ตอนที่ 30 : คนสวน กับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 29 เรื่องเล่าของราชินี
คนสวน กับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 29 เรื่องเล่าของราชินี
วาเลนตื่นขึ้นมาก่อนจะพบว่าตัวของเขานั้นอยู่ในที่ ๆ ไม่คุ้นตา รอบกายเต็มไปด้วยเหล่าบุปผาที่งดงาม เขานอนอยู่ท่ามกลางเปลที่สานมาจากเถาวัลย์เส้นเล็ก ๆ ปลายของเปลทั้งสองด้านผูกโยงกับกิ่งก้านของพฤกษาขนาดใหญ่มหึมาต้นหนึ่ง
ห่างออกไปไม่ไกล ปรากฎร่างของหญิงสาวที่สวมใส่อยู่ในอาภรณ์ผ้าป่านสีเขียว บนหัวของเธอประดับไปด้วยมงกุฏดอกไม้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ กอรปกับผมที่ดำขลับแผ่สยาย ส่งให้บรรยากาศรอบกายแผ่กลิ่นอายที่สูงส่งดังราชินี
วาเลนไม่รู้จักเธอคนนี้ แต่การที่ตัวเขายังมีชีวิตรอดจากราชสีห์ขนทองคำอยู่ได้ นั่นอาจเป็นเพราะได้รับความช่วยเหลือจากเธอ เขาตัดสินใจลุกจากเปลที่นุ่มสบาย เดินตัดผ่านเหล่าบุปผามากมายเข้าไปหาหญิงสาวใกล้ ๆ ทันที
นัตย์ตาสีเขียวสดใส ที่จ้องมองมามันแฝงไปด้วยแววตาของความเศร้าโศกเสียใจราวกับเธอไม่อาจตัดใจจากบางสิ่งบางอย่างได้
"เจ้าตื่นแล้ว" เธอทักขึ้นมาเบา ๆ ราชินีดรายแอดส์ ที่จมอยู่กับความเศร้าเพราะเมื่อไม่อาจเอาราชินีแห่งมวลภมรคืนมาได้ นั่นหมายถึงปณิธานที่ยิ่งใหญ่ที่สืบทอดต่อ ๆ กันมาต้องมาสูญสลายหายไปในรุ่นของเธอ หรือนี่จะถึงคราวเปลี่ยนผ่านของเผ่าพันธุ์โบราณเช่นเธอ
ตัวตนที่อยู่มานานอย่างเธอย่อมมองเห็นและผ่านเหตุการณ์มากมาย หนึ่งในนั้นคือการล่มสลายของเผ่าพันธุ์ ตัวตนในตำนานนั้นต่อให้ทรงพลังมากมายขนาดไหนแต่ก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้แก่กาลเวลา
"ขอบคุณท่านมากที่ช่วยข้าเอาไว้" วาเลนเลือกที่จะแสดงน้ำใจก่อนที่จะถามไถ่ถึงความเป็นไป เป็นมา ในเรื่องที่เกิดขึ้น
หญิงสาวเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ที่มารยาทเช่นนี้ยังคงหาได้จากเผ่าพันธุ์มนุษย์เบื้องหน้า หลายพันปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยเฉียดกายเข้าใกล้อาณาเขตของเผ่าพันธุ์นี้เลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเคยได้รับฟังเรื่องราวของเผ่าพันธุ์มนุษย์นี้มาบ้าง จากเรื่องเล่าของเหล่าพฤกษา ต้นไม้ภายในป่าเปรียบไปก็เสมือนเป็นหูเป็นตาของเธอ
อาณาเขตพฤกษาที่แท้จริงคือเขตป่าชั้นใน หากไม่มีการกล้ำกลายเข้ามา เธอย่อมไม่ถือสาหาความใด ๆ และด้วยความที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ในยุคนี้นั้น ไร้ซึ่งความสามารถที่จะเข้ามาถึงเขตป่าชั้นในได้ หรือต่อให้ผ่านเขตป่าชั้นกลางเข้ามาได้ก็ต้องพบกับสัตว์อสูรดุร้าย ที่เฝ้าปกป้องเขตป่าชั้นในอีกหลายต่อหลายตัว
