ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แค้นนี้ที่รัก...

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1 : แผนการของน้องชายตัวแสบ

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 59


    บทที่1 : แผนการของน้องชายตัวแสบ

     

              ปรายฟ้าเข้ามาจัดห้องให้กับแขกของคุณหมอปวรุจ แต่ได้ยินเสียงน้ำไหล ด้วยความหวังดีจึงจะเข้าไปปิดให้ แต่...

    “อ๊ายยยยยยยยยยยยย” เธอกรี๊ดทันทีที่เห็นชายหนุ่มเปลื้องผ้าอาบน้ำอยู่

    “เฮ้ยยยยยยยยยยยยยย” เขาก็ตกใจเช่นเดียวกัน แต่ด้วยสติที่ดีกว่า คิมหันต์รีบคว้าผ้าเช็ดตัวพันกายท่อนล่างไว้

    “เอ่อ...ขอโทษค่ะ ดิฉันนึกว่าไม่มีใครอยู่แล้วเปิดน้ำทิ้งไว้ ก็เลยเข้ามาปิด ไม่คิดว่าจะมีคนอาบน้ำอยู่” เธอพูดไปพร้อมกับหันหลังให้เขาทันที

    “ ฉันเองที่ประมาท ไม่ล็อกประตูซะก่อน ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ตกใจ เอ่อ...เธอจะมาจัดที่นอนไม่ใช่หรอ” เขาว่า

    “อุ้ย ขอโทษค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”

    ว่าแล้วเธอก็รีบเดินออกมาจากห้องน้ำทันที แทบจะเป็นวิ่งด้วยซ้ำ แต่ขาเจ้ากรรมดันขัดกันเอง ผลเลยกลายเป็นว่าเธอได้จับกบไปหลายตัว คิมหันต์ที่อาบน้ำเสร็จแล้วเดินมาเห็นเข้าก็เลยยื่นมือให้เธอจับ ปรายฟ้าจับมือเขาเพื่อดึงตัวเองขึ้น แต่มือของเขาลื่นเกินไป จึงทำให้เธอร่วงไปกองกับพื้นอีกครั้ง

    “สงสัยว่าเธอคงลุกเองไม่ได้ซะแล้ว” คิมหันต์พูดเรียบๆ

    แล้วสิ่งที่ปรายฟ้าไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ชายหนุ่มช้อนตัวเธอขึ้น แล้วอุ้มเดินไปที่โซฟา เป็นจังหวะเดียวกับที่นายสิงห์และคุณหมอรุจเปิดประตูเข้ามาพอดี  ภาพที่ทั้งคู่เห็นก็คือ ชายหนุ่มในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกำลังอุ้มพยาบาลสาวไปวางที่โซฟา...

    “โอ้ว เราเข้ามาขัดจังหวะอะไรรึเปล่าครับเจ้านาย” นายสิงห์แซว ทำให้คิมหันต์ต้องวางปรายฟ้าลงที่โซฟา

    “มัน...มันไม่ใช่อย่างที่พวกคุณคิดนะคะ คือว่าฉันล้มแล้วคุณ...คุณผู้ชายเค้าก็เลยช่วยอุ้มฉันมานั่งนี่แหละคะ ไม่มีอะไรจริงๆค่ะ” ปรายฟ้ารีบอธิบายอย่างรวดเร็ว

    “ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นก็ได้ครับคุณฟ้า พวกเรายังไม่ได้ว่าอะไรเลย” คุณหมอว่าพลางยิ้มให้

    “พวกนายมานี่ มีอะไรก็ว่ามา ฉันจะรีบนอน” คิมหันต์พูดอย่างหัวเสีย

    “ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” ปรายฟ้ารีบออกจากห้องนั้นโดยเร็ว ไม่รู้ทำไมเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับชายแปลกหน้าคนนั้นเธอถึงรู้สึกแปลกๆทุกทีสิหน่า

    “ฉันมีบางอย่างจะต้องบอกแกว่ะ ไอ้ต้น” หมอรุจพูดพร้อมกับจ้องหน้าคุณชายใหญ่แห่งคฤหาสน์กฤษณไกรสรณ์

