ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิวาห์วุ่น...ลุ้นรัก

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่15 : สมาชิกใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 59


    บทที่15 : สมาชิกใหม่

     

                    วันรุ่งขึ้นคิมหันต์ก็สั่งคนขับรถให้ไปรับหมอมาดูอาการทั้งปรายฟ้าและเหมันต์ในคราวเดียวกันเลย

                    “หมอมาแล้วค่ะคุณต้น”ป้ากลอยใจเดินเข้ามาบอก

                    “อืม เดี๋ยวให้เขาไปตรวจเจ้าเล็กก่อนก็ได้ แล้วค่อยตรวจปรายฟ้า”คิมหันต์บอกก่อนที่จะเดินขึ้นไปบอกปรายฟ้า ที่วันนี้เธอนอนอยู่ข้างบนห้อง บ่นวามึนหัว

                    “หมอมาแล้วนะคุณฟ้า ผมให้ไปตรวจเจ้าเล็กมันก่อน จะได้มาดูอาการคุณนานๆ”คิมหันต์ว่า ก่อนที่จะขยับเข้ามาใกล้ปรายฟ้าก่อนที่จะเอามือมาอังที่หน้าผาก

                    “คุณไหวมั้ย”คิมหันต์ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

                    “ฉันไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ เชื่อสิ ฉันเป็นพยาบาลนะคะ ฉันรู้ว่าตัวเองเป็นอะไร”ปรายฟ้ามองคิมหันต์ยิ้มๆ ถ้าเขารู้คงดีใจมากแน่ๆ

                    “อย่ามาอวดเก่งนะปรายฟ้า ดูสภาพคุณตอนนี้สิ หน้าซีดอย่างกับไก่ต้ม แล้วยังจะมาบอกว่าไม่เป็นไรอีก รอให้หมอตรวจเจ้าเล็กเสร็จก่อนเถอะ ผมจะให้หมอตรวจให้ละเอียดเลย”คิมหันต์ว่า ก่อนที่จะเดินออกไป ปรายฟ้ามองตามอย่างระอาในความเผด็จการของเขา

                    “หมอ ตรวจน้องผมเสร็จรึยังครับ”คิมหันต์เดินมาหาคุณหมอสาวที่หมอปวรุจส่งมาแทน

                    “เสร็จแล้วค่ะ คุณเหมันต์ไม่เป็นอะไรมาก แค่หวัดธรรมดา เพราะแช่น้ำนานไปหน่อย หมอจัดยาให้แล้วนะคะ พักสักวันสองวันก็น่าจะหายเป็นปกติค่ะ”คุณหมอว่า

                    “ขอบคุณนะครับ ถ้าอย่างนั้นขอเชิญคุณหมอไปตรวจอาการภรรยาผมที่ห้องหน่อยครับ พักนี้เธอบ่นว่ามึนหัว”คิมหันต์ว่า ก่อนที่จะเดินน้ำคุณหมออกไป เหลือแต่เหมันต์กับกอแก้ว

                    “พี่คุณดูท่าทางจะห่วงพี่ฟ้ามากเลยนะ”กอแก้วมองตามคิมหันต์ไป

                    “ก็พี่ผมรักคุณฟ้ามากนี่ ก็ต้องห่วงกันเป็นธรรมดา”เหมันต์ว่า

                    “พี่ฟ้านี่โชคดีจังเลยนะ ที่ได้รักกับผู้ชายที่ดีอย่างคุณต้น”กอแก้วเริ่มเพ้อ

                    “นี่คุณ อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ ผมก็อยู่ทั้งคน จะมาข้ามหน้าข้ามตาผมได้ยังไง”เหมันต์แหย่

                    “ฉันหมายถึงในความเป็นจริงหรอกย่ะ ถ้าฉันได้มีคนรักอย่างคุณต้นก็คงจะดี  คงมีความสุขมากๆ แน่เลย”กอแก้วว่า

                    “แล้วถ้าผมอยากเป็นคนในความจริงของคุณล่ะ จะได้มั้ย”เหมันต์มองกอแก้วอย่างมีความหมาย

                    “อย่ามาพูดจากวนประสาทนะคุณเล็ก คุณก็รู้ว่าเราเริ่มต้นมาจากการหลอกลวง มันไม่มีทาง...”กอแก้วไม่รู้จะพูดอะไรออกมา เพราะตัวเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

                    “ทำไมจะไม่มีล่ะ เราก็ทำให้มันเป็นเรื่องจริงซะสิ ทุกคนก็จะได้มีความสุขไง”เหมันต์ว่า ก่อนที่จะดึงมือกอแก้วมากุมไว้ รอคำตอบ

