คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่1 ไวรัสกระจายทั่วเมือง : By Vava.
The Terrible City
Virus in Phuttalung
ผ่าวิกฤตไวรัสถล่มพัทลุง
บทเริ่มต้น
ณ โลกสีฟ้าอันสวยงาม มีประเทศแห่งหนึ่ง อยู่บริเวณดินแดนแห่งแหลมทอง มีรูปลักษณะของประเทศคล้ายรูปขวานโบราณ เป็นดินแดนที่มีกรุงเทพเป็นเมืองหลวง มีจังหวัดทั้งหมด76จังหวัด จังหวัดซึ่งเป็นที่อยู่ของครอบครัวพระเอกของเรา เป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศ มีทะเลโอบล้อมโดยทั่วภาค จังหวัดนั้นคือ.....พัทลุง
พัทลุงเป็นเพียงเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งที่มีพรมแดนไม่ติดกับทะเลเลย มีเพียงทะเลสาบสงขลาเท่านั้นที่ติดอยู่ มีอาณาบริเวณพรมแดนติดกับจังหวัดสงขลา ตรังและนครศรีธรรมราช ประชากรของจังหวัดนี้มีค่อนข้างมาก ฐานะก็แตกต่างกัน ซึ่งครอบครัวของพระเอกเป็นชนชั้นกลาง อาศัยอยู่ในแถบระหว่างเมืองกับชนบท ที่อยู่คือ 194 หมู่3 ต.นาท่อม อ.เมือง จ.พัทลุง
.....
บทที่1 ไวรัสกระจายทั่วเมือง : By Vava.
ณ ที่แห่งหนึ่งภายในอำเภอเมือง เป็นที่ตั้งของห้องแลปลับ ซึ่งภายนอกมีลักษณะเป็นเพียงอาคารธรรมดา มีโรงพยาบาลให้บริการอยู่ที่ชั้นล่างเพื่อบังหน้า แต่ภายในมีทางลงไปยังชั้นใต้ดินซึ่งลึกมาก มีชายหญิงชุดกาวสีขาวกำลังทดลองสารเคมีหลายชนิดอยู่ในห้องที่มีกระจกแบบพิเศษ สามารถกันกระสุนได้และป้องกันแรงกระแทกได้ ซึ่งต้องใช้แรงกระแทกเท่ากับของน้ำหนักหนึ่งตันหล่นจากตึกสูง20ชั้นทีเดียว มีการขนสารเคมีโดยใช้รถเข็นแบบพิเศษคือเป็นตู้เย็นที่ทำด้วยเหล็กซึ่งภายในมีอุณหภูมิต่ำมาก มีหลอดสารเคมีเสียบไว้เป็นช่องๆโดยมีชื่อกำกับไว้ด้วย การสื่อสารกันของแต่ละห้องก็ใช้วิธีที่คล้ายกับการแชทของอินเตอร์เน็ต คือมีคอมพิวเตอร์ตั้งไว้หนึ่งเครื่องต่อพนักงานหนึ่งกลุ่มและสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้กับหน่วยงานหลายหน่วย เช่น เอฟบีไอ หน่วยสวาท ทหาร เป็นต้น
ในวันนั้นเอง มีการส่งสารเคมีชนิดหนึ่งไปยังหน่วยงานลับอีกแห่งหนึ่งเพื่อตรวจสอบว่ามันมีคุณสมบัติอย่างไร การขนส่งจะบรรจุอยู่ในกล่องเหล็กและขนไปโดยรถบรรทุกสินค้า(ขนปลา) แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นที่หน้าโรงประปา ทำให้สารเคมีนั้นกระเด็นออกนอกรถ ไปลงในบ่อเก็บน้ำ สารเคมีนั้นได้ผสมกับคลอลีนในน้ำ จนเกิดไวรัสชนิดใหม่ขึ้น ซึ่งไวรัสนี้แหละ ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้
และแล้วน้ำที่มีไวรัสนั้นก็ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองพัทลุง สิ่งมีชีวิตใดที่กินมัน จะกลายเป็นผีดิบภายในสองชั่วโมงและตอนนี้คนทั้งจังหวัดก็ได้ติดไวรัสกันหมดแล้ว เว้นแต่....
“แม่ๆ น้ำประปาไม่ไหลง่าแม่” เด็กผู้ชายวัยประมาณ15 ตะโกนบอกแม่ซึ่งนั่งดูโทรทัศน์อยู่ ในมือเขาถือกระป๋องใส่น้ำอยู่
“ลูกก็ใช้น้ำฝนกับน้ำบาดาลไปก่อนสิจ๊ะ” ผู้เป็นแม่บอกกลับไป เด็กชายผู้นั้นจึงเดินกลับเข้าห้องครัวไป แล้วจึงนำกระป๋องนั้นไปเติมน้ำที่ถังเก็บน้ำซึ่งทำจากปูนที่อยู่หลังบ้าน
- คืนนั้นเอง -
“ข่าวด่วนพิเศษ” โทรทัศน์ทุกช่องออกอากาศข่าวด่วนมาพร้อมกัน ทำให้คนในบ้านทั้งหมดจำใจต้องดู เพราะตอนนี้พวกเขากำลังดูละครเรื่อง เหล็กไหล อยู่
“ข่าวอะไรง่า คนกำลังดูเขายิงกันอยู่มันๆเชี่ยว....” ผู้เป็นน้องสุดท้องบ่นออกมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“เอาเถอะนา เงียบๆหน่อย ดูซิว่าเป็นข่าวอะไร” แม่พูดออกมา ทำให้น้องต้องสงบปากสงบคำไป....
