ตอนที่ 67 : คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 66 แผนการที่แท้จริง
คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 66 แผนการที่แท้จริง
การโจมตีที่ตระการตาพุ่งเข้าใส่ภูผาอัคคี มีเสียงระเบิดหนักทึบดังตามออกมา มันดังสะท้อนสะท้านราวกับจะพาให้แก้วหูระเบิด หลังเกิดการระเบิดเพียงช่วงเสี้ยววินาทีทุกชีวิตที่อยู่ในมิติบรรพชนรับรู้ได้ถึงการสั่นไหวในอากาศและพื้นดินอย่างรุนแรง
สถานการณ์ตรงหน้านั้นเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เศษเสี้ยวจิตวิญญาณของภัยพิบัติโบราณไม่ปล่อยให้การรอคอยของมันสูญเปล่า มันสั่งวิหคทั้งห้าที่เป็นดังหุ่นเชิดเข้าโจมตีสถานที่ ๆ ผนึกจิตวิญญาณของมันทันทีอย่างไม่ต้องการให้เสียเวลา
ผู้นำอย่างเหล่าองค์ชายกลายเป็นบื้อใบ้ราวกับไม่สามารถตัดสินใจสิ่งใดได้ ในหัวของพวกเขานั้นเรื่องราวต่าง ๆ กำลังตีกันวุ่นวาย แม้แต่คนที่ใจเย็นที่สุดอย่างองค์ชายสองก็ยังตื่นตระหนกกับสถานการณ์ในเวลาเช่นนี้ เรื่องเหล่านี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร! นี่คือคำถามในใจของหลาย ๆ คนที่ไร้คำตอบ
กว๊างงงงงงง กว๊างงงงง พรุบ พรุบ
หลังการโจมตีมีภาพฉายมายาขนาดใหญ่ปรากฏออกมาสองร่าง หนึ่งคือแสงสีทองสว่างที่ก่อร่างเป็นมหายักษ์โบราณ มันเรียกตัวเองว่าเผ่าพันธุ์ไททัน! ภาพตรงหน้ามีขนาดใหญ่โตตระหง่านราวกับจะครอบคลุมได้ทั้งภูผาอัคคี
เหนือหัวของมันขึ้นไปมีภาพฉายที่มีขนาดใหญ่ไม่แพ้กัน มันคือร่างของจิตวิญญาณหงส์เพลิงอัคคีที่สละตัวเองให้กลายเป็นผนึกที่กักขังยักษ์โบราณตัวนี้เอาไว้
ร่างหงส์สีแดงเพลิงขนาดใหญ่บินร่อนไปรอบ ๆ ร่างของยักษ์ไททัน มันกู่ร้องก้องกังวานอย่างน่ากลัว พลางจิกตีและใช้ปีกของมันตบลงไปยังร่างสีทองนั้นให้กลับลงไป แม้ภัยพิบัติโบราณจะใหญ่โตพอ ๆ กันแต่ทว่าร่างวิญญาณส่วนหนึ่งของมันนั้นยังถูกผนึกให้จมอยู่ในปล่องอัคคีจึงทำให้มันแทบไม่มีทางตอบโต้ได้
"นะนั่น....นั่นคือหงส์เพลิงอัคคีใช่ไหม."ผู้คนที่เฝ้าดูเบื้องล่างอดที่จะถามออกมาไม่ได้ วาเลนได้ยินถึงกับสงสัยเหตุใดคนเหล่านี้ยังอยู่และไม่รีบหนีออกไป? พวกเขาต้องการเป็นเหล่าคนมุ่งที่รอความตายอยู่ที่นี่หรือ?