                    “คือว่า...”กอแก้วไม่ทันจะได้ตอบก็มีเสียงโห่ร้องดังมาจากห้องของคิมหันต์ กอแก้วรีบลุกไปดู เหมันต์ก็พยุงตัวลุกขึ้นตามมาดูด้วยเช่นกัน ก่อนที่คิมหันต์จะวิ่งมาหาที่ห้องด้วยความตื่นเต้นดีใจ

                    “เกิดอะไรขึ้นครับพี่ต้น”เหมันต์ถามอย่างตกใจ

                    “ปรายฟ้า...ปรายฟ้า”คิมหันต์พูดได้แค่นั้นก็ยืนหอบเพราะความเหนื่อย

                    “พี่ฟ้าเป็นอะไรคะ”กอแก้วถาม

                    “ปรายฟ้ากำลังท้อง ฉันกำลังจะมีลูก เย้ๆๆๆๆ”คิมหันต์พูดก่อนที่จะกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ

                    “คุณพ่อครับ เป็นอะไรไปครับ”ต้นหนาวที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินมากับปลายฝนถาม
                    “ปลายฝน ต้นหนาวครับ บ้านเรากำลังจะมีน้องเพิ่มมาอีกคนแล้วนะครับ”คิมหันต์อุ้มลูกทั้งสองไว้บนตัก แล้วบอกด้วยความดีใจ กอแก้วสังเกตอาการของเด็กแฝดทั้งสอง กลัวว่าเมื่อรู้ว่าแม่กำลังจะมีน้องแล้วจะเกิดความอิจฉา แต่ภาพที่เห็นกลับตรงกันข้าม

                    “เย้ๆๆๆๆ”ทั้งสองต่างแสดงอาการดีใจอย่างออกนอกหน้า

                    “พวกเรารอตั้งนาน นึกว่าคุณพ่อจะทำให้พวกเราผิดหวังซะแล้ว คราวนี้คุณย่ากับคุณปู่คงดีใจที่จะได้อุ้มน้องตัวเล็กๆ นะคะ”ปลายฝนบอก ทำเอาพวกผู้ใหญ่อึ้งไปเหมือนกันที่แม้แต่ปลายฝนกับต้นหนาวยังรู้ความต้องการของผู้ใหญ่

                    “แต่ปลายฝนกับต้นหนาวไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ทุกคนในบ้านยังรักพวกหนูเหมือนเดิม ไม่ลดลงแน่นอน”เหมันต์ที่ตอนนี้เป็นคนป่วยอยู่ พูดให้กำลังใจหลานๆ

                    “ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ พวกเราเข้าใจ พวกเราดีใจซะด้วยซ้ำที่จะได้มีน้องให้พวกเราเล่นด้วย”ปลายฝนว่า ต้นหนาวก็พยักหน้าเห็นด้วย

                    “ถ้าอย่างนั้นเราไปหาคุณแม่กันดีกว่านะ ไปครับ”คิมหันต์พาลูกๆ ออกไปแล้ว เหมันต์หันหลังจะเดินกลับไปนอนที่เตียงแต่รู้สึกมึนหัว กอแก้วเห็นจึงช่วยพยุงไปที่เตียง

                    “ขอบคุณนะ”เหมันต์หันมาขอบคุณกอแก้ว

                    “ไม่เป็นไรหรอก เรื่องเล็กน้อย ว่าแต่บ้านนี้สอนเด็กๆ ดีนะคะ ดูท่าทางเด็กๆ ไม่อิจฉาเลยที่รู้ว่ามีน้อง ถ้าเป็นเด็กบางคนนะ อาจจะงอน น้อยใจที่ถูกแย่งความรักไป”กอแก้วว่า

                    “ความจริงแล้วพวกเราก็ไม่ได้ทำอะไรมากหรอกครับ แค่ทำให้เด็กๆ เห็นว่าเราให้ความรักกับพวกเขาจนพวกเขารู้สึกถึงมัน และคอยแนะนำให้เด็กๆ เกิดความคิดที่ดี มองโลกในแง่ดี ก็เท่านั้นเองครับ”เหมันต์ว่า

                    “นับว่าเป็นโชคดีของเด็กๆ นะคะ ที่ได้เกิดมาในครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นแบบนี้”กอแก้วรู้สึกดีใจแทนจริงๆ

