ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิวาห์วุ่น...ลุ้นรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่4 : รักครั้งแรกของเหมันต์

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 59


    บทที่4 : รักครั้งแรกของเหมันต์

     

                    “คืนนี้คุณต้องนอนที่นี่แล้วแหละ”เหมันต์บอกเมื่อมองออกที่นอกหน้าต่างเห็นว่าฝนตกหนักอย่างกับฟ้ารั่ว

                    “จะบ้าเหรอคุณ ฉันจะอยู่ที่นี้ได้ไง เสื้อผ้าฉันก็ไม่มี อีกอย่าง ฉันก็ไม่เคยนอนที่อื่นนอกจากบ้านตัวเองด้วย มันแปลกที่ ฉันนอนไม่หลับ”กอแก้วพยายามหาวิธีที่ไม่ต้องนอนกับเหมันต์

                    “ยังไงคุณก็ต้องนอน เพราะว่าฝนมันตกหนัก หรือถ้าคุณจะกลับจริงๆ ก็ลองไปถามแม่ผมดู ถ้าท่านอนุญาต ผมจะเป็นคนไปส่งคุณเอง”เหมันต์ว่า กอแก้วไม่รอช้า รีบลงไปที่ห้องรับแขกที่คุณนภากับคุณวสันต์ดูโทรทัศน์อยู่

                    “อ้าวหนูแก้ว มาพอดีเลย แม่กำลังจะให้คนไปตามาทานข้าวพอดี ไปๆ ไปทานข้าวเย็นกัน”คุณนภาไม่ปล่อยให้กอแก้วได้พูดเลย กอแก้วจำต้องรับประทานอาหารเย็นพร้อมกับครอบครัวของเหมันต์

                    “คุณแม่คะ คือว่าแก้ว...”กอแก้วจะขอกลับบ้านแต่คุณนภาพูดขัดขึ้นมาก่อน

                    “หนูแก้วไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ กลับบ้านไม่ได้ก็ค้างมันซะที่นี่เลย เดี๋ยวแม่ให้คนจัดห้องไว้ให้นะ”คุณนภาสรุปเรียบร้อย

                    “อ้าว คุณ จะให้เด็กจัดห้องให้เหนื่อยทำไมล่ะ ก็ให้นอนกับตาเล็กซะก็สิ้นเรื่อง”คุณวสันต์ค้าน เหมันต์ยิ้มที่พ่อช่วย กอแก้วทำท่าตกใจอย่างเห็นได้ชัด

                    “ได้ยังไงล่ะคุณนี่ เขาสองคนยังไม่ได้แต่งงานกันนะ ถึงแม้ว่าจะ...นั่นแหละ แต่มันก็ไม่ควร รอให้แต่งก่อนแล้วค่อยนอนห้องเดียวกัน หนูแก้ว ถ้าคืนนี้เจ้าเล็กแอบเข้าห้องหนู หนูร้องดังๆ เลยนะลูก เดี๋ยวแม่จะมาจัดการให้”คุณนภาว่า กอแก้วยิ้มรับ เธอค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย นึกว่าจะต้องนอนห้องเดียวกับเขาซะแล้ว

                    “คุณแม่เห็นผมเป็นคนยังไงเนี่ย ผมไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ”เหมันต์ว่า ก่อนที่จะขอตัวไปที่ห้องดนตรี

                    “หนูแก้ว ไปนั่งเล่นที่ห้องดนตรีเป็นเพื่อนเจ้าเล็กมันสิลูก”คุณวสันต์บอกกับกอแก้ว

                    “ค่ะ คุณพ่อ”กอแก้วรับคำ ก่อนที่จะลุกตามเหมันต์ไป

                    “นี่คุณ รอฉันด้วยสิ”กอแก้วเรียกไว้

                    “อะไรของคุณอีกเนี่ย ปกติไม่ค่อยอยากจะใกล้ผมสักเท่าไหร่ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมอยู่ๆ ก็จะอยู่ด้วยเนี่ย”เหมันต์ถาม

                    “ความจริงแล้วฉันก็ไม่ได้อยากจะอยู่ใกล้ๆ คุณนักหรอกนะ แต่ว่าคุณพ่อคุณให้ฉันตามคุณมา ฉันก็ขัดไม่ได้เลยต้องตามาเนี่ยแหละ”กอแก้วว่า