"ทำยังไงดี" องครักษ์ขององค์ชายสามอย่างกาเร็ทกระซิบถามอย่างร้อนรนเรื่องนี้ใหญ่เกินกว่าที่เขาจะตัดสินใจทำสิ่งใดโดยไม่หารือได้
"นั่นสิ...ทำยังไงกันดี?"องค์หญิงสี่ผู้ที่เป็นคนเล่าเรื่องภัยพิบัติโบราณให้วาเลนฟังก่อนหน้านี้ยังแทบไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองจะโชคร้ายพอที่จะได้พบกับมันหลังจากผ่านไปนานหลายพันปีเช่นนี้
"ตอนนี้ทำได้เพียงอพยพคนเหล่านี้ออกไปให้เร็วที่สุด หากเป็นไปตามที่คาดการณ์ผนึกจะยังไม่หลุดเร็ว ๆ นี้ แต่หากยังมัวชักช้าข้าก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่ามันจะเกิดสิ่งใดขึ้น" ทันทีที่วาเลนพูดจบกลุ่มขององค์ชายสามและองค์หญิงสี่เคลื่อนกายออกไปยังทางออกทันทีโดยที่ไม่ต้องหยุดคิดแต่อย่างใด พวกเขาเห็นมาแล้วว่าคุณชายผู้นี้สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ยุ่งยากใจได้โดยที่ไม่มีใครกล้าทำ นี่จึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาเชื่ออย่างสนิทใจในคำพูดของวาเลน ผู้แข็งแกร่งมักคาดการณ์ถูกเสมอ
องค์ชายหนึ่งและองค์ชายสองเมื่อเห็นดังนั้นจึงสั่งคนของตนเองให้ล่าถอยเช่นกัน เหลือไว้เฉพาะบุคคลสำคัญแนวหน้าที่คิดว่าพอมีประโยชน์เอาไว้ต่อสู้ได้บ้าง
"พวกท่านทำอะไร? ทำไมถึงไม่รีบตามไปกัน ท่านคิดว่าข้าจะอยู่สู้กับมันหรือ? นี่มันภัยพิบัติโบราณที่แม้แต่ ตัวตนในตำนานเช่นบรรพบุรุษยังทำได้แค่ผนึกมันเอาไว้ ท่านคิดจะเอาอะไรไปสู้มันกัน" วาเลนหันกลับมาถามอย่างหัวเสียทันทีที่ยังพบว่ามีผู้คนอีกมากมายรั้งท้ายอยู่
เฉพาะตัวเขานั้นแทบไม่กังวลกับการหลบหนี หากต้องหนีจริง ๆ เขามีความเร็วที่คนอื่นมิอาจเทียบได้ จอมเวทย์ธาตุลมมิใช่คำสมอ้างธรรมดามันคือสถานะของผู้ที่มีความสามารถในด้านการใช้ธาตุลมที่มิมีใครจะมาเสมอเหมือนได้ ความพิเศษของนักเวทย์สายนี้จะมีสิ่งใดเด่นล้ำไปมากกว่าความเร็วนอกจากธาตุสายฟ้า
"เราสามารถหลบหนีไปได้...แล้วยังไง? ผู้คนด้านนอกมีมากมายเกินกว่าจะทิ้งพวกเขาไปได้ อาณาจักรจะอยู่อย่างไรหากต้องเผชิญหน้ากับมัน"เป็นองค์หญิงสี่ที่พูดออกมา แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความหวั่นใจแต่เธอยังคงระงับความกลัวข่มใจสู้
"น้องสี่พูดถูกและข้าคิดว่าเหตุผลที่เจ้ายังอยู่ก็เพราะเช่นนี้...บอกมาเถิดวาเลน จะให้เราทำอย่างไร?" องค์ชายสามพูดขึ้นมาแม้ว่าจะยังคงเสียใจกับการสูญเสียอสูรคู่ใจไปแต่เขายังต้องคงสติให้ได้
ในตอนนี้เรื่องตรงหน้าเรียกได้ว่าสำคัญกว่าสิ่งใด หากมัวมาเสียใจยิ่งจะทำให้สถานการณ์มีแต่เลวร้ายลง คาดว่านอกจากการใช้วิหคในการโจมตีเพื่อปลดผนึกแล้ว มันต้องคำนวนไว้แล้วว่าอสูรเหล่านี้ต้องมีผลกระทบต่อจิตใจ และนั่นก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายของมัน
