ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิวาห์วุ่น...ลุ้นรัก

    ลำดับตอนที่ #11 : บทที่10 : รู้ความจริง

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 59


    บทที่10 : รู้ความจริง

     

                    “ผมบอกว่าข้างในมันไม่มีเสื้อ มีแต่เสื้อคลุมให้น่ะ สงสัยว่าคนจัดของจะลืมจัดชุดนอนให้”เหมันต์ว่าด้วยท่าทีที่ไม่สะทกสะท้าน

                    “แล้วจะให้ฉันนอนทั้งๆ ที่มีแค่เสื้อคลุมเนี่ยนะ ฉันจะนอนหลับได้ยังไงล่ะ”กอแก้วถามด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล

                    “แล้วคุณจะทำยังไง หรือว่าจะนอนทั้งๆ ที่ใส่ชุดเจ้าสาว ผมว่ามันคงจะพิลึกอยู่นะ เอาเป็นว่าคุณไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมออกไปหาชุดให้”เหมันต์ว่า กอแก้วจึงค่อยเดินไปอาบน้ำได้ เธอใช้เวลาอาบน้ำราวครึ่งชั่วโมงได้ เพราะกว่าจะทำใจให้สงบก็เกือบสิบนาที่แล้ว เมื่อเปิดประตูออกมาก็พบกับเหมันต์ที่นอนหลับอย่างมีความสุขอยู่บนเตียงนอน กอแก้วมองหาชุดนอนของเธอแต่ไม่พบ จึงตรงเข้ามาถามเหมันต์

                    “นี่คุณ ไหนบอกว่าจะหาชุดนอนมาให้ฉันไง”กอแก้วเขย่าตัวเหมันต์ แต่เขาจับข้อมือเธอไว้ ก่อนที่จะดึงให้ลงมาหาเขา

                    “ถ้าผมออกไปได้ คุณก็คงมีชุดนอนแล้วแหละ”เหมันต์ว่าอย่างหงุดหงิดที่โดนขัดขวางการนอน

                    “หมายความว่าไง”กอแก้วสงสัย

                    “ก็ประตูห้องมันถูกล็อกจากด้านนอก ผมออกไปไหนไม่ได้ คุณรู้แล้วก็รีบมานอนได้แล้ว ผมง่วง”เหมันต์ว่า แต่กอแก้วยังคงยืนนิ่งอยู่

                    “ตามใจคุณก็แล้วกัน ถ้าคุณจะยืนอยู่ตรงนั้นทั้งคืนก็เรื่องของคุณ คืนนี้ราตรีสวัสดิ์”พูดจบเหมันต์ก็นอนต่อ ปล่อยให้กอแก้วยืนคิดไม่ตกอยู่คนเดียว เวลาผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง ในที่สุดกอแก้วก็ทนไม่ไหว ด้วยความง่วง เธอจึงไปนอนบนเตียงข้างๆ เขาและหลับไปด้วยความเพลีย

     

                    เช้าวันต่อมา  บรรยากาศภายในห้องนอนอันแสนอบอุ่นปรากฏแก่สายตาของคุณนภาและคุณวสันต์ที่แอบเข้ามาดูลูกชายและลูกสะใภ้อย่างเงียบๆ

                    “ดูสิคุณ น่ารักจัง”คุณนภาพราวว่า

                    “คุณนี่ก็ แอบมาดูลูกแบบนี้ ถ้าพวกเขารู้เข้าไม่โกรธคุณแย่เหรอ ไหนจะเรื่องที่คุณให้คนมาล็อกห้องนี้อีก”คุณวสันต์ว่า

                    “คุณก็อย่าบอกพวกเขาสิคะ เอาอย่างนี้ เดี๋ยวเราไปเตรียมของขวัญต้อนรับสะใภ้คนเล็กของเราดีกว่า ปล่อยให้สองคนนี้นอนต่อไปดีกว่านะคะ”คุณนภาพราวว่า ทั้งสองคนจึงเดินจากไปทิ้งให้คู่บ่าวสาวที่นอนกอดกันกลมอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันนอนต่อไป

