ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิวาห์วุ่น...ลุ้นรัก

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่8 : งานแต่งที่ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวไม่เต็มใจมา

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 59


    บทที่8 : งานแต่งที่ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวไม่เต็มใจมา


    เช้าวันแต่งงานมาถึง ทุกคนต่างวุ่นวายกันอย่างมาก แต่กอแก้วดูจะเป็นคนเดียวที่นิ่งไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใด

          “เจ้าสาวยิ้มหน่อยสิคะ วันนี้หนูควรจะมีความสุขที่สุดนะคะ”ช่างแต่งหน้าซึ่งเป็นสาวประเภทสองพูดขึ้น

          “เหรอคะ ก็ได้ค่ะ”กอแก้วฉีกยิ้มหนึ่งทีก่อนที่จะกลับมานั่งหน้านิ่งเหมือนเดิม

          “ไม่ยิ้มก็ไม่ยิ้มค่ะ เดี๋ยวอีกสิบห้านาที พิธีก็จะเริ่มแล้วนะคะ นี่ได้ยินว่าผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวกำลังมาถึงค่ะ”ช่างแต่งหน้าแต่งไปพูดไป กอแก้วสะดุ้งเล็กน้อย ดี เสี่ยเม้งเห็นอย่างนี้แล้วจะได้เลิกยุ่งกับเธอซะที


              ด้านหน้างานเสี่ยเม้งกับคุณนายเหม่ยหลิงกำลังเดินเข้ามาในบ้าน เหมันต์ออกมาต้อนรับ ทำเอาเฮียเม้งแทบช็อก

          “สวัสดีครับ เสี่ยเม้ง”เหมันต์พูดด้วยท่าทางยิ้มเยาะ

          “นี่คุณเหมันต์ ลูกชายคนเล็กของนภาเขา วันนี้เขาเชิญเรามาเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวให้เขาน่ะ”คุณนายเหม่ยหลิง พูดเน้นให้เสี่ยเม้งได้ยินชัดๆ

          “เชิญข้างในดีกว่าครับ พิธีกำลังจะเริ่มแล้ว”เหมันต์บอกกับคนทั้งสอง ก่อนจะเดินนำเข้ามา

          “เชิญนั่งครับ”เหมันต์เชิญ คุณนายเหม่ยหลิงและเสี่ยเม้งนั่งลงบนเก้าอี้ อีกด้านเป็นคุณนภาพราวกับคุณวสันต์ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

          “นึกว่าเสี่ยเม้งจะไม่มาซะแล้วนะครับเนี่ย”คุณวสันต์เอ่ยขึ้น เพราะปกติแล้วเขาหรือใครๆ ก็ไม่เคยได้เห็นเสี่ยเม้งออกงานสังคมกับคุณนายเหม่ยหลิงเลย

          “ครั้งนี้ต้องมาสิครับ แหม งานคนสนิทกันทั้งนั้น”เสี่ยเม้งว่าอย่างอารมณ์ดี จนเหมันต์นึกหมั่นไส้

          “จะว่าไป ลูกชายคนเล็กของคุณนภาก็หล่อดีเหมือนกันนะ ลูกออกมาคงน่ารักแน่ๆ”เสี่ยเม้งพูดไปเรื่อย

          “ใช่ค่ะ ฉันก็ว่าอย่างนั้น นี่ก็กำลังบังคับขู่เข็นให้มีหลานให้ย่าอุ้มเร็วๆ ไม่งั้นจะให้หอบข้าวของไปทำงานที่สวิสฯ สักสองปี ไม่ต้องกลับมาเจอหน้าคนที่บ้านเลย โทษฐานที่ไม่มีน้ำยา”คุณนภาพราวว่า ทำเอาทุกคนหัวเราะ ยกเว้นคนที่โดนแซว เสี่ยเม้งมองหน้าเหมันต์ด้วยแววตาที่เจ้าเล่ห์ก่อนที่จะหันไปแนะนำกับคุณนาภพราว

          “แค่สองปีเองเหรอครับ ผมว่าน่าจะให้นานๆ หน่อย เผื่อว่ากลับมาคราวหน้าจะฟิตเครื่องติดเร็วไงครับฮ่ะๆๆ”เสี่ยเม้งเสนอ

