ตอนที่ 52 : คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 51 ผู้ใช้มนตรา
คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 51 ผู้ใช้มนตรา
จัตุรัสอัคเคล่าที่คร่ำคร่าไปด้วยผู้คนนี้ไม่ใช่สิ่งที่ดูแปลกตา เพราะมันเป็นสถานที่ ๆ เหล่าผู้ซื้อหาหรือค้าขายล้วนมากระจุกรวมตัวกันจนกลายเป็นเมืองใหญ่ขึ้นมาได้จากในอดีต มันจึงเป็นธรรมดาที่เมืองแห่งนี้จะกลายเป็นสถานที่ยอดฮิตของเหล่าผู้คนทั้งหลายในอาณาจักรกรีนแลนด์
แต่ทว่าวันนี้มันกลับแน่นขนัดมากกว่าเคย ผู้คนหลั่งไหลมามากกว่าเดิมถึงสองเท่าเพียงเพราะข่าวของยาที่สามารถเพิ่มระดับขั้นการบ่มเพราะพลังได้
การบ่มเพราะขั้นพลังนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายอย่างที่คิดหากคน ๆ นึงไม่พานพบกับวาสนาก็นับว่ายากเย็นนักที่จะผ่านสภาวะคอขวดทะลวงเข้าสู่ระดับใหม่ได้
การฝึกฝนอย่างหนักเพียงอย่างเดียวนั้นไม่สามารถก้าวกระโดดไปได้ไกล ผู้ใช้เวทย์จึงต่างแสวงหาปัจจัยภายนอกมาเสริมการบ่มเพราะพลังให้รุดหน้า ไม่ว่าจะเป็นแก่นเวทย์อสูร หรือสมบัติลับอื่น ๆ ที่สามารถช่วยในการเลื่อนระดับให้รวดเร็วขึ้นได้ ข่าวของยารักษาที่เพิ่มระดับได้จึงไม่แปลกที่จะทำให้ผู้คนหลั่งไหลเขามาเพื่อหาซื้อมัน
อาวุโสเอียนรับหน้าที่ในการประกาศเปิดร้านดาราโอสถอยู่ด้านหน้า เขายังคงพูดถึงสรรพคุณแฝงของตัวยารักษาที่หาที่ไหนไม่ได้
"ข้ามีความยินดีที่จะแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบว่าวันนี้ร้านดาราโอสถได้เปิดให้บริการกับทุกท่านแล้วหากท่านต้องการตัวยาชนิดไหนสามารถสอบถามได้จากเหล่าผู้หลอมโอสถภายในร้าน"
"ยาทุกตัวนั้นมีคุณสมบัติแฝงในการเพิ่มระดับขั้นได้ คุณสมบัติแฝงในยาแต่ละตัวนั้นจะไม่เท่ากัน แน่นอนว่าคุณสมบัติแฝงที่ดีที่สุดนั้นจะอยู่ในยาตั้งแต่ขั้นเงินขึ้นไป"
ในขณะที่อาวุโสเอียนยืนกล่าวอยู่หน้าร้านนั้น วาเลนที่ยืนอยู่ในมุมหนึ่งของร้านก็กวาดสายตาเข้าไปในฝูงชนด้านหน้าอย่างตั้งใจ วาเลนให้ความสนใจคนกลุ่มหนึ่งที่ดูคุ้นตา
คนเหล่านี้เป็นชายหนุ่มในชุดผ้าคลุมสีขาวปักด้านหลังเป็นสัญลักษณ์ดาวห้าแฉกจำนวนหนึ่งยืนห่างออกไปไม่ไกล วาเลนสังเกตได้ว่า ก่อนหน้านี้มีชายคนหนึ่งพบปะพูดคุยบางอย่างกับพวกเขาก่อนจะผละตัวออกไปอย่างว่องไว
