ตอนที่ 57 : คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 56 หญิงสาวปริศนา
คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 56 หญิงสาวปริศนา
หญิงสาวปริศนาในชุดป่านสีเขียวลงมืออย่างว่องไว ทุกเส้นสายพลังของเธอที่วาดออกมาเกี่ยวโยงพันธนาการไปรอบกายของวาเลนในทันทีเส้นสายเหล่านี้ราวกับเส้นไหมสีมรกตที่คอยดูดซับพลังส่วนเกินของวาเลน ทุกเส้นสายล้วนไหลมาบรรจบที่จุดเดียวกัน นั่นก็คือจี้รูปดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ที่ห้อยอยู่ที่คอของคุณชายเจ็ด
ราชินีพฤกษาดรายแอดส์มีดวงตาที่สับสนและแปลกใจอยู่ในที ยามที่พลังงานเหล่านี้ถูกดูดซับเข้ามา มันจะถูกส่งไปยังพฤกษาโลกาที่อยู่ใจกลางของป่าบรรพกาล หรือก็คือพฤกษาที่เป็นที่สถิตของจิตวิญญาณของเธอ
หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อว่าพลังงานเหล่านี้ให้ความรู้สึกที่คล้ายคลึงกับพลังของมหาพฤกษาโลกาในดินแดนมาตุภูมิของเธอ
หรือว่าตัวตนของมหาพฤกษาในกายของเด็กชายนั้นจะสามารถทดแทนพลังงานเหล่านี้ได้เช่นเดียวกันกับที่ได้จากมหาพฤกษาโลกาในดินแดนมาตุภูมิ
ท่านหญิงวิเรร่าและอาวุโสทั้งสองปล่อยให้หญิงสาวปริศนาทำตามอำเภอใจ ด้วยไม่เห็นว่าเธอจะเป็นพิษเป็นภัยต่อคุณชายเจ็ดแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นในใจของคนทั้งสามนั้นก็ยังคงว้าวุ่นใจว่าเหตุใดกันวาเลนถึงได้มีพันธะสัญญากับตัวตนเช่นนี้ได้
ทั้งสามคือผู้ที่ผ่านโลกมามากกว่าครึ่งค่อนชีวิตของพวกเขา เพียงมองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าหญิงสาวคนนี้มิใช่คนธรรมดาทั่วไป เป็นไปได้ว่าเธออาจมิใช่มนุษย์ด้วยซ้ำ! นั่นมิน่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะในโลกนี้นั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่เหนือจินตนาการอีกมากมายเกินกว่าที่จะนึกถึงได้
เผ่าพันธุ์ในโลกนี้มิได้มีเพียงหนึ่งเท่านั้น มันเต็มไปด้วยเผ่าพันธุ์อื่นอีกมากมาย ที่ยังคงซ่อนเร้นกาย และบางเผ่าพันธุ์ก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับมนุษย์ และด้วยความที่ยังไม่แน่ใจท่านหญิงวิเรร่าและอาวุโสทั้งสองจึงได้แต่เฝ้าดู
ราชินีพฤกษาดรายแอดส์ ไม่ได้ให้ความสนใจกับคนทั้งสามนี้ ตัวตนของเธอไม่จำเป็นที่จะต้องมามัวใส่ใจใคร เธอค่อย ๆ เก็บเกี่ยวพลังส่วนเกินของมหาพฤกษาจากร่างกายของวาเลนอย่างใจเย็น พลังงานเหล่านี้ถูกถ่ายเทไปที่จี้รูปดอกไม้และมันถูกส่งต่อไปยังต้นของพฤกษาโลกาโดยตรงทันที
ราชินีดรายแอดส์หลับตาลงเธอสำรวจสิ่งต่าง ๆ ผ่านพลังของสัมผัสของพฤกษามันเป็นพลังเดียวกันกับที่เธอได้สอนวาเลนเอาไว้ แต่ยามที่มันถูกใช้ออกโดยเธอผู้เป็นเจ้าของนั้น อำนาจของมันเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้
ภาพลำต้นของพฤกษาโลกาขนาดใหญ่ใจกลางป่าบรรพกาลโยกไหวอย่างยินดี มันคือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ต้องการอาหารมาเลี้ยงดูเช่นกัน และพลังงานเหล่านี้คล้ายกับว่าเป็นอาหารจานโปรดที่มันไม่ได้พบเจอมานานแสนนาน มันจึงมีอาการเช่นนี้ มุมปากของราชินีดรายแอดส์ยกยิ้มอย่างเปรี่ยมสุขเมื่อเห็นอาการเช่นนั้นของมัน