                    “ก็ดี...ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยอยู่นิ่งๆ อย่าซน เข้าใจมั้ย”เหมันต์หันไปบอกเหมือนกอแก้วเป็นเด็ก

                    “นี่คุณ ฉันไม่ใช่เด็กอนุบาลนะ ที่จะต้องคอยบอกทุกอย่างน่ะ”กอแก้วเริ่มหงุดหงิด

                    “เด็กอนุบาลยังไม่ซนเท่าคุณหรอก”เหมันต์พูดกวนๆ ก่อนเดินเข้าห้องไปก่อน กอแก้วได้แต่แค้นอยู่ในใจ

                    “ไอ้บ้า คอยดูนะ เผลอเมื่อไหร่จะแก้แค้นให้เจ็บถึงทรวงในเลย ไอ้คุณเล็กบ้า”กอแก้วฝากไว้ก่อน

                    “เข้ามาสิคุณ ยืนงงอยู่นั่นแหละ ไปไม่เป็นเลยเหรอ โดนผมว่าแค่นิดหน่อยเองนะ” เหมันต์มิวายแกล้งอีก

                    “เออๆๆๆ เข้าไปแล้ว”กอแก้วพูดเสียงหงุดหงิด ก่อนที่จะเดินตามเหมันต์เข้าไปในห้องซ้อมดนตรี ที่มีเครื่องดนตรีไม่น้อยไปกว่าที่คฤหาสน์ของตระกูลเลย กอแก้วมองรอบๆ ห้องด้วยความทึ่ง

                    “ไง...ถึงกับอ้าปากค้างเลยเหรอคุณ ไม่เคยเห็นห้องซ้อมดนตรีที่ครบครันแบบนี้ล่ะสิ”เหมันต์ถาม

                    “ไม่เคยหรอกย่ะ ฉันไม่ชอบเล่นดนตรีสักเท่าไหร่ จะเล่นเป็นก็แต่...”กอแก้วกำลังจะพูด แต่สายตาก็มองไปเห็นหีบเพลงปากอันหนึ่ง เธอจึงหยิบขึ้นมา

                    “อันนี้แหละที่ฉันเล่นได้”กอแก้วพูดพร้อมกับยักคิ้วให้หนึ่งที ก่อนที่จะเป่าต่อหน้าเหมันต์

                    “เฮ้ย เธอทำอะไรน่ะ เป่าไม่ได้นะ เดี๋ยวรอยลบหมด เอาออกมาเดี๋ยวนี้”เหมันต์รีบคว้าออกมาจากปากของกอแก้ว

                    “อะไรของคุณเนี่ย...หวงเป็นเด็กๆ ไปได้ ทำไม เจ้าหญิงของคุณประทับรอยลิปสติกสีแดงไว้หรือไง ถึงได้หวงนักหวงหนาเนี่ย”กอแก้วเริ่มหงุดหงิดอีกรอบ

                    “อย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน!”คราวนี้เหมือนเหมันต์จะโดนจี้ปม ถึงกับตะคอกใส่กอแก้วจนเธออึ้งไป

                    “โอเค ฉันจะไม่ยุ่งแล้วก็ได้ คุณจะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ ฉันจะนั่งอยู่แถวๆ นี้แหละ”กอแก้วพูดเสียงเรียบ ก่อนที่จะเดินไปนั่งบนเก้าอี้เปียโน เหมันต์เดินมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดียวกัน ก่อนที่จะบรรเลงเพลงโปรดของเขาบนลิ่มเปียโนอย่างเบามือ เพลงที่เหมันต์เล่นทำให้กอแก้วถึงกับแปลกใจ เพราะเพลงที่เขาเล่น เป็นเพลงเดียวในความทรงจำครั้งยังเด็กที่เธอยังพอที่จะจำได้ Endless Love กอแก้วนั่งหันหลังให้เหมันต์อยู่แต่ก็ฮัมเพลงตามไปด้วย เหมันต์นึกสงสัยอะไรบางอย่าง เมื่อเขาเล่นจบเพลงก็จับกอแก้วให้หันหน้าไปปะทะกับเขา

                    “อะไรของคุณอีกเนี่ย เดี๋ยวให้ฉันอย่ายุ่งกับคุณ เดี๋ยวก็จะให้ฉันเข้าหาคุณ จะเอายังไงกันแน่”กอแก้วว่า

