ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Prince Of Wolf

    ลำดับตอนที่ #3 : ท่อนที่3

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 50


    ย้อนไปเมื่อตอนเจ้าหญิงอายุ14ปี

    ตอนนั้นเจ้าหญิงได้ทรงขออนุญาติท่านพ่อซีโร่ไปเก็บดอกไม้ที่สวนอุทยานดอกไม้นอกเมืองซึ่งอยู่ติดแนวชายป่า พอดีราชาซีโร่กำลังตามง้อองค์ราชินีไอริชซึ่งงอนอยู่จึงบอกปัดอนุญาติไป โดยไม่ได้กังวลเลยว่าบุตรสาวจะได้รับอันตรายอะไรรึเปล่า เธอจึงไปเก็บดอกไม้เพื่อนำไปประดับแจกันในห้องของเธอ

    เธอเก็บดอกไม้หลากสีมาร้อยเป็นมาลัยใส่บนศีรษะ แล้วเธอก็พลันบังเอิญเหลือบไปเห็นกระต่ายแม่ลูกคู่หนึ่งมองมาที่เธอ เธอยิ้มไปให้มัน กระต่ายทั้งคู่คิดว่าเจ้าหญิงจะมาจับตัว จึงกระโดดเข้าป่าไป นาเบลนึกสนุกจึงตามกระต่ายตัวนั้นเข้าไปในป่า กะว่าจะผูกมิตรกับมันให้ได้ จนไปเจอโพรงของมัน ซึ่งมันได้หลบเข้าไปในโพรงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบลถอนใจเพราะคงเป็นไปไม่ได้ที่จะผูกมิตรกับสัตว์ที่ขี้ตกใจอย่างเจ้าพวกกระต่าย แต่เมื่อเบลมองไปรอบๆตัวเธอแล้วก็พบว่ามีแต่ป่ากับป่า

    เธอเริ่มเดินไปทั่วทางโน้นทีทางนี้ทีก็ไม่พบทางออก เพราะเธอไม่รู้ว่าปราสาทฟาเรนเซียอยู่ทางทิศไหน เธอกระวนกระวายใจมาก ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงเพราะใกล้ค่ำ ท้องก็เริ่มหิวพลางส่งเสียงร้องขออาหารออกมา แต่เธอตอนนี้หาได้สนใจความหิวไม เธอซึ่งกลัวความมืดมากจึงไปซุกตัวหลบอยู่ในโพรงต้นไม้แห่งหนึ่ง เสียงสัตว์ท่ออกหากินตอนกลางคืนก็พลั่นร้องเป็นเสียงระงมไปทั่วและด้วยบรรญากาศที่ดูหน้าวังเวงทำให้เธอตื่นกลัวอย่างหนักและเริ่มมีน้ำตาไหลออกมานองเต็มใบหน้า

    แต่แล้วก็เหมือนฟ้าประทาน เมื่อมีหมาป่าหนุ่มตัวหนึ่งออกมาหากินแถวนี้ หมาป่าตันี้มีอำนาจพิเศษที่จะเปลี่ยนร่างกายตนให้เป็นมนุษย์หรือมนุษย์หมาป่าก็ได้ มันสามารถฟังภาษาของทั้งโลกได้อย่างรู้เรื่องด้วยอำนาจแห่งพลอบอเมทีสที่ติดอยู่ที่หน้าอกและพลังแฝงอันน่าพิศวงของมัน หมาป่าหนุ่มได้ยินเสียงร้องไห้ของเจ้าหญิงนาเบลดังมาจากหลังต้นไม้ต้นหนึ่ง จมูกก็สามารถรับกลิ่นของน้ำตาได้ ทำให้มันรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นอยู่ที่ต้นไม้ต้นไหน จึงเดินอ้อมไปดูข้างหน้า ก็พบเบลซึ่งนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่

    เจ้าหญิงค่อยๆเงินหน้าขึ้น เพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างจ้องมองอยู่ ก็พบกับใบหน้าของหมาป่าหนุ่มขนสีเงิน แววตาสีเทาส่องประกายเป็นแสงในความมืด ทำให้เธอซึ่งอ่อนต่อโลกยิ่งนักคิดว่าปีศาจจึงช็อกสลบไป หมาป่าหนุ่มถอนหายใจในท่าทีของเจ้าหญิงและเข้าไปหาจากนั้นก็ดันตัวเจ้าหญิงขึ้นหลัง และพาวิ่งไปยังสวนดอกไม้ที่ชายป่า

    เวลาต่อมา

    เจ้าหญิงรู้สึกว่ามีอะไรมาสะกิดแขนเธออยู่ เธอจึงลุกขึ้นและหันไปมองซ้ายมองขวารอบด้านก็รู้ว่าตัวเองนั้นอยู่ที่กลางสวนดอกไม้แล้ว มองไปบนฟ้าก็พบกับพระจันทร์ลอยเด่นอยู่(ปล.หากไม่ใช่วันพระจันทร์เต็มดวง หมาป่าหนุ่มจะไม่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้) แต่ว่า ตอนนี้เธออยากรู้มากกว่าว่าเธออกมาจากป่าได้อย่างไร เธอมองไปที่ปลายเท้าตัวเอง ก็พบว่ามีหมาป่าหนุ่มขนสีเงินจ้องมองเธออยู่

    “เธอใช่รึเปล่าที่ช่วยฉันออกมาจากป่านะ.....” เบลพูดและนั่งลงเกาหัวสุนัขป่า มันไม่ตอบแต่พยักหน้าเฉยๆ และเลียหน้าเลียตาของเจ้าหญิง จนเบลต้องบอกให้พอเพราะหน้าเธอเปียกหมดแล้ว หมาป่าหนุ่มจึงหยุดและนั่งลิ้นห้อยมองเจ้าหญิง พยายามทำตัวให้เหมือนสัตว์มากที่สุด ทั้งๆที่ตัวเองมีจิตความประเสริฐแบบมนุษย์อยู่ เบลลุกขึ้นยืน

    “ขอบใจมากนะค่ะคุณหมาป่า^.^หวังว่าพรุ่งนี้คงได้เจอคุณอีก” เบลพูดออกไปอย่างไรเดียงสา แต่จิตใจของหมาป่าหนุ่มคล้ายจะหยุดเต้นไปแล้ว เมื่อได้เห็นรอยยิ้มดั่งนางฟ้าของเธอ เบลก้มลงและจูบที่หน้าผากของหมาป่าจากนั้นก็วิ่งจากไป เธอไม่ทันได้เห็นใบหน้าอันแดงแจของหมาป่าหนุ่ม ที่ยืนอึ้งอยู่นานกว่าจะได้สติ จึงเดินทางกลับเข้าป่าไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×