เข็มในมหาสมุทร์ชื่อทางรอด
mystery adventure sci-fi
ผู้เข้าชมรวม
34
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
เจ้าหนูพับกระดาษสองครั้งสุดท้ายจึงออกมาเป็นรูปจรวดหัวแหลมเปี๊ยบ แต่มันอยู่ในมือคนพับไม่นาน พอกระจกหน้าต่างเลื่อนลงเล็กน้อยจรวดก็โผล่หัวพุ่งออกจากมือไปหาอากาศ เสียงเฟี้ยวจากปากเจ้าหนู เรียกแม่ให้หันมามองสายตาขุ่นขณะกุมพวงมาลัยรถแล่นบนทางด่วน
จรวดพุ่งฉิวไร้ทิศทางเคว้งคว้างตามแรงลมอยู่กลางอากาศ ค่อย ๆ ลดระดับเพดานบินลง ท่ามกลางยวดยานถนนเบื้องล่างที่แล่นผ่านไม่ขาดสาย ก่อนหายเข้าไปในรถยนต์คันหนึ่งที่แล่นโฉบมาพอดี
ชายวัยกลางคนเหลือบมองจรวดกระดาษที่ตกลงบนตักผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ ตอนหล่อนกำลังจะดีดบุหรี่ผ่านช่องกระจก แต่เปลี่ยนใจหยิบจรวดกระดาษขึ้นมาดูด้วยรอยยิ้ม ค่อยส่งไปให้เด็กสาวที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“ที่นั่นคุณอาจต้องค้างบ้านเพื่อนของเราซักสองสามวัน จนกว่าเขาจะหาที่อยู่ที่ปลอดภัยให้คุณและลูก” ฝ่ายชายเอ่ยกับผู้หญิงขณะมือยังสาวพวงมาลัย
“คุณบอกฉันสองครั้งแล้ว..” เธอตอบโดยไม่ละสายตาจากถนนและเปลวแดดระยิบ “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกที่รัก ฉันกับลูกเอาตัวรอดได้”
ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองฮิลลิงดอน ห่างจากกรุงลอนดอน 24 กิโลเมตร ทางวิ่งขนานกันสองช่องทางตามแนวทิศตะวันออกและทิศตะวันตก อาคารผู้โดยสารสี่หลัง โดยหลังที่ห้าเป็นอาคารหลังใหม่ซึ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน มีการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารฝั่งตะวันออกใหม่หมด รวมทั้งเพิ่มทางวิ่งอีกช่องทาง รองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นพรวดพราด ชื่อของท่าอากาศยานตั้งตามชื่อหมู่บ้าน “Heathrow” ซึ่งถูกทำลายลงเพื่อนำมาสร้างเป็นสนามบิน คาดว่าตัวหมู่บ้านอยู่บริเวณอาคารผู้โดยสาร 3
สตีเวน เดียคินส์ ส่งตั๋วสองใบให้ภรรยาแล้วตามด้วยตลับขนาดเล็ก “ซิมสำรอง เอาไว้ใช้ตอนฉุกเฉิน..” เขาคว้าภรรยาเข้ามาสวมกอด ลมหายใจทั้งสองรดใส่กันจนพอใจ จึงดึงลูกสาวเข้ามากอดอีกคน “ดูแลแม่ให้ดีนะลูก”
“ค่ะ” เด็กสาวพยักหน้า
ในอ้อมกอดพ่อ สายตาเด็กสาวเหลือบไปปะกับดวงตาคู่โตของชายหนุ่มหน้าเข้มผมสั้น กำลังลุกขึ้นจากม้านั่งโดยหนุ่มผมทองอีกคนส่งกระเป๋าใบเขื่องให้ เขามองเธอและมองเธอ จนเพื่อนกระแทกกระเป๋าใส่ รอยยิ้มของเขาจึงหุบสนิท
“ท่าทางเขาสนใจหนู..” คิมเบอร์รี เดียคินส์ รู้ทัน-ไม่วายชำเลืองมองตามลูก
“ฉันนึกเป็นห่วงคุณมากกว่านะที่รัก” เธอกระซิบสตีเวนข้างหู “ยาแก้หอบของคุณอาจไม่พอถึงอาทิตย์หน้า คุณไปซื้อเตรียมไว้ได้เลย”
“ผมรู้ที่รัก ผมรู้..”
