คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Sexz.02 blind
CHAPTER 2 : BLIND
JUST SEXZ HUNHAN BY POCXOUT
แสงไฟในห้องพักผู้ป่วยพิเสษติดสว่างพรากความมืดมิดไปจากโอเซฮุน ร่างสูงที่เดินตรงเข้ามาหาเขาที่เตียงพร้อมกับข้าวของมากมายที่ถือติดมาด้วย
“เซฮุน เป็นไรมากหรือเปล่าหน่ะ?” เสียงถามของร่างสูงที่เดินเข้ามาถามขึ้น
“อ้าว พี่ชานยอล มาทำอะไรหรอครับ” ผมพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นเพื่อที่จะได้คุยกับแขกได้สะดวก
“ก็จงอินมันบอกให้พี่มาเฝ้านาย มันบอกว่านายไม่ยอมให้มันเฝ้า”
ใช่ครับ...มันก็เรื่องธรรมดาที่ผมจะเกลียดไอ้จงอิน ครอบครัวของผมอุตส่าห์อยู่กันอย่างมีความสุขมาตั้งนาน แต่แล้ววันหนึ่งพ่อก็พาผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยเข้ามาภายในบ้านพร้อมกับผู้ชายที่ชื่อคิมจงอิน ตั้งแต่ทั้งคู่เข้ามานั้น แม่ของผมก็ไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย เวลาผ่านไปไม่นานพ่อก็ได้ยกย่องผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาอย่างเป็นทางการ ทิ้งให้แม่ของผมนั้นตรอมตรมอยู่ตัวคนเดียว จนกระทั่งจนถึงวันนั้น วันที่ผมจำได้ไม่เคยลืมเลือน
“คุณเคยสนใจความรู้สึกของฉันบ้างไหมคะ” เสียงที่สั่นเครือนั้นออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองเต็มหน้าของหญิงสาว
“นี่ผมแคร์คุณขนาดไหน ผมเก็บเรื่องนี้มาตั้งนาน คุณรู้ไว้เลยนะ ผมกับผู้หญิงคนนั้น เรารักกันมาก่อนที่จะมาเจอคุณอีก นี่ผมยอมอยู่กับคุณตั้งนาน ผมยังแคร์คุณไม่พอหรือไง” เสียงตวาดจากชายหนุ่มอันเป็นที่รักของเธอได้หลั่งไหลออกมา ความรู้สึกของหญิงสาวในตอนนี้เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนั้นแตกสลายไปในพริบตา
“ทำไมคุณไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้คะ” เธอพูดก่อนจะหันหน้ามาทางผม
“แม่ไปก่อนนะลูก แม่คงทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว” เธอหันมามองผมด้วยแววตาที่เจ็บปวดแต่แฝงถึงความห่วงใยก่อนที่เธอจะเดินออกจากบ้านไป
เสียงสตาร์ทรถเฟอร์รารี่ดังขึ้น ล้อของรถหมุนด้วยความเร็วก่อนที่ตัวรถนั้นจะขับออกไปจากเขตของคฤหาสน์ตระกูลโอออกไป
“ไอ้เลว!” ผมพูดออกไปโดยไม่สนว่าคนตรงหน้าจะมีพระคุณแก่ผมขนาดไหน
เท้าของผมก้าวยาวๆ ออกไปเพื่อจะขับรถไปตามหาแม่ ผมขับรถออกไปตามทางที่แม่ชอบพาผมไปบ่อยๆ แต่การจราจรบนถนนเส้นนั้นกลับติดขัดอย่างหน้าประหลาดใจ ผมพยายามขับรถซอกแซกไปตามช่องว่างต่างๆ จนกระทั่งถึงจุดจุดหนึ่ง ภาพที่ผมเห็นนั้นทำให้โลกของผมนั้นมืดลงทันใด
