ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิวาห์วุ่น...ลุ้นรัก

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่3 : เรื่องโกหกที่เป็นจริง

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 59


    บทที่3 : เรื่องโกหกที่เป็นจริง

          เช้าวันรุ่งขึ้น กอแก้วตื่นแต่เช้า เพื่อจะมาเฝ้าป้าที่โรงพยาบาล พอเปิดประตูบ้านออกมาก็เจอกับเหมันต์ที่ยืนพิงประตูรถรออยู่
          “คุณเล็ก มาทำไมคะ”กอแก้วถามอย่างสงสัย
          “อ้าว ผมก็มารับภรรยาของผมไปเยี่ยมป้าไงครับ”เหมันต์ตอบกวนๆ กอแก้วรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
          “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปเองได้”กอแก้วว่า ก่อนที่จะเดินออกไป
          “นี่คุณ ผมมารอคุณตั้งนาน เพื่อที่จะฟังคำปฏิเสธของคุณงั้นสิ มานี่เลย ไปกับผม เหมันต์เอื้อมมือมาดึงกอแก้วให้ไปขึ้นรถ แต่กอแก้วสะบัดหนี ก่อนที่จะเดินต่อ แต่ก็มีนรถตู้มาขวางหน้า ทั้งกอแก้วและเหมันต์ต่างตกใจ เหมันต์รีบดึงกอแก้วมาอยู่ข้างๆตัว

          “อ้าว หนูแก้ว เห็นว่ากำลังทะเลาะกันอยู่ไม่ใช้หรอ หน้าตาบูดบึ้งเลย ไปกับเสี่ยมั้ย เผื่อหนูจะได้อารมณ์ดีขึ้น ถ้าไอ้หนุ่มน้อยนั่นมันทำให้หนูแก้วอารมณ์เสีย เสี่ยพร้อมจะอยู่ข้างๆหนูนะ”เสี่ยเม้งที่โผล่มาอย่างไม่ทันตั้งตัวพูดขึ้น
          “ไม่เป็นไรค่ะเสี่ย หนูกำลังจะหายงอนอยู่พอดี พอเสี่ยมา หนูก็รักกันเหมือนเดิมเลยค่ะ”กอแก้วว่า ก่อนที่จะควงแขนเหมันต์ เหมันต์ก็โอบไหล่กอแก้วตอบ

          “ไปกันเถอะครับที่รัก คุณป้าคุณกำลังรอพวกเราอยู่”เหมันต์ว่า ก่อนที่ทั้งสองคนจะขึ้นรถออกไปที่โรงพยาบาล เสี่ยนเม้งได้แต่เจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้

          “คุณน่าจะให้ฉันได้ชกหน้ามันซักหมัดก่อนมานะ แค้นเว้ย”กอแก้วบ่น

          “ผู้หญิงอะไร ดุเป็นบ้า”เหมันต์ถาม

          “ก็ผู้หญิงแบบนี้แหละ คุณจะทำไม”กอแก้วถามกลับ

          “เปล่า แค่จะบอกว่าลดความดุลงบ้างก็ดี เดี๋ยวเด็กๆ จะกลัวจนไม่กล้ามาเรียน ถ้าเจอคุณครูดุๆแบบคุณ”เหมันต์ว่า

          “ฉันดุกับคนที่สมควรดุเท่านั้นแหละ โดยเฉพาะกับคุณ คนอะไร กวนประสาทสุดๆ”กอแก้วว่า

          “ปกติผมก็ไม่ใช่คนที่จะกวนใครหรอกนะครับ แต่สำหรับคุณเป็นกรณียกเว้น ฮ่ะๆๆ”เหมันต์หัวเราะเสียงดังจนกอแก้วต้องตีแขนให้หยุดหัวเราะ

          “นี่คุณ...ขับรถไป เดี๋ยวก็ไม่ถึงกันพอดี เร็วๆ ด้วย ฉันเป็นห่วงป้า”กอแก้วสั่ง

    เมื่อมาถึงที่โรงพยาบาล หมอรุจที่รออยู่ที่ห้องก่อนแล้วก็เดินเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยสีหน้าเป็นกังวล