                    “อืม”เสียงของหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเหมันต์ทำให้เขารู้สึกแปลกไป ทำไมเช้านี้ถึงมีเสียงผู้หญิงในห้องนอนของเขาได้ พลันสติก็นึกขึ้นได้ว่าเขาแต่งงานแล้ว และผู้หญิงที่เขากอดอยู่นี้ก็คือภรรยาของเขานี่เอง เขาลืมตาขึ้นมาก็พบว่าแกฝ่ายก็ลืมตาขึ้นมาเหมือนกัน

                    “อ้ายยยยยยยยยยย/เฮ้ยยยยยยยยยยย”ทั้งคู่ต่างส่งเสียงดังด้วยความตกใจ ก่อนที่ทั้งสองจะผละออกจากกัน

                    “นี่คุณทำอะไรฉันฮะ”กอแก้วถามเสียงดัง ก่อนจะมองสำรวจร่างกายของตัวเองอย่างจับผิด

                    “ผมจะไปทำอะไรคุณได้ล่ะ ผมมากกว่านะที่ต้องถามคุณ ว่าคุณได้ทำอะไรผมรึเปล่า”เหมันต์ถามอย่าง กวนๆ

                    “ฉันจะไปทำอะไรคุณได้ล่ะ เมื่อคืนง่วงจะแย่”กอแก้วว่า

                    “นั่นไง ผมก็รู้สึกเหมือนคุณนั่นแหละ ทีนี้คุณก็เลิกคิดมากได้แล้ว เดี๋ยวผมออกไปดูก่อนว่าเขาไขกุญแจให้เราหรือยัง คุณก็ไปอาบน้ำรอแล้วกัน”เหมันต์ว่า ก่อนที่จะลงจากเตียงไปดูที่ประตู กอแก้วจึงเข้าไปอาบน้ำ เมื่อออกมาจากห้องน้ำก็พบว่ามีเสื้อผ้าชุดใหม่วางอยู่ที่เตียง ส่วนตัวของเจ้าบ่าวของเธอหายไปไหนก็ไม่รู้แต่ก็กอแก้วก็ไม่ได้สนใจ แต่งตัวของเธอจนเสร็จ

                    “เสร็จหรือยังคุณ”เหมันต์ที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาตาม

                    “เสร็จแล้ว”กอแก้วหันหน้ามามองคนถาม

                    “ดี งั้นไปกันเลย”เหมันต์บอกก่อนจะหันหลังกลับ

                    “นี่คุณ จะไปไหน บอกกันก่อนสิ ฉันตั้งตัวไม่ทัน”กอแก้วว่า

                    “ไปกินข้าวจะต้องตั้งตัวอะไรมากละคุณ”เหมันต์ว่าเสียงหงุดหงิด

                    “นี่คุณเป็นอะไรของคุณเนี่ย ไปหงุดหงิดใครมาถึงได้มาลงกับฉันฮะ ฉันบอกคุณตั้งกี่ครั้งแล้วว่าให้พูดกันดีๆ อย่ามาใส่อารมณ์กับฉันแบบนี้สิ”กอแก้วขึ้นบ้าง เหมันต์มองหน้าเธอนิ่ง เธอเองก็จ้องตอบอย่างไม่ยอมลดละ

                    “เอาล่ะ ผมขอโทษ ทีนี้จะไปกินข้าวกันได้หรือยังครับ ทุกคนรอเราอยู่”เหมันต์ว่า ก่อนที่จะผายมือออกให้กอแก้วเดินนำไปที่ห้องรับประทานอาหารของโรงแรม

                    “อ้าว มาแล้วหรอหนูแก้ว มาๆๆ มานั่งก่อนนะ เช้านี้หนูจะทานอะไรดีลูก ข้าวต้ม หรือว่าเบรคฟรัดช์”คุณนภาพราวพูดอย่างเอาใจจนลูกชายทั้งสองคนหมั่นไส้