รถเฟอร์รารี่สีขาวที่เพิ่งเห็นไม่นานมานี้ สภาพตอนนี้ยับเยินจนกว่าจะจำได้ ล้อทั้งสี่ของรถนั้นแทนที่จะอยู่บนพื้นตามปกติ กลับพลิกขึ้นไปในอากาศ เลือดที่ไหลนองแสดงให้เห็นว่าร่างในรถนั้นบาดเจ็บเพียงใด
ผมนำรถจอดลงที่ข้างทางและเดินแหวกเข้าไปในกลุ่มคนที่มุงดูกันอยู่อย่างหนาแน่น มือของผมเอื้อมเข้าไปจับมือของผู้ที่เป็นแม่และลูบด้วยสัมผัสอ่อนโยน น้ำตาของผมไหลออกมาอย่างช้าๆ ก่อนที่สติของผมจะดับวูบไป
“นี่ เซฮุน เป็นอะไรหรือเปล่าฮะเรา” เสียงของชานยอลทำให้เซฮุนหลุดจากภวังค์ความคิดเกี่ยวกับอดีตที่ยังฝังใจของเขาจนกระทั่งปัจจุบัน
“เปล่าครับ” ผมตอบด้วยเสียงเนือยๆ
“งั้นก็ดีแล้ว อ่ะนี่ พี่ซื้อของกินมาให้นายด้วย” มือหนายืนถุงของกินต่างๆ นานาให้กับเขา
“ขอบคุณครับ” ผมยื่นมือไปรับของเหล่านั้น
“งั้นนายก็กินซะ จะได้กินยาแล้วก็พักผ่อน เดี๋ยวพี่จะกลับไปเอาของที่บ้านสักหน่อย พอดีพี่ลืมของไว้น่ะ” ร่างสูงนั้นเอ่ยก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องและทิ้งเขาไว้คนเดียว
“แม่ครับ...ผมคิดถึงแม่...” เสียงแผ่วเบานั้นออกจากปากของโอเซฮุนพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา...
*
“ลู่หาน นายจะกินอะไรไหม ฉันจะออกไปซื้อพอดี” เสียงของคุณหมอร่างเล็กนามว่า ‘แบคฮยอน’ ถามขึ้น
“ฉันฝากนายซื้อกาแฟมาให้ฉันหน่อยสิ ฉันจะขึ้นไปดูคนไข้สักหน่อย” เขาว่ายวานพร้อมกับหยิบเงินให้ไป
“มอคค่าเข้มๆ เหมือนเดิมใช่ไหมครับ คุณหมอคนขยัน” เสียงที่ถามขึ้นนั้นแสดงถึงความสนิทสนม
“จำได้ด้วยหรอเนี่ย นายนี่ความจำดีจริงๆ เลยนะ”
“ก็แน่นอนน่ะสิครับ ฉันไปก่อนนะ” แบคฮยอนว่าพลางเดินออกจากห้องพักของหมอเพื่อออกไปซื้อของตามที่ต้องการ
*
คุณหมอร่างบางเจ้าของดวงตาสวยก้าวเท้ายาวๆ ตามทางเดินของโรงพยาบาลก่อนที่จะมาหยุดที่ห้องคนไข้พิเศษที่ญาติของเขา ฝากให้ดูแลเป็นอย่างดี มือสวยเคาะประตูเพื่อแสดงให้รู้ว่ามีคนมา ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป
ร่างสูงของคนป่วยนั่งอยู่บนเตียง ดวงตาที่เหม่อลอยของเขาเต็มไปด้วยน้ำตา เสียงแผ่วเบาที่ออกมานั้นฟังไม่ค่อยชัดมากเท่าไรนัก ตอนนี้สภาพของโอเซฮุนนั้นเหมือนดั่งคนที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“นายเป็นอะไร โอเซฮุน...” คนที่เป็นหมอพูดออกมาก่อนที่จะเดินตรงไปหาร่างนั้น