         “คุณแก้วครับ ตอนนี้อาการคนไข้ทรุดลงมาก หมอขอให้ทำใจไว้ก่อนก็ดีนะครับ”หมอรุจว่า

         “อะไรนะคะหมอ ไม่จริง ป้าฉันจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ”กอแก้วตกใจ

          “ใจเย็นๆ นะครับ ถ้าผ่านคืนนี้ไปได้ คนไข้อาจจะพ้นขีดอันตราย แต่เปอร์เซ็นต์มีประมาณเจ็ดสิบสามสิบครับ”หมอรุจว่า กอแก้วเข่าทรุดจนเหมันต์ต้องเข้าไปประคองให้นั่งที่เก้าอี้

          “แล้วจะมีวิธีไหนที่จะช่วยป้าของแก้วได้มั่งคะ”กอแก้วสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะดูแลป้าอุไรให้ดีที่สุด เธอจะไม่ยอมให้ป้าเป็นอะไรเพราะเธอเด็ดขาด

         “ถ้าผ่านคืนนี้ไปได้ ทางเราก็จะทำการผ่าตัดป้าคุณครับ โอกาสที่จะกลับมาเป็นปกติมีเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับ”หมอรุจว่า

          “แล้วค่าใช้จ่าย...”กอแก้วถามเรื่องค่ารักษา

          “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคุณเหมันต์ออกให้หมดแล้ว”หมอรุจว่า กอแก้วหันมามองเหมันต์
          “เท่าไหร่คะ ฉันจะหาเงินมาคืนคุณให้”กอแก้วถาม

          “ไม่ต้องหรอกคุณ ป้าคุณก็เหมือนป้าผมนะ อย่าลืมสิว่าเรา...”เหมันต์จะพูดต่อ

          “ไม่ได้ค่ะ ป้าฉัน ฉันจะจัดการเอง”กอแก้วว่า

          “สามแสนแปด”เหมันต์ว่า กอแก้วทำหน้าตกใจสุดขีด ก่อนที่จะเป็นลมไป เหมันต์เลยต้องอุ้มมาพักที่ห้องพักพิเศษของเขา

          “ผู้หญิงคนนี้เหมาะกับแกดีนะ”หมอรุจพูดขึ้น

          “เหอะ พรหมลิขิตมั้งพี่ เอ้อ แล้วพี่บอกทางโน้นยังว่าผมจะจัดงานแต่งงาน”เหมันต์ถาม

          “บอกนายสิงห์ไปแล้วเมื่อกี้นี้”หมอรุจว่า


               ณ คฤหาสน์กฤษณไกรสรณ์

          “ไอ้ต้น... คุณฟ้า ไอ้ต้น”นายสิงห์วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา เจอกับปลายฝนและต้นหนาวที่กำลังเล่นเปียโนอยู่ที่ห้องโถง

          “คุณอาสิงห์ เป็นอะไรคะ ทำไมทำหน้าตื่นเต้นขนาดนี้”ปลายฝนถามอาสิงห์ของเธอ

          “เรื่องใหญ่น่ะสิคะน้องฝน แล้วนี่คุณพ่อกับคุณแม่หนูอยู่ไหนกันคะ”นายสิงห์ถามหลานๆ

          “ฉันอยู่นี่ แกเป็นอะไรฮะ รีบร้อนมาขนาดเนี้ย ทำไม ไอ้เล็กมันจะแต่งงานหรือไง”คิมหันต์ถาม

          “อ้าวนี่รู้แล้วเหรอ ก็ไหนพี่หมอให้มาบอกแกไง ไปรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่”นายสิงห์งง

          “นี่คุณเล็กจะแต่งงานจริงๆ เหรอคะ เมื่อกี้คุณต้น แค่พูดเล่นเฉยๆ นะคะเนี่ย”ปรายฟ้าว่า