เสียงประชาสัมพันธ์ดังขึ้นแยกคนทั้งสาม แจ้งผู้โดยสารที่จะไปญี่ปุ่นให้เตรียมตัวขึ้นเครื่อง
“สตีฟคะ ฉันกับลูกต้องขึ้นเครื่องแล้วล่ะ..” เธอตบไหล่เขาแบบเบา “คุณกลับไปเถอะ ทำหน้าที่ของคุณอย่างเต็มที่ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเรา ไม่นานก็เจอกันแล้ว”
“ดูคุณเข้มแข็งกว่าผมอีก”
“ฉันจำเป็นต้องเข้มแข็ง คุณก็เช่นกันสตีฟ”
สีหน้าคนทั้งสองซ่อนร่องรอยอาลัยต่อกันไม่สนิท ขณะรีแอนน์ไม่ปรากฏร่องรอยวิตกกังวลให้เห็นแม้แต่น้อย สตีเวน เดียคินส์ มองผู้หญิงทั้งสองเดินเข้าช่องผู้โดยสารจนลับตา จึงค่อยกลับออกไปอาคารจอดและขับรถกลับบ้านพักชานกรุงลอนดอนโดยมีความวิตกกังวลรบกวนมาตลอดทาง
ผู้โดยสารบนเครื่องแอร์บัส A 320 ของบริทิชแอร์เวย์เงียบเสียงลงหลังนั่งประจำที่ จากความจุ150 เหลือหนึ่งที่นั่ง สองแอร์โฮสเตสเข้าประจำการอยู่ท้ายลำ จอทีวีตรงหน้าคิมเบอร์รีเป็นรายการแม่บ้านส่วนรีแอนน์มองออกนอกหน้าต่าง ผ่านไปเป็นชั่วโมงทีวีจอเล็กตรงหน้าเปลี่ยนเป็นรายงานข่าว Breaking news ภาพความวุ่นวายในที่เกิดเหตุสะกิดสายตาสองแม่ลูกหันไปมอง ชายสองคนท่าทางเป็นคนร้ายชายผมสีทองล็อคคอตัวประกันผู้หญิงวัยกลางคน อีกคนผมสีเข้มหลบนั่งเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ในวงล้อมของเจ้าหน้าที่ประจำสนามบิน ตำรวจนายหนึ่งตะโกนเสียงดังใส่คนทั้งสอง จับความได้ประโยคสองประโยคว่าให้มอบตัว และกลุ่มก่อการร้ายซึ่งเป็นพลเรือนชาวอังกฤษ..
“รีแอนน์..” คิมเบอร์รีเรียกลูกขณะสายตายังคาอยู่หน้าจอ “หนูเห็นมั้ย?”
“ค่ะ” เด็กสาวเอนศีรษะลงพนักพิงไม่ยินดียินร้าย “จำได้”
“คนเดียวกับที่เราเจอก่อนขึ้นเครื่องนี่” คนแม่เสียงสั่นเล็กน้อย “แม่จำได้ว่าคนผมดำนั่น-ที่มองหนู”
“อย่ากังวลคิม!” พูดจบ รีแอนน์หันหน้าเข้าหาช่องหน้าต่างแล้วหลับ
ชั่วโมงที่สิบสามมาถึงพร้อมความมืดมิดคลี่คลุมบริทิช แอร์เวย์ และผู้โดยสารส่วนใหญ่หลับใหล ต่ำลงไปหาแนวป่าและยอดไม้แผ่คลุมเป็นม่านสีเขียวทะมึนของค่ำคืน มะค่าโมงยืนต้นตระหง่านแผ่กิ่งก้านไม่ห่างจากขุมเขาซ้ายมือ ชายสามคนเงียบกริบอยู่บนห้างของต้นไม้นั้น และปืนลมยาวแนบกายทุกคนบรรจุกระสุนพร้อม
หน้าปัดไมล์โชว์แสงไฟแพรวพราว จอมินิเตอร์ทำงานอยู่เหนือศีรษะสองนักบินเล็กน้อย แผนที่แสดงลักษณะอากาศเลว Significant Weather Chart ทำนัยน์ตาสองนักบินไม่กะพริบ หากเครื่องจะตกหลุมอากาศ ประสบการณ์ที่ผ่านมาจะช่วยให้สองนักบินไม่วิตกกังวล
ผลงานอื่นๆ ของ P.P. Nutamphan ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ P.P. Nutamphan
ความคิดเห็น