“แม่ครับ...แม่....แม่....” เสียงนั้นออกมาจากปากของร่างสูงพร้อมกับมือที่โอบเข้าที่เอวของคนถาม ร่างบางนั้นถูกดึงตัวเข้าไปกอดอย่างแนบชิด
“อยู่กับผมก่อนได้ไหมครับ...ผมคิดถึงแม่... ตอนนี้มันอ้างว้างเหลือเกิน...” เสียงสั่นเครือนั้นยังไหลมาเป็นสายพอๆ กับน้ำตาที่หลั่งรินมาจากความรู้สึกเบื้องลึก
ในตอนนี้ โอเซฮุนไม่เหมือนกับคนเดิม คนที่ใช้ความรักกับคนอื่นอย่างไม่รู้คุณค่า แท้จริงแล้ว เขาก็เป็นแค่เพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องการความรักที่แท้จริงจากผู้ที่เป็นแม่ของเขา
“นายตั้งสติไว้ก่อนนะ ใจเย็นๆ ถ้าสภาพจิตใจของนายย่ำแย่ อาการของนายมันก็ยิ่งดีขึ้นช้าลงนะ” ถ้อยคำเตือนสตินั้นหลั่งออกมาจากคนที่ถูกสวมกอดในเวลานี้
“ผมจะพยายาม แต่อย่าเพิ่งทิ้งผมไปไหนนะครับ ผมขอร้อง” คนป่วยนั้นยังไม่หยุดร้องไห้เสียที อีกทั้งแขนที่สวมกอดอยู่นั้นกลับแน่นขึ้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเขานั้นซุกลงไปในตัวของลู่หาน
“ก็ได้ ฉันจะอยู่กับนาย นายเป็นคนไข้ของฉัน ฉันก็ต้องดูแลเป็นอย่างดี” คุณหมอร่างบางพูดขึ้นพร้อมกับเลื่อนมือไปลูบหัวคนไข้ของเขาอย่างแผ่วเบา เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมหัวใจของเขาถึงได้เต้นผิดจังหวะ
แต่ในวินาทีนี้ไม่มีใครเป็นหลักให้เซฮุนได้ยึดเอาไว้อีกแล้ว มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่จะทำให้เขากลับมาเป็นปกติได้มากที่สุด...
มือข้างหนึ่งของคุณหมอแบคฮยอนนั้นเต็มไปด้วยถุงอาหาร อีกข้างหนึ่งถือแก้วกาแฟที่เพื่อนคนสนิทฝากซื้ออยู่เป็นประจำ ร่างนั้นเดินออกมาจากร้านค้าภายในเขตโรงพยาบาล
ปั่ก...
ร่างบางนั้นเกือบหงายหลังลงทันใดเมื่อได้รับแรงกระแทกจากการชนของคนร่างสูงที่เดินมาด้วยความเร็ว กาแฟในแก้วที่เขาถืออยู่นั้นกระชอกออกไปจนเปียกเสื้อคนตัวสูง
“ขอโทษครับ” แบคฮยอนกล่าวออกไปทันใดแบบไม่คิดอะไร ก่อนจะก้มหัวขอโทษอยู่หลายครั้ง
“ไม่เป็นไร มันผิดเองที่ฉันรีบ” เสียงที่พูดออกมานั้น เขาฟังแล้วดูคุ้นเคยแปลกๆ
“ยังไงก็ต้องขอโทษจริงๆ ครับ” ร่างนั้นยังก้มหน้าสำนึกผิดอยู่ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมา
“ชานยอล...” แบคฮยอนพูดออกมาด้วยเสียงที่แผ่วลง
“ฉันไม่คิดว่าฉันจะได้เจอนายอีกนะ แบคฮยอน” เสียงของชานยอลนั้นฟังดูเย็นชาพิกล
