ตอนที่ 60 : คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 59 มยุราสวรรค์
คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 59 มยุราสวรรค์
ดินแดนบรรพชนของราชวงศ์กรีนแลนด์นั้นคือสถานที่ ๆ หงษ์เพลิงอัคคีเลือกเป็นสถานที่พักกายครั้งสุดท้ายของมัน เปรียบไปแล้วก็คล้ายกับสถานที่แห่งหนึ่งภายในป่าบรรพกาลเขตใน นั่นก็คือผาคืนวิญญาณ ที่ ๆ ราชินีดรายแอดส์พาวาเลนไปเก็บแก่นเวทย์อสูรระดับสูงมาไว้เป็นทรัพยากรบ่มเพาะมากมาย
จากบันทึกในหอสมุดของตระกูลนั้น อาวุโสเมลล์ผู้เป็นอาจารย์อีกคนของวาเลนได้อนุญาตให้เขาเข้าไปศึกษาข้อมูลที่อยากรู้ได้นานแล้ว ข้อมูลส่วนหนึ่งของพวกมันจึงถูกวาเลนศึกษามาบางส่วนแต่มันกลับยังมิใช่ทั้งหมด
สิ่งที่เขาอยากรู้มากกว่านั้นคือ ตำนานจตุรเทพผู้พิทักษ์ของพวกมันนั้น เกี่ยวโยงกับภัยพิบัติโบราณที่ราชินีดรายแอดส์ได้พูดถึงหรือไม่?
ไม่มีใครตอบคำถามเหล่านี้ได้ แม้แต่ในบันทึกของหอสมุดที่อาวุโสเมลล์ดูแลก็เช่นกัน
พวกมันถูกกล่าวขานและยกย่อในฐานะที่ทรงพลังเพียงเท่านั้น ประวัติการพิทักษ์หรือปกปักษ์ของพวกมันราวกับถูกเก็บซ่อนเอาไว้หรืออาจเป็นไปได้ว่าผู้ทรงพลังในยุคอดีตจงใจที่จะไม่พูดถึงมัน
เมื่อเสร็จสิ้นคำประกาศ ทุกคนพากันลุกขึ้นให้เกียรติแก่กษัตริย์ไมเทรียส พระองค์พยักหน้าพอเป็นพิธี ก่อนที่จะลุกเดินออกจากห้องโถงไป วิหคทองคำอมตะลืมตาขึ้นและกระพือปีกของมันหนึ่งครั้งบินออกจากคอนทองคำ มันบินวนเป็นโค้งสวยงามรอบห้องโถงหนึ่งครั้ง วาเลนเห็นมันตั้งใจมองมายังเขาก่อนจะบินจากไป
ถึงตอนนี้วาเลนจะไม่รู้ว่าวิหคทองคำอมตะจะมีแผนการเลวร้ายอันใด แต่ทว่าเขาจะไม่ยอมให้ความกังวลใจในเรื่องนี้มากีดกั้นโอกาสดี ๆ นี้ออกไปอย่างแน่นอน
"ท่านมีแผนการสำหรับเรื่องนี้อย่างไรองค์ชาย" วาเลนหันไปถามองค์ชายสามที่มีท่าทีกังวลใจ
"เจ้าจะเข้าร่วมด้วยอย่างนั้นหรือ ? คุณชายเจ็ด..."องค์ชายสามถามขึ้นอย่างแปลกใจ แต่ทว่าในน้ำเสียงนั้นเติมไปด้วยความยินดี ด้วยเพราะคิดว่าหากครั้งนี้เด็กชายปฏิเสธที่จะร่วมทีมด้วยก็จะไม่บังคับฝืนใจ
เหตุการณ์ในครั้งก่อนนั้นยังคงฝังใจจนทุกวันนี้ เขาพลาดที่วางแผนไม่ดีและเกือบทำให้ลูกทีมต้องตกตาย แถมคุณชายเจ็ดยังมาหายไปอีก ถึงแม้ว่าตอนหลังเขาจะรอดกลับมาราวกับปฏิหาริย์ แต่จะให้เขาทำราวกับว่ามันไม่เคยเกิดอะไรขึ้นได้อย่างไร?