"น้องเจ็ด เรื่องนี้ทุกคนมีส่วนร่วมได้เจ้าต้องไม่แบกรับมันไว้คนเดียว"อีเลนน่าหรือพี่รองของวาเลนเดินเข้ามาจับบ่าวาเลนเอาไว้เธอยิ้มและพยักหน้าอย่างจริงใจที่สุดให้กับเขาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน อีเลนน่ารู้สึกว่ามีภาพของพี่ใหญ่ทาบทับน้องชายผู้นี้ของเธอเอาไว้ เขาช่างมีนิสัยคล้ายกันเหลือเกิน
คารีสเดินเข้ามาอยู่ข้างกายวาเลนเขาพยักหน้าน้อย ๆ และไม่พูดสิ่งใดเพิ่มเติมเขาพร้อมเคารพการตัดสินใจของคุณชายเขาเสมอ
"เราจะร่วมด้วย.."แม้กระทั่งองค์ชายหนึ่งองค์ชายสองและตระกูลติดตามอื่น ๆ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนความคิดวาเลนในตอนนี้ พวกเขาต่างมีแผ่นดินเกิดที่อยู่ด้านหลัง หากอาณาจักรถูกทำลายจะมีประโยชน์อะไรที่จะแย่งชิงแผ่นดินที่ตายไปแล้วนี้กัน ดังนั้นพวกเขาจึงพร้อมที่จะร่วมมือกันในสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้
วาเลนพยักหน้า ถึงแม้ว่าจะมีความกลัวอยู่ในใจแต่หากไม่สู้ตอนนี้ จะให้สู้ตอนไหนนี่คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะตอบโต้กลับไป ในเมื่อผนึกยังไม่ถูกทำลายโดยสมบูรณ์นั่นก็หมายถึงพวกเขายังพอมีหวัง
"ได้...งั้นเราจะสู้ พวกท่านจะต้องทุ่มสุดฝีมือออกมา ข้าบอกได้เลยว่าหายนะครั้งนี้ยิ่งใหญ่เกินกว่าข้าจะคาดได้ ภัยพิบัติในอดีตที่พวกท่านได้ยินมาตอนนี้มันปรากฏอยู่เบื้องหน้าแล้ว"
"และตอนนี้สิ่งเดียวที่เป็นอุปสรรคในการตีโต้ตอบเพื่อหยุดยั้งการปลดผนึกของมันก็คือการจำกัดของกฎการบินเหนือพฤกษาอัคคีในมิติบรรพชน" วาเลนพูดด้วยท่าทีจริงจัง
"แต่หลังจากการคาดเดาของข้าก็พอที่จะหาช่องโหว่นี้ได้ องค์หญิงท่านมีวิธีการเร่งการเติบโตของพฤกษาอัคคีบ้างไหม"วาเลนลองถามเพื่อต้องการรู้ว่าความสามารถที่เขาจะใช้นี้เป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วไปใช้ได้ไหม วาเลนคือผู้ครอบครองธาตุทั้งห้าในร่างกาย ธาตุพฤกษาคือหนึ่งในนั้น และมันทรงพลังมากกว่าธาตุใดในร่างกายของเขา เห็นทีว่าคราวนี้ความลับที่ปกปิดมาคงไม่เป็นความลับอีกต่อไป
"ได้แน่นอน แต่มันต้องใช้เวลา ข้าสามารถใช้พลังธาตุเร่งการเติบโตของมันได้" องค์หญิงสี่ตอบแต่ใบหน้ามีความกังวลใจ
"แต่มันต้องแลกกับพลังเวทย์มหาศาลภายในร่างกาย ถึงองค์หญิงสี่จะอยู่ในระดับของนักเวทย์ขั้นกลางแต่พลังที่ต้องจ่ายออกไปอาจไม่เพียงพอและเป็นอันตรายได้หากฝืนมากเกินไปหากต้องใช้จริง ๆ ก็ต้องวางแผนให้ดี"อีเลนน่าพูดความกังวลใจขององค์หญิงสี่ออกมา เธอพูดออกตัวเป็นนัย ๆ ว่าการใช้พลังนี้มีโอกาสที่องค์หญิงสี่จะเป็นอันตราย
"ในทีมของข้าและน้องสองพอมีนักเวทย์ธาตุพฤกษาอยู่บ้าง...แต่พวกเขาออกไปแล้วก่อนหน้านี้ ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะมีประโยชน์เสียเท่าไหร่ในการต่อสู้เลยให้เร่งออกไป"องค์ชายหนึ่งพูดออกมา องค์หญิงสี่ใบหน้ากระตุกทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ ไม่มีประโยชน์งั้นหรือ?