“งั้นฉันไปก่อนละกันนะ” เสียงตอบของเขานั้นดูเศร้าผิดไปจากทุกที จริงๆแล้วแบคฮยอนจะเป็นคนที่สดใส ร่าเริง เขาไม่ค่อยจะเครียดมากเท่าใด แต่ตอนนี้ทั้งแววตาและน้ำเสียงของเขานั้น ดูผิดแปลกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
*
“นายปล่อยฉันได้หรือยัง” เสียงของคุณหมอที่โดนคนไข้กอดอยู่ถามขึ้น หลังจากอยู่ในสภาพนั้นมาเป็นเวลาระยะหนึ่ง
แขนยาวที่โอบกอดอยู่ตอนแรกนั้นคลายลง ก่อนที่มือหนานั้นจะยกขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตาออกจากหน้าของตน
“ขอบคุณนะครับ ที่อยู่กับผม...” ประโยคนั้นหลุดออกมาจากปากของคนไข้ ทำเอาคนที่ถูกขอบคุณนั้นหน้าร้อนวาบๆ ขึ้นมา
“ถ้านายโอเคแล้ว กินข้าวกินยาแล้วก็นอนพักผ่อนซะ จะได้หายไวๆ ฉันขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะ” ลู่หานพูดและเดินออกไป โดยที่ไม่รู้ว่าตอนที่เขาหันหลังเดินออกไปนั้น ร่างสูงที่นั่งอยู่ทางด้านหลัง ได้ยิ้มออกมาเล็กน้อย ซึ่งรอยยิ้มนั้นเป็นใครก็ดูออกว่า เป็นรอยยิ้มแห่งความสุข...
*
“นายเป็นอะไรแบคฮยอน” ลู่หานถามหลังจากที่เห็นเพื่อนของตนนั้นแลดูเงียบผิดปกติ
“แล้วกาแฟฉันล่ะ นายไม่ได้ซื้อมาหรอ” เขาลองถามทวงของที่เขาฝากซื้อ แต่ร่างนั้นก็ยังคงนั่งเงียบ ดวงตาเหม่อลอย
ลู่หานเอามือไปโบกๆ บริเวณหน้าของเพื่อนของตน ก่อนที่ร่างนั้นจะสะดุ้งขึ้น
“ฮะ..ฮะ... นายทำอะไรของนายเนี่ย” เขาว่าพลางปัดมือของลู่หานออก
“ก็ฉันเห็นนายเหม่อๆ ผิดปกติ นายเป็นอะไร”
“เปล่านะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร กาแฟนายฉันเอาไปแช่ไว้ในตู้เย็นนะ ฉันเห็นนายไม่กลับมาสักที กลัวน้ำแข็งจะละลายแล้วเสียรสชาติหมด เดี๋ยวฉันไปเอามาให้นะ” แบคฮยอนว่าพลางลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะเดินไปหยิบกาแฟมาให้เพื่อน แต่มือของลู่หานนั้นรั้งเขาเอาไว้
“ยังไม่ต้องไปเอามาหรอก เห็นเพื่อนทำหน้าเหม่อๆ ลอยๆ ต่างไปจากคนคนเดิม กินอะไรก็ไม่อร่อยหรอก นายมีอะไรเล่าให้ฉันฟังก็ได้นะ”
ร่างที่ถูกรั้งไว้หันมาหาเพื่อนของตนพร้อมกับนั่งลงอีกครั้ง ดวงตาของเขาเริ่มมีน้ำใสๆ ปริ่มอยู่ที่ขอบตา
“ฉันเจอชานยอล... และเขายังเหมือนเดิม...” เสียงที่กลั่นออกมานั้นฟังดูเจ็บปวด แค่เขาพูดถึงชื่อนี้ ลู่หานก็ไม่ต้องถามอะไรอีกแล้ว
“ไหนนายบอกว่านายลืมได้แล้วไง” เสียงจากคนตรงข้ามนั้นถามขึ้น คำถามนี้เหมือนเป็นตัวกระตุ้นให้น้ำตาที่เก็บไว้มานานไหลออกมา ดวงตาของเขานั้นแสดงถึงความเจ็บปวดที่มีอยู่ล้นหลาม ร่างนั้นได้เพียงแต่ก้มหน้าร้องไห้ เมื่ออดีตของเขานั้นยังคอยหลอกหลอนจิตใจอยู่ในทุกวันนี้