          “ผมว่าไม่ดีหรอกครับ คุณแม่กับคุณลุงอย่าเพิ่งด่วนสรุปสิครับ ผมยังหนุ่มยังแน่น น้ำยาของผมยังไม่หมดหรอกครับ”เหมันต์ว่าโดยเน้นคำว่า ยังหนุ่มยังแน่นให้เสี่ยเม้งได้สะอึกเล่นๆ

          “เอ้า คุยกันเพลิน นี่ก็ใกล้ถึงเวลาแล้วนะคุณ”คุณวสันต์เตือน

          “จริงด้วย หนูฟ้าจ๊ะ ไปตามเจ้าสาวลงมาเถอะ ใกล้ถึงเวลาแล้ว”คุณนภาพราวหันไปบอกลูกสะใภ้คนโต

          “ค่ะคุณแม่”ปรายฟ้ารับคำ ก่อนจะเดินขึ้นไปตามกอแก้ว เมื่อเปิดประตูเข้ามาเธอถึงกับตะลึงในความสวยของน้องสาว

          “พี่ฟ้ามีอะไรเหรอคะ”กอแก้วที่อยู่ในชุดไทยจักรีสีทองอร่ามถามขึ้น

          “สวยจังเลยน้องสาวของพี่”ปรายฟ้าชม กอแก้วมองตัวเองอย่างเซ็งๆ ชุดนี้เธอไม่ได้เป็นคนเลือกหรอก เธอเลือกแค่ชุดเจ้าสาว ส่วนชุดในงานหมั้นเหมันต์เป็นคนเลือกให้

          “เอ้อ ได้เวลาแล้ว ลงไปกันเถอะ แขกมากันเยอะแล้วด้วย”ปรายฟ้าว่า ก่อนที่จะเดินมาจับมือกอแก้วให้เดินตามมา

          “นั่นไง เจ้าสาวมาแล้ว”คิมหันต์ที่ดูท่าทางตื่นเต้นกว่าใครพูดขึ้น ความจริงเขาไม่ได้ตื่นเต้นกับเจ้าสาวหรอก เขาดีใจที่ปรายฟ้าลงมาต่างหาก เมื่อเช้าปรายฟ้าบอกว่าถ้าผ่านช่วงพิธีหมั้นของทั้งคู่เมื่อไหร่จะให้เขาพาเธอกับลูกๆ ไปเดินซื้อชุดใส่ในงานตอนเย็น

     “นี่ตาต้น ดีใจอะไรขนาดนั้น คนที่ควรดีใจน่าจะเป็นตาเล็กไม่ใช่เหรอ”คุณนภาพราวดุลูกชายคนโต

          “ดูหน้าเจ้าเล็กสิ นิ่งเชียว ไม่หันไปดูว่าที่เจ้าสาวหน่อยหรอ”คุณวสันต์ว่า เหมันต์หันไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่เขาพบในเบื้องหน้าเขาก็คือ ผู้หญิงที่สวยราวกับนางฟ้าจำแลงลงมาจากสวรรค์ เขาไม่คิดว่าเธอจะสวยได้ขนาดนี้ เหมันต์จ้องกอแก้วเนิ่นนานเหมือนต้องมนต์สะกด จนคุณวสันต์สะกิดเตือน

          “เจ้าสาวมาแล้ว มัวแต่จ้องอยู่นั่นแหละ”เหมันต์สะดุ้งเมื่อพ่อสะกิด

          “เอ่อ ครับ”เหมันต์รับคำแก้เก้อกอแก้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม สีหน้านิ่งพอๆ กัน

          “เอาล่ะได้ฤกษ์แล้ว เริ่มพิธีได้เลย”คุณวสันต์บอก แล้วพิธีการก็เริ่มขึ้น ทั้งกอแก้วและเหมันต์ต่างก็มีสีหน้าที่ไม่ต่างกันจนเสี่ยเม้งสงสัย เมื่อเสร็จพิธีการแล้ว เสี่ยเม้งจึงขอคุยกับว่าที่เจ้าบ่าวเป็นการส่วนตัว ทำเอากอแก้วนึกหวั่นอยู่ในใจว่าจะมีเรื่องอะไรรึเปล่า

