ตอนที่ 49 : คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 48 ตระกูลอิกไทน์
คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 48 ตระกูลอิกไทน์
วาเลนและคารีสไม่ได้หายไปไหน หลังจากส่งมอบแก่นเวทย์อสูรระดับสูงให้กับหญิงสาวแล้ว ทั้งสองก็เฝ้ามองอยู่ไกล ๆ เพื่อรอชม 'เรื่องสนุก ๆ ' ที่วาเลนได้กล่าวเอาไว้
หญิงสาวนามเอเรียลอยู่ภายใต้การจับตาของทั้งคู่ ข้าง ๆ เธอนั้นมีชายที่เป็นผู้พิทักษ์ของสังเวียนตามติดไม่ห่างกาย
ห่างออกไปไม่ไกลมีร่างเงาวูบไหวอีกหนึ่งร่าง ติดตามทั้งคู่ไปห่าง ๆ เช่นกัน โดยคนผู้นั้นไม่ได้รับรู้เลยว่าเขาอยู่ภายใต้การจับตาของวาเลน
วาเลนยิ้มเย้ยหยันในใจ ก่อนจะกระซิบบอกคารีสใกล้ ๆ
"มาดูกันว่ามันจะเป็นอย่างที่คาดเดาไหม."กลับกลายเป็นว่าคุณชายเจ็ดจัดฉากให้หญิงสาวได้รับชัยชนะในการประลอง ของล่อตาล่อใจอย่างแก่นเวทย์อสูรระดับสูงนั้นไม่ใช่สิ่งของที่เหล่านักสู้จะเมินเฉยได้ พวกเขาทำตามความโลภที่บังเกิดอยู่ภายในใจ กว่าเหยื่อจะรู้ตัวว่าผู้คุ้มกันของพวกเขาคือตัวตนที่อันตรายก็สายเกินกว่าจะแก้ไขได้ทัน
เมื่อเห็นดังนี้วาเลนยิ่งมีความมั่นใจว่าเหตุการณ์เช่นนี้มิได้เกิดขึ้นครั้งแรก อย่างแน่นอนเบื้องหลังของสังเวียนนักสู้ ที่ผู้คนยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่กลับเป็นได้เพียง ผู้พิทักษ์ในคราบโจร! เมื่อเล็งเห็นถึงผลประโยชน์ ก็พร้อมที่จะปล้นชิง ทำลาย
"ดูเหมือนจะมีอีกหลายคนเช่นกันที่กำลังติดตามมา แต่ด้วยความเร็วในระดับที่ทั้งสองเดินทางนี้ มิคาดว่าอย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกพักนึงถึงจะตามมาได้ทัน ไม่น่าเชื่อว่าแม้แต่ผู้ใช้เวทย์เหล่านั้นก็ยังคิดที่จะเสี่ยงในโอกาสเช่นนี้" วาเลนพูดโดยที่รอบตัวของเขามีละอองสีเขียวละลอกหนึ่งถูกดึงดูดกลับเข้ามา นี่คือหนึ่งในขุมพลังของธาตุพฤกษาที่ราชินีดรายแอดส์เป็นผู้สอนวาเลนด้วยตนเอง มันคือการสัมผัสวิญญาณ!
