ตอนที่ 45 : คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 44 เม็ดยาระดับทอง
คนสวนกับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 44 เม็ดยาระดับทอง
การพบกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาครั้งแรก พ่อ แม่ ลูกนั้นไม่ได้สร้างความประทับใจใด ๆ ให้กับวาเลนเลย
ท่านหญิงวิเรร่านั้นเคารพการตัดสินใจของบุตรชาย แต่ลึก ๆ แล้วเธอย่อมรู้สึกเสียใจ ที่มันออกมาในรูปแบบนี้
แต่เรื่องนี้จะโทษใครได้ หากบิดารักและใส่ใจ บุตรจะกลายเป็นเช่นนี้ได้หรือ? ท่านหญิงวิเรร่าคิดว่าเรื่องนี้ยังไม่สามารถจัดการได้ในระยะเวลาอันสั้น สิ่งเหล่านั้นคงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ส่วนบรรดาอาวุโสทั้งหลายที่อยู่ในสภาและภาคีนักล่า ส่วนใหญ่ยังคงไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหว อาวุโสสูงสุดออกมาประกาศด้วยตนเองว่าในช่วงนี้หากใครกล้าสร้างความวุ่นวาย จะถูกทัณฑ์สูงสุดของตระกูลประกาศใช้ทันที
ในส่วนของภาคีนักล่านั้น ผู้ปกครองสูงสุดเกือบโดนสังหาร เมื่อเป็นเช่นนั้นเลยไม่มีใครสามารถทำสิ่งใดได้อีก อาวุโสและศิษย์ส่วนใหญ่จึงคอยหลบหลีกผู้คนยิ่งกว่าโดนเจ้าหนี้ทวงถาม
บรรยากาศความสงบในตระกูลตอนนี้จึงคล้ายกับการที่เจอมรสุมลูกใหญ่กระหน่ำซัดเข้าใส่ก่อนที่มันจะจากไปทิ้งไว้เพียงร่องรอยของการทำลายล้าง กับฟ้ากระจ่างไร้เมฆทะมึน
วาเลนไม่ได้ใส่ใจกับคนเหล่านั้น เขายังคงทำตามความมุ่งมั่นตั้งใจเดิม คือการทำเม็ดยาที่นอกจากการรักษาแล้วยังสามารถเพิ่มระดับในการบ่มเพราะได้ด้วย
อำนาจการรักษาตอนนี้ตกไปอยู่กับผู้ใช้มนตรามากเกินไป ผู้หลอมโอสถเลยไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้นานมาแล้ว พูดได้ว่ายุคของการรักษาด้วยเม็ดยานั้นมันหมดไปนานแล้ว
วาเลนละความสนใจเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา
"คุณชาย คนทั้งห้าบาดเจ็บภายใน ร่างกายของพวกเขาบอบช้ำ ดีที่คนเหล่านั้นถูกโจมตีโดยอาวุโสของภาคีที่มีระดับเพียงนักเวทย์ หากพวกเขาถูกพลังขั้นจอมเวทย์ของอาวุโสสองโจมตี คงยากที่จะรักษาให้หายได้" คารีสกลับเข้ามารายงานหลังจากการพบปะกับคนสวนทั้งห้าของวาเลน
วาเลนพยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่เขาจะหายไปในห้องใต้ดินและกลับออกมาพร้อมเม็ดยาจำนวนหนึ่ง
"นี่คือยาของทั้งห้าคน ให้พวกเขากินมันครั้งละเม็ดและพักผ่อน กินติดต่อกันสองวัน เมื่ออาการดีขึ้นแล้วค่อยให้พวกเขากลับมาทำงาน" วาเลนยื่นยาให้คารีสพลางกล่าวกำชับการใช้งาน