                    “คุณร้องเพลงนี้ได้ด้วยเหรอ”เหมันต์ถาม

                    “อ้าว ทำไมฉันถึงจะร้องไม่เป็นล่ะ เพลงนี้มันมีมาตั้งนานแล้วนะ แล้วมันก็ไม่ได้เป็นเพลงใต้ดินด้วยไม่ใช่เหรอ”กอแก้วว่า

                    “มันก็ใช่...แต่ว่า เธอทำให้ฉันนึกถึงใครบางคน”เหมันต์บอกออกไปในที่สุด

                    “นั่นไง จะมามุกตื้นๆ บอกว่าฉันเป็นเจ้าหญิงของคุณที่คุณตามหามาตั้งสิบๆ ปีงั้นเหรอ โบราณไปมั้ยคุณ”กอแก้วขำ แต่เหมันต์ไม่ขำด้วย

                    “ช่างมันเถอะ ถือว่าเรื่องนี้คุณไม่เคยได้ยินก็แล้วกัน” เหมันต์ตัดบท ก่อนที่จะลุกขึ้นไปหยิบกีตาร์มาเล่นเพลงความทรงจำ ของเต้ วิทย์สรัช

                    “...ภาพของฉันและเธอ ทุกสิ่งที่เธอให้ฉัน ที่ ที่เรานั้นเดินไปด้วยกัน ปล่อยให้เป็นอดีตใส่กล่องวางทิ้งไว้  ทำเป็นลืมมันไปแต่ทำไมไม่ดีขึ้นเลย  เพราะแค่เพียงหลับตา ก็เห็นภาพเธออยู่อย่างนั้น  ยังไม่มีซักคืน ที่ฉันจะลืมว่ายังคงรักใคร...
                    หากฉันใช้สมองจดจำเรื่องราว ก็ยังพอจะลืมเธอได้ แต่ฉันใช้หัวใจ เก็บความทรงจำเรื่องของเรา ต่อให้พยายามสักเท่าไร แต่ก็ทำได้เพียงแค่ทิ้งเรื่องราวรอบๆ กายไป อยากจะทิ้งเธอไปให้ไกล  แต่ความรักกลับยิ่งฝังลึกในใจขึ้นทุกที
                   ... จะทำไงให้ตื่น จากคืนที่ฉันฝัน ว่า..ยังมีเธอ ทั้งที่ความจริง..ไม่มี เพราะแค่เพียงหลับตา ก็เห็นภาพเธออยู่อย่างนั้น ยังไม่มีซักคืน ที่ฉันจะลืม ว่ายังคงรักใคร...
                    หากฉันใช้สมองจดจำเรื่องราว ก็ยังพอจะลืมเธอได้ แต่ฉันใช้หัวใจ เก็บความทรงจำเรื่องของเรา ต่อให้พยายามสักเท่าไร แต่ก็ทำได้เพียงแค่ทิ้งเรื่องราวรอบๆกายไป อยากจะทิ้งเธอไปให้ไกล แต่ความรักกลับยิ่งฝังลึกในใจขึ้นทุกที...”เหมันต์ดีดกีตาร์ไปร้องไป กอแก้วทึ่งในเสียงที่ทุ้มกังวานของเขามาก มันเหมือนมีพลังดึงดูดให้เธอเคลิบเคลิ้มไปกับเขาด้วย

                    “คุณ...ทำไมถึงร้องเพลงนี้ล่ะ”กอแก้วอยากจะถามเขาว่าทำไมถึงร้องเพลงเพราะจัง มากกว่า แต่ไม่กล้า กลัวว่าชมมากเดี๋ยวจะได้ใจ

                    “ทำไมน่ะเหรอ เพราะเพลงนี้มันทำให้ฉันนึกถึงใครบางคน ที่เป็นความทรงจำของฉันน่ะ”เหมันต์บอก

                    "ใครคนนั้น ที่ฝากรอยประทับไว้ที่หีบเพลงปากนั่นใช่มั้ย”กอแก้วถาม แต่คราวนี้เธอใช้น้ำเสียงที่อ่อนลง เธออยากรู้จริงๆ ไม่ได้คิดจะยั่วโมโหเขาอีก