การเผชิญหน้าระหว่างเธอ กับวาเลนจึงเป็นการพบปะกับมนุษย์ในรอบหลายพันปีที่ผ่านมา
"เจ้าเข้ามาทำสิ่งใดในป่าแห่งนี้" ราชินีดรายแอดส์ถามขึ้น ชวนคุยเรื่องทั่ว ๆ ไป ราวกับถามไถ่เรื่องดินฟ้าอากาศ เธอไม่ได้ใส่ใจถึงคำขอบคุณของเด็กน้อยเบื้องหน้า
"ตอบตามตรงผู้มีพระคุณ ข้าเข้ามาเพราะเทศกาลล่าสัตว์อสูร" วาเลนตอบตามความจริง ตัวตนเบื้องหน้าของเขานั้นไม่อาจสัมผัสได้ถึงขั้นของพลัง มีความเป็นไปได้สองทางที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้ นั่นคือ สตรีเบื้องหน้าไม่มีซึ่งอำนาจของพลังเวทย์ กับทางที่สองคือ อำนาจของพลังเวทย์ของเธอนั้นเหนือขึ้นไปเกินกว่าจะตรวจสอบได้
วาเลนไม่คิดว่าสตรีที่ดูสูงส่งราวกับราชินีเบื้องหน้าของเขานั้นจะเป็นเฉกเช่นคนธรรมดาทั่วไป ภายในป่าที่อันตรายไม่มีสิ่งใดอยู่รอดได้หากไม่ครอบครองพลังที่ยิ่งใหญ่ นั่นจึงเหลือเพียงเหตุผลเดียว หญิงสาวผู้นี้มีพลังอำนาจที่เขาไม่อาจทราบได้ และการโกหกที่อาจยั่วยุให้เกิดโทสะแก่เธอนั้นก็ควรหลีกเลี่ยงจะดีที่สุด
"การไม่ประมาณตนนั้นจะนำเจ้าไปสู่ความตาย สัตว์อสูรมากมายภายในป่าแห่งนี้มิใช่ตัวตนที่เจ้าจะสามารถต่อต้านได้การเข้ามาท้าทายมีแต่จะตกตายเสียป่าวและการตายของเจ้าก็จะเป็นการตายของนาง!" ราชินีดรายแอดส์พูดขึ้น ในใจนึกขุ่นเคืองทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องที่มีส่วนพาดพิงถึงราชินีอสูร มอโธร่า
"นาง? ท่านหมายถึงใคร" วาเลนถามกลับอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้าต้องการจะบอก
"เรียกอสูรของเจ้าออกมาสิ"ราชินีดรายแอดส์ไม่ตอบคำถาม แต่กลับออกคำสั่งแทน วาเลนรู้สึกแปลก ๆ กับการกระทำนี้แต่เมื่อคิดว่าหากเธอมีเจตนาที่ไม่ดีคงไม่ช่วยตนเองมาจนถึงตรงนี้ได้
"ออกมา มอโธร่า" วาเลนเอ่ยเรียกราชินีแห่งมวลภมรออกมาตามที่ถูกสั่งในทันทีปรากฎละอองแสงดาว พราวระยับ ราวกับดวงดาวเล็ก ๆ นับล้านพุ่งผ่านออกมาจากตัวของวาเลน ก่อกำเนิดร่างเป็นสัตว์อสูรที่สง่างามน่าหลงไหล แต่อีกนัยหนึ่งก็เต็มไปด้วยความลึกลับ
หญิงสาวตรงหน้าของวาเลนจ้องมองราชินีแห่งมวลภมรตาไม่กระพริบ มันเต็มไปด้วยความเสน่ห์หา และอาวรณ์ มือขาวของเธอยื่นออกไป เพื่อจะได้สัมผัสกับสัตว์อสูรที่เธอเฝ้าคะนึงหาที่บัดนี้อยู่ตรงหน้า
แต่ราชินีแห่งมวลภมรกลับไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น เธอกระพรือปีกออกห่าง ก่อนจะร่อนลงวางตัวบนหัวของวาเลน