พื้นป่าบรรพกาลก็พลอยได้รับอานิสงไปด้วยจากเหตุการณ์นี้ดอกไม้ใบหญ้าทยอยชูช่อเต็มผืนป่า ราวกับว่าพวกมันกำลังร่วมแสดงความยินดีกับพฤกษาโลกาที่กำลังมีความสุข
ผ่านไปพักใหญ่กว่าที่อำนาจภายในกายของวาเลนจะสงบลง วาเลนถอนการจมจ่ออยู่ในโลกแห่งพลังกลับมา ดวงตาน้อย ๆ นั้นค่อย ๆ ลืมขึ้นก่อนที่เขาจะมีอาการตกใจที่พบว่ามีหญิงสาวที่คุ้นหน้ามานั่งในลักษณะประจันหน้าใกล้ ๆ กันกับเขา
"ผู้มีพระคุณ! ท่านมาได้อย่างไร?" วาเลนเอ่ยถามขึ้นเบา ๆ อย่างตกใจ หญิงสาวตรงหน้าคือคนที่ช่วยเหลือเขาเอาไว้ภายในป่าบรรพกาล นี่ยังไม่ถึงช่วงเวลาที่ได้ให้สัญญากันไว้ไม่ใช่หรือ? ทำไมเธอถึงได้มาถึงที่นี่ได้
"เจ้าล้ำหน้าไปมากกว่าที่ข้าคิดเอาไว้นัก"ดวงตาสีเขียวมรกตของเธอค่อย ๆ ลืมขึ้นเช่นกัน มือขาวราวผลึกของเธอสะบัดออกหนึ่งครั้งก่อนที่พลังทั้งหมดที่พันธนาการวาเลนเอาไว้จะหายไป หลงเหลือเพียงจี้ดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ที่เปล่งประกายบนคอของวาเลน
วาเลนยิ้มรับคำกล่าวที่คล้ายกับคำชมกลาย ๆ นั้นอย่างภูมิใจ
"วาเลน...ลูกเป็นอย่างไรบ้าง"ท่านหญิงวิเรร่าอดที่จะเอ่ยถามขึ้นมาไม่ได้ บนใบหน้าของเธอคลายความกังวลลงไปหลายส่วน เมื่อบุตรชายของเธอไม่เป็นอันตรายและเป็นเขาเองที่เอ่ยออกมาว่าหญิงสาวตรงหน้าคือผู้มีพระคุณ แล้วเหตุใดเธอจึงต้องกังวลอีกต่อไป
"ท่านแม่...ท่านอาจารย์ ทำไมพวกท่านถึงได้มารวมตัวกันที่นี่?"วาเลนเพิ่งสังเกตุเห็นว่ามีอีกสามคนอยู่ภายในห้องของเขา ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกว่าการข้ามระดับของเขาต้องมีเหตุการณ์ด้านนอกที่ไม่ปกติเกิดขึ้น มิเช่นนั้นทั้งสามท่านคงไม่มารายล้อมรอบกายเขาเช่นนี้
"เป็นเรื่องปกติของการยกระดับพลัง ขั้นของผู้ใช้เวทย์เปลี่ยนมาเป็นนักเวทย์นั้น ไม่น่ากลัวเท่าการยกระดับเข้าสู่จอมเวทย์ เพราะการสร้างทะเลพลังเวทย์นั้นจะผิดพลาดไม่ได้ แม่แปลกใจที่ลูกไม่แจ้งพวกเราก่อนการเข้าสู้ขั้นตอนยกระดับครั้งนี้"ท่านหญิงวิเรร่ากำลังพูดให้ความสำคัญกับขั้นตอนเหล่านี้ น้ำเสียงของเธออดที่จะดุออกมาไม่ได้
วาเลนรอบเหงื่อตกในใจ เขามิใช่นักเวทย์ปกติที่จะเข้าสู่กระบวนการสร้างระดับใหม่ของจุดกำเนิดพลังเฉกเช่นคนทั่วไป เขาเป็นนักเวทย์ได้จากวิธีต้องห้ามโบราณ นั่นคือการแปลงสภาพเลือด จุดกำเนิดพลังของเขาพัฒนามาถึงจุดสูงสุดแล้วเขาทำเพียงแค่ดูดซับพลังเข้ามาจนมากพอที่จะเติมเต็มมันเท่านั้น แต่ที่เขาลืมไปคือการควบรวมพลังที่ยังคงต้องมีในนักเวทย์ทุกคน ปรากฏการณ์นี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
"ทำไมเขาต้องกังวลในการสร้างทะเลพลังเวทย์ด้วย"ราชินีดรายแอดส์พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