“ถ้านายเสียใจ นายร้องออกมาให้พอ ฉันจะนั่งอยู่ตรงนี้ ฉันจะไม่ไปไหนจนกว่านายจะดีขึ้น” ไม่ต้องพูดอะไรมาก คนทั้งสองก็เข้าใจกันดีด้วยจกที่สนิทกันมานาน
“ฉันต้องไม่เป็นไร ฉันต้องไม่เป็นไร” ร่างเล็กพูดพลางสะอื้น ในหัวของเขามีแต่ภาพในอดีตในวันวันนั้น วันที่เขาโดนชานยอลบอกเลิก เขายังจำได้ไม่เคยลืม
*
ภาพของงานศพปรากฎขึ้นมาในความฝันของเซฮุน ผู้คนทั้งหลายนั้นดูเศร้าสร้อย เว้นแต่ชายหนุ่มในชุดสูทที่นั่งอยู่ที่โซฟาแถวหน้า เขากลับยิ้มร่าดีใจเหมือนกับว่ากำจัดมารชีวิตออกไปได้สักคน แต่หากว่าคนที่ตายไปนั้น ใช่ว่าจะเป็นคนไกลตัวหรือคนที่เขารังเกียจ แต่เป็นภรรยาของเขาเองและเป็นแม่ของคนที่ชื่อโอเซฮุน
รถคันหรูแล่นเข้ามาจอดในบริเวณพิธี ร่างสูงภายในชุดสูทเดินลงจากรถและพุ่งตรงเข้าไปที่ชายที่มีศักดิ์เป็นพ่อของเขานั่งอยู่ ก่อนที่จะฟาดกำปั้นลงไปบนใบหน้านั้นอย่างจัง
“นี่แม่เพิ่งตายไป พ่อไม่คิดจะเสียใจเลยใช่ไหม” ร่างนั้นถามด้วยความโมโห
“ผมเห็นการ์ดแต่งงานใหม่ของพ่อวางอยู่บนโต๊ะ นี่แม่เพิ่งตายเองนะ แต่พ่อกลับไม่คิดที่จะเศร้าใจหรือไว้อาลัยให้แม่เลย แต่พ่อกลับไปหาแต่ความสุขของตัวเอง มันสนุกนักหรือไง! หะ!” มือหนาของเซฮุนพุ่งเข้าไปกระชากที่คอเสื้อของผู้เป็นพ่อแล้วยกสูงขึ้น
“เผอิญฉันไม่ใช่คนยึดติดกับอดีต อะไรที่ผ่านไปแล้ว ก็ปล่อยให้ผ่านไป แกจะไปสนใจอะไรมันนักหนาฮะ” เสียงนั้นตวาดกลับมาเล็กน้อย
“แต่นั่นเป็นเมียของมึง มึงไม่คิดจะสงสารเลยหรือไง!” เสียงนั้นโกรธยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“ชีวิตของฉันมีอะไรดีๆ อีกมากมาย ฉันไม่จำเป็นต้องไปจมปลักกับผู้หญิงคนนั้น เธอตายไปแล้ว ฉันไม่ถือคนตายเป็นเมียหรอก ชีวิตฉันมีอะไรดีๆ รออยู่อีกเยอะ”
“มึงนี่มันเลวจริงๆเลยนะ ไอ้จินฮยอง!” หมัดหนักๆ ซัดเข้าไปในใบหน้าจนเลือดสีแดงฉานไหลออกจากมุมปาก ก่อนที่ชายหนุ่มจะทุ่มตัวลงคนเป็นพ่อกับพื้นแล้วกระหน่ำหมัดเข้าใส่หน้าไม่ยั้ง แขกทุกคนในงานแตกฮือ ผสมกับเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นมาจากทางด้านหลัง
“เธอนี่มันท่าจะบ้าไปแล้วนะเซฮุน แม่นายประสบอุบัติเหตุ มันเป็นอุบัติเหตุ เธอไม่เข้าใจหรือไง” เสียงนั้นเรียกสติให้เซฮุนหยุดการกระทำตรงหน้า ก่อนที่จะหันไปมองร่างนั้นด้วยสายตาขุ่นเคือง
“ก็ที่แม่กูตาย มันก็เป็นเพราะมึงไม่ใช่หรือไง” มือหนายกขึ้นในอากาศเตรียมที่จะฟาดลงไปที่ผู้หญิงคนนั้น
ปั้ก...
