คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา

ตอนที่ 84 : คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 81 จอมเวทย์

คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 81 จอมเวทย์



ใบหน้าทะมึนทึงของชายทั้งสามบ่งบอกอารมณ์ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี ไม่คิดว่าโทสะของพวกเขาจะถูกท้าทายโดยเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเช่นนี้



"ความจริงพวกข้าต้องการเพียงมาเยี่ยมเยียนน้องสาวและหลานทั้งสองเพียงเท่านั้น แต่กลับมาเจอผู้เยาว์ที่ไม่รู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่เช่นนี้ เห็นทีว่าข้าคงต้องสั่งสอนกิริยามารยาทที่ดีให้เสียแล้วมิเช่นนั้นสันดานเลว ๆ แบบนี้อาจติดต่อกันได้" หนึ่งในชายที่มาถึงพูดขึ้นอย่างถือดี



"อย่าให้เรื่องเข้าใจผิดเช่นนี้ทำให้พวกท่านต้องรำคาญใจเลย" บิดาของวาเลนก้าวออกมาต้อนรับ ก่อนที่จะพยายามปรับความเข้าใจและแก้สถานการณ์ตรงหน้าให้ดีขึ้น



"บอกพี่ชายของเจ้าเสียสิน้องหญิงว่ามันมิได้มีอะไร" บิดาของวาเลนหันมาและจงใจพูดโดยตรงกับหญิงสาวข้างกาย



"หึ ก่อนหน้านี้เป็นข้ามิใช่หรือที่ขอให้ท่านพี่จัดการเรื่องของอาวุโสสอง อาจารย์ของอลองเฟย์ที่ถูกโจมตีอย่างอยุติธรรมให้ แต่ท่านกลับวางเฉยไม่ใส่ใจ ตอนนี้เมื่อข้าต้องพึ่งพาญาติผู้พี่ที่มาถึงจัดการให้ท่านก็อย่าหาว่าข้าใจร้ายแล้วกัน" ใบหน้าที่คิดว่าตนเหนือกว่านั้นเชิดขึ้นอย่างเอาแต่ใจ ดวงตาที่โหดร้ายและไร้ความปรานีกวาดมองไปที่วาเลนและท่านหญิงวิเรร่าอย่างจงเกลียดจงชัง



"เจ้า.." อเลย์ โอเดลรอสถึงกลับมีสีหน้าที่ไม่พอใจ กลับกลายเป็นคนในเสียอีกที่บัดนี้กลับที่จะชักใบให้เรือเสีย การประชุมหารือที่จบไปไม่ได้ทำให้ตระหนักได้เลยหรือว่าตระกูลตอนนี้นั้นขาดอัจฉริยะที่จะเข้าประลองในงานราชันย์จตุรทิศอยู่มากน้อยเพียงใด



"อย่าได้บังอาจ! บังคับน้องสาวข้า" มีเสียงตวาดดังขึ้นมาจากชายอีกคนที่จับตาอยู่ข้าง ๆ มองการโต้เถียงนี้



"พวกท่านจะให้เรื่องราวมันบานปลายเช่นนี้จริง ๆ หรือ?" อาวุโสสูงสุดของตระกูลก้าวออกมายืนอยู่ใกล้ ๆ กับบิดาของวาเลนทันทีที่เห็นความเกรี้ยวกราดนี้จากจอมเวทย์หนุ่มอีกคน




"ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าพวกเจ้าจะเลือกอะไร? ระหว่างการสนับสนุนจากพวกข้าพี่น้องตระกูลไรท์เหมือนที่ผ่านมาหรือเลือกไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่กัน" ชายคนที่สามก้าวขึ้นมาและพูดจาวางมาด




"แพล่ม แพล่ม แพล่ม น่ารำคาญ! นี่ลุงถ้าคิดจะมาหาเรื่องกันแต่แรกก็อย่ามัวหาข้ออ้างทุบตีข้าผู้เยาว์อยู่เลย ไม่มีใครกล้าด่าว่าพวกท่านหน้าด้านไร้ยางอาย รังแกเด็กได้หรอก"




ในขณะที่วาเลนพูดและจับตาไปที่จอมเวทย์ทั้งสามปรากฏว่ามีเงาร่างลึกลับพุ่งเข้ามาหาเขาจากทางด้านข้างในพริบตา