"มีแน่นอนองค์ชาย...หัวใจสำคัญของการโจมตีนี้อยู่ที่ธาตุพฤกษา"วาเลนที่สังเกตเห็นสีหน้าองค์หญิงสี่รีบชิงพูดประโยคนี้ออกมาทันที ทำให้ใบหน้าของเธอเริ่มผ่อนคลาย เธอมององค์ชายหนึ่งพี่ใหญ่ของเธออย่างท้าทาย เหมือนองค์ชายหนึ่งจะรู้ว่าได้หลุดปากพูดในสิ่งที่ไม่สมควรออกไป จึงทำให้เขามีใบหน้าที่เหยเกทันที
การหารือต่าง ๆ เหมือนจะใช้เวลานาน แต่ทว่ามันกลับเกิดขึ้นไม่กี่นาที เมื่อวาเลนเห็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องผิดปกติมากเกินไปเขาจึงวางใจที่จะใช้มัน
"ข้าเข้าใจแล้ว...อย่าเพิ่งตั้งคำถาม ทำตามที่ข้าบอก..หาพฤกษาอัคคีต้นที่พวกท่านต้องการและขึ้นไปอยู่บนยอดของมันซะหลังจากนั้นเตรียมพร้อมที่จะโจมตี" คำสั่งเด็ดขาดออกมาจากปากของวาเลนพร้อม ๆ กับที่ตัวของเขานั้นกลายเป็นเงาเลือนลาง ร่างของเขาหายไปและปรากฏอีกครั้งเหนือยอดพฤกษาอัคคีต้นใหญ่ใกล้ ๆ
ไม่มีใครรอช้าพวกเขาทะยานไปตามพฤกษาอัคคีที่ไม่มีจิตวิญญาณเพราะมันจะไม่โจมตีผู้ที่เข้าใกล้มัน ศาสตราวิเศษและยุทธภัณฑ์วิญญาณถูกเรียกออกมาพร้อมที่จะทำการจู่โจมตามคำสั่งของวาเลน
"หึหึหึ มดน้อยต้องการฆ่าช้าง พลังของพวกเจ้ายังไม่เพียงพอที่จะต่อต้าน เจ้าไม่คิดว่าการท้าทายข้านั้นเป็นเรื่องตลกหรือยังไง ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอางั้นก็ได้!"