                    “แก้วขอข้าวต้มก็พอค่ะ”กอแก้วพูดอย่างเกรงใจ

                    “ได้จ้ะ เดี๋ยวแม่ให้คนเตรียมให้นะ เอ้อแล้วนี่พวกหนูมีแผนว่าจะไปฮันนีมูนที่ไหนกันล่ะ”คุณนภาถามต่อ ทำเอาคู่ข้าวใหม่ปลามันทำหน้าไม่ถูก

                    “เอ่อ คืออย่างนี้ครับคุณแม่ แก้วเขายังเป็นห่วงป้าเค้าอยู่ ก็เลยอยากจะอยู่เฝ้าให้แน่ใจก่อนจนกว่าป้าจะหายดีน่ะครับแล้วเราค่อยคิดกัน ใช่มั้ยกอแก้ว”เหมันต์ถาม

                    “ค่ะ ใช่ค่ะ ตอนนี้แก้วอยากจะดูแลป้าให้หายดีก่อนค่ะ เรื่องอื่นค่อยว่ากัน”กอแก้วเออออตามเหมันต์ไป

                    “เอาอย่างนั้นก็ได้จ้ะ เดี๋ยวแม่จะให้หมอรุจดูแลอย่างดีเลยนะ หนูแก้วไม่ต้องเป็นห่วง อ้อ แล้วเรื่องที่จะสอนหนังสือปลายฝนกับต้นหนาวล่ะ จะเริ่มเมื่อไหร่ดีจ๊ะ”คุณนภาถาม

                    “ก็คงเร็วๆ นี้แหละค่ะ เดี๋ยวแก้วขอเตรียมการสอนก่อนสักพัก พร้อมแล้วจะเริ่มทันทีเลยค่ะ”กอแก้วว่า ก่อนที่ทุกคนจะทานอาหารเช้ากันไปอย่างเงียบๆ  หลังอาหารเช้าคุณนภาพราวกับคุณวสันต์แยกตัวไปทำธุระ ส่วนเหมันต์กับกอแก้วก็เดินทางไปเยี่ยมป้าอุไรที่โรพยาบาล

     

                    “ป้าป้าเป็นไงบ้างจ๊ะ”เมื่อกอแก้วเปิดประตูห้องเข้าไปก็เห็นป้าอุไรกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ สีหน้าดีขึ้นมาก

                    “ป้าไม่เป็นอะไรแล้วแหละไอ้แก้ว แล้วนี่เอ็งหายไปไหนมาเนี่ย ป้าตื่นขึ้นมาเมื่อเช้า นึกว่าเอ็งจะอยู่เฝ้าป้า ป้าน้อยใจนะเนี่ย”ป้าอุไรบ่นไปอย่างนั้นเอง แต่คนฟังรู้สึกผิดอย่างมากที่ดูแลป้าไม่ดี

                    “เป็นความผิดของผมเองครับคุณป้า”เหมันต์ออกรับแทน

                    “อ้าว แล้วพ่อหนุ่มคนนี้เป็นใครกันล่ะไอ้แก้ว”ป้าอุไรถาม

                    “เอ่อคือว่าเขาเป็น”กอแก้วไม่รู้จะอธิบายยังไง

                    “ผมเป็นสามีของแก้วครับคุณป้า เราแต่งงานกันเมื่อวานนี้ครับ”เหมันต์บอกไปในที่สุด ทำเอาสองป้าหลานตกใจไปตามๆ กัน

                    “นี่มันเรื่องอะไรกันฮะไอ้แก้ว อธิบายให้ป้าฟังเดี๋ยวนี้นะ”ป้าอุไรโมโห

                    “เอ่อ คือว่า เราสองคนแต่งงานกันแล้วจริงๆ จ้ะป้า พ่อแม่ของคุณเล็กก็รับรู้ และที่แก้วไม่ได้บอกป้าก็เพราะว่า ป้าไม่สบายอยู่ แต่ป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะ คุณเล็กเขาเป็นคนดี เขาดูแลแก้วได้แน่จ๊ะ”กอแก้วว่า