ปรากฏว่าเป็นพี่ชายคนที่สามของเขา คุณชายสามอลองเฟย์ ที่ทนการยั่วยุตรงหน้าไม่ได้ ยุทธภัณฑ์วิญญาณแส้อสรพิษดำของเขาถูกนำออกมาใช้หมายจัดการตวัดฟาดไปที่วาเลน วิญญาณของยุทธภัณฑ์เผยร่างที่เป็นอสรพิษสีดำขนาดใหญ่พุ่งฉกออกมา



"คู่ต่อสู้ของท่านคือข้าคุณชาย!" สิ้นเสียงปรากฏสายฟ้าสว่างวาบนับสิบสายพุ่งสวนออกไปราวกับตาข่ายปิดกั้นการโจมตีของแส้สีดำและวิญญาณอสรพิษในชั่วพริบตา นี่เป็นช่วงเวลาอันตราย คู่ต่อสู้ครั้งนี้คือจอมเวทย์ที่ไม่อาจประมาทได้ คารีสไม่สามารถปล่อยให้คุณชายของเขาต้องรับมือกับคู่ต่อสู้อื่นได้อีกต่อไป



"คารีส!..ไอ้ขี้ข้าบัดซบ ได้เมื่อแกอยากตายมากนักงั้นวันนี้แกจะได้สมใจ"อลองเฟย์สบถด่าอย่างเกี้ยวกราด คารีสไม่สนใจคำปรามาสนั้นเขาเรียกอาวุธวิเศษระดับเงินขั้นสูงที่ได้จากวาเลนออกมาแล้วเตรียมพร้อมรับมือทันที



อลองเฟย์ยามที่ได้เห็นอาวุธในมือของคารีสอารมณ์ที่คุกกรุ่นก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธวิเศษประเภทดาบที่งดงามและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครนี้สมควรที่จะอยู่ในมือข้ารับใช้ของตระกูลงั้นหรือ?



"นั่นมันแร่ลีเจียนไม่ใช่รึ! เจ้าหนูนั่นมีมันได้อย่างไร?" หนึ่งในอาวุโสของตระกูลที่จับตาดูอยู่ถึงกับพึมพำออกมาอย่างคาดไม่ถึง



ในอีกด้านหนึ่ง จอมเวทย์สามพี่น้องที่ทนการสบประมาทจากวาเลนไม่ได้หนึ่งในนั้นตัดสินใจพุ่งเข้ามา ในบรรดาทั้งสามคนนี้ผู้ที่มีพลังสูงสุดและอันตรายที่สุดคาดว่าจะเป็นคนกลางที่อยู่ในฐานะของพี่ใหญ่มารดาคุณชายสาม เขามีพลังอยู่ในระดับของจอมเวทย์ขั้นสูงเลยทีเดียว



ทำไมวาเลนถึงสามารถตรวจสอบได้? นั่นเพาะเขาคือนักเวทย์เบญจธาตุ พลังอำนาจของธาตุทั้งห้าของเขายามนี้นั้นไม่เท่ากัน แต่ถึงอย่างนั้นหนึ่งในพลังธาตุพิเศษพฤกษาของเขาก็ก้าวเข้าสู่ระดับจอมเวทย์ขั้นสูงได้นานแล้วจากเหตุการณ์ที่ธาตุลมเลื่อนระดับขึ้นมาเป็นจอมเวทย์ขั้นต้นจนทำให้ธาตุพฤกษาที่เอาแต่ใจในกายของวาเลนอาละวาดและพัฒนาให้เหนือกว่า



ส่วนพลังธาตุอีกสามนั้นหยุดอยู่ที่ระดับของนักเวทย์ขั้นสูงและยังไม่มีทีท่าว่าจะเพิ่มขึ้นมาอีกเลย




"ตาย!" จอมเวทย์ที่กระโจนเข้ามาชี้นิ้วเข้าหาวาเลน มวลนำ้ขนาดมหึมาปรากฏออกมาให้เห็นและถาโถมเข้าใส่วาเลนราวกับคลื่นสึนามิในชั่วพริบตา



อาจารย์ทั้งสองของวาเลนไม่พูดพร่ำให้เสียเวลาเขาทั้งสองลอบตรวจสอบจอมเวทย์ตรงหน้าตั้งแต่การมาถึงแล้ว เมื่อเห็นการโจมตีที่มาถึงทั้งคู่จึงทะยานเข้ามารับมือแทนวาเลนพร้อม ๆ กันทันที