วาเลนไม่ปล่อยเวลาให้คำพูดเหล่านั้นบันทอนจิตใจ พลังงานของธาตุพฤกษาพลั่งพลูออกมาต้องรู้ว่าตอนนี้นอกจากธาตุลมที่พัฒนาแล้ว วาเลนกลับมีพลังของธาตุพฤกษาที่แข็งแกร่งกว่าอีกหนึ่งธาตุในครอบครอง
พลังงานสีเขียวถูกปลดปล่อยออกมาจากตัวของวาเลนราวกับคลื่นน้ำหลากมันอาบย้อมไปรอบบริเวณโดยมีวาเลนเป็นจุดศูนย์กลางขยายวงกว้างไปทั้งพื้นป่าดงพญาไฟถึงต้นไม้ส่วนใหญ่จะวิวัฒนาการจากธาตุพฤกษาไปดูดซับพลังงานของธาตุไฟเพื่อการอยู่รอดแต่ทว่ามันมิได้เปลี่ยนแปลงตัวตนของมันไป มันยังคงเป็นต้นไม้พลังธาตุพฤกษายังคงใช้ได้ดีกับมัน
ก่อนคำถามจะเกิดขึ้นในใจใครหลายคนลำต้นของพฤกษาอัคคีก็มีการเปลี่ยนแปลงในฉับพลัน มันเติบโตจากการซึมซับพลังงานของวาเลนและพุ่งทะยานยอดของมันขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็วกว่าที่ใครจะจินตนาการได้
องค์หญิงสี่อ้าปากค้างและกรีดร้องในใจ! นี่มันพลังบ้าอะไรกัน เขาสามารถควบคุมพฤกษาอัคคีเกือบทั้งป่าได้อย่างไร อาจารย์ในสำนักยังทำได้มากสุดพร้อมกันแค่ไม่กี่ต้น เรื่องนี้เธอจำเป็นต้องรู้ให้ได้เพราะนั่นหมายถึงความก้าวหน้าในอนาคตของเธอ
องค์ชายสามและกาเร็ทสูดหายใจลึก ด้วยความตกตะลึงเมื่อวาเลนใช้พลังของธาตุพฤกษาออกมา เขายังจำได้ดีว่าครั้งล่าสุดที่ต่อสู้กับวิหคทองคำอมตะในตระกูลโอเดลรอสนั้นคุณชายเจ็ดผู้นี้ใช้ออกด้วยธาตุทั้งสี่และมันไม่มีธาตุพฤกษา นั่นหมายความว่า เขาไม่ใช่นักเวทย์จตุรธาตุแต่เขาคือ นักเวทย์เบญจธาตุ! บุคคลที่สวรรค์โปรดปราน
"โจมตีวิหคทั้งห้ากันมันออกไป อย่าให้มันเข้าใกล้ภูผาอัคคี" คำสั่งนี้ของวาเลนถึงจะขัดใจผู้เป็นเจ้าของแต่ทว่ามันกลับหลีกเลี่ยงไม่ได้ การโจมตีหลายสายทะยานขึ้นไปในอากาศ เพื่อกันวิหคทั้งห้าตัวนั้นออกไป
ฮ่าาาาาห์
เสียงคำรามของยักษ์ร้ายในร่างมายาสีทองคำรามออกมามันเหลือบตาที่โหดเหี้ยมมองลงมายังเหล่าผู้ที่หาเรื่องตายท้าทายมัน ก่อนจะใช้พลังงานบางส่วนทุ่มเข้าใส่อย่างไม่ปรานี
หงส์เพลิงอัคคีเห็นดังนั้นจึงส่งเสียงร่ำร้องที่คล้ายกับเสียงเพลงโบราณออกมา พลังงานในมิติบรรพชนสั่นไหวราวกับตอบรับในเสียงนี้ของมันก่อกำเนิดสายธารอัคคีพุ่งขึ้นไปรวมตัวกันในอากาศมันก่อตัวเป็นร่างพลังงานของหญิงสาวที่ไม่มีใครรู้จักในรูปลักษณ์ของสตรีไฟที่ยืนหลับตา
เธอผลักฝ่ามือออกไปต้านทานพลังงานสีทองเอาไว้ มีสัญลักษณ์ที่หลายคนไม่เข้าใจปรากฏออกมามันพุ่งเขาหาพลังงานสีทองและครอบคลุมพลังงานเหล่านั้นเอาไว้ไม่ให้หลุดออกมาได้