“ตอนนี้มีข่าวมาจากเมืองพัทลุงนะค่ะ ทางกรมตำรวจได้บอกมาว่า ประชากรในเมืองอยู่ๆก็เกิดเป็นอะไรมิทราบ ได้กลายเป็นผีดิบแบบในเกมส์ซอมบี้แบบต่างๆไปหมดแล้ว ซึ่งตำรวจก็บอกว่า พวกเขาได้ปิดเมืองนั้นไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะไม่มีใครออกจากเมืองนั้นได้อีกและอีก 1สัปดาห์ข้างหน้า ทางญี่ปุ่นก็จะส่งนิวเคลียมาทำลายเมืองพัทลุงให้สิ้นซาก ที่ต้องใช้เวลานานขนาดนั้นก็เพราะว่านิวเคลียของญี่ปุ่นรุ่นล่าสุดนั้นถูกยิงทดสอบไปแล้วเมื่อ3วันก่อน แต่ระเบิดหลังจากปล่อยจากฐานไปได้ 10 นาที ดังนั้นทางญี่ปุ่นจึงต้องเร่งสร้างนิวเคลียขึ้นมาใหม่ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 3วันด้วยกัน ตอนนี้เรามาดูภาพในเมืองพัทลุงกันเถอะ” แล้วก็มีภาพเกิดขึ้นมา เป็นภาพเมืองที่พังยับเยิน ไฟลุกไหม้ไปทั่ว ซากรถกระจายเป็นแห่งๆ ซากศพคนตายมีอยู่ประปราย บางส่วนก็เป็นตำรวจด้วย และมีคนเดินอยู่มากมาย แต่พวกนั้นก็คือผีดิบนั้นเอง
“ขอจบข่าวกันเพียงแค่นี้นะค่ะ เชิญดูรายการปกติของทางช่องเราได้เลยค่ะ” แล้วข่าวนั้นก็จบลงไป จากนั้นละครเรื่อง เหล็กไหลก็ปรากฏขึ้นมา
“ข่าวอะไรเนี้ย.....สงสัยจะเป็นโฆษณาหนังบางเรื่องแน่ๆเลย” แม่บ่นออกมา....
“เหล็กไหล!!!! มหาธาตุวิเศษ!!!! เหล็กไหล!!!!” เสียงเพลงไตเติ้ลละครดังออกมา
คนในบ้านทั้งหมดนั่งดูละครกันต่อ โดยไม่มีใครรู้ว่า ข่าวที่เขาประกาศนั้นเป็นเรื่องจริง ใช่แล้วละ กำลังมีอันตรายเข้ามาใกล้พวกเขาแล้ว
“ตอนนี้เรามาถึงประตูไฟแล้วละ ทุกคน แซ่ด....นี้...แช่ดๆ......ทักษ์....แซ่ดดดดดดดดดดด” เสียงของคนในละครพูดออกมา แต่อยู่ๆโทรทัศน์ก็เสีย มีเส้นลูกน้ำออกมาเต็มจอ
“เกิดบ้าอะไรขึ้นวะ!” ผู้เป็นพี่ใหญ่พูดอย่างไม่สบอารมณ์
โป็ก!!! และแล้ว ฝาละมือของท่านแม่ ก็มีอันต้องเขกหัวท่านพี่เข้าเต็มๆ
“พูดคำหยาบหรือ......”
“ขอโทษก๊าบ TT-TT”
ตึงๆๆ มีเสียงคนเคาะประตูอย่างแรง จนไม้แตก ซึ่งทุกคนในบ้านกลัวว่าจะเป็นโจร ทั้งหมดจึงไปหาอาวุธกันมา(ยกเว้นน้องชาย) พ่อถือมีดทหารเล่มงาม แม่หยิบพร้ามาได้ พี่ชายหยิบไม้เทนนิชคู่ ส่วนน้องคนกลางก็หยิบดาวกระจายเหล็กกับดาบที่ตั้งโชว์อยู่ในตู้
พลั่ก!!!! ประตูไม้แตกละเอียด ทุกคนในบ้านจับอาวุธของตัวเองไว้แน่น แม่ตะโกนบอกน้องสุดท้องว่า
“แช่ม!!! รีบวิ่งเข้าไปหลบในห้องด้วย!!!!”