          “เสี่ยมีอะไรจะคุยกับผมอีกครับ”เหมันต์ถามอย่างสงสัย

          “อั๊วก็แค่มาแสดงความยินดีกับลื้อที่รับของเหลือเดนจากอั๊ว”เสี่ยเม้งเดินมาตบบ่าเหมันต์ก่อนจะเดินออกไป เหมันต์มองตามอย่างเคืองๆ ก่อนที่จะอัดกำปั้นหนักๆ ลงกับต้นไม้แถวนั้น กอแก้วเดินมาเห็นพอดีจึงรีบมาห้ามไว้

          “นี่คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย ชกต้นไม้ทำไม”กอแก้วเอามือรองหมัดของเหมันต์ไว้

          “คุณเห็นผมเป็นตัวอะไรกัน ฮะ กอแก้ว สนุกมากหรือไงที่เอาชีวิตทั้งชีวิตของผมมาล้อเล่นแบบนี้”เหมันต์ตะคอกใส่หน้ากอแก้ว เธองงมากและโกรธที่เหมันต์ไม่มีเหตุผล

          “อะไรของคุณฮะคุณเล็ก พูดให้มันรู้เรื่องหน่อยสิ ฉันไปทำอะไรให้คุณ”กอแก้วเริ่มขึ้นเสียง

          “เมื่อกี้เสี่ยเม้งมาแสดงความยินดีกับผม เขาบอกว่า ยินดีด้วยที่รับของเหลือเดนจากเขา มันหมายความว่ายังไงฮะ”เหมันต์เสียงดังขึ้นมา กอแก้วมองหน้าเหมันต์อย่างผิดหวัง

          “แล้วคุณก็เชื่อเขาคุณถามฉันหรือยังคุณเล็ก คนที่คุณควรจะเชื่อใจคือฉัน ไม่ใช่คนอื่น”กอแก้วพูดไปก็ปาดน้ำตาไป

          “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะเดินเข้าไปบอกความจริงกับทุกคน แล้วเราก็ต่างคนต่างอยู่ คิดซะว่าเรื่องที่ผ่านมาฉันก็แค่หาอะไรทำสนุกๆ ก็แล้วกัน”กอแก้วว่า ก่อนที่จะเดินออกไป

          “เดี๋ยวก่อนกอแก้ว”เหมันต์เรียกไว้ แต่กอแก้วยังเดินไม่หยุด เหมันต์จึงดึงตัวกอแก้วมากอดจากทางด้านหลัง

    ��������������� “ผมขอโทษ ขอโทษที่เชื่อคนอื่นง่ายเกินไปผมสัญญาว่าผมจะหนักแน่นให้มากกว่านี้ ที่รัก เรารักกันไม่ใช่เหรอ อย่าทำให้อารมณ์เพียงชั่ววูบ ทำให้เราเสียใจทั้งสองฝ่ายเลยนะ” เหมันต์จับกอแก้วหมุนให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา

          “คุณเล็ก”กอแก้วไม่เข้าใจว่าอารมณ์ของเขา ทำไมมันช่างเปลี่ยนง่ายดายขนาดนี้ แต่วินาทีต่อมาก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เมื่อเหมันต์โน้มหน้าลงมาทำท่าเหมือนจะจูบ แต่กระซิบกับเธอ

          “เสี่ยเม้งกำลังดูเราอยู่ คุณเล่นให้เนียนนะ”เหมันต์ว่า กอแก้วจึงกอดตอบเหมันต์

         ภาพนั้นทำเอาคนที่ดูอยู่ห่างๆ อย่างเสี่ยเม้งหงุดหงิดจน เดินกลับมาข้างในก่อนที่จะพาภรรยากลับบ้าน ทำเอาคุณนภาพราวกับคุณวสันต์งงไปตามๆ กัน

          “ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวกลับไปแล้วเหรอครับแม่”เหมันต์เดินจงมือกอแก้วเข้ามาในบ้านถามขึ้น