                    “แล้วคุณอยากจะให้ลูกคุณโชคดีแบบนี้มั้ยล่ะ ผมยังว่างอยู่นะ ฮ่ะๆๆ”เหมันต์ได้ทีหยอด

                    “นี่แหน่ะ อีตาบ้า ใครเขาจะอยากได้ผู้ชายกวนประสาทอย่างคุณล่ะ”กอแก้วพูดไปก็ตีแขนคนป่วยไป

                    “โอ๊ยคุณ ผมป่วยอยู่นะ ใจร้าย รังแกคนไม่มีทางสู้”เหมันต์ทำเสียงออดอ้อน

                    “ก็คุณอยากจะพูดจาแบบนี้ทำไมล่ะ ไม่เอาแล้ว ฉันไปช่วยป้ากลอยใจกับแก้วใจทำอาหารดีกว่า ขืนอยู่ข้างบนนี้มีหวังได้เล่นงานคนป่วยอีกแน่ๆ”กอแก้วว่า ก่อนที่จะไปช่วยงานในครัว

                    หลังจากที่คิมหันต์โทร.ไปบอกพ่อกับแม่ที่กรุงเทพแล้ว ทั้งสองท่านก็รีบขึ้นเครื่องมาที่คฤหาสน์ทันทีพร้อมกับหมอปวรุจที่มาร่วมแสดงความยินดีด้วย

                    “ในที่สุด การรอคอยของแม่ก็สิ้นสุดลง แม่ไม่ผิดหวังจริงๆ คราวนี้แม่ก็หมดห่วงเรื่องอุ้มหลาน แม่ขอเวลาไปสะสางงานที่สวิสฯก่อนแล้วจะกลับมาช่วยเลี้ยงหลานนะลูก”คุณนภาพราวร่ายยาว

                    “ครับคุณแม่”คิมหันต์กอดมารดาไว้ เขาเองก็ดีใจไม่แพ้แม่ของเขาเช่นกัน

                    “ไง ไอ้เสือ ในที่สุดแกก็พิสูจน์ให้แม่แกเห็นได้แล้วนะว่าแกยังมีน้ำยา”คุณวสันต์ตบบ่าลูกชายคนโต ก่อนที่จะหันมามองลูกชายคนเล็ก

                    “แล้วเมื่อไหร่น้ำยาของแกจะออกฤทธิ์สักทีล่ะไอ้ลูกชาย”คุณวสันต์ถามต่อ

                    “คงยังหรอกครับพ่อ ช่วงนี้กอแก้วเขายังไม่พร้อม”เหมันต์ว่าเสียงอ่อยๆ

                    “อย่าให้ช้านะเจ้าเล็ก พี่ชายแกมีหลานให้ฉันสามคนแล้วนะ ระวังเถอะถ้าแกยังชักช้าอยู่ล่ะก็ แกอาจจะโดนลงโทษอย่างที่เสี่ยเม้งแนะนำก็ได้นะ”คุณนภาพราวว่า พอได้ยินชื่อเสี่ยเม้งทำเอากอแก้วและเหมันต์รู้สึกร้อนๆ หนาวๆอย่างบอกไม่ถูก

                    “คุณก็ อย่าขู่ลูกนักสิ เห็นมั้ย หนูกอแก้วหน้าซีดหมดแล้ว ไม่รู้ว่าใครป่วยกันแน่”คุณวสันต์พยายามพูดให้บรรยากาศกลับมาคึกคักเหมือนเดิม

                    “คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่เลยค่ะ”กอแก้วพูดออกไปอย่างนั้นเอง เพื่อไม่ให้ใครสงสัย

                    “เอาเป็นว่าเราหยุดเรื่องนี้ไว้ก่อนดีกว่ามั้ยครับ ผมว่าเรามาเปิดประเด็นใหม่ดีกว่านะครับ”หมอรุจเป็นคนออกความเห็น

                    “ประเด็นอะไรของแกวะ”คิมหันต์ถาม

                    “ก็เรื่องไอ้สิงห์น้องชายฉันน่ะสิ”หมอรุจว่า

                    “คุณสิงห์ทำไมคะ”ปรายฟ้าถาม

                    “ก็ไอ้สิงห์มันคิดจะทำอะไรที่ไม่เข้าท่าน่ะสิครับ เมื่อวันก่อนโน้นมาบอกผมว่าจะไปจัดการเรื่องบางอย่างอาจจะติดต่อมันไม่ได้ไปหลายเดือน ผมล่ะกลัวจริงๆ ว่ามันจะไปทำเรื่องเข้า ยิ่งตอนนี้น้องอิงไปอยู่เมืองนอกแล้ว ไม่มีใครห้ามมันอยู่แน่นอนครับ”หมอรุจว่า