ปราการกำแพงดินของอาวุโสเอียนปรากฏขึ้นมาและต้านทานมวลน้ำขนาดใหญ่นี้ไว้ได้ แต่ทว่าจอมเวทย์ที่พุ่งเข้ามากลับแสยะยิ้มไม่ใส่ใจกับการต่อต้านนั้น ฝ่ามือของเขาโบกสะบัดเปลี่ยนมวลน้ำขนาดใหญ่ให้หมุนวนราวกับหัวสว่านกระแทกเข้ากับปราการกำแพงดินทันที

ในขณะที่มืออีกข้างกลั่นพลังให้กลายเป็นดาบวารีที่ดูน่ากลัวและเตรียมพร้อมที่จะคร่าชีวิตชายชราตรงหน้า

อาวุโสเมลล์ที่รอเวลา ปรากฏกายขึ้นมาและโจมตีขนาบจากทางด้านหลัง ในมือทั้งสองข้างของอาวุโสนักปราชญ์ถือยุทธภัณฑ์วิญญาณที่ทรงพลังถึงสองอย่างด้วยกัน หนึ่งคือพู่กันสีทองและสองคือคัมภีร์สีดำขนาดใหญ่



ภายใต้การใช้ยุทธภัณฑ์วิญญาณของอาวุโสเมลล์ทั้งสองชนิดนี้ มีวิญญาณที่ทรงพลังสองสีปรากฏออกมา ถึงร่างของมันจะเลือนลาง แต่ระดับพลังของมันนั้นไม่สามารถที่จะดูเบาได้ วิญญาณสีดำจากคัมภีร์สีดำขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่จอมเวทย์ธาตุน้ำราวกับพยัคฆ์ที่ดุร้าย ใบดาบวารีที่เตรียมฟาดฟันเข้าใส่อาวุโสเอียนถูกรั้งกลับมาและใช้ตั้งรับวิญญาณสีดำในช่วงเสี้ยววินาทีชีวิต




เมื่อเห็นพี่น้องกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายลำแสงพลังเวทย์ของธาตุไฟถูกยิงราวกระสุนปืนใหญ่เข้าใส่อาวุโสเมลล์ทันทีถึงสองสายพร้อมกัน




ชายชราผู้ได้ชื่อว่าจอมปราชญ์ ยกยุทธภัณฑ์วิญญาณสีทองอีกชิ้นขึ้นมาต้านรับพลังอำนาจของธาตุไฟที่ถูกยิงตรงเข้ามา




ภายใต้การโจมตีของจอมเวทย์ธาตุไฟคนที่สองมีพลังทำลายไม่ต่ำไปกว่าจอมเวทย์ขั้นกลางเลยทีเดียว ยุทธภัณฑ์วิญญาณพู่กันสีทองถึงกับสั่นไหว วิญญาณภายในยุทธภัณฑ์มีอำนาจที่หมองลงในพริบตาหลังจากที่ปะทะกับพลังงานธาตุไฟสายแรกจบลง



อาวุโสเมลล์มีสีหน้าที่คล้ำลงเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังเวทย์ธาตุไฟสายที่สองที่ยังคงพุ่งตามติดมา




"นี่เป็นช่วงเวลาแก้ตัวของท่าน...มันจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกต่อไป"ท่านหญิงวิเรร่าพูดเปรยขึ้นมาและจงใจเหลือบสายตามองไปยังบิดาของวาเลน




มือบางของเธอยกขึ้นมาและยิงพลังที่ทรงพลานุภาพยิ่งกว่าตอบโต้พลังงานสายที่สองที่ตรงมายังอาวุโสเมลล์ทันที โดยที่ไม่ละสายตาจากชายผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเธอ




"อาวุโสของตระกูลที่กล้าเข้ามายุ่งเกี่ยว กับการต่อสู้หลังจากนี้ ฆ่าพวกมันให้หมด!" ถ้อยคำที่อำมหิตถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากจากท่านหญิงวิเรร่า สตรีที่ยืนเยื้องออกมาทางด้านข้างชักกระบี่ออกมาและกระตุ้นพลังธาตุพิเศษของเธอทันที



ยามเมื่อได้มองเต็มตาจึงได้เห็นว่าสตรีผู้นี้คือเอเรียลที่วาเลนได้ช่วยมาจากนักฆ่าของตระกูลอิกไทน์ เพียงเวลาไม่นานภายใต้การฝึกฝนของท่านหญิงวิเรร่าหญิงสาวกลับมีระดับพลังที่เข้าใกล้กับจอมเวทย์เต็มที



แม้แต่วาเลนที่เหลือบไปมองก็ยังมีท่าทีที่แปลกใจ




--------
ฝันดีครับทุกคน