ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ท่อนที่11
วันรุ่งขึ้น
วันนี้เบลต้องไปขออนุญาติไปสวนดอกไม้กับองค์ราชาซีโร่ที่นอนบาดเจ็บสาหัสอยู่ในห้องพยาบาลของปราสาท เพราะความเข้าใจผิดของราชินีไอริช ร่างของซีโร่ถูกเผือกที่ขาซ้าย แขนสองข้างถูกด้ามด้วยไม้และพันผ้าพันแผลเกือบครึ่งตัว แต่ยังพอพูดกับเบลได้ “ลูก....คิดให้ดีแล้วกันนะ ว่าจะใช้เครื่องนั้นรึเปล่า” เบลพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป แต่ก่อนจะออกไปเบลก็หันมาหาซีโร่แล้วบอกว่า “พ่อตค่ะ...อย่าพึ่งตายนะค่ะ เพราะตอนนี้แม่มาหาพ่อแล้วค่ะ” แล้วเบลก็จากไป ทำให้คนที่นอนเจ็บอยู่บนเตียงเหงือตกไหลซิกๆ
หลังจากที่เบลกับหมาป่าหนุ่มรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็นั่งใต้ร่มไม้กลางสวน โดยหมาป่าหนุ่มนอนเอาหัวหนุนตักเจ้าหญิงหลับไปอย่างสบายอารมณ์ เจ้าหญิงเอามือลูบขนที่หนา ยาว และนุ่มของหมาป่าหนุ่ม พลางครุ่นคิดถึงสิ่งที่ซีโร่พูด เพราะทุกสิ่งที่พ่อเธอพูดถึงหมาป่าแวร์วูฟ มันมีอยู่ในตัวของคนที่หนุนตักตนอยนู่เลย ไม่ว่าจะเป็นดวงตาสีเทาเงิน ขนสีเงินที่ยาว หนา และนุ่ม อีกทั้งแผลเป็นรูปกากบาทที่ต้นขาหน้าซ้ายอีก
“(*คิด*.....ฉัน.....ควรทำเช่นไรดีนะ.......)” เบลคิดในใจ ดวงตาก็มองท้องฟ้าด้วยสีหน้าที่เหม่และเต็มไปด้วยความกังวล ในหัวก็คิดถึงแผนการที่พ่อเธอให้ไว้ ควรทำรึเปล่า การก้าวก่ายในชีวิตส่วนตัวของผู้อื่น เบลคิดและถอดหายใจออกมาเบาๆ แต่มันก็ทำให้หมาป่าหนุ่มที่นอนหนุนตักหลับสบายอยู่นั้นตื่นขึ้นมา
“อ้าว~ ตื่นแล้วรึจ๊ะ ฉันทำให้เธอตื่นขึ้นมารึเปล่าเนี้ย” เบลทำหน้าให้เป็นปกตื(มากที่สุดจนโอเวอร์) แล้วพูดกับหมาป่าหนุ่มอย่างร่าเริง หมาป่าหนุ่มส่ายหน้าพลางยืดแข้งยืดขาและหาวออกมา เบลยิ้มในท่าทางของหมาป่าหนุ่ม แต่ก็เป็นได้ครู่เดียว เธอก็เหม่อลอยคิดว่าจะทำตามที่พ่อเธอบอกดีรึเปล่า ยิ่งได้เห็นท่าทีของหมาป่าหนุ่มที่ดูเหมือนจะเข้าใจทุกคำพูดที่เธอพูดด้วยแล้ว เธอยิ่งอย่างรู้เข้าไปใหญ่ จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้
“ฉันกลับก่อนนะ พอดีมีงานที่ต้องทำนะ” เบลลุก มองไปยังหมาป่าหนุ่มที่แสดงสีหน้าเศร้าใจอยู่ เธอก้มลงไปจุมพิตที่หน้าผากหมาป่าหนุ่มและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ครานี้มีแต่หมาป่าหนุ่มตัวเดียวเท่านั้นที่หน้าแดงด้วยความอาย เพราะเบลนั้นถูกความกังวลในสิ่งที่จะกระทำกัดกร่อนความอายไปเสียแล้ว
เบลเดินไปหลบที่ต้นไม้ข้างรั้วทางเข้าสวน เธอมองหมาป่าหนุ่มซึ่งยืนแข็งอยู่ที่กลางสวน จากนั้นก็หยิบอุปกรร์พรางตัวออกมา คิดไปคิดมาหลายตลบ ตัดใจก็แทบหลายหน ว่าจะทำดีไหม เพราะคิดว่ามันจะเป็นการก้าวก่ายในชีวิตส่วนตัวของหมาป่าหนุ่มเพื่อนเธอ แต่ในที่สุดแล้วแล้วเธอก็ตัดสินใจทำ เพราะต้องการพิสูครว่าสิ่งที่พ่อของเธอพูดเป็นเรื่องจริง รึว่าโกหกเหลวไหลเพราะไม่อยากให้เธอเป็นเพื่อนกับสัตว์กันแน่
ทางด้านหมาป่าหนุ่ม หลังจากที่หายเขินอายแล้ว มันก็เริ่มเดินเข้าป่าไป ลัดเลาะไปตามแนวชายป่าที่ค่อนข้างโปร่ง มีพุ่มไม้เป็นแห่งๆ และดูเหมือนสัตว์ในป่าจะเป้นมิตรกับมันดี มันเดินไปเรื่อยๆโดยไม่รู้เลยว่า มีคนสะกดรอยตามมันอยู่ข้างๆกายนี้เอง