คารีสมองยาที่อยู่ในมือของเขาอย่างขยาด เขารอบปฏิญาณในใจลับ ๆ ว่าจะไม่ยอมรับยาอะไรง่าย ๆ จากคุณชายเจ็ดอีกเด็ดขาด หลังเหตุการณ์หลายครั้งที่เขาได้พบเจอมา
ครั้งแรกวาเลนนั้นมอบยาปลุกพลังเวทย์ให้กับเขา ต่อมาก็ยังเอายาที่ตนปรุงขึ้นมาเอาไปใช้ทดลองกับปักษาของราชวงศ์อย่างวิหคทมิฬอีก และเหตุการณ์แต่ละครั้งก็นำมาซึ่งความหวาดเสียวมากเกินไป
คารีสไม่รู้ว่าใบหน้าของเขานั้นล้วนบรรยายความรู้สึกทั้งหมดของตนออกมาโดยที่ไม่ต้องพูดจาสื่อสารใด ๆ วาเลนเห็นดังนั้นจึงอดขำไม่ได้ ดูเหมือนเพื่อนตัวน้อยของเขาจะฝังใจไม่ลืม
"นี่คือยาอะไรหรือคุณชาย" คารีสอดถามอย่างอยากรู้ไม่ได้ ถึงในใจจะมีความหวาดระแวง แต่ลักษณะของตัวยาภายนอกที่แสดงให้เห็นนั้น เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่อะไรที่ธรรมดา
"นี่เป็นยาที่ข้าหลอมออกมานานมากแล้ว มันเป็นตัวยาสมานกาย เจ้าก็สามารถมาเอาไปเก็บไว้ใช้ได้เช่นกัน ข้าหลอมมันออกมาในจำนวนที่เยอะพอดู ตั้งแต่ตอนที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้การหลอมโอสถใหม่ ๆ "วาเลนพูดยิ้ม ๆ คารีสที่ได้ฟังมีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจทันที
หวังว่ายานี่คงจะไม่ให้ผลที่ดีจนเกินไปเขาลอบไว้อาลัยให้กับคนทั้งห้าในใจเงียบ ๆ คารีสเคลื่อนกายจากไปทำหน้าที่ของตนเองที่ได้รับมอบหมาย
เมื่อหมดสิ้นเรื่องราวที่น่ากังวลใจ วาเลนก็ออกไปเยือนแปลงสมุนไพรของเขาอีกครั้ง ราชสีห์ขนทองคำลุกขึ้นมารอรับอย่างดีใจ เมื่อเห็นเด็กชายเดินออกมา
วาเลนเห็นท่าทางเช่นนั้นก็อดเอ็นดูมันไม่ได้ มือของเขาวูบไหว คว้าแก่นเวทย์อสูรที่อยู่ภายในแหวนมิติออกมา ก่อนจะโยนไปด้านหน้าของมัน
เมื่อเห็นรางวัลที่ราวกับชิ้นเนื้อติดมันนี้ราชสีห์ขนทองคำก็มีท่าทีตื่นเต้นดีใจทิ้งมาดของราชสีห์ดุร้ายไปทันที
"นี่คือรางวัลของเจ้า!"วาเลนพูดเบา ๆ ให้มันได้ยิน มันคาบแก่นเวทย์อสูรเอาไว้อย่างหวงแหน พลางแหงนหน้าฟังเจ้านายอย่างตั้งใจ เมื่อเจ้านายยังไม่อนุญาตให้ไป มันก็ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขาจากไปในทันที ทั้งที่ในปากมันตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยน้ำลายที่ไหลหยดย้อย แต่ใจยังคงรอคอยคำอนุญาต
"ไป ....ไปได้แล้ว นับวันยิ่งหมดมาดราชสีห์เข้าไปทุกที ทำตัวอย่างนี้ใครจะกลัวเจ้ากัน?" วาเลนดุมัน ทั้งที่ในใจขำขันกับท่าทางที่น่าเอ็นดูนั้นอย่างอดไม่ได้
เมื่อราชสีห์ขนทองคำจากไปวาเลนก็หันกลับมาสนใจแปลงสมุนไพรระดับสูงเบื้องหน้าต่อทันที ต้องเก็บทั้งหมดนี่ในทีเดียว! เขาไม่อาจที่จะไว้ใจให้มันอยู่ในลักษณะนี้อีกต่อไปได้ ใครจะคิดว่าสมุนไพรนี้จะกลายเป็นชนวนสงครามย่อย ๆ ภายในตระกูลได้กัน