ชายคนนี้มีการแต่งกายที่ต่างออกไปจากเหล่าชายในชุดคลุมสีขาวเหล่านั้น การแต่งกายของเขาไม่ต่างจากคนธรรมดาที่มาร่วมงานเปิดร้านทั่ว ๆ ไป
วาเลนสังเกตได้ว่าคนผู้นี้ปะปนเข้ามากับฝูงชนที่ยืนออกันอยู่บริเวณหน้าร้าน เขาทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีแต่กลับมีประกายตาที่ไม่น่าไว้ใจ
"มารีน" วาเลนเรียกหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกล เธอเป็นหนึ่งในเหล่าคนสวนทั้งห้าที่คอยดูแลแปรงสมุนไพรให้เขา
มารีนเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวภายในกลุ่ม เธอเป็นเพียงผู้ใช้เวทย์ธาตุน้ำ เท่านั้นในวันที่มารดาของเขาส่งเธอมาเพื่อช่วยงาน
แต่เพียงเวลาไม่นาน ด้วยตัวยาที่สามารถเพิ่มระดับการบ่มเพราะได้ บวกกับแก่นเวทย์ระดับต่ำที่ไม่อยู่ในสายตาของวาเลน
เขาแจกจ่ายมอบมันออกไปให้กับเหล่าคนสวนราวกับเป็นเจ้านายผู้ใจบุญ ทรัพยากรเหล่านั้นจึงสามารถพัฒนาคนงานทั้งห้าให้ก้าวหน้ารวดเร็วจนกลายไปเป็นนักเวทย์ขั้นต้นได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ
หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปนับว่ามันกลายเป็นปรากฎการณ์ที่น่าพลันพรึงเป็นอย่างมาก นักเวทย์ขั้นต้นสามารถเอาชนะผู้ใช้เวทย์ที่ต่ำกว่าได้ในการสู้รบ สามต่อหนึ่ง การพัฒนานักเวทย์ขึ้นมาได้สักคนจึงนับได้ว่าเป็นกำลังสำคัญต่อฐานอำนาจที่ไม่ว่าใครก็ต้องการ
"คุณชาย" มารีนตอบสนองต่อคำเรียกอย่างฉับไวเธอยืนใกล้ ๆ วาเลนอย่างไม่เสียกิริยา ใบหน้าของเธอแสดงออกว่าพร้อมที่จะรับใช้เขาอย่างเต็มใจ
"ไปบอกเหล่าเบญจดาราที่เหลือให้เพิ่มระดับการป้องกันร้าน หากพบเจอสถานการณ์ที่ไม่ดีให้จัดการได้ทันที หากไม่สามารถจัดการได้ให้รีบไปบอกคารีส" วาเลนสั่งการอย่างกระชับฉับไว มารีนค้อมกายเล็กน้อยก่อนเคลื่อนกายจากไปทันที
เบญจดาราคือบรรดาคนสวนทั้งห้าที่วาเลนได้มาจากมารดา หากจะพูดว่าเขากำลังสร้างกองกำลังของตนเองขึ้นมาก็ไม่นับว่าผิดนัก หากตระกูลมีภาคีนักล่า มีสภาอาวุโส ทำไมเขาถึงจะมีเหล่าเบญจดาราขึ้นมาไม่ได้?