                    “ใช่...เธอเป็นเด็กตัวเล็กๆประมาณ3-4ขวบ ส่วนฉันตอนนั้นก็สิบขวบได้มั้ง เธอเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยๆ ที่จะชวนฉันออกมาเล่นหิมะด้วยกันในหน้าหนาว  เธอชอบเป่าหีบเพลงปาก แม้ว่ามันจะไม่ค่อยเป็นเพลงก็เถอะ แต่เธอน่ารักมาก จนวันหนึ่ง ฉันไปรอที่หน้าบ้านเพื่อจะเล่นกับเธอ แต่พ่อฉันบอกว่า เธอไปแล้ว กลับมาอยู่ไทยกับญาติ เพราะ พ่อแม่เธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ ฉันก็เลยอยู่ที่สวิสฯคนเดียวเพราะตอนนั้นพี่ต้น เอ้อ พี่ชายฉันก็ไปเรียนที่อเมริกาต่อ ฉันเฝ้ารอการกลับมาของเจ้าหญิงตัวน้อย แต่ก็ไร้วี่แวว ไม่แน่นะ ป่านนี้เธออาจจะแต่งงานไปแล้วก็ได้...”เหมันต์ยังเล่าไม่ถึงไหนก็โดนขัดจังหวะซะก่อน

                    “ฮัดชิ้ว....ขอโทษ สงสัยจะเป็นหวัดมั้ง เอ๊ะ หรือใครนินทา”กอแก้วสงสัย

                    “ฉันว่าน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่ามั้ง อย่างเธอคงไปก่อกวนเขาไว้เยอะ โดนนินทาบ้างก็ไม่แปลก”เหมันต์ว่า

                    “คุณเล็ก...อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ฉันยังฟังที่คุณเล่าไม่จบเลยนะ เล่าต่อๆ อยากฟัง”กอแก้วว่า

                    “เธอนี่เหมือนเด็กจริงๆ เลยนะ นี่รู้มั้ย เด็กคนนั้น ก็ชอบคะยั้นคะยอฉันแบบนี้แหละ แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงยอมทำตามทุกครั้งเลย มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉันไม่ยอมเล่นด้วย คุณเธอก็วิ่งหนีไปตรงที่หิมะเยอะๆ แล้วก็กลิ้งลงไปตรงที่มันเป็นเนิน ฉันตกใจแทบแย่ นึกว่าจะเป็นอะไร สุดท้ายก็เพิ่งรู้ตัวว่าโดนแกล้ง ตั้งแต่รั้งนั้นมาฉันก็ต้องเล่นกับเธอทุกครั้ง”เหมันต์ว่า

                    “น่ารักจัง รักแบบเด็กๆ ไม่คิดเลยนะว่าคุณจะจำฝังใจขนาดเนี้ย เป็นฉันฉันคงลืมไปแล้วแหละ”กอแก้วว่า

                    “เรื่องบางเรื่องมันลืมกันไม่ได้หรอกคุณ ไม่ว่าเราอยากจะลืมมันแค่ไหน อยากจะเริ่มต้นรักคนอื่นแค่ไหน แต่ในเมื่อมันไม่ใช่ ยังไงมันก็ไม่ใช่อยู่ดี”เหมันต์ว่า ทำให้กอแก้วรู้สึกโหวงๆ ขึ้นมาเมื่อได้ยินว่าเขาไม่สามารถรักคนอื่นได้ แต่ทำไมเธอถึงต้องไปใส่ใจด้วย เธอไม่ได้คิดอะไรกับเขาสักหน่อย เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เลยกอแก้วคิด ก่อนที่จะพูดตัดบท

                    “ใช่หรือไม่ใช่นั่นมันเรื่องของคุณ แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าฉันง่วงแล้ว ขอตัว”พูดจบก็รีบเดินออกไปทำเอาเหมันต์งงไปเลย

                    “ไอ้แก้ว แกเป็นอะไรของแกเนี่ย จะไปคิดถึงเขาทำไม คนที่แกควรจะคิดถึงควรจะห่วงคือป้าอุไรนะเว้ย นอนๆๆ พรุ่งนี้จะได้ไปเฝ้าป้าแต่เช้า”กอแก้วบ่นกับตัวเอง ก่อนที่จะทำธุระส่วนตัวและเข้านอนในชุดนอนน่ารักที่ทางคุณแม่ของสามี(กำมะลอ)เตรียมให้ กำลังจะล้มตัวลงนอนก็ได้ยินเสียงเคาะประตูสามครั้ง กอแก้วสงสัยว่าเป็นใครจึงเดินมาเปิดประตูดู