"สมุนไพรเหล่านี้ล้วนมีค่า หากว่าใช้ได้ครั้งเดียวคงน่าเสียดายจนเกินไป แต่การปลูกมันไว้ในที่เช่นนี้ก็ไม่ต่างกับการที่เอาเพชรไว้ล่อตาโจร" วาเลนตัดสินใจเก็บเกี่ยวมันในวันนี้ แต่ก่อนที่จะเก็บเกี่ยวนั้น เด็กชายก็พลันนึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้
"จริงสิ.....อาจเป็นไปได้....ไม่เสียหายที่จะลองดู" วาเลนพึมพัมอย่างตื่นเต้นดีใจ
เขายื่นมือออกไป พลังของพฤกษาในกายบังคับให้สมุนไพรเติบโตไปเรื่อย ๆ บางสายพันธุ์ทิ้งเมล็ดของมันให้ร่วงโรย ในขณะที่บางสายพันธุ์ก็แตกแขนงต้นอ่อนของมันออกมาเรื่อย ๆ เพื่อก่อกำเนิดทายาทรุ่นถัดไป
วาเลนเห็นอย่างนั้นก็อดดีใจไม่ได้ เมล็ดพันธุ์เหล่านี้จะกลายเป็นสิ่งที่สร้างความมั่นคงให้เขาในอนาคต เขาไม่จำเป็นต้องกังวลถึงทรัพยากรที่จะใช้อีกต่อไป ตราบเท่าที่เขาสามารถหาที่ทางที่ปลอดภัยให้กับพวกมันได้ เขาจะสามารถเนรมิตมันให้กลายเป็นทุ่งสมุนไพรได้อีกครั้งในทันที
ตอนนี้ก็เหลือเพียงการปรุงยาและการค้าขายเขาจำต้องอาศัยคนออกหน้าให้ มิเช่นนั้นภาระทุกอย่างจะกลายเป็นหน้าที่ทั้งหมดของเขาไปในทันที ถึงเขาอยากจะมีเงินไว้ใช้จ่าย แต่การผันตัวไปค้าขายไม่ใช่วิถีทางของเขาในตอนนี้
วาเลนยังคงอยากทุ่มเทเวลาที่มีไปกับการฝึกในศาสตร์ที่เขาสนใจ อีกทั้งการบ่มเพราะพลังยังต้องดำเนินต่อไปเขาไม่สามารถละทิ้งสิ่งเหล่านี้ได้ โลกที่พลังเป็นใหญ่หากต้องกลายเป็นตัวตนที่ไร้ซึ่งพลัง ก็ไม่ต่างจากสวะผู้หนึ่งที่ผู้คนพร้อมเหยียบย่ำทำลาย
"เห็นที่ว่าข้าคงต้องเริ่มหลอมเม็ดยาเสียที"วาเลนไม่ต้องการย่ำอยู่กับที่เมื่อมีทรัพยากรที่พร้อมแล้วเขาก็เริ่มดำเนินการหลอมโอสถตามที่คิดไว้ทันที อย่างไม่ลังเลใจ
วาเลนเปลี่ยนห้องใต้ดินให้กลายไปเป็นคลังเก็บยาสมุนไพรที่เขาปรุงขึ้นมาได้ จนห้องที่กว้างใหญ่ดูคับแคบไปถนัดตา ตัวยาเหล่านี้ล้วนเป็นยารักษาคุณภาพสูงแทบทั้งสิ้น ด้วยเพราะมันเป็นสมุนไพรระดับสูง ตัวยาส่วนใหญ่จึงกลายเป็นตัวยาตั้งแต่ระดับเงินขึ้นไป
สมุนไพรบางส่วนถูกวาเลนเร่งการเจริญเติบโตจนมันกลายไปเป็นสมุนไพรที่มีอายุไม่ต่ำกว่าห้าร้อยปี!! สมุนไพรส่วนนี้ถูกเขานำมาทดลองหลอมให้กลายเป็นตัวยาในระดับทอง
วาเลนทดลองหลอมไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง โดยที่ทั้งสิบครั้งนั้นเขาล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่ทุกครั้งก็จะประสบผลสำเร็จขึ้นมาเรื่อย ๆ โชคดีท่ีวาเลนไม่ปล่อยให้ความผิดหวังมาเป็นอารมณ์จนทดท้อใจ จนในที่สุด เขาสามารถหลอมสมุนไพรระดับทองออกมาได้หลังจากใช้สมุนไพรไปถึงยี่สิบชุด!