การสัมผัสวิญญาณ คือการดึงพลังธาตุพฤกษามาใช้ในการตรวจจับวิญญาณของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ภายใต้ขอบเขตพลังของผู้ใช้
แต่เมื่อมันถูกใช้โดยวาเลน มันกลับถูกเพิ่มศักยภาพโดยพลังของสำนึกพฤกษาที่เขามี เท่ากับตอนนี้แม้แต่มดแมลงตัวเล็ก ๆ หากอยู่ภายใต้รัศมีที่พลังของเขาสามารถส่งไปถึง จะไม่มีสิ่งได้ซ่อนเร้นจากสายตาของเขาไปได้
เบื้องหน้าของทั้งสอง หญิงสาวนามเอเรียลและผู้พิทักษ์ได้หยุดเดินทางแล้วเช่นกัน ทั้งสองเหมือนกับว่าจะหยุดพักชั่วครู่ก่อนที่จะเดินทางต่อไป ชายลึกลับที่ตามติดมานั้นยังคงรอคอยในมุมมืด
วาเลนสังเกตเห็นว่าทั้งสองพูดบางอย่างต่อกันก่อนที่ผู้พิทักษ์จะแยกตัวออกไป เขาเคลื่อนกายลาดตระเวนไปโดยรอบราวกับไม่ต้องการให้ใครสามารถเข้ามาใกล้ได้ในช่วงเวลาเช่นนี้
เป็นเวลาเดียวกับที่ชายลึกลับที่ติดตามมาปรากฎกายตรงหน้าของหญิงสาวนามเอเรียลอย่างฉับไว ประกายของพลังธาตุลมสาดกระจายออกมาอย่างบ้าคลั่ง สายลมที่บางเบานั้นเต็มไปด้วยอำนาจที่อันตรายของนักเวทย์ขั้นสูง
"ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้ตัวแล้ว" วาเลนสัมผัสได้ถึงพลังงานหนึ่งสายที่พุ่งเข้ามา มันคือพลังธาตุที่มาจากตัวของผู้พิทักษ์
ไม่ต้องรอให้วาเลนพูดสิ่งใด คารีสหายวับไปประจันหน้ากับผู้พิทักษ์ของสังเวียนในทันที
มีเสียงระเบิดดังออกมาจากการปะทะของทั้งคู่ดังสนั่นหวั่นไหว ราวกับท้องฟ้าจะทล่มทลาย
เอเรียลมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ตั้งแต่ที่ผู้พิทักษ์ขอตัวออกไป มือข้างที่กำดาบคู่ใจเอาไว้นั้นชื้นไปด้วยเหงื่อ หญิงสาวรู้สึกกระวนกระวาย และยังไม่ทันที่เธอจะได้ตะโกนร้องของติดตามผู้พิทักษ์ไป อยู่ ๆ ก็มีชายลึกลับปรากฎกายตรงหน้าอย่างฉับพลัน
พลังงานของธาตุลมนั้นรุนแรงชนิดที่เธอไม่สามารถหลีกหนีได้ มันพัดทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุหมุนที่กักทั้งคู่ไว้ภายใน มีเสียงระเบิดดังออกมาจากที่ไกล ๆ ทำให้ชายลึกลับยิ่งเร่งลงมือ
"ส่งแก่นเวทย์อสูรมา แล้วข้าจะให้เจ้าตายอย่างไม่ทรมาน" ชายลึกลับพูดด้วยเสียงเหี้ยมเกรียม
เอเรียลกำดาบแน่น ชายผู้นี้ไม่คิดที่จะปล่อยเธอไปถึงแม้ว่าจะเสนอแก่นเวทย์อสูรให้ในตอนนี้ ก็เหมือนว่าจะไม่มีความหมายเมื่อมีแต่ต้องตายก็ไม่มีอะไรที่ต้องพูดกันอีก
"ผู้พิทักษ์จะตามล่าเจ้า...พวกเขาจะไม่ยอมให้ตระกูลอิกไทน์ ต้องขายหน้า"เอเรียลกัดฟันพูดอย่างแค้นใจ
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ช่างไร้เดียงสา ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ ทำไมเจ้าไม่คิดบ้างว่าเหตุใดข้าจึงไม่เกรงกลัวตระกูลอิกไทน์ "ชายลึกลับหัวเราะอย่างชั่วร้ายก่อนจะพูดอย่างย่ามใจ
"ข้าคือ ชไนเดอร์ อิกไทน์ สาวน้อยตอนนี้เจ้าคงได้รู้แล้วว่าเพราะเหตุใด! จะไม่ขอบคุณหน่อยหรือที่ข้าบอกความลับนี้ให้ฟัง"