"โลกมหาสมุทรจุดกำเนิดพลังของเขา เพียงแค่ธาตุพฤกษาก็มีขนาดกว้างใหญ่กว่าของข้าเป็นสิบเท่า ไม่นับเหล่ามหาสมุทรธาตุอื่น ๆ .. เจ้ายังต้องมากังวลว่าทะเลพลังเวทย์ของเขาจะเสียหายอีกหรือ?" ถ้อยคำของราชินีดรายแอดส์เปิดเผยเรื่องที่น่าตกใจ จนทั้งสามแทบมิอาจทรงตัวเอาไว้ได้
"วาเลนติโน่ บอกแม่มาให้หมดเดี๋ยวนี้ !ยังมีอะไรที่ลูกยังไม่ได้บอกอีกไหม" วาเลนมีสีหน้าที่หวาดผวาทันที ราชินีดรายแอดส์ลอบยิ้มเบา ๆ อย่างคาดไม่ถึง ไม่น่าเชื่อว่านี่จะเป็นดาวข่มตามธรรมชาติของเด็กชายคนนี้
ถึงมารดาของเด็กชายคนนี้จะมีพลังในระดับที่ยังไม่มากแต่อาจเป็นประโยชน์ต่อเธอก็ได้ เธอคือราชินีผู้ปกครองป่าใหญ่ดั้งนั้นจึงคุ้นชินกับการปกครองในลักษณะของการใช้ความน่าเกรงขามและความหวาดกลัว ถึงสิ่งมีชีวิตในป่าส่วนใหญ่จะภักดีด้วยเพราะความเคารพรักแต่บ้างครั้งมันมักเริ่มมาจากความหวาดกลัวแทบทั้งสิ้น
เธอเห็นว่าเด็กชายถือไพ่เหนือกว่ามาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้ากัน ไม่ว่าจะการครอบครองราชินีอสูรมอโธร่า การต้องรอคอยเวลาที่จะอาศัยเขาเป็นสะพานข้ามมิติไปยังมาตุภูมิของเธอ ในระหว่างนั้นยังต้องหาข้อมูลของเรื่องภัยพิบัติจากยุคโบราณจากผู้ที่อาจยังมีชีวิตอยู่ ไม่รู้กี่เรื่องแล้วที่เธอต้องพึงพาเด็กชาย นั่นเพราะเธอไม่สามารถย่างกรายออกห่างจากพฤกษาโลกาได้นาน นั่นคือกฎของเผ่าพันธุ์
การที่เธอมาที่นี่ได้นั่นคือวิญญาณส่วนหนึ่งเพียงเท่านั้น พลังงานพฤกษาในกายของวาเลนกระตุ้นการทำงานของเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของเธอในจี้รูปดอกไม้ทำให้เธอสามารถออกมาทำสิ่งต่าง ๆ ได้ แต่มันก็เป็นเพียงเวลาไม่นาน
"ข้าต้องไปแล้ว"ราชินีดรายแอดส์เตรียมตัวจากไปหลังได้เห็นเรื่องสนุกสนานที่เธอปั่นมันขึ้นมา หัวใจของหญิงสาวเบิกบานการมาในครั้งนี้ช่างคุ้มค่าเสียจริง ได้ทั้งพลังและเรื่องคลายเครียด
"นี่คือของขวัญพบหน้า...." ราชินีดรายแอดส์จงใจพูดคุยโดยตรงกับท่านหญิงวิเรร่า เธอคว้ามงกุฎดอกไม้ในอากาศออกมาและบรรจงวางมันไว้ในฝ่ามือของเธอ
"จงนึกถึงข้าแล้วเอ่ยชื่อออกมา.เวลาที่เจ้าจะใช้มัน" เธอเอ่ยคำพูดด้วยถ้อยคำหวานหู "ชื่อของข้าคือ......." เสียงของราชินีพฤกษานั้นหายไปมันถูกกระซิบไว้ข้างหูแด่เธอผู้เดียว เสียงนั้นดังกังวานในใจของท่านหญิงวิเรร่า โดยมิหลุดรอดออกมา ราวกับจะสลักให้เธอจดจำมิลืมเลือน "ชื่อของข้าจงอย่าได้บ่งบอกมันแก่ใคร อำนาจเหล่านี้ข้าสามารถยึดคืนได้หากเจ้าผิดคำสัญญา" สิ้นคำของหญิงสาวเธอราวกับอันตรธานหายไป ไม่มีใครในที่นี้สามารถตรวจสอบได้
ท่านหญิงวิเรร่ามองใบหน้าของวาเลนอย่างนึกคิดอยู่ในที มิได้มีเพียงชื่อเท่านั้นที่ดังก้องกังวานในใจ หญิงสาวยังบอกอะไรอีกหลายอย่างเกี่ยวกับบุตรชายของเธอ เห็นทีว่าคงต้องหาเวลามานั่งคุยกับบุตรของเธอเสียแล้ว
"เธอ....ไม่สิ ท่านผู้นั้นเป็นใครกันแน่คุณชายเจ็ด...แล้วแก่นเวทย์เท่าหัวม้านี่เป็นของขวัญพบหน้าเช่นเดียวกันหรือ?" วาเลนส่งยิ้มแหยง ๆ ไปให้อาจารย์ทั้งสองของเขาแล้วพยักหน้า การคบหากับคนรวยนี่น่าลำบากใจจริง ๆ ราชินีพฤกษากะจะฆ่าชายชราทั้งสองให้ตกใจตายหรืออย่างไร