                    “ว่าไงคะคุณสามี”กอแก้วถามไปย่างนั้น เมื่อเห็นว่าเป็นเหมันต์

                    “มาgood night kiss ครับ”ว่าแล้วก็หอมแก้มใสๆของภรรยาอย่างไม่ทันตั้งตัว กอแก้วตกใจมากกำลังจะเงื้อมือตบหน้าเหมันต์แต่เหมันต์กระซิบบอกก่อน

                    “พ่อกับแม่ผมมองอยู่นะ อย่ามีพิรุธ และทางที่ดีคุณควรจะ good night kiss ตอบผมด้วย”เหมันต์ว่า กอแก้วมองไปรอบๆ เห็นคุณนภาพราวกับคุณวสันต์ยืนกอดกันดูเธอกับเหมันต์อยู่จริงๆ กอแก้วก็ได้แต่จำใจหอมแก้มสากๆของเขาอย่างกลั้นใจสุดๆ เหมันต์ยิ้มๆ ก่อนที่จะโบกมือให้แล้วหันหลังเดินกลับไปที่ห้องตัวเอง กอแก้วมองจนลับตา ก่อนที่จะเอามือยืนกุมแก้มที่แดงเป็นลูกตำลึงสุกของเธออยู่ แล้วนึกขึ้นได้ว่ายังมีสายตาอีกสองคู่จับจ้องมาที่เธอ เธอก็ได้แต่รีบปิดประตูห้องอย่างรวดเร็ว เพื่อหลบทั้งสองคน

                    “ไอ้แก้ว เอาอีกแล้วนะ หัวใจจะเต้นเร็วไปไหนเนี่ย นี่มันก็แค่ละครฉากใหญ่ฉากหนึ่งก็แค่นั้น เขาก็แสดงไปตามหน้าที่ นอนๆๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย”กอแก้วบ่นกับตัวเองอีกครั้ง ก่อนที่จะนอนลงบนเตียงอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะนอนท่าไหน พลิกตัวกี่ครั้งมันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะง่วง เพราะใจมัวแต่นึกถึงสัมผัสของสามี(กำมะลอ)คนนั้นอยู่ทุกที กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เกือบตีสาม ทำให้เธอตื่นสายกว่าปกติ

                    “ก๊อกๆๆ”เหมันต์เห็นว่าสายแล้วก็เลยมาดูที่ห้อง

                    “แก้ว...ที่รักจ๊ะ ตื่นหรือยังครับ”เหมันต์หยอด แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับ เขาจึงลองบิดลูกบิดประตูดู พบว่าไม่ได้ล็อกกลอน จึงไขเข้ามาในห้อง เห็นคนตัวเล็กนอนอย่างหมดสภาพ และยิ่งไปกว่านั้นชุดนอนตัวยาวที่เมื่อคืนเขาเห็นว่ายาวเกือบจะคลุมเข่าเธอ บัดนี้ได้ร่นขึ้นมาจนเห็นขาอ่อนของสาวน้อยที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง เหมันต์จ้องอยู่นานด้วยความตะลึงก่อนที่จะได้สติ รีบเอาผ้าห่มคลุมร่างให้กอแก้ว แล้วนั่งลงข้างๆ เธอ

                    “กอแก้ว...ตื่นได้แล้วครับ สายแล้วนะ”เหมันต์ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของกอแก้ว หญิงสาวงัวเงียก่อนที่จะส่งเสียงออกมา

                    “อื้อ...ขออีกห้านาทีนะคะป้า เดี๋ยวแก้วจะลงไป”กอแก้วเหมือนพูดกับป้าของเธอด้วยความเคยชิน เธอคงจะจำไม่ได้ว่าตอนนี้ป้าของเธออยู่ที่โรงพยาบาล

                    “คุณจะปล่อยให้ป้าคุณนอนรอคุณต่ออีกห้านาทีเลยเหรอ”เหมันต์กระซิบถามต่อ กอแก้วเหมือนจะได้สติ รีบเด้งตัวขึ้นมาทันที