วาเลนละสายตาจากบรรดาชายในชุดคลุมขาว เขาเบนความสนใจไปที่ชายหนุ่มที่ทำตัวราวกับคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป วาเลนยิ้มเยาะในใจ ก่อนที่ใครจะทันได้สังเกตุเด็กชายก็หายไปราวกับภูติพราย
ท่ามกลางฝูงชนที่วุ่นวาย แทบไม่มีใครจะใส่ใจการเบียดเสียดที่แน่นขนัดไปหมดนี้ มีผู้คนมากมายที่ล้วนต้องการแทรกกายเพื่อให้ได้ยืนในแถวด้านหน้าจึงทำให้ระยะห่างของแต่ละคนนั้นแทบไม่มีที่ว่างให้หายใจ
วาเลนปรากฏกายไม่ไกลจากชายที่แต่งกายธรรมดาเขาค่อย ๆ เข้าหาอย่างใจเย็น เพียงหนึ่งสัมผัสที่ดูธรรมดา แต่มันสามารถทำให้วาเลนรู้ที่ไปที่มาของชายตรงหน้าได้อย่างไม่ต้องลำบากแต่อย่างใด
มันเป็นไปตามที่คาดเอาไว้ ชายคนนี้เป็นหนึ่งในเหล่าผู้ใช้มนตราที่แฝงกายมา คนเหล่านี้กำลังจะใช้วิธีที่น่ารังเกียจในการโจมตีร้านดาราโอสถแห่งนี้
พวกเขาไม่สนว่าจะเป็นผู้ใดตราบเท่าที่แผนการดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทุกคนล้วนสามารถถูกนำมาใช้ได้ ราวกับผู้รักษาเหล่านี้มิได้เห็นค่าในชีวิตของผู้อื่นที่มิใช่ตน
"สวัสดีพี่ชาย" วาเลนเผยยิ้มที่คาดเดาไม่ได้ เขาหันไปพูดกับผู้ใช้มนตราที่แฝงกายมาด้วยท่าทางปกติ อย่างคนมีอัธยาศัยดี
ผู้ใช้มนตรารู้สึกไม่ปกติในทันทีที่มีเด็กชายคนหนึ่งในผ้าคลุมปรากฏกาย แต่เขาไม่สามารถหาคำตอบได้ เขาพยักหน้าน้อย ๆ แต่ไม่พูดสิ่งใด ประกายตาของเขาเปลี่ยนไปเป็นลอบตื่นตัว
ต้องเร่งมือแล้ว ผู้ใช้มนตรารู้สึกถึงบรรยากาศที่ไม่ดี เขาเร่งวาดมือสร้างสัญลักษณ์บางอย่างขึ้นมาด้วยมือเพียงข้างเดียว โดยพยายามหลบเล้นไม่ให้เป็นที่สนใจ แต่ถึงจะรวดเร็วเพียงใดมันก็ไม่สามารถเล็ดลอดสายตาของวาเลนไปได้
เมื่อสามารถสร้างสัญลักษณ์ที่สมบูรณ์ขึ้นมาได้ ฝ่ามือของผู้ใช้มนตราก็ประทับลงไป ก่อนจะผลักมันไปประทับกับชายคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ ทันที รอยยิ้มที่โหดเหี้ยมปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาอย่างพึงใจ
วาเลนจ้องมองอย่างเย็นชา ไม่น่าเชื่อว่าเหล่าผู้ใช้มนตราก็มีพิษสงร้ายกาจที่น่ากลัว พวกเขาใช้สัญลักษณ์แห่งความเจ็บปวดกับชายผู้เคราะห์ร้าย
ยามเมื่อสัญลักษณ์ประทับไปที่ร่างกายมันจะถูกกระตุ้นให้คนผู้นั้นเจ็บปวดปานจะขาดใจ มันไม่สามารถรักษาให้หายได้โดยยาสมุนไพรทั่วไป นี่เองสินะคือแผนการร้ายที่คนเหล่านี้เตรียมเอาไว้
นับว่าโชคร้ายที่คนเหล่านี้ต้องมาพบกับคนที่สามารถอ่านอักษรรูนได้อย่างวาเลน อำนาจของมันเหนือล้ำยิ่งกว่าสัญลักษณ์แห่งพลังใด ๆ เพราะมันคือต้นกำเนิดของอำนาจที่เหล่าผู้ใช้มนตรานำมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน!
อ๊ากกกกกกกก!!