สมุนไพรระดับสูงอายุห้าร้อยปี!และตัวยาระดับทอง! ไม่ต้องพูดถึงทั้งสองสิ่งนี้ เพียงแค่มีข่าวของสิ่งหนึ่งสิ่งใดหลุดรอดไป มันสามารถกลายเป็นชนวนในสงครามได้ทันที และเพราะการที่สามารถปลูกสมุนไพรเหล่านี้ขึ้นมาเองได้ จึงทำให้วาเลนไม่รู้ถึงมูลค่าของมัน
สมุนไพรระดับสูงยี่สิบชุดที่เขานำมาทดลองแล้วผิดพลาดนั้น มีมูลค่ามหาศาลพอจะซื้อเมืองได้ถึงสิบเมืองด้วยกัน หากนำมันไปมอบให้กับทางอาณาจักรใหญ่ ๆ
แม้แต่อาวุโสเอียนผู้น่าสงสารยังดีใจแทบตายครั้งเมื่อวาเลนนำสมุนไพรระดับเงินขั้นต่ำมามอบให้เขาก่อนหน้านี้ อาวุโสชราถึงกับออกอาการปลาบปลื้มใจ และเก็บสมุนไพรไว้อย่างดีโดยไม่มีท่าทีที่จะใช้มัน
และเหมือนสวรรค์จะยังกลั่นแกล้งไม่หนำใจ จึงดลบันดาลให้ ชายชราเดินทางมาเยี่ยมวาเลนในช่วงเวลานี้
อาวุโสเอียนเดินมาด้วยท่าทียิ้มแย้มแจ่มใสเมื่อรู้ว่าศิษย์รักนั้นกำลังทุ่มเทให้กับการหลอมยาอย่างเอาเป็นเอาตาย
เขากลัวว่าศิษย์อัจฉริยะผู้นี้จะทรุดโทรมจนไม่สบาย ด้วยฐานะอาจารย์เขาจะให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ จึงมาเพื่อให้คำแนะนำในสิ่งที่ชายชราเช่นเขาพอจะทำได้แก่วาเลน
ใครจะรู้ว่าสวรรค์คิดเช่นไร? ชายชราน้ำหูน้ำตาไหลทันทีที่มองเห็นเด็กชายตรงหน้ากำลังทารุณกรรมจิตใจชายชราอย่างยิ่งยวด เขากวาดสมุนไพรระดับทองที่ทดลองล้มเหลวกองทิ้งไว้กับขยะมุมห้องอย่างไม่เสียดายด้วยท่าทีไร้เยื่อใย
"ท่านอาจารย์....ข้าสามารถหลอมโอสถระดับทองได้แล้ว"วาเลนมีใบหน้าที่สดใสพร้อมกับยกยาระดับทองที่หลอมได้ขึ้นมาโชว์ให้อาวุโสเอียนดูอย่างดีใจ ราวกับเขาคิดว่าต้องได้รับคำชมจากชายชรา
แต่วาเลนกลับต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าอาจารย์ของเขานั้นน้ำหูน้ำตาไหลและคุกเข่ากอดกองซากสมุนไพรที่เขากวาดทิ้งไปก่อนหน้านี้ ชายชรามีใบหน้าที่เสียใจราวกับบุตรชายในใส้ตกตาย
วาเลนไม่เข้าใจกับการกระทำนี้ของชายชรา จึงถามคำถามที่ทำร้ายจิตใจออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจว่า เหตุใดท่านจึงกอดขยะเหล่านั้นแล้วร้องไห้กัน? ใครทำให้ท่านเสียใจ?!" เด็กชายถามด้วยใบหน้าขึงขัง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ร้องไห้หนักมาก555
555
สามัญสำนึก สามัญสำนึก
555
แค่ค่ายาก็ล้มละลายได้
5555 ไม่คิดว่าอาจารย์ถึงขนาดน้ำตาไหล