"เจ้า..."เอเรียลกรีดร้องอย่างแค้นใจกลับกลายเป็นว่าเธอพาตัวเองมาอยู่ในจุดที่อันตรายที่สุดของชีวิตไปแล้ว แท้จริงแล้วนี่คือเบื้องหลังที่ชั่วร้ายของสังเวียนนักสู้ที่ผู้คนทั่วไปไม่รู้ มีกี่คนแล้วที่ตกตายกลายเป็นเหยื่อของตระกูลที่ชั่วร้ายนี้
"ถึงจะน่าเสียดาย แต่ความลับจะเป็นความลับต่อไป มันก็ต้องอยู่กับคนที่ตายแล้วเท่านั้น..อย่าชักช้าเสียเวลา ส่งมันออกมา" ชไนเดอร์ อิกไทน์ ตวาดอีกครั้งอย่างชั่วร้ายก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเอเรียล
"มาลองดูว่าก่อนตายข้าจะฝากแผลไว้ให้เจ้าได้เท่าไหร่กัน"เอเรียลทะยานเข้าหาชายลึกลับอย่างแค้นใจ
"พร่างพราว"ระบำดาบถูกวาดเข้าใส่ราวกับจะให้ชายลึกลับตกตายไปในทีเดียว
"น่าขัน! นักเวทย์ขั้นกลางอย่างเจ้ากล้าที่จะฝากรอยแผลไว้ให้ข้าอย่างนั้นหรือ? "นัยน์ตาของชไนเดอร์สว่างวาบ สายลมถูกเปลี่ยนเป็นกระแสดาบที่อันตราย
ระบำดาบของเอเรียลถูกทำลายโดยกระแสดาบสายลม หญิงสาวถูกพลังของหนึ่งในกระแสดาบอัดเข้ากระแทกกับกำแพงลมที่ล้อมกรอบทั้งคู่เอาไว้
ร่างของเธอไถลครูดไปกับพื้นตามแรงของสายลมจากกำแพงพายุ เธอใช้ดาบในมือกระแทกยึดกับพื้นดินก่อนจะยืมแรงดีดจากดาบดีดตัวออกมาให้พ้นจากวังวนพายุนั้นได้
เอเรียลยังไม่ตัดใจฝ่ามือของเธอฟาดเข้าใส่พื้นดิน พลังเยือกแข็งแผ่กระจาย มันก่อตัวลดอุณหภูมิเปลี่ยนให้พื้นที่ใจกลางพายุหมุนนี้กลายเป็นสมรภูมิน้ำแข็ง
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าจะทำอะไรสาวน้อย จะแช่แข็งข้าให้ตายหรืออย่างไร?"ชไนเดอร์เย้ยหยันหญิงสาว
เอเรียลมีท่าทีราวกับอยากจะร้องไห้ เธอเชื่อมั่นในฝีมือดาบมากเกินไป จนไม่ได้พัฒนาระดับการใช้พลังเวทย์
ถึงจะมีธาตุพิเศษ แต่มันกลับไม่ได้ช่วยอะไร ทักษะการใช้เวทย์ของเธออาจจะน้อยกว่าระดับขั้นพลังด้วยซ้ำไป หญิงสาวรู้สึกเสียใจที่เคยปฏิเสธการเรียนรู้มัน
"เห้อ....ไม่สนุกอย่างที่คิดไว้เลย!" เสียงที่เอเรียลคุ้นเคยดังเข้ามาจากนอกกำแพงสายลม
ชายลึกลับมีนัยน์ตาฉงนใจ ผู้พิทักษ์ออกไปรับมือกับผู้ติดตามมามิใช่หรือ แล้วเสียงนี้คือใคร? ไม่มีทางที่ผู้ใช้เวทย์ระดับต่ำเหล่านั้นจะติดตามมาทันได้ การคำนวนเวลาของเขาไม่เคยผิดพลาด
"เจ้าเป็นใคร กล้าที่จะแส่หาเรื่องตายหรือ?" ชายลึกลับตวาดอย่างดุร้าย ในมือของเขาส่งสายลมที่คมกริบราวกับใบดาบไปยังทิศทางของเสียงที่อยู่ภายนอกกำแพงสายลม
ฟ้าววววว ควับ
เกิดเสียงคว้าจับดังหนักทึบเข้ามาให้ทั้งสองได้ยิน ก่อนที่กำแพงสายลมตรงจุดนั้นจะสั่นไหว บังเกิดระลอกคลื่นขนาดใหญ่ของสายลม มีร่างของเด็กชายที่ทั้งคู่คุ้นตาปรากฎตัวออกมาด้วยรอยยิ้มสบาย ๆ ราวกับกำแพงลมนั้นไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อเขา
เอเรียลเบิกตากว้างอย่างตกใจ นี่คือคุณชายคนนั้น คนที่มอบเดิมพันเป็นแก่นเวทย์อสูรเจ้าปัญหาให้กับเธอ