ราชินีดรายแอดส์ชักมือกลับอย่างเสียใจ ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เคยกลายเป็นที่ผูกเปลให้วาเลนสั่นไหว ราวกับตอบสนองต่ออารมณ์ของผู้เป็นนายแห่งมัน ทุ่งดอกไม้ที่เคยงดงามพลันเหี่ยวเฉาและค่อย ๆ แห้งตาย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะห้วงอารมณ์ที่ไม่คงที่ของราชินีดรายแอดส์
วาเลนที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็พอจะเดาบางอย่างได้เขาไม่ใช่คนโง่ที่มองสิ่งใดไม่ออก หญิงสาวคนนี้จะต้องมีอดีตหรือความทรงจำดี ๆ ร่วมกับเผ่าพันธุ์ของมอโธร่า มิเช่นนั้นเธอคงไม่แสดงท่าทีเสียใจเช่นนั้นออกมาต่อการสนองตอบของมอโธร่าเมื่อสักครู่นี้ อีกทั้งพฤกษาที่สนองตอบต่ออารมณ์ของเธออย่างน่าอัศจรรย์ใจ ทำให้วาเลนมั่นใจไปกว่าครึ่งว่าเธอมิใช่ มนุษย์ทั่วไป จะมีหญิงสาวสติดีคนไหนอาศัยอยู่ท่ามกลางสัตว์อสูรที่อันตรายในป่าบรรพกาล
"ผู้มีพระคุณ ท่านพอจะบอกให้ข้ารู้ถึงความทุกข์ใจของท่านได้ไหม เผื่อว่าข้าจะช่วยสิ่งใดท่านได้บ้าง " วาเลนถามออกไปอย่างเห็นใจ
ราชินีดรายแอดส์ ส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะกล่าวขึ้นอย่าฝืนใจ
"ไม่มีสิ่งใดที่ทำได้แล้ว สิ่งที่พอจะลองทำได้ข้าก็ได้ทำไปหมดแล้ว นี่คงเป็นชะตาของข้า"หญิงสาวตรงหน้าวาเลนกล่าวอย่างน่าสงสาร
"ท่านอาจไม่เคยได้ยินภาษิตของมนุษย์ที่เคยพูดกันว่า สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว! ข้าอาจจะเป็นผู้น้อย แต่ท่านเคยได้ยินไหม? เด็กมักหาทางออกที่ง่ายดายได้มากกว่าผู้ใหญ่เสมอนั่นเพราะบางครั้งผู้ใหญ่ก็มักจะหาเหตุผลมาหักล้างก่อนจะลงมือทำในเรื่องต่าง ๆ เสมอ " วาเลนพูดยิ้ม ๆ
ราชินีดรายแอดส์ครุ่นคิดตามที่วาเลนพูดมาก่อนจะเห็นว่าไม่ได้เสียหายอะไร เพราะหากไม่ได้ก็เท่ากลับเป็นไปตามชะตากรรมที่เธอยอมรับไว้ตั้งแต่ต้น แต่ถ้าหากมีทางออกที่พอจะทำได้นั่นก็นับว่าสวรรค์ยังคงเป็นใจที่เหลือทางออกไว้ให้กับเธอ
"ก็ได้..... ข้ามิคาดหวังว่าจะได้สิ่งใดอยู่แล้ว ข้าจะเล่าเรื่อง ๆ หนึ่งให้เจ้าฟัง" นัตย์ตาสีเขียวกระจ่างล่องลอยราวกับนึกย้อนถึงภาพความหลัง ครั้งยังเยาว์วัย
"เมื่อห้าพันปีที่แล้วครั้งที่ข้าเพิ่งถือกำเนิดใหม่ มีเรื่องเล่าจากบรรพบุรุษของข้าเล่าว่า ภายในพิภพพฤกษาที่ยิ่งใหญ่ มันเติมไปด้วยเหล่าจิตวิญญาณแห่งพฤกษามากมายที่ก่อกำเนิดภายใต้ร่มเงาเดียวกัน นั่นก็คือ "พฤกษาแห่งโลกา" บรรพบุรุษของข้าเป็นหนึ่งในเมล็ดพันธุ์จากพฤกษาที่ยิ่งใหญ่ต้นนั้น!"