                    “ฉันขอคุยกับคุณตามลำพังได้มั้ย กอแก้ว ออกไปก่อน”ป้าอุไรมองหน้าหลานเขยอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนที่จะไล่หลานสาวออกไปจากห้องเพื่อคุยเป็นการส่วนตัว

                    “คุณคบกับหลานสาวฉันนานเท่าไหร่แล้ว”ป้าอุไรเริ่มถาม

                    “เราไม่เคยคบกันครับ”เหมันต์ตอบตามความเป็นจริง

                    “หมายความว่ายังไง ไม่เคยคบกัน อย่าบอกนะว่าที่ต้องแต่งงานเพราะคุณเจาะไข่แดงหลานของฉันแล้วน่ะ ฮะ!”ป้าอุไรขึ้น

                    “เปล่าครับ เราไม่เคยมีอะไรเกินเลยต่อกัน คือว่าผมอายุก็เข้าเลขสามแล้วนะครับ ที่บ้านก็อยากจะให้มีครอบครัวได้แล้ว แต่ผมก็ไม่แต่ง รอจนกว่าผมจะได้พบคนที่ผมรัก และผมก็ได้เจอแล้วครับ กอแก้วคือผู้หญิงที่ผมรัก มันอาจจะฟังดูตลกนะครับคุณป้า แต่ผมได้เจอเธอตอนยังเด็กที่ต่างประเทศ เธออยู่ข้างบ้านของผมครับ เธอชอบชวนผมเล่นหิมะตอนหน้าหนาว ผมเรียกเธอว่าเจ้าหญิงน้อย เพราะเธอน่ารักครับ แต่พอมาวันหนึ่ง ผมได้รู้ว่าพ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และเธอต้องเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อมาอยู่กับญาติ ตอนนั้นผมไม่เป็นอันทำอะไรเลยครับ เหมือนโลกทั้งใบกลายเป็นสีเทา ผมรู้ทันทีว่าผมหลงรักเด็กผู้หญิงข้างบ้าน ทั้งๆ ที่ตอนนั้นผมเพิ่งจะสิบขวบเองมั้งครับ เหตุนี้แหละครับที่ทำให้ผมขอกอแก้วแต่งงาน ทั้งๆ ที่พบกับเธอแค่เพียงสองครั้ง และกอแก้วเอง คงรู้สึกเหมือนผม เธอถึงยอมตกลงแต่งงานกับผม”เหมันต์ร่ายยาว พูดไปทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่เป็นความจริง  เขาเตรียมคำตอบเอาไว้แล้วว่า ถ้าป้าอุไรจับได้ เขาจะบอกว่าเขาอาจจะจำคนผิด แต่เขาก็รักกอแก้วไปแล้ว และไม่สามารถที่จะแต่งงานกับใครได้อีก แต่สิ่งที่เหมันต์ได้ยิน ทำเอาเขาอึ้ง