“ครับแม่! ระวังตัวด้วยนะครับ!!!” น้องแช่มรีบวิ่งเข้าไปในห้องของแม่ทันทีและปิดประตูด้วย(ไม่ได้ล๊อก)
แฮ่~~~~ ผีดิบตัวหนึ่งเดินเข้ามาในประตู ช้าๆและเยือกเย็น
“ข....ข่าว.....ข่าวเป็นเรื่องจริงหรือเนี้ย......” ทุกคนในครอบครัวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ(ยกเว้นน้องคนกลาง มือจับที่ด้ามดาบไว้แน่น พลางหัวเราะในลำคอ)
(“หึๆๆ สนุกสิ....งานนี้”) น้องคนกลางคิดในใจ พลางวิ่งฝ่าทุกคนไปและฟาดดาบตัดหัวของผีดิบขาดไปทันที
“เอาจริงเหรอเนี้ย!!!” พี่พูดเสียงดัง เมื่อเห็นน้องคนกลางกล้าใช้ดาบฟันผีดิบ ส่วนพ่อกับแม่ก็ยังยืนช็อกอยู่
“ผมเคยเล่นเกมส์ผีดิบมาครับ พวกนี้นะ ต้องฟันหัวถึงจะตายครับ นั้นเป็นจุดตายของมัน และอีกอย่าง......พวกมันไม่มีชีวิตครับ” น้องคนกลางบรรยายถึงคุณศัพท์
แฮ่~~~~~ ผีดิบอีกตัวโผล่มาจากด้านหลังของน้องคนกลาง
“ร๊อก!!!! ระวัง!!!!” พี่ชายตะโกนอย่างสุดเสียง ซึ่งพ่อได้ขว้างอะไรบางอย่างไปหาผีดิบ
ฉึก!!!!! มีดทหารเล่มงามของพ่อ แทงทะลุหัวผีดิบเข้าไปอย่างแม่นยำ
“เราออกไปดูข้างนอกกันเถอะ.....เออ.....แม่จะอยู่ในนี้รึเปล่า” พ่อเดินไปดึงมีดจากหัวผีดิบ พลางหันไปถามแม่ แม่สายหน้า ก่อนจะพูดว่า...
“ไม่ละจ๊ะ.....แม่ก็อยากฟาดฟันมั้ง ฟันกับพวกวัชพืชแล้วมันไม่สนุกเลยนะ อยากฟันกับคนมั้ง”
“ก็ดี.....งั้นไปกันเลย” พ่อพูดและเช็ดมีดทหารไปด้วย ก่อนจะเดินนำทุกคนออกนอกบ้านไป
และแล้วนักรบ(ซะเมื่อไหร่)ทั้ง4 ก็เดินทางพร้อมไปฟาดฟันเหล่าผีดิบ แต่รู้สึกว่าร็อก(น้องคนกลาง)จะลืมของ จึงวิ่งเข้าไปในบ้านอีกครั้ง
- ทางด้านแช่ม(น้องสุดท้อง) -
ตอนนี้เขานั่งสั่นอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง
ผัวะ!!! มีผีดิบตัวหนึ่งพังผ้าเพดานลงมา และล้มนอนลงไป รู้สึกว่าจะมีปัญหาที่ขาซะด้วย มันค่อยๆเงยหน้ามองน้องสุดท้อง
“เหวอ.......ผ....ผี......ผีชีวะ......” น้องพูดด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว
เจ้าผีดิบนั้นกำลังใช้มือคลานเข้ามาหาน้องสุดท้องช้าๆ น้องนั่งสั่น ร่างกายแทบไม่ขยับ มันคลานเข้าใกล้น้องสุดท้องแล้ว อีกนิดเดียวเท่านั้น อีกนิ......
ฉึก!!! ดาวกระจายปักเข้ากลางหัวผีดิบเข้าเต็มๆและลึกพอที่จะทำให้ผีดิบตัวนั้นตายไปทันที น้องแช่มหันไปมองผู้ที่มาช่วยเหลือทันที ชายผู้นั้นมาพร้อมกับฝักดาบสีแดงที่สะพายอยู่ที่เอว มือข้างหนึ่งยกไปด้านหน้า อีกข้างก็จับด้ามดาบไว้แน่น
“พี่ร็อก!!!” น้องตะโกนและวิ่งไปหาพี่ พี่เดินไปหยิบดาวกระจายออกจากหัวของผีดิบ ก่อนจะแทงดาบปักหัวผีดิบอีกที เพราะกลัวว่ามันจะยังไม่ตาย พี่หันไปพูดกันน้อง
“น้อง...ไปกันเถอะ...แม่อยู่ข้างนอกแนะ และนี้......มีด เอาไว้ป้องกันตัวนะ” พี่ยืนมีดเฉือนเนื้อด้ามไม้ให้แช่มพร้อมกับฝักมีด น้องรับมีดจากพี่ ก่อนจะเก็บมีดเข้าไปในฝักและเสียบไว้ที่เอว
“ไปกันเถอะครับ....พี่....” และแล้วทั้งคู่ก็เดินไปยังหน้าบ้าน
จบตอนที่1.....
ความคิดเห็น