"ข้าจะพลาดโอกาสดี ๆ อย่างนี้ได้อย่างไร องค์ชาย" วาเลนตอบพลางยิ้มน้อย ๆ ตามสไตล์ของเขา
"ดีจริง ๆ เช่นนั้นกาเร็ท เจ้าพาคุณชายเจ็ดและคารีสไปห้องพักผ่อนก่อน ข้าจะไปพบท่านแม่สักครู่แล้วจะตามไป" องค์ชายสามพูดอย่างดีใจ เขาหันมาพยักหน้าน้อย ๆ ให้วาเลนก่อนจะผละออกไปพบกับหญิงสาวที่มีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าจอมที่สองของราชวงศ์กรีนแลนด์
ห่างออกไปวาเลนพบว่ามารดาขององค์ชายสามได้มองเขาอยู่ก่อนแล้ว แวบแรกวาเลนแอบตกใจ เนื่องจากเธอมีใบหน้าละม้ายคล้ายกันกับมารดาของเขาในบางมุมอย่างมาก วาเลนค้อมกายเป็นการแสดงความเคารพแก่หญิงสาว เธอยิ้มและพยักหน้าเบา ๆ ตอบกลับมา ก่อนที่จะหันไปหาบุตรชายของเธอ
"คุณชายเจ็ด คารีส เชิญตามข้ามา"กาเร็ทนำทางทั้งสองออกมาจากห้องโถงงานเลี้ยงของราชวงศ์ทันที ทั้งสามเดินออกมาตามด้วยเบญจดาราที่ยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว
ทั้งหมดเดินทางไปยังห้องพักผ่อนที่กาเร็ทได้จัดเตรียมเอาไว้ การเดินทางนี้ไม่สมควรที่จะมีปัญหาแต่อย่างใด แต่ทว่ากลับมีการโจมตีเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ภายในอาณาเขตของพระราชวัง!
ควั๊บ เฟี้ยบ ผลุ ผลุ ผลุ
เสียงหวีดของอากาศจากขนวิหคชนิดหนึ่งพุ่งเข้ามาที่คณะของวาเลนอย่างรวดเร็วนับสิบเส้น แต่ละเส้นล้วนติดใบมีดที่แหลมคมราวใบมีดโกนเอาไว้ หากนี่คือการรอบโจมตีก็นับว่าเหี้ยมโหดเป็นอย่างมาก ขนนกเหล่านั้นทำท่าจะพุ่งปาดไปที่ลำคอและใบหน้าของคนในคณะของวาเลน ราวกับมีเจตนาที่จะสังหารผู้คนทั้งหมดให้ตกตายในคราเดียว
นับเป็นการลงมือที่รวดเร็วและฉับไว แต่ทว่ามันยังรวดเร็วไม่มากพอเมื่ออยู่ต่อหน้าของคุณชายเจ็ด ต้องรู้ว่าวาเลนนั้นเพิ่งผ่านการเลื่อนระดับชั้นของพลังธาตุลมมาเขาสามารถก้าวเขาสู่ระดับจอมเวทย์ขั้นต้นของธาตุลมได้ การโจมตีด้วยความเร็วระดับนี้จึงไม่ได้มีอะไรน่าตกใจในสายตาของเขา
อีกทั้งการคงอยู่ของผู้โจมตีก็ถูกอำนาจสัมผัสวิญญาณของธาตุพฤกษาเปิดเผยได้นานแล้วเพียงแค่วาเลนเลือกที่จะไม่สนใจ หากนับว่าธาตุลมในกายเขาทรงพลังแล้ว นั่นยังเทียบไม่ได้กับธาตุพฤกษาที่ยิ่งใหญ่นี้ มันทำตัวราวกับเป็นพี่ใหญ่ในมหาสมุทรแห่งพลัง แม้แต่วาเลนบางครั้งยังถูกผลกระทบจากความเอาแต่ใจของมัน
วาเลนสะบัดมืออย่างไม่ใส่ใจไปทางขนนกที่ดูอันตรายทั้งสิบเส้นนั้น บังเกิดกระแสลมปั่นป่วน เข้ากระแทกกระทั้นพวกมันกระเด็นออกไปทันที