                    “เป็นคุณนี่เอง ไอ้แก้วมันได้เจอรักแท้ของมันซักที ป้าดีใจกับพวกคุณด้วยนะคะ ป้าก็ตกใจแทบแย่ ตอนแรกคิดว่าคุณจะมาหลอกหลานป้าซะอีก ทีนี้ป้าก็หมดห่วงแล้ว ป้าฝากหลานป้าด้วยนะคะ แก้วน่ะ รักคุณมากๆ เลยนะคะ ตอนที่กลับมาที่เมืองไทยใหม่ๆ ร้องหาแต่เจ้าชายๆ ตลอด จนป้าต้องพาไปหาหมอ หมอบอกว่าเป็นโรคอะไรซักอย่างเนี่ยแหละค่ะ คงจะกระทบกระเทือนเกี่ยวกับจิตใจ พอหมอรักษาเสร็จ ตื่นมาก็ไม่ร้องหาเจ้าชายอีกเลย หมอบอกว่าความทรงจำส่วนนั้นของแก้วน่ะหายไปแล้ว มันเป็นวิธีการปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวดอะไรซักอย่างเนี่ยแหละค่ะ ป้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่สงสัยว่าตอนนี้ ความทรงจำนั้นจะกลับมาแล้ว ป้าดีใจจริงๆ นะคะ เอาล่ะค่ะป้าขอตัวพักผ่อนก่อนนะคะ ส่วนคุณกับไอ้แก้วก็ไปฮันนีมูนกันเถอะค่ะ เพิ่งจะแต่งงานไม่ใช่เหรอคะ มีหลานให้ป้าอุ้มไวๆ นะ ป้าจะรอ”ป้าอุไรพูดอย่างอารมณ์ดี เธอไม่ต้องห่วงกอแก้วอีกต่อไปแล้ว เพราะมีคนดูแลกอแก้วได้ดีกว่าเธอแล้วในตอนนี้ แค่นี้เธอก็หมดห่วง และได้ทำตามที่เธอสัญญาไว้กับพ่อแม่ของกอแก้วว่าจะดูแลกอแก้วให้ดีที่สุด จนกว่าจะได้พบกับคนที่ดี

                    “คุณเล็ก ป้าฉันว่ายังไงมั่ง ท่านสงสัยอะไรมั้ย คุณเล็ก คุณ!”กอแก้วที่นั่งรออยู่ข้างนอกถามด้วยความกระวนกระวายใจ

                    “กอแก้ว”เหมันต์เรียกเธอเสียงเรียบ

                    “อะไรคุณ อย่าบอกนะว่าป้าฉันจับได้ ไม่เป็นไรนะคุณ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปอธิบายให้ท่านเข้าใจเอง”กอแก้วว่าก่อนที่จะลุกไป แต่เหมันต์คว้าตัวเอาไว้แล้วดึงเธอมากอดด้วยความคิดถึง

                    “นี่คุณเป็นอะไรรึเปล่าอ่ะ อยู่ๆ ก็มากอดฉัน”กอแก้วงง

                    “ขอให้ผมได้กอดคุณอย่างนี้ตลอดไปได้มั้ยกอแก้ว”เหมันต์ถาม

                    “จะบ้าเหรอคุณ จะมากอดอะไรตลอดเวลา ไม่มีงานทำหรอคุณน่ะ”กอแก้วแซวแต่เหมันต์ไม่ขำด้วย

                    “คุณตอบผมมาก่อนสิ ว่าคุณจะอยู่ให้ผมกอดคุณแบบนี้ทุกวัน”เหมันต์ถามอีกครั้ง

                    “ก็ได้ๆ ฉันจะอยู่ให้คุณกอดทุกวัน จนกว่าคุณจะเบื่อ พอใจมั้ย ทีนี้ก็ปล่อยฉันได้แล้วคุณเหมันต์”กอแก้วว่าก่อนที่จะดันตัวเหมันต์ให้ออกห่าง

                    “คุณก็อย่าเบื่อผมก่อนก็แล้วกัน”เหมันต์พูดจบก็จุ๊บแก้มภรรยาไปทีหนึ่ง และผลที่ตามมาก็คือกอแก้วซัดหมัดหนักๆ ไปที่ท้องเขาหนึ่งที

                    “ไอ้คนฉวยโอกาส คราวหลังเจอหนักกว่านี้แน่”พูดจบก็เดินออกไป

                    “นี่คุณจะไปไหน”เหมันต์ถาม

                    “ฉันก็จะไปเฝ้าป้าฉันนน่ะสิ ถามได้”กอแก้วว่า

                    “ป้าคุณไม่ให้คุณเฝ้าหรอก เขาเพิ่งบอกผมว่าเขาต้องการพักผ่อน แถมยังให้ผมพาคุณไปฮันนีมูนด้วย ท่านบอกว่าอยากอุ้มหลาน”เหมันต์ว่า

                    “อะไรนะ นี่คุณไปพูดอะไรกับป้าฉันเนี่ย ทำไมอยู่ๆ ถึงได้เปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้อ่ะ”กอแก้วสงสัย

