ตอนที่ 46 : คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 45 ร้านยา
คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 45 ร้านยา
กว่าผู้อาวุโสเอียนจะสงบใจลงได้ก็ใช้เวลาไปกว่าครึ่งค่อนวัน แม้แต่วาเลนก็ชะงักงันและตกใจเมื่อได้ยินตัวเงินที่เขาละลายไปกับการทดลองครั้งนี้ เด็กชายมีท่าทีลังเล หรือเขาควรหันไปปลูกสมุนไพรขายอย่างเดียวดี
แต่พอหันไปมองรอบ ๆ ตัวแล้วพบเข้ากับเม็ดยาจำนวนมหาศาลที่เขาหลอมออกมานั้นวาเลนก็พลันเลิกคิดเรื่องนี้ทันที
"อาจารย์ ท่านเห็นว่าอย่างไร หากข้าจะขอให้ท่านหันกลับมาสนใจในกิจการร้านยาอีกครั้ง" วาเลนถามหยั่งเชิง
"ร้านยางั้นหรือ...."
"ใช่...ท่านอาจารย์ ร้านยาที่ตระกูลของเราครอบครองอยู่ เป็นท่านที่ดูแลใช่หรือไม่"
อาวุโสเอียนพยักหน้า แต่กลับแสดงท่าทางหนักใจออกมา
"เมื่อก่อนนั้นใช่..แต่ตอนนี้นับว่าไม่ใกล้เคียงเท่าไหร่ ตระกูลกำลังจะขายมันให้กับเหล่าผู้ใช้มนตราที่จะมาเปิดเป็นโรงรักษา ถึงจะดูเหมือนเป็นการตบหน้าแต่เหล่าผู้ปรุงยาก็นับว่าควรผูกมิตรเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่ตระกูลให้กับเรา"
วาเลนขมวดคิ้ว ผู้ใช้มนตราอีกแล้วหรือ
"หอโอสถ ก็เคยจะถูกยุบไปเหมือนกัน มันเกือบจะกลายเป็นอาคารฝึกฝนของเหล่านักล่า โชคดีที่ท่านหญิงวิเรร่ามารดาของเจ้าออกหน้าให้ แลกกับการที่ข้ารับเจ้าเข้ามาเป็นศิษย์" วาเลนพยักหน้าเข้าใจ นี่เองคือสิ่งที่เขาสงสัยมานาน ที่เหตุใดกันอาวุโสท่านนี้จึงกล้ารับเขาเข้ามาเป็นศิษย์ทั้ง ๆ ที่คุณชายเจ็ดคนก่อนนั้นเต็มไปด้วยเรื่องร้ายกาจ
ชายชราจับจ้องดูปฏิกิริยาของวาเลนหลังจากพูดเสร็จว่าเขาจะตอบสนองเช่นไร แต่วาเลนกลับไม่ได้มีท่าทีเปลี่ยนไปราวกับเขาไม่ได้ใส่ใจในอดีตที่ผ่านมา ชายชราเห็นอย่างนั้นจึงลอบยิ้มอย่างดีใจ หากคุณชายเจ็ดยังยึดติดกับเรื่องเล็กน้อยในอดีต เช่นนั้นย่อมมีปัญหาต่อการร่วมงานในอนาคตเป็นแน่
หนึ่งศิษย์หนึ่งอาจารย์กลับมานั่งหันหน้าคุยกันเรื่องการจัดตั้งร้านยาแทนที่จะคุยเรื่องที่ผ่านมาแล้ว อาวุโสเอียนมีสีหน้าภาคภูมิใจเมื่อวาเลนพูดว่าต้องการให้เขาออกหน้าเรื่องร้านยา เขาไม่คิดว่าตระกูลในรุ่นของเขาจะสามารถฟื้นฟูร้านยากลับขึ้นมาใหม่ได้
ต่อให้หลังจากนี้ไม่ว่าตระกูลจะเห็นเป็นเช่นไร ยังจะขายหรือให้ร้านยาเป็นสิทธิของคุณชายเจ็ด เขาก็จะหาทางเปิดร้านให้สำเร็จจงได้
ต้องรู้ว่าหอโอสถถึงจะเป็นที่สำหรับปรุงยาแต่มันก็ทำได้เพียงแค่เม็ดยาระดับต่ำเท่านั้น สมุนไพรในแปลงเกือบร้อยสายพันธุ์นั้นนับว่าหาได้ทั่วไป มันไม่สามารถนำมาหลอมเป็นยาระดับสูงได้ จึงทำให้ปัจจุบันร้านยาของตระกูลนั้นตกต่ำจนแทบไม่มีความสำคัญอีกต่อไป
แต่เมื่อคุณชายเจ็ดสามารถปลูกพืชพันธุ์ชั้นสูงออกมาได้ จึงทำให้ตอนนี้สถานการณ์นั้นเปลี่ยนไป ตัวยาระดับสูงมากมายนี้นับว่าสามารถเปลี่ยนให้ยาจกคนหนึ่งกลายเป็นเจ้าเมืองได้ในพริบตาเดียว
นี่ยังไม่นับว่าราคาของมันจะดีดขึ้นไปมากกว่านั้นอีกเท่าตัวเมื่อบวกกับศักยภาพในการยกระดับการบ่มเพราะต่อผู้ที่กินมันเข้าไป