"เมื่อเมล็ดพันธุ์เติบโต จนสามารถก่อลำต้นได้ ภายในก็จะให้กำเนิดจิตวิญญาณผู้พิทักษ์เช่นข้า เพื่อปกปักษ์รักษาพืชพันธุ์เหล่านั้นจนกว่าจะตกตาย" สายตาสีเขียวใสมองไปยังทุ่งเบื้องหน้าที่เหล่าบุปผาเหี่ยวแห้งตาย ราชินีดรายแอดส์ยกมือขึ้นปัดแบบไม่ใส่ใจไปหนึ่งครั้ง เหล่าบุปผาที่ตกตายก็พลันฟื้นคืนได้อย่างน่าอัศจรรย์
"พวกเราสามารถควบคุมพฤกษาได้ดังใจ นับเป็นพรที่ยิ่งใหญ่ที่ได้จากพฤกษาแห่งโลกา บรรพบุรุษของข้าถูกส่งมายังที่แห่งนี้พร้อมกับภารกิจแห่งพฤกษาที่ว่าให้รักษาพื้นป่าแห่งบรรพกาลแห่งนี้เอาไว้"
"เมื่อบรรพบุรุษของข้าตัดสินใจหยั่งรากฝังลึกเอาไว้ใจกลางป่าบรรพกาล นับตั้งแต่นั้นพวกเราก็กลายเป็นแหล่งค้ำจุลพลังงานของป่าไปโดยปริยาย แต่เพราะป่ามิใช่ของเราตั้งแต่ต้น การค้ำจุลจึงต้องใช้พลังงานมหาศาลและไม่อาจเรียกคืนกลับมาได้ บรรพบุรุษของข้ามองเห็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจึงได้หาทางออกเอาไว้ นั่นคือ การกลับไปซึมซับพลังงานในมาตุภูมิ นั่นก็คือ พิภพพฤกษา" เล่ามาถึงตรงนี้วาเลนก็ยังไม่พบกับปัญหาที่ทำให้เธอหนักใจ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่เอ่ยขัดสิ่งใดออกมา ยังคงนิ่งเงียบและเป็นผู้ฟังที่ดี
"ปัญหามันเริ่มต้นที่ข้ามิสามารถกลับไปยังพิภพมาตุภูมิได้ พฤกษาที่ข้าเคยคล้ำจุลบัดนี้กำลังเริ่มตกตาย หากไร้ซึ่งพลังที่คล้ำจุลป่าบรรพกาลเอาไว้ ป่าแห่งนี้ก็จะค่อย ๆ เริ่มล่มสลายภัยอันตรายที่ถูกสะกดไว้ก็จะเริ่มฟื้นคืน"
"แล้วเหตุใด ท่านจึงกลับไปไม่ได้?" วาเลนถามอย่างสงสัย
"เพราะข้าไม่สามารถข้ามมิติไปได้โดยไม่อาศัยพลังของนางยังไงล่ะ" ราชินีดรายแอดส์ พูดพรางชี้ไปที่ มอโธร่า
"ราชินีตัวก่อนตกตายอย่างโหดร้าย และมีเงื่อนงำ ข้าไม่สามารถรู้ได้ว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น นางกลับมาหาข้าพร้อมกับพลังชีวิตที่ลิบหรี่เต็มที และเพราะนางถูกโจมตีอย่างที่ไม่มีทางรักษา ข้ามิอาจยื้อชีวิตของนางเอาไว้ได้ ก่อนตายข้าได้ให้สัญญาไว้ว่า จะตามหาทายาทของนาง และสานต่อปณิธานต่อไป ข้าจะรับนางไว้เป็นอสูรในพันธะสัญญา แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อพบกันข้าจึงรู้ว่า ข้าช้าไปอีกแล้ว" น้ำตาของหญิงสาวไหลรินต่อหน้าของวาเลน
เงียบไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ทั้งคู่ต่างจมอยู่ภายในภวังค์ความคิดของตนเอง ก่อนที่วาเลนจะถามอีกครั้งหลังวิเคราะห์เรื่องที่ฟังอย่างถี่ถ้วน
"ภัยอันตรายที่ถูกสะกดไว้? มันคือสิ่งใดงั้นหรือ ท่านพอจะบอกข้าได้ไหม " วาเลนหวั่นใจกับคำ ๆ นี้มากกว่าที่จะสนใจสิ่งอื่นใด หากตัวตนตรงหน้ายังนิยามให้กับมันว่าอันตราย คนที่ไม่มีพลังจะนับเป็นสิ่งใดได้ยามที่ต้องเผชิญกับมัน
