม่เคยไปไหนหรือไปเล่นกับใครเลยนี้หน่า นอกจาก......)” ความคิดของเบล
“ไงลูก ตกลงว่าใครเหรอ?” ซีโร่ยืนจ้องเขม้งไปที่เบล เบลทำท่าอึกอักไม่กล้าจะพูด แต่ก็พูดออกไปแบบไม่ชัดเจนว่า “ม....มี...มีอยู่คนหนึ่งค่ะ....เออ...ต...แต่เขาไม่ใช่คนนะค่ะ” เบลก้มหน้าไปซะแล้ว
“ไม่ว่าเพื่อนของลูกจะเป็นอะไรพ่อก็ยอมรับ แต่ขอให้เขาคนนั้นเป้นคนดีก็พอ ว่าแต่ตกลงเพื่อนของลูกนี้เป็นใครเหรอ” ซีโร่ถามและมองเบลด้วยสายตาที่มุ่งมั่นและแนวแนจนดูน่ากลัว แต่คำพูดของซีโร่ก็ทำให้เบลกล้าที่จะเอ่ยพูดขึ้นมา
“หมาป่าธรรมดา....เออ....มีขนสีเงิน รู้สึกจะเป็นพันธุ์ยุโรปตัวนึงค่ะ” ถึงกระนั้นก็เถอะ จิตใจเบลก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกแล้ว-*- แต่ราชาซีโร่ดูเหมือนจะพอใจในคำตอบที่ได้มาก “ลูกเบล...ลูกคิดว่าเพื่อนของลูกเป็นแค่หมาป่าธรรมดาเหรอ” เบลงุนงงกับคำถามของซีโร่เป็นอันมาก “เอ๊ะ? มีอะไรเหรอค่ะพ่อ ทำไมพ่อถึงได้ถามอะไรแบบนี้” ซีโร่ถอดหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะพูดว่า
“ในป่าฟาเรนเซียนี้มีสัตว์อยู่สองรูปแบบ คือ แบบที่เป็นสัตว์ธรรมดา กับ แบบที่เป็นมนุษย์สัตว์ ซึ่งมนุษย์สัตว์นั้นก็มีจิตใจดังเช่นมนุษย์ธรรมดานี้แหละ แต่มีร่างกายที่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ เป็นกึ่งมนุษย์ได้ และยังสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ธรรมดาได้อีกด้วย ดังนั้น......พ่อจึงอยากจะบอกลูกว่า.....เพื่อนของลูกเป็นแวร์วูฟนะ....”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น