          “จริงครับ เมื่อกี้พี่หมอเพิ่งโทรมาบอกผมว่าเจ้าเล็กมันจะแต่งงานอาทิตย์หน้า ให้ไอ้ต้นโทรไปบอกพ่อกับแม่ด้วย ว่าให้กลับมาร่วมงาน”นายสิงห์บอก

          “ไอ้เล็กมันคิดอะไรของมัน ไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่เคยพามาให้เรารู้จัก หรือว่า...มันจะทำผู้หญิงท้อง มันเลยต้องรับผิดชอบ”คิมหันต์คิดไปโน่น ปรายฟ้าตีแขนเบาๆ

          “คุณต้นนี่พูดอย่างกับไม่รู้จักน้องชายตัวเอง อย่าเอามาตรฐานตัวเองไปเทียบกับคุณเล็กสิคะ”ปรายฟ้าแขวะ
          “ใครบอกว่าผมแต่งเพราะรับผิดชอบ ผมแต่งเพราะรักต่างหาก”พูดจบก็หอมแก้มปรายฟ้าต่อหน้าทุกคน ภาพนี้เป็นภาพที่เห็นจนชินตาแล้วสำหรับนายสิงห์ที่ยังคงทำงานอยู่ทางเหนือและได้มีโอกาสแวะมาที่นี่เรื่อยๆ

          “คุณเล็กก็อาจจะแต่งเพราะรักเหมือนกันก็ได้นี่คะ เอาเป็นว่าเราอย่าเพิ่งสรุปกันเลยดีว่านะคะ ไว้รอถามความจริงจากเจ้าตัวจะดีกว่าค่ะ”ปรายฟ้าสรุป

          “ถ้าอย่างนั้นผมโทรบอกข่าวดีให้พ่อกับแม่รู้เลยนะครับ”ว่าแล้วคิมหันต์ก็โทรทางไกลไปรายงานคุณวสันต์กับคุณนภาพราวเป็นที่เรียบร้อย เมื่อทั้งสองท่านรู้เรื่องงก็ตกใจระคนดีใจที่ลูกชายคนสุดท้องของตัวเองกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาซักที รีบเคลียร์งานและจองตั๋วกลับมาอย่างด่วนที่สุด

          “นายสิงห์โทรบอกเจ้าเล็กมันด้วยก็แล้วกันว่าให้ไปรับพ่อกับแม่ที่สนามบินวันมะรืนนี้ด้วย”คิมหันต์บอกกับเพื่อนสนิท

          “อ้าว ทำไม่คุณไม่บอกเองล่ะคะ”ปรายฟ้าถามอย่างสงสัย

          “โทษฐานที่มันไม่ยอมพาแฟนมาเปิดตัว ผมจะไม่คุยกับมันจนกว่าพ่อแม่ผมจะมา”คิมหันต์ว่า บางทีเขาก็มีความคิดเป็นเด็กๆ จนปรายฟ้าอดขำไม่ได้ เธอได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ

          วันต่อมาเหมันต์กับกอแก้วและหมอรุจก็เดินทางมารับคุณวสันต์กับคุณนภาพราวที่สนามบิน

          “ตาเล็ก!”เสียงคุณนภาพราวดูจะโมโหนิดๆ

          “สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่”เหมันต์ทักทาย กอแก้วทำอะไรไม่ถูกได้แต่ทำความเคารพผู้ใหญ่ทั้งสองตามเหมันต์

          “สวัสดีจ๊ะหนู”คุณนภาพราวว่าอย่างอ่อนโยนกับกอแก้ว ทำให้เธอใจชื้นขึ้นมา แต่กลับหันไปเอ็ดเหมันต์แทน

          “ทำไมถึงทำอะไรปุบปับแบบนี้ นี่อย่าบอกนะว่าจะเป็นเหมือนตาต้นน่ะ”คุณนภาถาม

          “คุณแม่ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ เดี๋ยวถึงบ้านแล้วผมจะเล่าให้ฟังนะ แต่ตอนนี้ไปจากตรงนี้ก่อนดีกว่า อายเขา”เหมันต์บอก ก่อนที่จะเดินจูงคุณนภาพราวออกจากบริเวณนั้น ทุกคนจึงเดินตามไป