"ข้าไม่รู้ เรื่องเล่านี้ถูกส่งต่อมาเนินนานเกินไป บรรพบุรุษของข้ารับฟังมาจากผู้ที่นับว่าเชื่อถือได้ นางพูดว่า มันอันตราย และเป็นต้นเหตุแห่งภัยพิบัติทั้งปวง และจากการสืบหาร่องรอยของหนึ่งในบรรพบุรุษพบว่า ภัยพิบัติเหล่านี้เป็นสิ่งที่ฆ่าทำลาย ผู้ปกปักรักษาคนเก่าของป่าบรรพกาลก่อนที่บรรพบุรุษข้านั้นจะเข้ามารับช่วงต่อจากตัวตนนั้น " ราชินีดรายแอดส์ตอบ
"ทำไมท่านจึงไม่เลือกไปปรึกษากับผู้ที่บรรพบุรุษของท่านพูดว่าเชื่อถือได้ นางน่าจะให้คำแนะนำได้ในสถานการณ์เช่นนี้" วาเลนพูดพลางมองราชินีดรายแอดส์ที่กำลังเหม่อลอย
หญิงสาวหันขวับ และจ้องมองวาเลนตาโต จริงสิเธอไม่เคยคิดเช่นนี้มาก่อน แต่หลังจากดีใจได้ไม่นาน ท่าทางของเธอก็กลับมาเศร้าสร้อยอีกครั้ง
"ข้าไม่เคยพบนาง และหลังจากบรรพบุรุษรุ่นแรกของข้าจากไป เจ้าคิดว่านางจะยังมีชีวิตอยู่ได้อีกงั้นหรือ"
"ลูกหลานของนาง ก็อาจจะยังรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้ เหมือนท่านที่สืบทอดปณิธานจากบรรพบุรุษ แค่ท่านลองสืบหา โดยเริ่มจากชื่อของนาง" วาเลนตอบยิ้ม ๆ
"จริงสิ อาจจะเป็นไปได้ ข้าอาจได้คำแนะนำบางอย่าง เจ้าช่วยข้าหานางได้ไหม" ราชินีดรายแอดส์กลับมาสดใสอีกครั้งทันที
" นางมีชื่อว่าอะไร?" วาเลนพยักหน้ารับรองให้เธอวางใจ ก่อนจะถามสิ่งที่ต้องใช้ค้นหาในทันที
" ไกอา นางมีชื่อว่า ไกอา มารดาแห่งผืนดิน เจ้าเคยได้ยินไหม? " สิ้นคำกล่าวปรากฎเหงื่อเย็นหลั่งไหล เต็มใบหน้าของวาเลนทันที เขามีท่าทีราวกับคนจมน้ำ ในโลกเดิมที่จากมา นี่เป็นเรื่องเล่าปรัมปรา ที่ไม่รู้จะหาตัวตนเหล่านี้ได้ที่ไหน แต่กลับกลายเป็นว่า เขาต้องมาตามหามารดาแห่งผืนดินในโลกแห่งนี้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
---------------------------------------------
มาแล้วครับ จริง ๆ ไม่อยากหายไปนาน แต่เรื่องเริ่มแต่งยากขึ้นจริง ๆ ขอบคุณที่คอยให้กำลังใจกันนะครับ
^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

3,171 ความคิดเห็น
-
#3116 Noonong Cheeceza (จากตอนที่ 30)วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 / 22:41คล้ำจุล แปลว่าอะไรคะ ผิดทั้งสองคำ ค้ำจุน ก็พอค่ะ ไม่ต้องมี ล.ลิง อ่านแล้วลิ้นจะพันคอ นิยายสนุกมากคำผิดก็ตลกดีค่ะ#3,1160
-
#2669 ชากุหลาบอุ่นอุ่น (จากตอนที่ 30)วันที่ 26 ตุลาคม 2563 / 14:04ขอบคุณ#2,6690
-
#2579 oatkao (จากตอนที่ 30)วันที่ 2 ตุลาคม 2563 / 01:56ได้งานมาแบบงงๆๆ55555#2,5790
-
#2530 +~mojune~+ (จากตอนที่ 30)วันที่ 11 กันยายน 2563 / 16:36เควสลับก็มา#2,5300
-
#2401 kimurakung (จากตอนที่ 30)วันที่ 18 สิงหาคม 2563 / 17:49ปมเรื่องประเด็นแรกมาแร้นนนน ให้หา ไกอา งานยากแระ#2,4010
-