    “มีอะไรก็รีบพูดมา ฉันเริ่มง่วงแล้ว” คนฟังเริ่มทำตาปรือ

    “คุณพยาบาลคนเมื่อกี้ เป็นน้องสาวของผู้ชายที่ทำให้น้องชายแกเป็นแบบนี้” คุณหมอพูดเสียงเรียบ

    “แกว่าอะไรนะ?!!” คนฟังตาตื่นขึ้นมาทันที ก่อนที่แววตาจะกลายเป็นเยือกเย็นแบบที่คนเป็นหมอชักเสียวสันหลัง

    “ข้อมูลที่แกอยากรู้จะได้พรุ่งนี้ ตอนนี้ฉันให้นายสิงห์ไปหาข้อมูลอยู่” คุณหมอพูดก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้ชายหนุ่มอยู่กับตัวเอง

     

    “น้องฟ้าคะ โทรศัพท์จากที่บ้านค่ะ สงสัยจะเป็นเรื่องด่วน” พี่สายสมรส่งโทรศัพท์มาให้ปรายฟ้า

    “ฮัลโหล พ่อหรอคะ” ปรายฟ้าคิดว่าเป็นพ่อของเธอ เพราะถ้าเป็นพี่ชายเธอ เขาจะโทรเข้ามือถือของเธอแทน

    “นี่พี่เองนะ พี่จะบอกว่าพี่จะไม่อยู่สักพักใหญ่ๆ นะ พอดีว่ามีเรื่องนิดหน่อยน่ะ ฝากดูแลพ่อด้วยนะ” พี่ไฟ พูดอย่างรวดเร็ว

    “เดี๋ยวสิคะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่ต้องไม่อยู่ด้วย อย่าบอกนะคะว่าเรื่องน้ำฝน” เธอถาม

    “ฟ้ารู้ได้ไง นั่นแหละๆๆ ดูแลพ่อด้วยนะ พี่ต้องไปแล้ว” พูดได้แค่นั่นสายก็ตัดไป

    “พี่ไฟ...พี่ไฟ...อะไรกันเนี่ย มันเป็นเรื่องจริงหรอ แล้วฉันจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย” ปรายฟ้าบ่นงึมงำ

    ”ฟ้า ฟ้าเป็นอะไรรึเปล่า มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย” พี่สายสมรหันมาถามปรายฟ้า

    “ไม่มีอะไรค่ะ ฟ้าขอตัวดูคนไข้ก่อนนะคะ” ปรายฟ้ารีบเดินเข้าไปยังห้องของเหมันต์

    “คุณคะ คือว่า ฉันอยากจะรู้เรื่องราวทั้งหมด และแผนการที่คุณจะให้ฉันทำค่ะ” ปรายฟ้าพูดกับคนไข้

    “แสดงว่าคุณยอมตกลงช่วยผมแล้วใช่มั้ยครับ” คุณชายเล็กถาม

    “ทำไงได้ล่ะคะ พี่ชายฉันทำผิดจริงๆ นี่ แล้วการที่ฉันจะชดเชยได้ก็ช่วยให้พี่ชายคุณหายเป็นเก้งกวาง ถือว่าทำบุญก็ได้ค่ะ” ปรายฟ้าตัดสินใจแล้ว

    “แต่ว่า ฉันขออะไรคุณสองอย่างได้มั้ยคะ ข้อแรก คุณต้องห้ามพี่ชายคุณไม่ให้ตามรังควานชีวิตของพี่ชายและพ่อของฉัน ส่วนข้อสอง ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ ขอให้มีคนมาดูแลพ่อของฉัน จะได้มั้ยคะ” ปรายฟ้าบอกความต้องการของเธอ

    “ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนแผนการของพวกผมก็คือ...เราจะให้คุณไปเป็นเชลยแทนพี่ชายของคุณ แต่ผมจะเฝ้าดูคุณอย่างห่างๆ นะครับ ผมอยากแน่ใจว่าคุณจะไม่หนีกลับบ้านซะก่อนที่พี่ชายผมจะกลายเป็นผู้ชายจริงๆ” คนไข้ว่า