                    “คุณเล็ก...นี่กี่โมงแล้วคะ”กอแก้วถาม

                    “เก้าโมงครับ”เหมันต์ว่า ก่อนที่จะยิ้มบางๆ ให้หญิงสาว

                    “คุณเล็กทำไมไม่ปลุกแก้วให้เร็วกว่านี้คะ แก้วสายแล้วเนี่ย”กอแก้วหงุดหงิด เหมันต์เองก็งง ตกลงที่เธอตื่นสายมันเป็นความผิดของเขาหรือเนี่ย (คงยังไม่รู้ว่าเธอนอนไม่หลับเพราะเขาเอง)
                    “อ้าว ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าเธอนอนอยู่ ฉันก็นึกว่าเธอกำลังแต่งตัวอยู่นะสิ ก็ไหนบอกว่าจะรีบไปดูป้าไง ทำไมนอนตื่นสายขนาดนี้ หรือว่าเมื่อคืนนอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดถึงผมอยู่”เหมันต์แกล้งแซว

                    “ใช่...เมื่อคืนฉันมัวแต่คิดถึงคุณอยู่ กว่าจะได้นอนก็เกือบตีสาม  ขอโทษด้วยนะคะที่รักที่ทำให้คุณต้องรอนาน เดี๋ยวฉันจะรีบไปอาบน้ำแต่งตัวนะคะ”ว่าแล้วกอแก้วก็เขย่งปลายเท้าจุ๊บแก้มสามีไปหนึ่งที ก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป เหมันต์ได้แต่งงๆ ว่ากอแก้วเป็นอะไร แต่พอหันหลังกลับไปก็ถึงบางอ้อทันที พ่อกับแม่เขายืนยิ้มกันอยู่สองคนที่หน้าประตูนี่เอง กอแก้วเห็นก็คงเล่นละครโดยที่ไม่บอกเขาล่วงหน้า ฮึๆๆ คิดไปเหมันต์ก็ได้แต่ขำตัวเองที่จะต้องเป็นนักแสดงจำเป็นซะอย่างนั้น

                    “อ้าวคุณพ่อคุณแม่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย ผมกำลังจะลงไปบอกพอดีว่าแก้วเขา...”เหมันต์ยังไม่ทันได้บอก คุณวสันต์ก็ขัดขึ้น

                    “ไม่เป็นไรๆ พ่อเข้าใจว่าพวกแกนอนแยกห้องกันก็คงคิดถึงกันเป็นธรรมดา เมื่อสมัยก่อนนะ พ่อกับแม่เป็นหนักกว่านี้อีกนะ ยิ่งกว่ากินไม่ได้ นอนไม่หลับอีก”คุณวสันต์ว่า

                    “นี่คุณ พูดอะไรแบบนั้น อายเด็กๆบ้างสิคุณเนี่ย ไม่เอาแล้ว แม่ไปกินข้าวดีกว่า แกจะรอหนูแก้วก็ได้นะ หรือจะลงไปพร้อมแม่ก็ได้”คุณนภาพราวตัดบทแก้เขิน

                    “ผมรอไปพร้อมแก้วดีกว่าครับ”เหมันต์ว่าพลางยิ้มให้กับผู้ให้กำเนิดทั้งสองคน

                    “งั้นแม่ไปก่อนนะ อย่าลืมที่สัญญากันไว้นะ ห้ามทำอะไรหนูแก้วอีก จนกว่าจะถึงวันแต่งงาน เข้าใจมั้ย”คุณภาพราวมิวายกำชับลูกชาย

                    “โธ่ คุณแม่ครับ เห็นผมเป็นคนยังไงกันเนี่ย ผมเป็นลูกผู้ชายนะครับคุณแม่ ไม่ทำอะไรแบบนั้นแน่นอน”เหมันต์ว่า

                    “ฉันก็เห็นว่าเชื้อไม่ทิ้งแถวกันซักคน ตั้งแต่หัวหงอกจนหัวดำสองหน่อเนี่ย ต่างกันที่ไหน ไม่รู้ล่ะ ถ้าหนูแก้วมาฟ้องแม่ล่ะก็ แม่จะให้หนูแก้ว...ไปอยู่กับคุณนายเหม่ยหลิงกับเสี่ยม้ง จนกว่าจะถึงวันแต่งงาน”คุณนภาว่า

                    “ไม่ได้นะครับเอ่อ...คือผมคงทนคิดถึงว่าที่เจ้าสาวไม่ไหวน่ะครับแม่ อย่าให้กอแก้วไปเลยนะครับ ผมขอร้อง”เหมันต์ว่า