คารีสและกาเร็ทลอบตื่นตัวในทันทีหลังจากที่วาเลนลงมือ นี่ทำให้รู้ว่าการโจมตีนี้แม้แต่นักเวทย์ขั้นสูงอย่างคารีสก็อาจพลาดท่าให้กับมันได้หากมิได้ตั้งตัว
เบญจดาราทั้งสองเคลื่อนกายมาบดบังคารีสและกาเร็ทเบื้องหน้าอีกที ทั้งสองแม้จะมีอาการตระหนกตกใจแต่ทว่ายังคงมีความกล้าหาญที่จะออกมาเป็นแนวหน้าป้องกันให้กับเจ้านาย
คารีสยกมือขึ้นสูงบนฝ่ามือนั้นเต็มไปด้วยประกายสายฟ้า นัยน์ตาเย็นเฉียบเฉยชาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าที่ถูกโจมตี เขาเตรียมที่จะซัดพลังเข้าหาต้นทางของขนนกที่พุ่งโจมตีออกมาอย่างประสงค์ร้าย
วาเลนจับไหล่ของสหายคู่ใจยับยั้งการกระทำของเขาเอาไว้ก่อนกระซิบบางอย่างข้างหูเด็กชาย "เขตราชวัง" คารีสจึงรั้งพลังเอาไว้ยังไม่ปล่อยออกไป แต่ท่าทางของเขานั้นมิได้ผ่อนคลายลง มันยังคงแสดงให้เห็นว่าหากยังมีการโจมตีละลอกที่สอง เขาก็พร้อมที่จะปะทะพลังโดยไม่สนว่าจะมีผลกระทบอะไรตามมา
อว๊างง อว๊างงงง
เมื่อการโจมตีของมันพลาดเป้าร่างของอสูรวิหคสีขาวที่มีท่วงท่าราวกับราชินีก็โผบินออกมา นี่คืออสูรวิหคในตระกูลมยุราสวรรค์ ความงดงามของมันนั้นนับเป็นอันดับต้น ๆ ก็ว่าได้
ถึงร่างกายและรูปทรงภายนอกจะดูสวยงามน่าหลงไหล แต่ทว่าดวงตาที่แข็งกร้าวและใบมีดที่ติดอยู่กับแพนหางของมันกลับดูดุร้ายและไม่น่าไว้ใจ มันบินโฉบออกมาเผยโฉมเพียงไม่นานก่อนที่มันจะบินลับหายไปในรัตติกาลเบื้องหน้าทันที
"มยุราสวรรค์อาราน ขององค์ชายสอง"กาเร็ทพูดขึ้นอย่างตกใจ
"เหตุใดมันจึงลอบโจมตี? "คารีสถามเสียงเย็นอย่างไม่สบอารมณ์
กาเร็ทถอนหายใจด้วยไม่รู้จะตอบอย่างไรดี โดยเฉพาะเรื่องราวในราชวงศ์ นี้มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและอันตราย หากพูดออกไปโดยไม่ระวัง
การแข่งขันระหว่างองค์ชายนี้ทวีความดุเดือดขึ้นทุกขณะ ราวกับว่าไม่มีใครยอมใคร อำนาจของกษัตริย์ที่จะสืบทอดต่อจากพระบิดา สามารถบีบให้พวกเขาถึงกับลงมือเข่นฆ่าได้อย่างไม่ละอายใจ ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นใคร ตราบเท่าที่ไม่ใช่พวกเดียวกันคนเหล่านั้นก็ไร้ความหมาย
เมื่อกาเร็ทมีทีท่าหนักใจและเลือกที่จะไม่ตอบคารีสจึงหันไปสำรวจดูรอบกายคุณชายของเขา วาเลนรอบขำเมื่อสหายสนิทดูไปบ่นไป
"หากท่านถูกโจมตีข้าจะให้มันได้สู้ตายกับธันเดอร์ "คารีสบ่นเสียงเขียว เด็กชายมีความคิดเช่นนั้นในใจจริง ๆ ราชวงศ์มิได้ให้สิ่งใดแก่เขา แต่กับคุณชายเจ็ดผู้นี้มิใช่ คารีสมีทุกวันนี้ได้เพราะคุณชายผู้นี้ ไม่แปลกที่เขาจะอดห่วงใยมิได้ ความสัมพันธ์นี้ยิ่งกว่าพี่น้องในใส้ที่สนิทกัน