    “ดิฉันจะพยายามค่ะ” เธอว่า

    “ เอ่อ แล้วอีกอย่าง อย่าให้พี่ชายผมจับได้เด็ดขาดว่าเราร่วมมือกัน ไม่อย่างนั้น ครอบครัวของคุณคงไม่ได้อยู่ดีมีสุขแน่ๆ นี่ผมไม่ได้ขู่นะครับ ผมพูดเรื่องจริง เตือนคุณด้วยความหวังดี ถ้าคุณไม่กล้าพอที่จะทำงานนี้ ผมอนุญาตให้คุณถอนตัวภายใน ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง หมดเวลาครับ แสดงว่าคุณตกลงร่วมมือกับผม” คนไข้พูดรวดเดียวจบ ไม่มีโอกาสให้เธอได้พูดบ้างเลย

    “อะไรกันคะ ดิฉันยังไม่ทันพูดอะไรเลย แต่ก็นั่นแหละค่ะ ดิฉันตัดสินใจแล้วว่าจะช่วยคุณ ดิฉันก็จะทำ ว่าแต่ดิฉันยังไม่รู้จักพวกคุณเลย ช่วยเล่าให้ฟังได้มั้ยคะว่าฉันจะต้องอยู่กับใคร ทำอะไร อย่างไรบ้าง ดิฉันจะได้วางตัวถูก” ปรายฟ้าเริ่มหาข้อมูล

    “ได้อยู่แล้วครับ เริ่มที่ผมก่อนก็แล้วกัน ผมชื่อเล็กครับ เหมันต์ กฤษณไกรสรณ์ เป็นน้องชายของเขานั่นแหละครับ เรามีกัน สองคนพี่น้อง พ่อแม่ของพวกเรา อยู่ที่สวิสเซอแลนด์น่ะครับ ทำงานอยู่ที่นั่น นานๆ จะกลับมาเยี่ยมพวกเราสักที  ผมกับพี่ต้น เอ้อ พี่ชายผมน่ะครับ อยู่บริหารบริษัทของพ่อที่นี่ ผมกำลังเรียนปริญญาโทอยู่น่ะครับ แล้วผมก็ได้เจอกับน้ำฝน ผมชอบเธอก็เลยทำทุกอย่างเพื่อให้เธอมาเป็นแฟนผมให้ได้” คนไข้เล่าได้แค่นี้ก็เงียบ

    “แล้วคุณไม่รู้เหรอคะว่าน้ำฝนมีแฟนอยู่แล้ว” ปรายฟ้าถาม

    “ไม่รู้หรอกครับ เธอคงพยายามจะบอกผมหลายรอบ อีกอย่างที่เธอยอมคบกับผมก็คงเพราะกลัวว่าถ้ารู้ว่าเธอมีแฟนอยู่แล้ว แล้วแฟนของเธอจะเดือดร้อน แต่ช่วงหลังมานี่เธอคงทนไม่ไหวจริงๆเธอเลยหนีผมไป...เรื่องของผมมันจบไปแล้วล่ะครับ มาเข้าเรื่องของเราต่อดีกว่า คุณควรจะรู้จักพี่ผมให้ดีซะก่อนที่จะรับมือกับเขา พี่ต้นน่ะ เป็นประธานบริษัทหลายแห่ง แต่ผมรู้ว่าพี่ผมน่ะไม่ชอบงานด้านบริหารซักเท่าไหร่ เขาชอบความท้าทายซะมากกว่า เขาชอบแข่งรถกับผม อีกอย่างที่เขารักเป็นชีวิตจิตใจเลยก็คือ ดนตรี เขาเล่นกีตาร์เพราะมาก ผมยังเคยให้เขาเข้าประกวดเลย แต่เขาไม่ทำ บอกว่ามันไร้สาระ และอีกสิ่งหนึ่งที่เขารักมากนั่นก็คือ ไร่สตรอว์เบอรี่ที่เป็นของคุณย่า เป็นมรดกมาให้พี่ชายผมน่ะ อยู่หลังคฤหาสน์ของพวกเราไป ถ้าเขาได้ทำสามสิ่งนี้เค้าจะดูมีความสุขมากเลยล่ะ แต่...ตั้งแต่ที่ผู้หญิงคนนั้นทิ้งพี่ผมไป...แฟนเก่าพี่ผมน่ะ พี่ผมก็ไม่เคยมีความอบอุ่น สดใสอีกเลย เก็บตัวเงียบ เป็นคนเย็นชา เหมือนไม่มีหัวใจอีกแล้ว ไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหนเลย คนงาน หรือลูกน้องก็มีแต่ผู้ชาย ผมสงสัยว่าพี่ชายผมจะเป็นเก้งกวางเพราะอกหักจากผู้หญิงน่ะครับ ก็เลยอยากให้คุณช่วย แต่ไมต้องห่วงนะครับ ผมมีค่าตอบแทนให้คุณอย่างงามแน่ๆ” คนไข้พูดยาวเหยียด