          “จ้า เห็นบอกว่ามีธุระน่ะ เลยขอตัวกลับก่อน แล้วนี่ไปเดินเล่นถึงไหนกันมาล่ะเนี่ย”คุณนภาถาม

          “ก็แถวๆ นี้แหละครับแม่ เดี๋ยวผมกับแก้วขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะครับตอนบ่ายต้องไปที่โรงแรมอีก”เหมันต์ว่าพลางจูงมือว่าที่ภรรยาไป

          “คู่นี้น่ารักดีนะคุณ”คุณนภาชมลูกชายกับลูกสะใภ้คนเล็ก

          “คู่นั้นน่ะน่ารัก แต่อีกคู่นี่สิ น่าจะเครียด”คุณวสันต์ชี้ให้ดูคู่ของคิมหันต์กับปรายฟ้า

          “คุณต้นคะ คือว่า ฟังฟ้าอธิบายก่อนนะ” ปรายฟ้าพยายามง้อสามีด้วยวิธีต่างๆมาตั้งแต่เมือครึ่งชั่วโมงที่แล้วที่เขาเปิดเจอยาคุมที่เธอแอบกิน เพราะยังไม่อยากมีลูกเพิ่ม

          “จะอธิบายอะไรล่ะ คุณไม่อยากมีลูก แค่นี้ผมก็เข้าใจแล้ว”คิมหันต์บ่นอย่างงอนๆ

          “ไม่ใช่ว่าฟ้าไม่อยากมีนะคะ แต่ว่า ปลายฝนกับต้นหนาวยังไม่โตเลย”ปรายฟ้าว่า อยู่ๆปลายฝนกับต้นหนาวก็โผล่มาเกาะแขนปรายฟ้า

          “ฝนกับหนาวโตแล้วนะคะแม่ เราอยากมีน้องเร็วๆ ค่ะ อยากเล่นกับน้อง คุณแม่มีน้องให้พวกเรานะคะ”ปลายฝนว่า

          “ผมขอน้องสาวนะครับแม่”ต้นหนาวว่า

          “หนูขอน้องชายนะคะ”ปลายฝนมองหน้าต้นหนาวก่อนที่จะบอกแม่

          “ไม่ต้องเถียงกันครับลูกๆ เดี๋ยวพ่อจะให้ทั้งน้องสาวน้องชายเลย ดีมั้ยครับ”คิมหันต์บอกกับลูกๆ

          “คุณต้นพูดอะไรก็ไม่รู้อายลูกบ้างสิคะ”กลายเป็นว่าทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด

          “เอาเป็นว่า เราไปซื้อชุดใส่ตอนเย็นดีกว่านะ ไปครับเด็กๆ เดี๋ยวคืนนี้พ่อจะรีบมีน้องให้นะ”คนฟังแทบจะตีปากคนพูดทันที ปรายฟ้ามองคิมหันต์ค้อนๆ ก่อนจะรีบเดินจูงลูกชายกับลูกสาวไปขึ้นรถ

          “คู่นี้ ยังไงก็น่ารักอยู่ดี”คุณนภาพราวมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คุณวสันต์โอบไหล่ภรรยาไว้ ภาพทั้งคู้ของปรายฟ้าและคิมหันต์ กับคู่ของคุณพ่อคุณแม่ ทำเอาเหมันต์มองอย่างปลงๆ ชีวิตนี้เขาคงไม่มีโอกาสที่จะมีแบบนั้นได้แล้วสินะ ก็คนที่เขาแต่งงานด้วย เพียงเพราะต้องการหนีจากเสี่ยบ้าตัณหา แถมทั้งเขาและเธอยังไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่ เฮ้อ แค่คิดเขาก็รู้สึกหมดหวังขึ้นมาซะแล้ว

          “นี่คุณ คิดอะไรอยู่หรอ”อยู่ๆ กอแก้วก็เดินเข้ามาถามพร้อมกับจ้องมองลงไปยังจุดที่เหมันต์มองอยู่ในตอนแรก