ชายเคราะห์ร้ายส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด ตัวของเขาทรุดลงกับพื้นดิ้นทุรนทุรายอย่างทรมาน ฝูงชนที่อยู่รอบข้างเขานั้นแหวกออกอย่างตื่นตกใจ
"ช่วยด้วย...ช่วยข้าที..นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับข้า" เสียงขอความช่วยเหลือดังสลับมากับเสียงกรีดร้องที่น่าเวทนาของชายเคราะห์ร้ายทำให้เหล่าผู้คนหันหน้าไปมองยังชายชราที่ยืนปราศรัยอยู่ด้านหน้าของร้านดาราโอสถว่าจะมีท่าทีเช่นไร
ผู้อาวุโสเอียนเพ่งมองมาด้วยใบหน้าที่มืดทะมึน แค่วันแรกของการเปิดร้านก็มีคนพยายามที่จะสร้างปัญหาให้เสียแล้ว แต่ก่อนที่ชายชราจะทำสิ่งใด สายตาของเขาก็พลันเหลือบไปเห็นเด็กชายที่คุ้นตา เพียงแค่นั้นใบหน้าชราก็พลันผ่อนคลาย มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและถูกแก้ไขโดยคุณชายเจ็ด เมื่อเขาอยู่ที่นี่ก็ยังพอเบาใจได้
"เบญจดารา " เสียงที่ดังออกมาจากใต้ผ้าคลุมนั้นทรงอำนาจพอที่จะทำให้ผู้คนในบริเวณนั้นกดดัน สิ้นคำเรียกปรากฎร่างเงาขึ้นในบริเวณนั้นห้าร่างอย่างพร้อมเพียง ไม่เพียงเท่านั้นคนเหล่านี้ยังเป็นนักเวทย์แทบทั้งสิ้น
"จับชายคนนั้นเอาไว้....ใครเข้ามาขัดขวางตอบโต้ได้ทันที" ผู้ใช้มนตราที่แฝงกายเข้ามาเหงื่อตกทันทีที่เป้าหมายถูกชี้มาที่ตน
คนสวนทั้งห้าหรือกลุ่มเบญจดาราของวาเลนเคลื่อนกายอย่างว่องไวเข้าล้อมผู้ใช้มนตราที่แฝงกายมาเอาไว้ทันที
"พวกเจ้าทำบ้าอะไร...นี่พวกเจ้าสงสัยว่าข้าเป็นผู้ทำร้ายชายคนนี้อย่างงั้นหรือ..ดูเอาเถิดพวกท่านทุกคน ร้านแห่งนี้มีดีแค่ป้ายสีผู้อื่น พวกเขาจะมีคุณสมบัติอะไรที่พวกเราจะไว้ใจให้เป็นผู้รักษา" ฝูงชนส่วนใหญ่ไม่มีใครกล้าเข้ามาทัดทานเหล่าเบญจดารา ใบหน้าของผู้ใช้มนตราเปลี่ยนไปทันทีเขาไม่คิดว่าร้านดาราโอสถจะใช้วิธีการตอบโต้เช่นนี้
และโดยไม่มีใครคาดคิด เหล่าชายในชุดคลุมสีขาวพลันปรากฎกายขึ้นมาฉับพลันพวกเขาล้วนปกปิดใบหน้าและใช้ออกด้วยสัญลักษณ์มนตราที่รวดเร็วและรุนแรง
เหล่าเบญจดาราที่รู้ถึงความไม่ปกติก่อนหน้านี้จึงมีวิธีรับมือได้ทัน พวกเขานั้นล้วนรับรู้ถึงการต่อสู้ที่ประหลาดของเหล่าผู้ใช้มนตรา เบญจดาราทั้งห้าจึงใช้ออกด้วยพลังธาตุที่พวกเขาถนัดออกมาทันที ไม่ปล่อยให้ชายชุดขาวเหล่านั้นมีโอกาสได้วาดสัญลักษณ์ได้สมบูรณ์เพื่อแสดงอำนาจใด ๆ ออกมา