    “เอ้อ ไม่ต้องหรอกค่ะ ดิฉันช่วยเพราะอยากช่วย ไม่ได้ทำเพราะเงิน” ปรายฟ้าตอบ

    “ไม่ได้หรอกนะครับ ถ้าสมมุติว่าเกิดเหตุอะไรที่เราคาดไม่ถึง ผมก็จะได้ไม่กังวลว่าคุณจะไปตกระกำลำบากที่ไหน นะครับ เพราะบางที นี่อาจจะเป็นค่าสินสอดของคุณก็ได้นะครับ” คนไข้พูด

    “อะไรนะคะ ถึงขั้นต้องแต่งงานกันเลยหรอคะ?” ปรายฟ้าตกใจ

    “อ้าว ก็บางที พี่ผมกับคุณรักกันขึ้นมาจริงๆ ผมก็จะได้บอกพี่ชายผมว่าผมเป็นเถ้าแก่ มอบสินสอดให้พ่อคุณไงครับ” คนไข้ว่า

    “ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ค่อยให้ก็ได้ค่ะ บางทีมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ คุณเคยบอกว่าพี่ชายคุณแค้นพี่ชายฉันมากไงคะ เขาอาจะทารุณฉันมากกว่าก็ได้นะคะ” ปรายฟ้าบอก

    “อืม...มันก็จริงนะครับ แต่ว่าเห็นพี่ผมเป็นอย่างนั้นก็เพราะอดีตที่ฝังใจ ถ้าคุณปืนข้ามกำแพงที่พี่ต้นสร้างขึ้นมาได้ล่ะก็ พี่ผมน่ารักมากนะครับ ผมว่าคุณต้องทำได้แน่ๆ ผมเชื่อย่างนั้น” คุณชายเล็กเอ่ย

    “อย่าคาดหวังอะไรมากนักนะคะ เพราะฉันก็ยังไม่มั่นใจตัวเองเหมือนกันว่าจะทำได้หรือเปล่า เอ แล้วนอกจากนี้ฉันจะต้องรู้จักใครอีกมั้ยคะ” ปรายฟ้าถามต่อ

    “นายสิงห์ครับ คนสนิทของพี่ชายผม ความจริงแล้วนายสิงห์นี่ก็เป็นน้องชายของหมอรุจนะครับ แต่ว่าเขาเป็นอดีตตำรวจที่ผันตัวเองมาทำอาชีพเสริมเป็นลูกน้องพี่ผม ก็ตั้งแต่อกหักคราวนั้นพวกเราก็กังวลกันมาก ก็เลยให้เพื่อนสนิทเข้ามาคอยดูแล อีกอย่างนายสิงห์นั่นเขาก็เบื่ออาชีพตำรวจด้วย ก็เลยลงตัวพอดี” คนไข้ตอบ

    “จริงหรอคะที่เป็นน้องชายคุณหมอ หน้าตาไม่ค่อยเหมือนกันเลยนะคะเนี่ย” ปรายฟ้าสงสัย

    “จริงครับ พี่หมอเนี่ยได้พ่อ ส่วนนายสิงห์เนี่ย ได้แม่ครับ พวกเราเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วครับ สมัยที่ผมกับพี่ต้นยังอยู่กับคุณปู่คุณย่าที่กรุงเทพ ตอนย้ายไปเชียงราย เราก็ห่างๆกันไป แต่ก็กลับมาเจอกันอีกจนได้น่ะครับ เราก็เลยสนิทกัน”คนไข้ตอบ