          “ก็กำลังดูคู่รักเขาหยอกล้อกันอยู่น่ะ”เหมันต์ว่า

          “ดูท่าคุณคงอยากจะมีบรรยากาศแบบนี้เข้ามาในชีวิตบ้างสินะคะ”กอแก้วพูดขึ้นเพราะดูจากสีหน้าท่าทางของคนข้างๆ แล้วมันฟ้องได้อย่างชัดเจน

          “ก็ไม่เชิงหรอก ผมก็แค่อยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่นแบบนี้บ้าง”เหมันต์ว่า

          “แล้วทำไมคุณจะมีไม่ได้ล่ะ”กอแก้วถามอย่างสงสัย

          “คุณนี่ถามมากจังนะ ก็ถ้าผมมีคุณแล้วคุณคิดว่าจากนี้ไปผมจะมีมุมจะมีมุมน่ารักๆ ได้มั๊ยล่ะ แค่เห็นหน้าคุณผมก็ขนลุกแล้ว”เหมันต์พูดขึ้นทำเอากอแก้วปี๊ดขึ้นมาทันที

          “นี่คุณเล็ก พูดให้มันดีๆ หน่อยนะ เห็นหน้าฉันแล้วมันเป็นยังไงฮะ ใช่สิ ฉันมันไม่ใช่เจ้าหญิงตัวน้อยของคุณนี่ ไม่ว่าฉันจะทำยังไงก็คงสู้เธอไม่ได้อยู่แล้ว”กอแก้วพูดด้วยความน้อยใจ

          “นี่คุณ อย่าเอามาเปรียบเทียบกันได้มั้ย สำหรับผมเรื่องนั้นมันเป็นอดีตไปแล้ว และตอนนี้คุณคือปัจจุบันของผม”เหมันต์เตือน กอแก้วได้ฟังอย่างนั้นก็อึ้งไปทีเดียว

          “อึ้งอึ้งไปเลย นี่คุณ บทจะเงียบคุณก็เงียบจนผมตกใจนะรู้มั้ย พูดอะไรบ้างสิ”เหมันต์ถาม

          “เอ่อฉันจะไปกินน้ำ ไปนะ”ว่าแล้วก็รีบเดินลงบันไดมาอย่างรีบร้อน แต่เพราะรีบไปหน่อยเธอเลยก้าวพลาดทำให้หกล้มลงไปกองที่พื้น

          “โอ๊ยยยยยย”กอแก้วร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ

          “กอแก้ว”เหมันต์เรียกเสียงดังด้วยความตกใจ ก่อนที่จะรีบวิ่งลงมาดู

          “เป็นไงบ้างคุณ”เหมันต์ถามพร้อมกับก้มลงดูที่ข้อเท้า

          “ก็เจ็บน่ะสิคุณ ถามได้”กอแก้วว่า

          “นี่ เจ็บแล้วยังจะมากวนโอ๊ยอีกนะ ลุกขึ้นมา เดี๋ยวจะพาไปปฐมพยาบาล”เหมันต์ยื่นมือมาให้กอแก้ว แต่เธอปฏิเสธ

          “ไม่ต้อง ฉันไม่เป็นไรมาก คุณจะไปไหนก็ไปเถอะ”กอแก้วว่า ก่อนที่จะพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ร่างกายเธอไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ ทำให้เธอล้มลงไปกองอยู่ที่เดิม

          “ไม่ไหวแล้วยังจะทำเป็นเก่ง มานี่ เดี๋ยวผมช่วย”เหมันต์ย่อตัวลงมาจะช้อนตัวกอแก้วขึ้นอุ้มแต่เธอเขยิบหนี

          “นี่คุณจะทำอะไรน่ะ”กอแก้วถามอย่างระแวง

          “ก็อุ้มคุณไปที่โซฟาไง จะให้ผมลากคุณไปงั้นสิ”เหมันต์ว่าก่อนที่จะอุ้มเธอไปโดยไม่ฟังเสียงทัดทานของเธอแม้แต่น้อย

          “ไม่เห็นจะต้องอุ้มเลย ประคองมาเฉยๆ ก็ได้”กอแก้วบ่นอุบ

          “อย่าบ่นนักเลยคุณ เดี๋ยวผมมา รอยู่ตรงนี้นะ อย่าไปไหนล่ะ”เหมันต์สั่งก่อนที่จะเดินออกไป