วันนี้เบลต้องไปขออนุญาติไปสวนดอกไม้กับองค์ราชาซีโร่ที่นอนบาดเจ็บสาหัสอยู่ในห้องพยาบาลของปราสาท เพราะความเข้าใจผิดของราชินีไอริช ร่างของซีโร่ถูกเผือกที่ขาซ้าย แขนสองข้างถูกด้ามด้วยไม้และพันผ้าพันแผลเกือบครึ่งตัว แต่ยังพอพูดกับเบลได้ “ลูก....คิดให้ดีแล้วกันนะ ว่าจะใช้เครื่องนั้นรึเปล่า” เบลพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป แต่ก่อนจะออกไปเบลก็หันมาหาซีโร่แล้วบอกว่า “พ่อตค่ะ...อย่าพึ่งตายนะค่ะ เพราะตอนนี้แม่มาหาพ่อแล้วค่ะ” แล้วเบลก็จากไป ทำให้คนที่นอนเจ็บอยู่บนเตียงเหงือตกไหลซิกๆ
หลังจากที่เบลกับหมาป่าหนุ่มรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็นั่งใต้ร่มไม้กลางสวน โดยหมาป่าหนุ่มนอนเอาหัวหนุนตักเจ้าหญิงหลับไปอย่างสบายอารมณ์ เจ้าหญิงเอามือลูบขนที่หนา ยาว และนุ่มของหมาป่าหนุ่ม พลางครุ่นคิดถึงสิ่งที่ซีโร่พูด เพราะทุกสิ่งที่พ่อเธอพูดถึงหมาป่าแวร์วูฟ มันมีอยู่ในตัวของคนที่หนุนตักตนอยนู่เลย ไม่ว่าจะเป็นดวงตาสีเทาเงิน ขนสีเงินที่ยาว หนา และนุ่ม อีกทั้งแผลเป็นรูปกากบาทที่ต้นขาหน้าซ้ายอีก
“(*คิด*.....ฉัน.....ควรทำเช่นไรดีนะ.......)” เบลคิดในใจ ดวงตาก็มองท้องฟ้าด้วยสีหน้าที่เหม่และเต็มไปด้วยความกังวล ในหัวก็คิดถึงแผนการที่พ่อเธอให้ไว้ ควรทำรึเปล่า การก้าวก่ายในชีวิตส่วนตัวของผู้อื่น เบลคิดและถอดหายใจออกมาเบาๆ แต่มันก็ทำให้หมาป่าหนุ่มที่นอนหนุนตักหลับสบายอยู่นั้นตื่นขึ้นมา
“อ้าว~ ตื่นแล้วรึจ๊ะ ฉันทำให้เธอตื่นขึ้นมารึเปล่าเนี้ย” เบลทำหน้าให้เป็นปกตื(มากที่สุดจนโอเวอร์) แล้วพูดกับหมาป่าหนุ่มอย่างร่าเริง หมาป่าหนุ่มส่ายหน้าพลางยืดแข้งยืดขาและหาวออกมา เบลยิ้มในท่าทางของหมาป่าหนุ่ม แต่ก็เป็นได้ครู่เดียว เธอก็เหม่อลอยคิดว่าจะทำตามที่พ่อเธอบอกดีรึเปล่า ยิ่งได้เห็นท่าทีของหมาป่าหนุ่มที่ดูเหมือนจะเข้าใจทุกคำพูดที่เธอพูดด้วยแล้ว เธอยิ่งอย่างรู้เข้าไปใหญ่ จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้
“ฉันกลับก่อนนะ พอดีมีงานที่ต้องทำนะ” เบลลุก มองไปยังหมาป่าหนุ่มที่แสดงสีหน้าเศร้าใจอยู่ เธอก้มลงไปจุมพิตที่หน้าผากหมาป่าหนุ่มและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ครานี้มีแต่หมาป่าหนุ่มตัวเดียวเท่านั้นที่หน้าแดงด้วยความอาย เพราะเบลนั้นถูกความกังวลในสิ่งที่จะกระทำกัดกร่อนความอายไปเสียแล้ว
เบลเดินไปหลบที่ต้นไม้ข้างรั้วทางเข้าสวน เธอมองหมาป่าหนุ่มซึ่งยืนแข็งอยู่ที่กลางสวน จากนั้นก็หยิบอุปกรร์พรางตัวออกมา คิดไปคิดมาหลายตลบ ตัดใจก็แทบหลายหน ว่าจะทำดีไหม เพราะคิดว่ามันจะเป็นการก้าวก่ายในชีวิตส่วนตัวของหมาป่าหนุ่มเพื่อนเธอ แต่ในที่สุดแล้วแล้วเธอก็ตัดสินใจทำ เพราะต้องการพิสูครว่าสิ่งที่พ่อของเธอพูดเป็นเรื่องจริง รึว่าโกหกเหลวไหลเพราะไม่อยากให้เธอเป็นเพื่อนกับสัตว์กันแน่
ทางด้านหมาป่าหนุ่ม หลังจากที่หายเขินอายแล้ว มันก็เริ่มเดินเข้าป่าไป ลัดเลาะไปตามแนวชายป่าที่ค่อนข้างโปร่ง มีพุ่มไม้เป็นแห่งๆ และดูเหมือนสัตว์ในป่าจะเป้นมิตรกับมันดี มันเดินไปเรื่อยๆโดยไม่รู้เลยว่า มีคนสะกดรอยตามมันอยู่ข้างๆกายนี้เอง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น