"เห็นทีข้าคงต้องรีบรายงานให้องค์ชายสามได้ทราบ" กาเร็ทพูดขึ้นอย่างกังวลใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"อย่าให้เป็นเรื่องวุ่นวายเลย ข้ามิได้เป็นอะไร เรารีบไปรอองค์ชายสามยังที่พักดีกว่า เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลัง" วาเลนยังคงมีท่าทีสบาย ๆ บางเรื่องไม่ควรเร่งรีบจนเกินไป หากไม่คิดให้ดีและวู่วามเกินไปเราอาจตกลงไปในหลุมพรางของผู้ไม่หวังดีได้
ทั้งหมดเดินทางต่อไปยังที่พัก เวลาผ่านไปซักพักองค์ชายสามก็ตามมาสมทบ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้วาเลนจะห้ามกาเร็ทเอาไว้ แต่ถึงอย่างไรกาเร็ทก็จำเป็นต้องรายงานให้ผู้เป็นนายทราบ
องค์ชายสามมีท่าทีกรุ่นโกรธในทันทีที่ฟังเรื่องราวจากองค์รักษ์คู่กาย ขนาดนี่เป็นเขตราชวังยังเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้ ต่อไปจะมีสถานที่ไหนที่ปลอดภัยและไว้ใจได้อีกกัน
"พี่รองเป็นผู้ที่มีนิสัยเจ้าเล่ห์ที่สุดอีกทั้งยังเจ้าปัญญามากที่สุดในบรรดาบุตรของพระบิดา แม้แต่ข้าบางครั้งก็ไม่เข้าใจในการกระทำของเขาเช่นกัน" องค์ชายสามพูดอธิบายออกมาอย่างหนักใจ
วาเลนพยักหน้าเข้าใจ เขามีบางสิ่งคาดการณ์ไว้ในใจอยู่แล้ว มยุราสวรรค์ขององค์ชายสองนั้นมาเพื่อลองเชิงฝีมือของแขกหน้าใหม่เช่นเขาเพียงเท่านั้น ถึงแม้ว่าการจู่โจมนั้นจะเหี้ยมโหดและดุดันแต่เขารู้ว่านั่นมันยังมิได้ใช้พลังที่แท้จริงทั้งหมดของมันออกมา
วิหคตัวนี้มีความฉลาดที่แม้แต่วิหคทมิฬและวิหคอัคคียังไม่มีทางเทียบได้ ภายนอกดูเหมือนอสูรประเภทสวยงามทั่วไป แต่หากใครคิดประมาทมัน หลังจากนั้นวาเลนเชื่อได้ว่าคน ๆ นั้นจะต้องพบเจอกับเหตุการณ์หายนะที่เลวร้ายอย่างแน่นอน
"องค์ชายถ้าตามที่ข้าทราบมา การแสวงหาโชคลาภภายในมิติบรรพชนของท่านนั้นนับว่าน่ากลัวก็จริง แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่ข้ากังวลมากกว่านั้นคือภัยร้ายจากภายนอกที่เข้ามาพร้อมกับเรามากกว่า" องค์ชายสามมิใช่คนโง่ เขารู้ว่าวาเลนพูดเป็นนัยให้เขาเข้าใจว่ามิได้กังวลกับอันตรายจากภายใน แต่กับกังวลกับอันตรายจากเหล่าผู้คนภายนอกที่มีจิตคิดร้ายมากกว่า ไหนจะวิหคทองคำอมตะที่ไม่รู้ว่ามีแผนการอะไรซ่อนเอาไว้อยู่อีก
"หากพูดตรง ๆ ก็คือมีอัจฉริยะมากมายที่เข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้ เท่าที่เห็นก็มีตระกูลนักรบอิกไทน์ที่ติดตามองค์ชายหนึ่ง ตระกูลของผู้ใช้มนตราแคนเดียร์ติดตามองค์ชายสอง และตระกูลโอเดลรอสของข้าที่กระจายตัวอยู่ในขั้วอำนาจทั้งสองอีก ไหนจะสำนักอิสระอีกมากมายที่เข้าร่วมในครั้งนี้...ท่านคิดว่ากลุ่มของพวกเราจะมีพันธมิตรมาเสริมบ้างไหม?" วาเลนถามอย่างตรงไปตรงมา ทุก ๆ ข้อมูลสามารถนำมาวางแผนรับมือสิ่งต่าง ๆ ได้