                    “ใจเย็นๆ ก่อนนะหมอ  ป้าว่านายสิงห์เค้าคงไม่ทำอะไรที่มันเกินควรหรอกนะ ยังไงๆ นายสิงห์ก็เป็นสุภาพบุรุษนะ”คุณนภาพราวว่า

                    “แต่ก็อย่าเพิ่งประมาทนะคุณ เวลาความโกรธเข้าครอบงำจิตใจคนแล้ว คำว่าสุภาพบุรุษก็อาจจะไม่เหลือนะคุณ  แล้วยิ่งนายสิงห์ทั้งรักและห่วงหนูอิงมากขนาดนั้น ผมว่าอาจจะต้องมีคนที่จะต้องเสียใจเพราะนายสิงห์แน่นอน”คุณวสันต์พูดขึ้นทำเอาทุกคนเริ่มเครียด

                    “แต่ฟ้าว่าเราอย่าเพิ่งเดาไปก่อนเลยนะคะ บางทีมันอาจะไม่ใช่อย่างที่พวกเราคิดก็ได้นะคะ อีกอย่างถ้าคุณสิงห์ตัดสินใจแบบนั้นแล้วเขาก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาได้นะคะ”ปรายฟ้าว่า

                    “หมายความว่ายังไงครับที่รัก”คิมหันต์ไม่เข้าใจ

                    “สักวัน แล้วคุณจะเข้าใจคำพูดของฉันค่ะ แต่ตอนนี้ฟ้าว่าพวกเราไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่านะคะ เพิ่งเดินทางมาเหนื่อยๆ ด้วย ดีมั้ยคะ”ปรายฟ้าว่า

                    “ก็ดีเหมือนกันนะครับ ส่วนเรื่องนายสิงห์ผมว่าคงต้องปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตก็แล้วกันนะครับ”หมอปวรุจว่า

                    “ถ้าอย่างนั้นเชิญทุกคนไปพักผ่อนกันก่อนนะคะเดี๋ยวฟ้ากับแก้วจะไปช่วยในครัวทำอาหารก่อนนะคะ”ปรายฟ้าว่า ก่อนที่จะลกไปแต่คิมหันต์ดึงไว้ก่อน

                    “ไม่ต้องเลยนะคุณ”คิมหันต์ทำเสียงดุ

                    “ใช่ค่ะพี่ฟ้า พี่ฟ้ากำลังท้องกำลังไส้ เดี๋ยวแก้วจัดการเองค่ะ คุณต้นพาพี่ฟ้าไปพักเลยนะคะ”กอแก้วรีบให้คิมหันต์พาปรายฟ้าไปพัก เธอเองก็ห่วงพี่สาวเหมือนกัน ไม่อยากให้หลานในท้องเป็นอันตราย

                    “ได้เลยน้องสะใภ้”ว่าแล้วคิมหันต์ก็อุ้มปรายฟ้าขึ้นพาไปห้องพักทันที ทำเอาทกคนตกใจปนขำกับท่าทีคุณพ่อลูกสามหมาดๆ

                    “ไปกันเถอะคุณ ฉันอยากพักบ้างเหมือนกัน รู้สึกเหนื่อยๆ เหมือนกัน”คุณนภาพราวกับคุณวสันต์เดินขึ้นไปพักบ้าง

                    “นายเองก็ต้องพักเหมือนกันนะเจ้าเล็ก เดี๋ยวจะไม่หายป่วยเอา”หมอปวรุจเตือน

                    “โอเคครับ เอาเป็นว่าพี่หมอไปคุยเรื่องนายสิงห์กับผมที่ห้องดีกว่า จะได้เฝ้าผมแทนกอแก้วด้วยเลย เมียผมจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงจริงมั้ยที่รัก”เหมันต์หันมาถามกอแก้ว

                    “ค่ะ ถ้างั้นแก้วขอตัวก่อนนะคะ”กอแก้วหันไปบอกกับหมอรุจก่อนจะเดินเข้าไปช่วยในครัว

                    “เรื่องไอ้สิงห์เราต้องคุยกันยาวเลยว่ะ เดี๋ยวฉันไปตามไอ้ต้นมาคุยด้วยดีกว่า นายไปนั่งรอทีห้องได้เลย”หมอรุจว่า ก่อนที่ทั้งสองจะเดินขึ้นข้างบนพร้อมกัน

     

                    หลังจากที่ทุกคนได้รับประทานอาหารเย็นกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหมันต์กับกอแก้วจึงขอตัวขึ้นไปพักผ่อนบนห้องปล่อยให้ทุกคนนั่งพูดคุยกันต่อ