#1994 ฉันคือแมวเจ้าสเน่ห์ (จากตอนที่ 30)วันที่ 21 มิถุนายน 2563 / 11:45โอ้ยย 555สมองง#1,9940
-
#1895 Keam_IFNT (จากตอนที่ 30)วันที่ 26 พฤษภาคม 2563 / 05:45อยู่มาพันปี เสียเปล่าจริงๆ#1,8950
-
#1736 Lucky-Puppy (จากตอนที่ 30)วันที่ 17 พฤษภาคม 2563 / 15:00งงกันเลยทีเดียว 555555#1,7360
-
#1583 OraweeBoonklong (จากตอนที่ 30)วันที่ 28 เมษายน 2563 / 19:31ใช้สกิลพระเอกเดี๋ยวก็หาเจอ#1,5830
-
#1469 MINERVA09 (จากตอนที่ 30)วันที่ 20 เมษายน 2563 / 00:11เอาว่ะตำนานเทพมาหมดกรีกเอยโรมันเอย55#1,4690
-
#1384 Chaos I (จากตอนที่ 30)วันที่ 17 เมษายน 2563 / 05:06ชิหายแล้ว พระแม่ธรณีเชียวนะ เองลองไปเคาะๆพื้นดินเรียกดูเอานะ5555#1,3840
-
#1362 yukai (จากตอนที่ 30)วันที่ 13 เมษายน 2563 / 19:29ขอบคุณ#1,3620
-
#1067 Dame_SD (จากตอนที่ 30)วันที่ 9 มีนาคม 2563 / 08:23ไกอาเลยนะะะ#1,0670
-
#950 น่าตาดี_บ่คือไผ (จากตอนที่ 30)วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 / 22:39โอ้โหห ไกอาก็มา#9500
-
#807 ฉันคือนางเงือก (จากตอนที่ 30)วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 / 16:22ยิ่งใหญไปอีก#8070
-
#806 somjean1892 (จากตอนที่ 30)วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 / 14:53รอค่ะรอ#8060
-
#805 กุเจ็บ กุเศร้า เข้าจัยไหม (จากตอนที่ 30)วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 / 08:42และแล้วไกอาก็โผล่มาจริงๆ#8050
-
#803 Rikajung67 (จากตอนที่ 30)วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 / 20:56ติดตามค่า#8030
-
#802 artit6939 (จากตอนที่ 30)วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 / 15:23สนุกมากรอๆๆๅ#8020
-
#801 server1 (จากตอนที่ 30)วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 / 13:59นอร์สผสมกรีกสินะ#8010
-
#800 ckchatchen42 (จากตอนที่ 30)วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 / 13:41เพราะมีตัวละครที่ซับซ้อนขึ้น เลยทำให้การแต่งยากขึ้นด้วย ต้องหาข้อมูลมาใช้ประกอบกับการเขียน ให้เชื่อมโยงกับโครงเรื่อง เพื่อจะดำเนินเรื่องต่อไปได้#8000
-
#799 cattycall (จากตอนที่ 30)วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 / 08:43ขอบคุณ#7990
-
#798 Xailice (จากตอนที่ 30)วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 / 08:21ไททันสินะ#7980
-
#797 Blankk13 (จากตอนที่ 30)วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 / 07:53รอตอนต่อไปครับ#7970
-
#796 vilstorm (จากตอนที่ 30)วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 / 06:55“ค้ำจุน” นะคะ ปล.ไปหาไกอาเลยหรอ แตกแตนมาก55555555555#7960