"น่าสนใจที่สหายของท่านพี่ไม่ใช่พวกที่มีความมั่นใจในอำนาจของตัวเองจนน่าหมันใส้...เอาเป็นว่าข้าจะร่วมด้วยกับท่านก็แล้วกัน...แต่มันต้องเป็นไปตามข้อตกลงที่ท่านให้ไว้ก่อนหน้านี้!" มีร่างเงาของสตรีกลุ่มหนึ่งย่างกายออกมาโดยที่ไม่มีใครคาดคิด
องค์ชายสามลอบยิ้มและพยักหน้าอย่างดีใจ ไปให้หนึ่งในหญิงสาวที่เข้ามาใหม่
ในบรรดาสตรีเหล่านั้นมีสองคนที่โดดเด่นอยู่ใจกลางกลุ่ม หนึ่งคือคนที่พูดกับองค์ชายสามและอีกหนึ่งคือหญิงสาวที่ยืนประกบราวกับองค์รักษ์ข้างกาย
"พบองค์หญิงสี่และท่านพี่หญิงใหญ่"วาเลนลุกขึ้นค้อมกายทักทายไปยังสตรีทั้งสองทันที ไม่มีท่าทีตกใจหรือแปลกใจในตัวตนของสตรีเหล่านี้ที่โผล่ออกมา ท่าทางของเด็กชายที่ราวกับรู้ถึงตัวตนของพวกเธออยู่แล้วสร้างความขัดใจเล็ก ๆ ให้กับองค์หญิงสี่เป็นอย่างมาก หากไม่รู้ถึงการคงอยู่ของพวกเธออยู่แล้วจะมีท่าทีเช่นนี้ได้อย่างไร!
ดวงตาขององค์รักษ์หญิงข้างกายขององค์หญิงสี่มีแววแปลกใจ รอยยิ้มน้อย ๆ ผุดขึ้นมาที่มุมปากของเธอ องค์หญิงน้อยผู้นี้เป็นผู้ที่ภูมิใจในพลังของตนเองอย่างมากน้อยครั้งที่จะแสดงท่าทีอย่างนี้ออกมา คาดว่าน้องเล็กของเธอผู้นี้ก็มีความสามารถที่คาดเดาไม่ได้จนไปสะกิดใจองค์หญิงสี่เข้าจึงทำให้ท่าทีของเธอแปลกไปเช่นนี้
"ดี....น่าสนใจดี! พี่สามพรุ่งนี้สำนักบุปผาจะไปรอพวกท่านที่ลานประกอบพิธีเปิดมิติบรรพชน"องค์หญิงสี่พูดก่อนที่จะเคลื่อนกายหายไปจากครรลองสายตาพร้อมกับเหล่าผู้ติดตามทั้งหมดของเธอ
----------------------------------------------------------
เรียกได้ว่า ตอนนี้วาเลนของเราก็ได้เจอกับอสูรทั้งสามของเหล่าองค์ชายไปแล้วนะครับ ตัวตนเหล่านี้คือสิ่งที่เขาจะต้องไปเผชิญหน้าในมิติบรรพชน ไรท์เลยจำเป็นต้องมีบทให้เขาได้เจอกันก่อนเข้าไปในนั้น *** 5555 ไม่ได้สปอยนะ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ
มยุราสวรรค์ อารานขององค์ชายสอง (ในเรื่องจะเป็นตัวสีขาวนะครับ) พอดีไรท์ชอบหน้าของภาพนี้เลยเอามา
Cr. https://www.joom.com/th/products/1513735396185904847-138-1-709-4168976254
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จับเอาไปชุบแป้งทอดหั้ยหมด5555
-นกเวรพวกนี้ เดี๊ยะๆ เดี๋ยวก็จับถอนขนเสียให้หมด
รอต่อค่าาา