อาวุโสเอียนไม่เคยเห็นโอกาสที่ใครเคยหยิบยื่นให้ดีเท่านี้มาก่อน ชายชราไม่ใช่คนโง่ที่จะอิดออดและสร้างเงื่อนไข ผลกำไรหลังจากนี้อีกไม่รู้เท่าไหร่ที่จะหลั่งไหลเข้ามา ถ้าเขายังไม่คว้าโอกาสนี้เอาไว้ก็นับว่าโง่เต็มที
ต่อให้มีร้านยามากมายในเมืองแล้วอย่างไร? ไม่ใช่ทุกร้านจะสามารถมียาระดับสูงไว้ขายได้
เมื่อจัดการวางแผนงานต่าง ๆ ได้แล้วอาวุโสเอียนจึงเร่งจากไป หลังจากนี้การตลาดและการค้าขายจะตกอยู่ภายใต้การดูแลจากชายชรา ซึ่งวาเลนไม่ห่วงในเรื่องนั้น ผู้ที่ผ่านการใช้ชีวิตอย่างโชกโชนและยาวนานแบบผู้อาวุโสเอียนสามารถรับมือกับเรื่องนั้นได้อย่างสบาย ๆ
หลังจากนี้เขาก็แค่มีหน้าที่ในการป้อนเม็ดยาให้กับอาวุโสเอียนเมื่อถึงเวลาที่ยาใกล้จะหมดเพียงเท่านั้น กำไรจากผลประกอบการจะถูกแบ่งออกเป็น หกสิบ สี่สิบเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย นี่เป็นสิ่งที่อาวุโสเอียนเสนอให้โดยที่วาเลนไม่ต้องเอ่ยปากใด ๆ ให้เป็นที่หนักใจ ชายชราไม่เคยมีความคิดว่านี่เป็นการค้าที่ขาดทุนแต่อย่างใด เขาคิดเพียงว่าคุณชายเจ็ดสมควรที่จะได้รับมัน
วาเลนนำเรื่องนี้ไปแจ้งแก่ท่านหญิงวิเรร่า เธอมีใบหน้าที่ปลาบปลื้มใจ ก่อนจะพยักหน้าให้อย่างยินดี นี่นับเป็นความสำเร็จเล็ก ๆ ของบุตรชายจะไม่ให้เธอดีใจได้อย่างไร บุตรของเธอมิใช่ลูกนกในรังที่คอยแม่ป้อนอาหารอีกต่อไป เขาเติบใหญ่พอที่จะกางปีกบินออกไปเผชิญโลกด้วยตนเองได้ สิ่งที่เธอควรทำในตอนนี้คือคอยให้กำลังใจ และระวังภัยให้เขาอยู่ห่าง ๆ
วาเลนพบว่า อาวุโสเอียนทำงานได้ดีเกินคาด ไม่ถึงวันก็สามารถกระจายข่าวเรื่องร้านยาที่จะเปิดใหม่จนชื่อเสียงดังขจรขจายไปไกลได้อย่างรวดเร็ว ผู้คนล้วนแตกตื่นกับคำโฆษณา ตัวยาที่สามารถรักษาและยกระดับการบ่มเพราะได้เพียงการกินในครั้งเดียว
การรักษานั้นไม่นับว่าน่าแปลกใจแต่อย่างใด แต่การยกระดับนั้นกลับไม่ใช่! มีใครบ้างท่ีไม่ต้องการก้าวหน้าในการบ่มเพราะพลัง ต่อให้คน ๆ นึงไม่มีโรคที่ต้องรับการรักษาเมื่อได้ยินข่าวก็ยังอดคิดที่จะหาซื้อมาครอบครองมิได้
"นี่เจ้าได้ยินเรื่องร้านยาที่กำลังจะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งไหม" วัยรุ่นชายคนหนึ่งพูดถึงข่าวใหญ่ หนึ่งในหัวข้อที่ใคร ๆ พูดถึงมากที่สุดในตอนนี้
"มีร้านยามากมายในเมืองนี้ จะมีเรื่องแปลกอะไร หากจะมีใครซักคนคิดที่จะกลับมาทำมัน" เพื่อนชายของเขาตอบพลางหั่นเนื้อในจานตรงหน้าอย่างไม่สนใจ ทั้งสองกำลังพูดถึงข่าวใหญ่ในระหว่างมืออาหาร
"นี่แสดงว่าเจ้าไม่ได้ยินข่าวใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม" ชายผู้เริ่มบทสนทนาถาม
"ข่าวอะไร?" เนื้อชิ้นที่สองถูกจัดการอย่างไว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้
"หึ...ก็เรื่องที่ว่า ตระกูลโอเดลรอสจะเปิดขายตัวยาที่มีคุณสมบัติที่นอกจากการรักษาแล้วยังสามารถเพิ่มระดับการบ่มเพราะได้อีกยังไงเล่า!" ชิ้นเนื้อที่เพิ่งเข้าปากแล้วยังเคี้ยวไม่เสร็จดีถูกพ่นพรวดออกมาอย่างตกใจ
เขาหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดปากอย่างว่องไว ก่อนจะถลึงตาใส่ชายอีกคนทันที
"มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ? นี่เป็นเรื่องจริงใช่ไหม หรือใครหาเรื่องตายด้วยวิธีนี้"
"นั่นแหละ ที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันยกใหญ่ ว่ามันเป็นเรื่องจริงไหม หากร้านนี้ผลิตยาไม่ได้ดังที่พูดไว้ เป็นไปได้ว่าต้องเกิดปัญหาวุ่นวายตามมาแน่ ๆ "
"หมายความว่ายังไง ที่ว่าจะเกิดปัญหาตามมา "
เด็กชายผู้เริ่มบทสนทนามองเพื่อนตรงหน้าด้วยสายตาเหนื่อยใจ
"เจ้าคิดว่าโอเดลรอสจะได้อยู่สบาย ๆ หรือ อย่าลืมสิว่าตอนนี้ตระกูลนั้นตกต่ำลงไปมากเพียงใด อีกสามตระกูลใหญ่ ไม่ปล่อยโอกาสซ้ำเติมให้หลุดลอยแน่ ๆ ที่ข้าจะพูดก็คือ เราก็แค่รอดูละครฉากใหญ่ เจ้าว่าตระกูลไหนจะได้ผลประโยชน์ในครั้งนี้ไปกัน"เด็กชายพูดอย่างสนุกสนาน ราวกับว่ามันเป็นเรื่องขำขันเรื่องหนึ่ง
"ไม่รู้สิ....แล้วเจ้าล่ะคิดว่าจะเป็นตระกูลไหนในสามตระกูลนี้?"
"ตระกูลกลาเทรีย ย่อมไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะท่านหญิงที่เป็นขวัญใจใครหลาย ๆ คนนั้นหมั้นกับคุณชายสามอลองเฟย์ อย่างน้อยตระกูลนี้น่าจะไม่กล้าเคลื่อนไหวอะไรมากมาย สามารถตัดออกไปได้ "
"ส่วนตระกูลอิกไทน์ ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้เช่นกัน พวกนี้เป็นสายนักสู้ไม่ใช่พ่อค้า แต่เป็นไปได้ว่า ถ้าพวกเขามาแล้วพบว่ามันเป็นเพียงเรื่องโจ๊กของตระกูลโอเดลรอสก็อาจจะมีท้าตีท้าสู้กันก็ได้ โทษฐานที่ทำให้พวกเขาเสียเวลา"
"แต่ที่ข้าคิดไว้ ตระกูลแคนเดียร์ จะไม่ปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ เป็นแน่ ตระกูลนี้อยู่เบื้องหลังของผู้ใช้มนตรา ข้าคิดว่าพวกเขาน่าจะหาทางยำพวกนักปรุงยาของตระกูลโอเดลรอสเป็นแน่ "
สิ้นการวิเคราะห์บรรยาย มีเสียงตบมือดังขึ้นใกล้ ๆ เด็กชายทั้งสองทันที ต้นเสียงนี้ปรากฎว่าเป็นเด็กหนุ่มหน้าใส
บนใบหน้าปรากฎรอยยิ้มบาง ๆ ดูท่าทางจริงใจ ข้างกายเขามีเด็กชายอีกคนที่มีใบหน้าเฉยชา
"เสียมารยาทแล้ว....ข้าเพียงรู้สึกทึ่งกับการวิเคราะห์ของท่านจริง ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะปรบมือให้ ถ้าเป็นไปได้ข้าขอเลี้ยงชาให้คุณชายทั้งสองเป็นการล้างปากหลังอาหารเป็นไง ...อีกทั้งเป็นการขออภัยในความเสียมารยาทนี้ด้วยที่บังเอิญได้ยิน"
ชายที่วิเคราะห์อดที่จะภูมิใจมิได้ เขาพยักหน้าราวกับสวมบทเป็นผู้ใหญ่กว่าและแสดงท่าทีราวกับจะบอกว่าข้านั้นรู้จริง ทั้งสองเขยิบที่ให้พอสำหรับอีกสองที่นั่ง พลางปัดเบาะให้อย่างเต็มใจ
"ขอชาให้ข้าอีกสองชุด ....สำหรับคุณชายทั้งสองนี้ เอาเป็นว่าระหว่างรอชา ข้าว่าเราสนทนาต่อดีกว่า .....ท่านว่าแคนเดียร์จะมาไม้ไหน? แล้วทำไมโอเดลรอสถึงได้ถูกยำ?!"
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ได้เวลารวยๆๆ
#สู้ๆ