         

               ณ บ้านใหญ่ใจกลางกรุงเทพของตระกูลกฤษณไกรสรณ์

          “เรื่องมันเป็นยังไงมายังไงฮะตาเล็ก อยู่ๆก็จะแต่งงาน ไม่เห็นพามาเปิดตัวกับพ่อแม่บ้างเลย”คราวนี้เป็นคุณวสันต์ที่ถามก่อน

          “คือย่างนี้ครับคุณพ่อ...เอ่อ เรา...คือว่า...”เหมันต์ไม่รู้จะตอบยังไงดี เขาคิดไม่ทันจริงๆ

          “คือว่าเราสองคนเป็นคนๆ เดียวกันแล้วค่ะคุณพ่อคุณแม่”กอแก้วตัดสินใจตอบ เพราะไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลอะไรที่น่าเชื่อถือไปมากกว่านี้แล้ว

          “โอ้คุณพระ...ทำไมแกถึงทำตัวแบบนี้ฮะตาเล็ก เชื้อไม่ทิ้งแถวกันหมดเลยใช่มั้ย”คราวนี้คุณนภาพราวขึ้นอีกแล้ว

          “ทำไมคุณพูดแบบนั้นฮะ”เหมันต์กระซิบถาม

          “อ้าว ก็ฉันไม่เห็นว่าคำตอบไหนจะดีไปกว่านี้แล้วนี่”กอแก้วว่า

          “นี่ หยุดจู๋จี๋กันก่อน ให้แม่ได้ด่าตาเล็กก่อน”คุณนภาพราวว่า เหมันต์ค้อนใส่กอแก้ว ก่อนที่จะก้มหน้ารับผิด(ที่ตัวเองยังไม่ได้ก่อ)

          “แม่ไม่สั่งไม่สอนใช่มั้ยฮะตาเล็ก แกถึงทำลายเกียรติของผู้หญิงเขาน่ะ ฮะ ตอบแม่มา”คุณนภาพราวถามลูกชายคนเล็ก

          “คือว่า...คืนนั้นผมเมาจริงๆ ครับแม่”เหมันต์ก็ไม่รู้จะใช้เหตุผลอะไรเหมือนกัน

          “ไอ้เล็ก!”คุณวสันต์ตะคอกใส่ คุณนภาพราวยังคงนิ่งอยู่

          “ คุณพ่อคุณแม่อย่าว่าคุณเล็กเลยค่ะ แก้วผิดเองที่ไม่ระวังตัวให้มากกว่านี้ เรื่องมันเลยบานปลายถึงขนาดนี้ แก้วขอโทษจริงๆ ค่ะ”กอแก้วไหว้ขอโทษ เธอรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ไม่คิดว่าเสี่ยเม้งจะทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้

          “ไม่ต้องไปขอโทษแทนไอ้ลูกชายของแม่หรอก หนูแก้วใช่มั้ย แม่ต่างหากที่ต้องขอโทษหนู ที่ลูกชายแม่ทำเรื่องไม่ดีไว้กับหนู หนูจะว่าอะไรมั้ย ถ้าแม่จะจัดงานแต่งให้เร็วที่สุดเลยน่ะ ฤกษ์แต่งของแกมันช้าไปเจ้าเล็ก แม่ต้องการให้แต่งวันมะรืนนี้เลย”คุณนภาพราวประกาศ

          “คุณแม่ครับ คือว่า...ญาติผู้ใหญ่ของแก้วเขาไม่สามารถมางานนี้ได้ เพราะเหตุบางอย่างน่ะครับ ผมอยากจะขอร้องคุณแม่ ให้ช่วยคุยกับคุณนายเหม่ยหลิงเพื่อนสมัยเรียนของคุณแม่ให้หน่อยจะได้มั้ยครับ คือว่ากอแก้วรู้จักกับเสี่ยเม้ง สามีของคุณนายเหม่ยหลิงน่ะครับ เคารพกันเหมือนญาติผู้ใหญ่เลย”เหมันต์โกหกคำโต