                    “ไม่มีอะไรหรอก มันเป็นวาทศิลป์เล็กๆ น้อยๆ น่ะ ผมว่าเราไปทำตามความต้องการของพวกผู้ใหญ่กันดีกว่านะ”เหมันต์ว่า ก่อนที่จะจูงมือกอแก้วออกไป

                    “นี่คุณจะไปไหน”กอแก้วถามขณะที่โดนจับขึ้นรถ

                    “อ้าว ก็พวกท่านอยากมีหลานไง เราก็ไปทำหลานให้พวกท่านกันดีกว่า”เหมันต์พูดหน้าตาย

                    “จะบ้าเหรอคุณเล็ก เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย จะมีหลานให้ท่านได้ยังไงล่ะ”กอแก้วว่า

                    “ใครบอก เราเป็นสามีภรรยากันนะ จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้วด้วย”เหมันต์มองหน้ากอแก้วอย่างเอาจริงเอาจังจนกอแก้วขนลุกซู่

                    “คุณเล็ก อย่าล้อเล่นแบบนี้นะ ฉันกลัว”กอแก้วบอก เธอรู้สึกกลัวจริงๆ

                    “ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมพูดจริงๆ ว่าแต่ เราจะไปฮันนีมูนที่ไหนกันดีล่ะจ๊ะที่รัก”เหมันต์แกล้งทำหน้าหื่นใส่กอแก้ว

                    “ฉันไม่ไปหนทั้งนั้น ฉันจะกลับบ้าน ฮือๆๆ”กอแก้วกลัวจนตัวสั่นและร้องไห้ออกมา เหมันต์ตกใจรีบเข้ามาปลอบ

                    “เฮ้ยคุณ ร้องไห้ทำไม ผมล้อเล่น โอ๋ๆๆ ไม่ร้องนะคนดี ปกติกอแก้วที่ผมรู้จัก ไม่เคยเสียน้ำตาให้ใครไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมวันนี้บ่อน้ำตาตื้นซะจริงล่ะแม่คุณ”เหมันต์ถาม

                    “ก็ฉันกลัวนี่ นี่ฉันคิดผิดรึเปล่าเนี่ย จะหนีเสือปะจระเข้รึเปล่าก็ไม่รู้”กอแก้วว่า

                    “ผมไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย คุณหัดมองโลกในแง่ดีบ้างได้มั้ยเนี่ย”เหมันต์รู้สึกน้อยใจขึ้นมา

                    “ฉันจะไม่เชื่ออะไรง่ายๆ เด็ดขาด จนกว่าคุณจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น”กอแก้วว่า

                    “ได้ งั้นเรากลับบ้านกัน ไปบอกพ่อแม่ผมว่าเราจะแยกห้องกันอยู่”เหมันต์ขับรถอย่างรวดเร็ว

                    “ทำไมต้องแยกห้องด้วยล่ะคุณ เดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยหรอก”กอแก้วว่า

                    “ไม่เป็นไรหรอกคุณ เดี่ยวผมก็จะบอกไปว่าคุณน่ะ งอนผม ไม่ยอมให้นอนด้วยจนกว่าคุณจะหายงอน ดีมั้ย คุณจะได้สบายใจว่าผมจะไม่ทำอะไรคุณ”เหมันต์ขับรถไปพูดไป

                    “ก็แล้วแต่คุณก็แล้วกัน”กอแก้วว่า พลางคิดในใจว่า ที่เขาไม่ยอมนอนห้องเดียวกับเธอเพราะว่าไม่อยากอยู่ใกล้ๆกับเธอ เขายังคงคิดถึงเจ้าหญิงของเขาอยู่วันยันค่ำ แต่ที่เธอไม่เข้าใจคือ ทำไมเขาจะต้องบอกให้เธออยู่กับเขาให้เขากอดทุกวันด้วย ข้อนี้เธอไม่เข้าใจจริงๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×