          “ฉันจะเดินไปไหนได้ย๊ะ แค่ขยับยังเจ็บจี๊ดไปถึงทรวงขนาดนี้ เฮอะ”กอแก้วบ่นไล่หลัง ก่อนที่จะทิ้งตัวลงพิงโซฟาอย่างแรง

          “อ้าว หนูแก้ว ไม่ไปพักผ่อนหรอจ๊ะ เดี๋ยวตอนบ่ายต้องไปโรงแรมนะ”คุณนภาที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาจากข้างนอกถามขึ้น

          “อ๋อ คือว่า”ไม่ทันที่กอแก้วจะได้ตอบ เหมันต์ก็ถือยานวดเข้ามา

          “ซุ่มซ่ามน่ะสิครับแม่ วิ่งยังไงไม่รู้ ตกบันไดลงมา ดีนะที่แข้งขาไม่หัก ผู้หญิงอะไรซนเป็นลิง”เหมันต์บ่นกอแก้วจ้องหน้าเหมันต์เขม็ง

          “นี่พูดจาอะไรอย่างนั้นล่ะตาเล็ก น้องเค้าไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย ใช่มั้ยลูก”คุณนภาหันมาถามลูกสะใภ้คนเล็ก

          “จริงค่ะคุณแม่”กอแก้วทำหน้าสำนึกผิดจนเหมันต์หมั่นไส้

          “เอาล่ะ ยังไงแกก็ดูแลน้องเค้าด้วยนะ ถ้าขาหายปวดไม่ทันตอนบ่าย แกต้องพยุงน้องไป เข้าใจมั้ย”คุณนภาสั่ง

          “ครับแม่ ผมจะดูแลลูกสะใภ้คุณแม่อย่างดีเลยครับ ไม่ต้องห่วง”เหมันต์กัดฟันพูด พร้อมแยกเขี้ยวใส่กอแก้วในขณะที่คุณนภาไม่เห็น

          “ดีมาก งั้นแม่ไปก่อนนะ เดี๋ยวจะไปนอนพักสักครู่ แล้วเดี๋ยวโทรถามนายสิงห์กับเจ้าหมอรุจด้วยว่าที่งานโรงแรมไปถึงไหนแล้ว”คุณนภาว่า ก่อนที่จะเดินขึ้นไปข้างบน

          “ใครคือนายสิงห์หรอคะ”กอแก้วถาม ขณะที่เหมันต์ใช้ยานวดที่ข้อเท้าข้างที่เจ็บ เหมันต์เงยหน้ามามองอย่างไม่พอใจ

          “ทำไม ถูกชะตากับชื่อนี้หรือไงฮะ จะเปลี่ยนเจ้าบ่าวตอนนี้หรือไง”เหมันต์ถามอย่างหัวเสีย

         “อะไรของคุณเนี่ย ฉันแค่ถามเฉยๆ ทำไมจะต้องอารมณ์เสียด้วยล่ะ หรือว่าเขาหล่อกว่าคุณ คุณเลยอิจฉาเขา ฮ่ะๆๆ”กอแก้วคิดเองเออเอง แล้วก็ขำออกมา แต่เหมันต์ไม่ขำด้วย

          “ไม่ต้องมาขำเลย นี่แหนะ”เหมันต์หมั่นไส้จึงแกล้งนวดแรงๆ ตรงบริเวณที่เธอเจ็บ

          “โอ๊ย คุณเล็ก แก้วเจ็บ”กอแก้วเจ็บจริงๆ จึงเอามือมาจับตรงที่เจ็บไว้ เหมันต์ตกใจรีบหยุดนวด

          “ผมขอโทษ เดี๋ยวผมจะนวดเบาๆ นะ”คราวนี้เหมันต์ค่อยๆ นวด เขามือเบามากจนกอแก้วเองยังอดทึ่งไม่ได้ บทคนที่กวนประสาทอย่างเขาจะอ่อนโยนขึ้นมา ก็ทำเอาก็แก้วใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×