          “อ๋อ...อาเม่ยน่ะเหรอ แม่ซี้กัน นี่พรุ่งนี้ก็นัดเจอพวกเพื่อนๆ กันนะ น่าจะมาด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่คุยให้นะ”คุณนภาว่า

          “เอ้อ แล้วหนูเป็นลูกเต้าเหล่าใครล่ะ”คุณวสันต์ถามกอแก้ว

          “คือว่า หนูชื่อกอแก้วค่ะ นางสาวชนกเนตร สินมาลัย คุณพ่อกับคุณแม่เสียชีวิตตั้งแต่หนูยังเด็ก หนูก็อยู่กับคุณป้าอุไรค่ะ เป็นพี่สาวของคุณพ่อ หนูเพิ่งเรียนจบคุรุศาสตร์มาค่ะ”กอแก้วว่า

          “แล้วหนูเจอกับตาเล็กครั้งแรกที่ไหน แล้วทำอีทาไหนถึงไปพลาดท่าให้ลูกชายของแม่ได้เนี่ย”คุณนภาถามอย่างสงสัย กอแก้วคิดไม่ทัน เหมันต์เลยชิงตอบให้

          “เราเจอกันครั้งแรกที่โรงเรียนอนุบาลครับ วันนั้นผมไปรับหลานๆ เห็นว่าหลานๆ กำลังถ่ายรูปกับกอแก้วอยู่ ผมเลยเข้าไปช่วยถ่ายให้ครับ”เหมันต์ว่า

          “แล้วไปได้กันตอนไหนล่ะลูก”คุณนภาพราวถามว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ดูเหมือนว่าเธอจะเห็นใจลูกสะใภ้มากๆ

          “คือว่า...คืนนั้นแก้วไปเลี้ยงฉลองบัณฑิตใหม่กับเพื่อนๆ น่ะค่ะ แล้วคุณเล็กก็ไปกับเพื่อนๆ เขา เราไปเจอกันที่นั่น บังเอิญว่าเพื่อของคุณเล็กกับเพื่อของแก้วรู้จักกันน่ะค่ะ ก็เลยนั่งดต๊ะเดียวกัน คุณเล็กเขาช่วยแก้วดื่มเหล้าแทนแก้วน่ะค่ะเพราะแก้วดื่มเหล้าไม่เก่ง พองานเลิก คุณเล็กก็เมาไม่เป็นท่าเลยค่ะ แก้วต้องแบกคุณเล็กกลับ แต่แก้วไม่รู้จักบ้านคุณเล็ก ก็เลยพาไปที่บ้านของแก้ว แก้วเห็นว่าคุณเล็กอ้วกใส่เสื้อผ้าเปื้อนหมดเลย แก้วก็เลยเช็ดตัวให้คุณเล็กค่ะ อยู่ๆ คุณเล็กก็ละเมอเรียกชื่อเจ้าหญิงๆอะไรสักอย่างเนี่ยแหละค่ะ แล้วเขาก็คว้าตัวแก้วไปกอด แก้วก็พยายามดิ้นนะคะ แต่สู้แรงคุณเล็กไม่ไหว ก็เลย...”กอแก้วหยุดพูดไว้แค่นั้นเป็นอันว่าทุกคนเข้าใจตรงกัน เหมันต์ทึ่งในการสร้างเรื่องของกอแก้ว รวดเร็วจนเขาไม่คาดคิด แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ คำว่าเจ้าหญิง เธอรู้ได้ยังไงกันว่าเขาโหยหาเจ้าหญิงหิมะที่เจอกันที่สวิสฯ เมื่อตอนเขายังเด็ก ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อยู่ข้างบ้าน มักจะชวนเขาเล่นหิมะทุกครั้งที่เขาเปิดประตูออกมานอกบ้าน ไม่ใช่แค่คุณนภาพราวและคุณวสันต์จะเชื่ออย่างสนิทใจ เพราะคำว่าเจ้าหญิงแล้ว เหมันต์เองถ้าไม่ใช่คนที่ร่วมมือกับเธอ เขาก็คงจะเชื่อไปแล้วเหมือนกัน