วาเลนไม่ใส่ใจการต่อสู้ที่เกิดขึ้นมากระทันหันนี้ เขาโบกมือออกไปหนึ่งทีปรากฏสายลมที่บางเบาหอบเอาชายที่เคราะห์ร้ายออกไปจากบริเวณที่เกิดการต่อสู้ทันที
เหล่าผู้คนที่มีประสบการณ์ ต่างถอยห่างออกไปเมื่อมีการต่อสู้เกิดขึ้น อาวุโสเอียนตอบสนองต่อการกระทำของวาเลนในทันที โดมสีทองก่อกำเนิดห้อมล้อมผู้ใช้มนตราและเหล่าเบญจดาราเอาไว้ภายใน นี่เป็นโดมกักขังที่แข็งแกร่งในระดับหนึ่ง เพราะมันถูกใช้ออกโดยจอมเวทย์ธาตุดินระดับต้นอย่างผู้อาวุโสเอียน
เหล่าผู้ใช้มนตราอยู่ในลักษณะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในทันที เขาไม่คิดว่าเพียงร้านยาเล็ก ๆ ร้านนี้จะมีตัวตนของจอมเวทย์ขั้นต้นเป็นผู้ควบคุมดูแลได้ หากเป็นแค่ระดับนักเวทย์นั้นไม่มีทางที่คนเหล่านี้จะเห็นอยู่ในสายตา
ทำไมตระกูลโอเดลรอสจึงมีจอมเวทย์ปรากฏกายออกมาอีกคนได้ พวกเขามีเพียง ผู้นำตระกูล อาวุโสสูงสุด และอาวุโสสองเท่านั้นมิใช่หรอกหรือที่มีฐานะเป็นจอมเวทย์ที่ไม่อาจก้าวล่วงได้ เหตุใดชายชราคนนี้ก็กลายเป็นจอมเวทย์ได้กันทั้ง ๆ ที่ช่วงเวลานี้โอเดลรอสนั้นอยู่ในสภาวะตกต่ำสุด ๆ ไม่ใช่หรือ
เหล่าผู้ใช้มนตรายิ่งคิด ยิ่งไม่อาจหาคำตอบได้ พวกเขามิได้ไร้ปัญญาจึงคิดหาทางล่นถอยกลับไป
"ถอยก่อน.."เสียงของหนึ่งในชายที่สวมใส่ชุดคลุมสีขาวประดับดาวห้าแฉกสองดวงตระโกนขึ้นมา เขาเปรียบได้กับผู้นำของเหล่าผู้ใช้มนตราในขณะนี้
สองมือของเขาเร่งวาดสัญลักษณ์ที่ต่างกันออกมาถึงสองสัญลักษณ์ในคราเดียว ความเร็วในการวาดนี้ชี้ให้เห็นว่าคนผู้นี้มีความชำนาญในขั้นล้ำเลิศ
สองมือของเขาประทับไปที่สองสัญลักษณ์อย่างพร้อมเพียง หนึ่งส่งมันไปที่เหล่าเบญจดาราเพื่อถ่วงเวลาเปิดทางหนี
อีกหนึ่งสัญลักษณ์ถูกประทับและตบไปที่พื้นดิน เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวปรากฎสัญลักษณ์ดาวห้าแฉกภายใต้เหล่าผู้ใช้มนตราทันที
อำนาจของสัญลักษณ์ที่พุ่งเข้าหาเบญจดารานี้รุนแรงและรวดเร็วเป็นอย่างมากจนคนทั้งห้าเกือบเสียท่าให้กับมัน แต่ก่อนที่มันจะได้สำแดงอำนาจทั้งหมดออกมา มันก็ถูกป่นทำลายโดยสายฟ้าที่รุนแรงกว่าจนแตกกระจายทันที
"ท่านคารีส.."เบญจดาราทั้งห้าอุทานขึ้นมาอย่างตกใจ