    “แล้วเราจะเริ่มแผนการเมื่อไหร่ล่ะคะ” คนที่ต้องทำตามแผนถาม

    “เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นล่ะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าพี่ชายของผมจะลงมือเมื่อไหร่เหมือนกัน เตรียมตัวรับมือให้ดีก็แล้วกันครับ ผมเชื่อในฝีมือของคุณ” คนไข้ยิ้มให้ก่อนล้มตัวลงนอน เป็นอันหมดคำถามของปรายฟ้าไปโดยปริยาย

     เธอเดินออกมาจากห้องของคนไข้ เดินมาที่ห้องทำงานของเธอ แล้วก็พบกับหมอปวรุจ

    “อ้าวคุณหมอ ยังไม่กลับอีกหรอคะ” ปรายฟ้าทัก

    “ก็กำลังจะกลับแล้วล่ะครับ แต่ต้องมาบอกคุณก่อน ว่าพรุ่งนี้เป็นต้นไป คุณจะลางานไม่มีกำหนดนะครับ” คุณหมอบอก

    “อะ...อะไรนะคะ ทำไมล่ะคะ หรือว่า ต้องเริ่มพรุ่งนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้น ฉันขอลาตั้งแต่ตอนนี้เลยนะคะ จะกลับไปหาพ่อก่อนน่ะคะ” ว่าแล้วเธอก็รีบไปบอกพี่สายสมร แล้วกลับบ้านทันที

     

    ปรายฟ้าเดินกลับมาที่บ้าน บ้านของเธอไม่ห่างจากโรงพยาบาลสักเท่าไหร่ พอเดินมาถึงหน้าบ้านก็ได้ยินเสียงขลุ่ยที่พ่อเธอชอบเล่นให้เธอกับพี่ชายฟังตั้งแต่แด็ก

    “พ่อคะ ฟ้ากลับมาแล้วค่ะ”ปรายฟ้าตะโกนเข้าไปข้างในบ้าน

    “อ้าว...ทำไมกลับมาเร็วล่ะลูก ไหนว่ามีเวรดึกด้วยไง แล้วทำไมกลับมาตอนนี้ล่ะ” นายปฐพีถามลูกสาวในขณะที่เปิดประตูบ้านให้

    “อ๋อ พอดีว่าหนูจะต้องไปออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่อย่างไม่มีกำหนดน่ะค่ะ อาจจะไม่ได้กลับมาหลายเดือนเลย พี่ไฟก็ไม่อยู่ พ่อจะอยู่คนเดียวได้มั้ยคะเนี่ย หนูเป็นห่วงพ่อจัง เดี๋ยวหนูหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนพ่อดีกว่านะคะ พ่อจะได้ไม่เหงา” ปรายฟ้าบอกพ่อ

    “โอ้ย ไม่ต้องหรอกลูก พ่ออยู่ได้ เดี๋ยวพ่อก็เดินไปหาตาแกละ เล่นหมากรุกด้วยกัน หรือไม่ก็ไปร้านกาแฟอาโกก็ได้ลูก พ่อก็ทำแบบนี้ทุกวันอยู่แล้ว  ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ  ลูกไปทำหน้าที่ของลูกเถอะ   การช่วยเหลือคนน่ะ ได้บุญมากนะลูก” นายปฐพีบอกกับลูกสาว

    “พ่อคะ  หนูรักพ่อนะคะ” ปรายฟ้าบอกแก่ผู้เป็นพ่อ

    “พ่อก็รักลูก ปรายฟ้า” สองพ่อลูกนั่งกอดกันกลมที่เก้าอี้ตัวยาว

    “งั้นหนูขอไปจัดกระเป๋าก่อนนะคะ” ว่าแล้วปรายฟ้าก็ลุกเข้าห้องไป นายปฐพีมองตามลูกสาวด้วยแววตาห่วงใย