         “ไม่เป็นไรนะลูก...มะรืนนี้หนูจะได้เป็นสะใภ้เล็กของตระกูลกฤษณไกรสรณ์แน่นอน เอาเป็นว่าวันนี้ให้เจ้าเล็กพาหนูขึ้นไปพักผ่อนข้างบนก่อนก็แล้วกันนะ”คุณนภาพราวว่า

          “แต่ว่าแก้ว...”กอแก้วจะปฏิเสธ

          “ไม่มีแต่จ้ะ หนูกำลังจะเป็นเจ้าสาวแล้วนะ ต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หน้าตาจะได้สดชื่น ไปตาเล็ก พาเมียแกไปพัก”คุณแม่สั่ง เหมันต์ฟังแล้วก็จั๊กจี้หูกับคำว่าเมีย ทั้งๆ ที่จริงแล้วแม้แต่เล็บขบของกอแก้วเขาก็ยังไม่ได้เห็นเลยด้วยซ้ำ

          “ครับคุณแม่”ว่าแล้วก็โอบไหล่กอแก้วเดินขึ้นบันได้มา เมื่อพ้นสายตาของผู้ใหญ่แล้วกอแก้วก็ปัดมือของเหมันต์ทิ้ง

          “คุณเล็ก ฉันต้องไปเฝ้าป้าฉันนะ คุณจะมาขังฉันไว้ที่นี่ไม่ได้”กอแก้วเหวี่ยง

          “ได้ไงล่ะคุณ คุณแม่ผมเพิ่งให้คุณไปพักผ่อน ขืนคุณออกไปตอนนี้คุณแม่ได้สงสัยแน่ คุณไม่ต้องเป็นห่วงป้าคุณหรอก หมอมือหนึ่งคอยดูแลป้าคุณอยู่”เหมันต์ว่า

          “นี่คุณ ไม่ใช่ป้าคุณนี่คุณก็พูดได้สิ ไม่รู้แหละ วันนี้ยังไงฉันก็จะไปเฝ้าป้าฉันให้ได้”กอแก้วพูดอย่างมาดมั่น

          “ถ้าคุณคิดว่าคุณออกไปได้ก็เอา”ว่าแล้วเหมันต์ก็อุ้มกอแก้วจนตัวลอยแล้วพาเข้าห้องของเขาเอง

          “นี่คุณจะทำอะไรน่ะ”กอแก้วตกใจ

          “อ้าว ก็คุณแม่บอกว่าให้พาเมียขึ้นห้อง มันหมายความว่ายังไงละครับคุณภรรยา”เหมันต์ยิ้มเจ้าเล่ห์

          “โอเคๆ ฉันยังไม่ไปเฝ้าป้าตอนนี้ก็ได้ แต่พรุ่งนี้ ฉันต้องได้เห็นหน้าป้าของฉันนะ”กอแก้วบอก

          “ได้อยู่แล้วครับที่รัก พูดง่ายๆ อย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย”เหมันต์ชม กอแก้วทำท่าอยากจะอ้วก

          “เอาหน่าคุณ อยู่กับผมก็ทนๆ ความหล่อ ขี้เล่น ปนทะเล้นของผมหน่อยละกัน แต่ถ้าทนไม่ไหว เกิดคุณตกหลุมรักผมขึ้นมา ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ฮิๆๆ”เหมันต์ขำแบบกวนๆ กอแก้วกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายกับคนหลงตัวเอง เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคู่อริอย่างเหมันต์ แล้วเธอจะทนไม่เอาเล็บข่วนหน้าเขาได้กี่วันล่ะเนี่ย เฮ้อ ยิ่งเห็นแล้วยิ่งหมั่นไส้...


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×