"ดูเหมือนข้าจะประเมินเบญจดาราเอาไว้สูงเกินไป เรื่องเพียงแค่นี้กลับต้องให้คุณชายต้องรอ...ดูเหมือนว่าข้าต้องหาช่วงเวลาพิเศษฝึกฝนให้เสียแล้ว" เหล่าเบญจดาราเผยสีหน้าตื่นตะลึงออกมา ยามเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เด็กชายผู้ใช้สายฟ้านี้คือสหายที่คุณชายเจ็ดไว้ใจ การฝึกของเขาแต่ละครั้งนั้นเป็นช่วงเวลาที่ทั้งห้าอยากจะร้องไห้ พวกเขาไม่รู้ว่าเด็กชายผู้นี้ถูกฝึกมาแบบไหนหรือไปถูกกดดันจากที่ไหนมา จึงทำให้เขากลายเป็นอาจารย์ที่เข้มงวดได้เช่นนี้
ทั้งผู้ใช้มนตราและเหล่าเบญจดาราไม่มีใครได้เห็นเด็กชายผู้ใช้สายฟ้าภายในโดมที่อาวุโสเอียนสร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้ จนกระทั่งสายฟ้าเส้นแรกได้ระเบิดพลังอำนาจของมันออกไปและป่นทำลายสัญลักษณ์นั้นลงในพริบตา
วังวนเคลื่อนย้ายปรากฏออกมาภายใต้สัญลักษณ์รูปดวงดาว ที่ผู้ใช้มนตราสร้างขึ้นมา มันสั่นไหวราวกับจะถูกทำลายเมื่อประกายสายฟ้าอีกเส้นฟาดลงมาติด ๆ กัน
"ไป..."ผู้ใช้มนตราสร้างสัญลักษณ์เคลื่อนย้ายตะคอกออกมาหนึ่งคำ ใบหน้าของเขาเขียวคล้ำที่ต้องพยายามคงสภาพสัญลักษณ์เอาไว้ เพียงพริบตาผู้ใช้มนตราทั้งหมดก็หายไปเหลือเพียงผู้ใช้สัญลักษณ์ที่กำลังจะจางหายไปกับวังวนเคลื่อนย้ายเช่นกัน
"หวังว่าของขวัญรับหน้าของข้า จะทำให้พวกเจ้าจำเอาไว้ว่า ร้านดาราโอสถไม่ใช่ที่ ๆ พวกเจ้านึกจะมา ก็มาได้"
เปรี๊ยะ ตูมมมมมมม
สิ้นคำของคารีส ผู้ใช้มนตราคนสุดท้ายก็หายวับไปกับอสนีบาตอีกสายที่คารีสจงใจส่งมันออกไปให้เขาเต็ม ๆ วังวนเคลื่อนย้ายไม่เฉพาะเคลื่อนย้ายแต่ผู้ใช้มนตรา มันยังนำพาอสนีบาตที่น่ากลัวตามติดไปด้วย ราวกับอสรพิษร้ายที่พร้อมระเบิดทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าและที่ ๆ ว่านั้นก็คือสถานที่ ๆ พวกเขาเคลื่อนย้ายไป
--------------------------------------------
มาให้หายคิดถึงครับ ^^
อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลสุขภาพกันด้วยครับ ที่ไรท์ ดูเหมือนพายุกำลังจะเข้า ชื่อน่ารักเชียวน้องอำพัน
-.,- สำหรับไรท์ ชุมพรเป็นจังหวัดที่ท่วมง่ายอยู่แล้ว ก็เตรียมตัวหนีน้องน้ำกันต่อไป ไหนใครอยู่แถวนี้บ้าง ^-^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สะใจ5555
เจ้าพวกนั้นถึงคราวซวยซะแล้ว อิอิ
ยังไม่หายค้างต้องลงอีก นะไรท์
ไร๊เต้ออออ คิดถึงงงงงงง //โดดกอด
อยากได้อีกอ่ะ กำลังสนุกเลยยย มาต่อไวไวนะคะ