                    “คุณเล็กคะ แก้วว่าตอนนี้เราก็แต่งงานกันได้สักพักแล้ว แก้วว่าเรา...”กอแก้วยังพูดไม่ทันจบเหมันต์ก็พูดแทรกขึ้นมา

                    “นี่คุณอย่าบอกนะว่าคุณจะขืนใจผมน่ะ ไม่นะ ผมยังไม่พร้อม”เหมันต์แกล้งทำท่ากลัวได้น่าหมั่นไส้

                    “ไม่ใช่ค่ะ...แก้วจะบอกว่ามันถึงเวลาที่เราควรจะมาคิดกันว่าเราจะอยู่แบบนี้ต่อไป หรือว่าเราควรจะหยุดทุกอย่างไว้แค่นี้”กอแก้วมีท่าทีจริงจังจนเหมันต์ไม่กล้าเล่นต่อ

                    “ทำไมล่ะคุณ คุณไม่กลัวไอ้เสี่ยนั่นจะตามราวีคุณอีกเหรอ”เหมันต์ถาม

                    “ตอนนี้แก้วว่าเขาคงไม่มายุ่งกับแก้วแล้วล่ะค่ะ แต่ที่แก้วกังวลคงเป็นเรื่องที่เราโกหกทุกคนไว้มากกว่า แก้วกลัวว่าวันหนึ่งถ้าทุกคนจับได้ แล้วจะเกลียดแก้ว แก้วคงทำใจไม่ได้แน่ค่ะ”กอแก้วอธิบาย ยิ่งวันนี้ได้เห็นความรักและความอบอุ่นของครอบครัวนี้แล้ว เธอยิ่งทำร้ายพวกเขาไม่ลง

                    “แล้วทำไมเราไม่ทำให้มันเป็นเรื่องจริงไปซะล่ะ คุณจะได้ไม่ต้องกังวลอีก”เหมันต์ถามพร้อมกับส่งสายตาเปล่งประกายอย่างมีความหมายมาให้

                    “มันคงไม่ได้หรอกค่ะคุณเหมันต์ เพราะว่าเรา...ไม่ได้รักกันจริงๆ”กอแก้วพูดบอกเหมันต์และเตือนตัวเองไปพร้อมกัน

                    “ผมเข้าใจแล้ว ที่คุณอยากจะจบเรื่องของเราเพราะว่าคุณคงไม่อยากอยู่กับผมแล้วสินะกอแก้ว”เหมันต์ถามขึ้นบ้าง

                    “คุณอย่าใช้คำว่าจบเรื่องของเราเลยค่ะ เพราะจริงๆแล้ว เรื่องของเรามันไม่เคยเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ”กอแก้วว่า

                    “สรุปว่าคุณจะไปจริงๆใช่มั้ย นี่คุณเห็นว่าผมเป็นควายหรือไง ที่คุณจะสนตะพายไปทางไหนก็ได้ ผมเป็นคน มีหัวใจเหมือนกันนะคุณ ตอนแรกก็ให้ผมช่วย แต่พอหมดประโยชน์แล้วคุณก็จะถีบหัวส่งผม ฮึ แต่อย่าคิดนะว่าผมจะยอมง่ายๆ คุณทำให้ผมเจ็บได้ ผมก็ทำให้คุณขายหน้าได้เหมือนกัน!”เหมันต์พูดจบก็จะเดินออกไป แต่...

                    “...เจ็บกว่าการไม่มีความหวัง ก็คือการไม่ลืมความหลังเท้าก้าวเดินไป  แต่หัวใจหยุดตรงนั้น เธอรู้ไหมการคิดถึง  คนที่ไม่มีทางพบกันนั้นปวดร้าวและทรมานเหลือเกิน...” เสียงโทรศัพท์ของเหมันต์ดังขึ้นพอดี เขาจึงกดรับ

                    “ว่าไงครับน้ำฝน...อะไรนะ!!!ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้ แต่คุณใจเย็นๆ ก่อนนะ อย่าคิดอะไรบ้าๆ นะฝน คุณรอผมอยู่ที่เดิมของเรานะ ผมจะไปหาคุณให้เร็วที่สุด”พูดจบก็วางสายโทรศัพท์ แล้ววิ่งออกไปสั่งคนให้จองตั๋วเครื่องบินด่วนที่สุดเพื่อลงไปกรุงเทพฯ โดยไม่สนใจผู้หญิงที่ยืนรับฟังอยู่ด้านหลังเลยแม้แต่นิดเดียว...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×