หมัดหนักๆ ลอยเข้ามาบนใบหน้าของเขาก่อนที่จะลงมือทำลงไป
“อย่าทำอะไรแม่ฉัน นายมันเสียสติไปแล้ว” เสียงที่ขัดหูของคิมจงอินดังขึ้น
“มึงก็อีกคนนึง มึงรู้บ้างไหมว่าแม่กูต้องเสียใจขนาดไหน มึงเคยรู้บ้างไหม” เสียงตวาดนั้นออกไปพร้อมน้ำตาแห่งความโกรธที่ไหลออกมา
“ถึงรู้ไป พวกมึงก็คงไม่สะทกสะท้านอะไร กูคงอยู่กับพวกตายด้านไม่ได้ เราคงอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอก!” ร่างนั้นพูดก่อนที่จะวิ่งไปทั้งน้ำตา เขารีบเข้าไปในรถและออกรถไปจากงานทันที
เซฮุน...
เสียงของหญิงสาวที่คุ้นเคยดังขึ้น ตาของเขาเบิกโพลงทันทีเมื่อเห็นว่าบนถนนข้างหน้า มีร่างของหญิงสาวผู้เป็นแม่ยืดอยู่ รถของเขาพุ่งเข้าไปอย่างจังก่อนที่จะตะโกนออกมา
“แม่!”
ร่างสูงสะดุ้งครั้งหนึ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมา เสียงหอบหายใจนั้นแสดงถึงอาการเหนื่อย น้ำตาที่ไหลอยู่เต็มใบหน้านั้นแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ค่อยดีเท่าไร
“เป็นอะไร เซฮุน” เสียงของชานยอลที่มานอนเฝ้าดังขึ้น ก่อนจะพุ่งตรงเข้ามา
“เปล่าครับพี่... ผมแค่ฝัน” เสียงที่ตอบนั้นฟังดูเหนื่อยหอบ สิ่งที่เขาฝันถึงนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้นมาจากไหน แต่มันเป็นเรื่องจริงที่เขาเคยพบเจอ...
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เมื่อกี้พี่ไปถามคุณหมอมา เขาบอกว่าสายนี้นายก็ออกจากโรงบาลได้แล้ว” ชานยอลเอ่ยพลางลูบผมน้องชายเผื่อลดความตกใจ
“เดี๋ยวพี่กลับไปบ้านก่อนนะ แล้วเดี๋ยวสายๆ พี่มารับ”
เซฮุนพยักหน้าสองสามครั้งก่อนที่ชานยอลจะเดินออกไป
เขาฝันอีกแล้ว เขาฝันเห็นแม่อีกแล้ว เมื่อไรเรื่องพวกนี้ มันจะจากเขาไปสักทีนะ
เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วการหลับใหลก็ครอบงำเขาอีกครั้ง
แสงแดดทอประกายแสดงให้เห็นว่าเป็นเวลาเช้าแล้ว เจ้าของร่างสูงนั้นลืมตาขึ้นมาพบกับบางสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆ เตียงผู้ป่วย สิ่งนั้นเป็นช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ แต่ติดตรงที่ว่า
ดอกไม้ช่อนั้นเป็นดอกไม้จันทน์....
ทอร์ควิทไรท์เตอร์
เป็นไงบ้างฮับตอนนี้ ไรท์ยังรู้สึกว่าแต่งแปลกๆ อยู่เลยอ่า มีตรงไหนอะไรอยากให้แก้เม้นท์ไว้น้า
ไรท์จะเข้ามาอ่านและปรับปรุงในตอนต่อๆ ไปให้ดีขึ้น รักรีดเดอร์น้า
ความคิดเห็น