ชายชราทั้งสองแทบจะลงไปหมอบกราบหากไม่ติดภาพลักษณ์ของระดับจอมเวทย์ แก่นเวทย์ขนาดเท่านี้ราชวงศ์ยังไม่มีปัญญาจ่ายได้เพียงครึ่งของมัน หญิงสาวผู้นี้นั้นร่ำรวยมากจากไหนกันถึงใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายได้ถึงเพียงนี้ วาเลนมองอาจารย์ของเขาที่น้ำตาไหลอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ สวรรค์!!! คุณชายเจ็ดคือบุตรของท่านใช่ไหม ท่านถึงได้ส่งนางอัปสรตามมารับใช้เขา
อาจารย์ทั้งสองของเขาขอตัวกลับไปเมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดแล้ว ในขณะพูดล่ำลาวาเลนสังเกตว่าอาวุโสทั้งสองนั้นตาลอย ๆ คล้ายกับคนละเมอติดในห้วงฝัน เขาคาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกวันหรือสองวันกว่าทั้งสองนั้นจะกลับเป็นปกติดังเดิม
"เอาล่ะ เล่ามาได้แล้ว.."เมื่ออยู่กันสองคนวาเลนจึงมิอาจบ่ายเบี่ยงต่อไปได้ เขารู้ว่าลึก ๆ แล้วท่านแม่มีความคล้ายคลึงกับเขามากแค่ไหน ยิ่งยามต้องการรู้สิ่งใด ไม่ต้องสงสัยว่าเธอต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้รับรู้มัน
วาเลนตัดสินใจเล่าเรื่องที่เธอสงสัยเขาตอบทุกคำถามอย่างไม่มีปิดบัง แม้กระทั่งการพบเจอกับราชินีดรายแอดส์ได้อย่างไรและพันธะสัญญาที่จะช่วยหยุดยั้งภัยพิบัติโบราณ
ทั้งหมดที่เขาเล่ามานั้นทำให้ท่านหญิงวิเรร่าตกอยู่ในสภาวะเครียดทันที มันเหมือนกับว่านี่เป็นชะตากรรมของเหล่าผู้ทรงอำนาจ มันมักจะต้องมาพบพานกับเรื่องที่ต้องท้าทายกับอันตรายถึงตาย
มารดาของเขาขอเวลาทำใจเพื่อวิเคราะห์และคำนวณความเป็นไปได้ต่าง ๆ อีกครั้งกับอาวุโสทั้งสองและหลังจากนั้นเธอจะมาร่วมวางแผนกับเขาว่าจะเป็นไปในลักษณะใด ถึงอย่างไรวาเลนก็เป็นบุตรชายของเธอ เธอจะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับเขาเป็นอันขาด
ก่อนจากไปเธอย้ำกับเขาว่า ให้เผื่อเวลาเดินทางไปตามป้ายเชิญขององค์ชายสามด้วย อีกสองวันจะครบกำหนดเวลาตามที่ผู้ส่งป้ายเชิญได้แจ้งมา นี่มิใช่การเชิญเพื่อพบปะทั่วไป ป้ายเชิญระดับต่ำกว่าที่วาเลนได้ถูกออกให้อีกหลายใบจากราชวงศ์เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้มีพรสวรรค์ทั่วราชอาณาจักรเข้าไปร่วมงานอะไรสักอย่างที่ทางราชวงศ์จัดขึ้น
วาเลนพยักหน้ารับว่าเขาเข้าใจ ก่อนที่เขาจะตามมารดาออกไปและหยุดตรวจสอบแปลงสมุนไพรตามปกติเช่นทุกวัน เขารู้สึกว่ามันดูดีมากขึ้นหลังจากการมาเยือนของราชินีดรายแอดส์ แต่เมื่อคิดกลับไปว่าวันนี้เธอสร้างความปั่นป่วนอะไรไว้บ้าง เขารีบหยุดยั้งความคิดที่จะให้เธอมาเยือนทันที ดูเหมือนว่าเขาควรวานเจ้าธันเดอร์ของคารีสมารดน้ำแล้วให้เหล่าเบญจดารามาพรวนดินให้แทนดีกว่า อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ต้องมามีปัญหาหนักใจ!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

#สู้ๆนะไรท์
#มาไวไวน้าาาาา
เจ๊มาเริสมาก5555
อีเว้นท์์งานพบปะดูน่าตื่นเต้นดีนะ
ขอบคุณค่ะ
ชอบอาจารย์5555