ทำให้การโจมตีหลายสายยังคงสามารถพุ่งไปยังวิหคทั้งห้าและโจมตีพวกมันได้ ถึงร่างของพวกมันจะสะบักสะบอมแต่ยังไม่ถึงกับตาย จิตวิญญาณของยักษ์ร้ายมิได้ใส่ใจพวกมันยังคงห่ำหั่นกับหงส์เพลิงอัคคีอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็รับรู้ได้ว่าการโจมตีของมันไร้ผลต่อหน้าสตรีไฟท่ีโผล่ออกมา
"จิตวิญญาณโสโครก"เสียงของยักษ์โบราณสบถออกมาอย่างเกรี้ยวกราด มันมองร่างพลังงานของหญิงสาวที่ออกมาต่อต้านมันอย่างอาฆาตและเกลียดชัง
หลายคนโล่งใจที่พลังงานสีทองถูกหยุดเอาไว้ได้ ตอนนี้พวกเขาได้แต่มองวาเลนที่ยังคงไต่ระดับขึ้นไปพฤกษาต้นอื่นถูกหยุดการเติบโตเอาไว้เบื้องล่างให้ห่างจากการโจมตี
ร่างสตรีเปลวเพลิงหันกลับมายิ้มและลืมตาให้กับผู้เยาว์ที่อยู่ด้านล่างตรงหน้าเธอ
'สวัสดีลูกหลานหรืออาจจะเป็นเหลนของข้า...แต่ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครข้าเชื่อว่าภายใต้ธำมรงค์อัคคีที่ถูกเปิดโดยสายเลือดของข้าเจ้าคือผู้ที่มีความสามารถพอที่จะแบกรับภาระต่อไปได้..."
เมื่ออยู่ต่อหน้าสตรีเปลวไฟ ทุกคนกลายเป็นเงียบงัน เป็นไปได้ว่านี่คือจิตวิญญาณบรรพบุรุษผู้สละชีวิตสร้างธำมรงค์อัคคี มิติทับซ้อนที่ผนึกสถานที่อย่างภูผาอัคคีเอาไว้
'จงฟังให้ดี...ยักษ์ร้ายตนนี้มีพลังที่สามารถยึดครองจิตวิญญาณได้ อย่าหลงกลเข้าใกล้มัน มีเพียงจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่อย่างหงส์เพลิงอัคคีที่พอจะสะกดมันได้...ข้ายังสามารถยับยั้งมันได้ไม่นาน จงรีบออกไปและปิดการใช้ธำมรงค์อัคคีซะก่อนที่จะสายเกินไป! และจงอย่าเปิดจนกว่าเจ้าจะมั่นใจว่าสามารถต่อกรกับมันได้..จำเอาไว้ให้ดีลูกหลานของข้า" ความลับที่น่ากลัวถูกพูดออกมาหลังจากวาเลนทะยานขึ้นไปเพื่อเผชิญหน้ากับตัวตนโบราณ
วิหคทั้งห้าถูกวาเลนเข้าประชิดและใช้เปลวเพลิงแรกกำเนิดเผาผลาญโจมตี ไม่มีพลังใดทนการทำลายล้างของธาตุไฟในตำนานนี้ได้ ทันทีที่จิตวิญญาณปรสิตถูกเผาทำลาย วิหคทั้งห้าก็พลันได้สติทันที ร่างของพวกมันล่วงหล่นลงไปราวกับนกปีกหักที่ไม่สามารถปะคองตนเองได้ ดีที่เจ้าของแต่ละคนจับจ้องพวกมันเอาไว้จึงสามารถใช้พลังรับพวกมันแต่ละตัวกลับมาได้ในทันที มีเพียงวิหคทองคำอมตะที่ถูกองค์หญิงสี่รับไว้ได้ก่อนที่มันจะล่วงหล่นลงไปกระแทกดิน
เท่าที่ดูมีเพียงวิหคทองคำอมตะเท่านั้นที่อยู่ในอาการน่าเป็นห่วง บัดนี้จิตวิญญาณดั้งเดิมของมันค่อย ๆ กลับมาแต่ในสภาวะที่ถูกสะกดวิญญาณไว้นานจึงทำให้มันค่อนข้างอ่อนล้าอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นจิตวิญญาณของมันเกือบถูกกัดกินและแทนที่โดยสมบูรณ์ นี่นับเป็นโชคของมันอย่างมหาศาลที่ผ่านวิกฤตนี้มาได้