                    เช้าวันรุ่งขึ้น

    “ฟ้าไปนะคะพ่อ ดูแลตัวเองดีๆนะคะ มีอะไรโทรไปที่โรงพยาบาลนะคะ บอกว่าขอคุยกับหมอรุจ จากพ่อของฟ้านะคะ จำที่ฟ้าบอกได้มั้ยคะเนี่ย” ปรายฟ้าถามย้ำ

    “จำได้อยู่แล้ว พ่อของฟ้าซะอย่าง ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอกนะลูก ไปทำหน้าที่ของฟ้าเถอะ พ่อรักลูกนะ ดูแลตัวเองด้วยนะลูก” พ่อพูดจบก็เดินเข้ามากอดปรายฟ้า ทั้งสองกอดกันกลมจนไม่ทันสังเกตรถยนต์คันหนึ่งที่จอดอยู่ห่างๆ

    “ข้อมูลที่ให้หา ได้รึยัง” คิมหันต์ถามปุตตสิงห์

    “ได้แล้ว...เธอชื่อปรายฟ้า เป็นน้องสาวคนเดียวของนายเพลิงตะวัน หรือไฟ คนที่แย่งคนรักของนายเล็กไป เธอทำงานเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลของหมอรุจมา2ปีแล้วตั้งแต่เรียนจบ ปรายฟ้าและไฟอยู่กับพ่อมาตั้งแต่เล็ก เพราะแม่ของเธอหนีไปกับชายอื่น...” นายสิงห์พูดได้เท่านี้คิมหันต์ก็ขัดขึ้น

    “ ฮึ...แม่หนีตามผู้ชายไป มันเลยทำให้คนอื่นหนีตามมันมั่งน่ะสิ ไอ้พวกมีปม น่าสมเพท” คิมหันต์พูดเสียงเหยียด

    “ยังไม่หมดหรอกนะ สิ่งที่นายจะต้องรู้อีกอย่างคือ ไอ้ไฟมันรักน้องมันมาก ถ้ามันรู้ว่าน้องสาวมันตกอยู่ในอันตราย โดยเฉพาะกับนายแล้วล่ะก็ มันจะต้องทุกข์ทรมานแน่ๆ” นายสิงห์พูดต่อ

    “ดี...ฉันอยากจะให้มันเจ็บ เหมือนที่น้องฉันต้องเจ็บ ให้ยัยนั่นเดินพ้นปากซอยซะก่อนแล้วนายค่อยจัดการ เดี๋ยวฉันจะไปรับไอ้เล็กกลับเชียงราย” คิมหันต์สั่ง

    “แล้วเจอกันที่เชียงรายนะครับ เจ้านาย” นายสิงห์กล่าวลา

     

    โรงพยาบาล

    “เตรียมตัวเสร็จรึยังวะไอ้น้องชาย” เสียงคนเป็นพี่ดังขึ้น

    “เสร็จแล้วครับ เป็นไงบ้างพี่” คนเป็นน้องถาม

                    “แกเตรียมตัวต้อนรับทาสคนใหม่ได้เลย”คิมหันต์พูดได้อย่างเลือดเย็นมาก จนเหมันต์เริ่มสงสัยว่าเขาคิดถูกหรือเปล่าที่สร้างแผนนี้ขึ้นมา แล้วก็นึกไปถึงสาวน้อยน่ารักที่จะต้องรับมือกับซาตานคนนี้อีก เขาชักจะหวั่นๆ แล้วเหมือนกัน

    “พี่จะทำอะไรกับเธอบ้างเหรอ?” คนเป็นน้องถาม

    “อะไรก็ได้ ที่ทำให้ยัยนั่นทรมานที่สุด” คิมหันต์พูดด้วยเสียงที่แข็งกร้าวและแววตาที่เยือกเย็นที่สุดเท่าที่คนเป็นน้องชายอย่างเหมันต์ก็เพิ่งเคยเห็น

    ปรายฟ้า...เธอจะรอดมั้ยเนี่ย เหมันต์คิดอยู่ในใจ...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×