                    “ดูแกจะเป็นห่วงหนูแก้วเกินไปรึเปล่าวะไอ้ลูกชาย ไหนว่าเพิ่งเจอกันไม่นานที่โรงเรียนเจ้าตัวแสบไง แล้วที่ต้องแต่งงานกับเขาเพราะต้องการรับผิดชอบ ไม่ใช่รึ”คุณวสันต์จับผิดลูกชายคนเล็ก

                    “ก็...แหมพ่อครับยังไงซะเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นเมียผมนะครับ จะให้ไปค้างอ้างแรมที่อื่นก็ยังไงอยู่ แล้วที่สำคัญนะ ผมได้ข่าวมาว่าเสี่ยเม้งเนี่ย เจ้าชู้มากเลย ผมกลัวว่าเขาจะใช้กำลังข่มขู่เมียผมน่ะสิครับ”เหมันต์กระซิบกับผู้เป็นพ่อ

                    “อืม...พ่อก็เคยได้ยินมาบ้างนะ เอาเป็นว่าให้หนูแก้วอยู่นี่แหละคุณ”คุณวสันต์ช่วยเกลี้ยกล่อมแทนลูกชาย

                    “ก็ได้ค่ะ แต่ว่าถ้าตาเล็กไม่ทำตามสัญญา แม่จะให้หนูแก้วมานอนกับแม่ ส่วนคนอื่น จะนอนที่ไหนก็เชิญ”คุณนภาว่า สองพ่อลูกมองหน้ากันอย่างจนใจกับคำประกาศของหญิงที่ทั้งคู่รักจนหมดหัวใจ

                    “ไปได้แล้วคุณ”คุณนภาหันมาบอกเสียงดุ

                    “จ้า ไปแล้วจ้า”คุณวสันต์เดินตามออกไป เหลือแต่เหมันต์ที่นั่งลงบนเตียงอย่างรู้สึกเหนื่อยใจขึ้นมา ทำไมเขาจะต้องรู้สึกเป็นห่วงเธอมากขนาดนี้ด้วย ก็แค่ผู้หญิงที่ขอให้เขาช่วยกันออกมาจากไอ้เสี่ยหื่นกามนั่น

                    “เสร็จแล้วค่ะ ไปกันหรือยังคะ”กอแก้วที่ใส่ชุดเดรสสีฟ้าอ่อนยาวเลยเข่าขึ้นมานิดหนึ่งถามด้วยความรีบร้อน แต่ทำเอาคนมองตาค้างไปหลายวินาที ชุดนี้เป็นชุดของปรายฟ้าที่เธอซื้อมาแล้วให้เขา บอกว่าฝากเอาไว้ให้เจ้าสาวของเขาซึ่งตอนนั้นเขายังคิดขำๆ ว่า ใครจะได้ใส่ แต่ในวันนี้ที่กอแก้วใส่ให้เขาเห็นแล้ว ความรู้สึกบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเมื่อนานมาแล้ว ผุดขึ้นมาให้ห้วงความคิดของเขา ภาพเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ชอบใส่ชุดกระโปรงสีฟ้าที่เธอชอบเหมือนกัน วิ่งมาจับแขนเขาแล้วเขย่าๆ

                    “คุณเล็กคะ จะไปได้หรือยังคะ”คนที่เขย่าแขนของเหมันต์เป็นกอแก้วนั่นเอง

                    “วันนี้คุณสวยจัง”เหมันต์พดออกมาอย่างกับคนละเมอ กอแก้วจึงตีแขนให้

                    “คุณเล็ก นี่มันใช่เวลามั้ยคะ ไปเร็ว ฉันจะไปดูป้า”กอแก้วดึงเหมันต์ให้ลุกขึ้น แต่แรงของเธอหรือจะสู้แรงของเขาได้ กลายเป็นว่ากอแก้วล้มลงไปนั่งบนตักของเหมันต์แทน ความตกใจทำให้กอแก้วเงยหน้าจะมาด่าเหมันต์แต่เธอกลับต้องกลืนคำด่าลงไปในคอเมื่อถูกผู้ชายที่เธอนั่งอยู่บนตักทาบริมฝีปากลงมาบนปากเล็กๆ น่ารักของเธอ...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×