เหตุการณ์ที่น่ากลัวจริง ๆ ยังไม่ผ่านไปถ้อยคำที่สตรีร่างไฟพูดเตือนก้องอยู่ในหัวของคารีส เขากรีดร้องเสียงหลงอย่างตกใจสุดขีดยามเมื่อเห็นคลื่นสีทองเคลื่อนกายเข้าประชิดวาเลนเป็นโดมวงกลมโดยไม่เปิดทางหนี
วาเลนระเบิดพลังที่มีทั้งหมดออกมา ในขณะที่หงส์เพลิงอัคคีก็เข้ากระหน่ำโจมตีราวกับพายุคลั่งเพื่อหวังให้เด็กชายได้หลุดออกมา ทว่าราวกับนี่เป็นสิ่งที่ภัยพิบัติโบราณคาดหวังมาตั้งแต่ตนมันจึงยอมแลกกลับจิตวิญญาณเกือบทั้งหมดที่มี
ของเพียงแค่เศษเสี้ยวส่วนหนึ่งของมันที่สามารถเข้าไปควบคุมเด็กชายตรงหน้าได้ มันยอมให้วิญญาณส่วนใหญ่ถูกทำลายโดยไม่ต้องการป้องกัน ปรากฏว่าแผนการทั้งหมดนั้นมันพุ่งเป้ามาที่การยึดครองร่างของวาเลน เด็กชายผู้เคยต่อสู้กับมันก่อนหน้านี้ ผู้เยาว์ที่มีระดับพลังและสมบัติที่ไม่ธรรมดาหากมันสามารถยึดครองร่างได้ ทุกสิ่งที่มันคิดไว้จะดำเนินการได้สะดวกสบายเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด
"หึหึหึ ..ในที่สุดเจ้าก็มา...จงกลายมาเป็นภาชนะให้ข้าซะดี ๆ " เสียงนี้ราวกับจิตวิญญาณของผีร้ายมันครอบคลุมร่างและแทรกซึมเข้าไปในกายของวาเลนอย่างช้า ๆ จิตวิญญาณของมันตลุยฝ่าเข้าไปราวกับอาชาศึก จิตสำนึกของมันพุ่งพล่านเข้าไปในจุดที่ลึกที่สุดในกาย ช่องทางที่ต้องผ่านไปยังจิตใจและวิญญาณนั่นก็คือโลกแห่งจุดกำเนิดแห่งพลัง!
----------------------------------------------------------
จริง ๆ วางแผนให้การต่อสู้จบในตอนนี้ แต่จบไม่ลงอ่ะ ยังมีตัวละครที่ยังไม่ออกและปมเชื่อมอีกเล็กน้อยค่อยจบการต่อสู้พาร์ทนี้ในตอนหน้านะครับ กลัวจะเบื่อกันอยู่ในป่านาน ^_^
เอามาให้หายคิดถึงก่อน จะได้ไม่ค้าง
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์และกำลังใจที่คอยให้กันนะครับผม รักเหมือนเดิม จุ๊บ
*****แก้ไขเล็กน้อยครับ******
เครดิตครับ https://wallpaperscraft.com/
ภัยพิบัติโบราณ เผ่าพันธ์ุไททัน
สตรีเปลวเพลิง
วิหคทองคำอมตะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โธ่ลูกค่าตัวแพงก่องี้555 นานทีจะมา สนุกมาอ่ะไรท์ปมเยอะตลอดซับซ้อนมากๆ
เขียนได้ค้างมาก ไรท์เซียนจริงๆ
ค้างมากกกกก
ทั้งลุ้นทั้งค้าง
ไม่รู้ว่าใครจะโดนแผนใคร ในนั้นต้นไม้โลกเป็นใหญ่นา เอ็งจะไหวเรอะ?
เราไม่เบื่อ แต่เราค้างมาก เหมือนวาเลนที่อยู่บนยอดต้นไม้😭😭😭