"ใบหน้าของเจ้าราวกับมีอะไรจะพูดกับข้า อย่างนั้นแหละ" วาเลนจับจ้องไปที่หญิงสาว นัยน์ตาของเขาพราวระยับอย่างชอบใจ
"นี่เป็นแผนของเจ้างั้นหรือ.....เจ้าต้องการอะไร" เอเรียลถลึงตามองอย่างไม่เข้าใจ เมื่อคุณชายคนนี้พูดหยอกเย้าเธอ เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้มันผิดปกติไปมาก และแก่นเวทย์อสูรนี้ก็ราวกับถูกมอบให้เธออย่างตั้งใจเกินไป
"ข้าเหมือนคนที่ต้องให้ใครช่วยอะไรงั้นหรือ? กลับกันข้าต้องถามเจ้ามากกว่า ว่าต้องการให้ช่วยอะไรไหม..."วาเลนถามด้วยท่วงท่าสบาย ๆ
เอเรียลแทบไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรแม้แต่น้อย หญิงสาวพยักหน้าอย่างฉับไว "ข้าจะมอบคืนแก่นเวทย์อสูรให้กับเจ้า หากว่าเจ้าช่วยชีวิตข้าเอาไว้ได้"
วาเลนส่ายหน้า ราวกับพ่อค้าผู้เอาแต่ใจ "ขาดทุนเกินไป"
"ถ้าอย่างนั้น ข้าจะมอบกระบี่ให้เจ้าอีกอัน ถึงอย่างไรมันก็เป็นถึงอาวุธวิเศษระดับเงิน"เอเรียลกัดฟันพูดออกมา
"ข้าขอเป็นดาบดีกว่า"วาเลนพูดสวนขึ้นมา
"เจ้าจะปล้นข้าอีกคนหรือยังไง"เอเรียลกรีดร้องอย่างขัดใจ
วาเลนยิ้มอย่างสบาย ๆ ที่เขาทำเช่นนี้เพราะต้องการบีบให้หญิงสาวใช้กระบี่มากกว่า ในอนาคตข้างหน้าเธอจะไปได้ไกลกว่าการใช้ดาบมากมายนัก จากการวิเคราะห์ของเขา หญิงสาวจะเผยศักยภาพได้มากกว่าเดิมอีกเท่าตัว
"อยู่ที่เจ้าตัดสินใจ ข้าจะไม่ลงแรงอะไรทั้งสิ้น ปล้นชิงอย่างที่ตระกูลอิกไทน์ทำ ถึงจะดูต่ำทราม! แต่กลับได้กำไรเยอะกว่าเป็นไหน ๆ " วาเลนวิจารณ์ออกมา ก่อนจะทำสีหน้าราวกับขออภัยไปทาง ชไนเดอร์
"ฉันตกลง!"เอเรียลตะโกนออกมา เมื่อเห็นว่าไม่มีทางเลือกอื่นอีกต่อไป
คำพูดของวาเลน ทำให้ชไนเดอร์รู้สึกกับว่าเขาโดนรองเท้าตบหน้า นัยน์ตาของเขาจ้องเขม็งอย่างอาฆาตมาดร้าย ไปที่เด็กชาย
"พวกแกทั้งสองคนต้องตาย ... จะไม่มีใครรอดไปได้ทั้งนั้น" ชไนเดอร์ตวาดออกมาอย่างบ้าคลั่ง ไม่เคยมีใครพูดจาหรือแสดงท่าทางหมิ่นเกียรติของเขาเช่นนี้มาก่อน
"หึหึหึ จะข่มขวัญข้าจนตายหรือยังไง? ไร้เดียงสา ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ ทำไมเจ้าถึงไม่คิดบ้างว่าเหตุใดข้าถึงไม่กลัวเจ้า?!แต่เสียใจถ้าคิดว่าข้าจะพูดประโยคล้าสมัย อย่างการแนะนำตัวก่อนฆ่าใครอย่างเจ้าละก็ ไม่ดีกว่า"
วาเลนเคลื่อนกายเข้าหาชไนเดอร์อย่างว่องไว พริบตาเขาหายมาอยู่ด้านหลังชไนเดอร์ราวกับภูติพราย และเอ่ยประโยคที่ถึงกลับทำให้ชายลึกลับหลั่งเหงื่อเย็นเชียบอย่างไม่ตั้งใจ
"เพราะสำหรับข้า คนตายไม่จำเป็นต้องรู้!"
---------------------------------------------------
ขอบคุณทุกกำลังใจ และคอมเม้นต์ที่คอยให้กำลังใจกันนะครับ
ด้วยรัก จากไรท์ ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รอๆๆๆๆๆๆๆ
ค้างงงงงงงงงงงง
ปล.เอเรียลนี่นางเอกรึเปล่าน้า
ว้าวว น้องสุดยอดมาก ขอบคุณนะคะไรต์เตอร์ สนุกมากๆค่ะ