ตอนที่ 27 : คนสวน กับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 26 จ่าฝูงหมาป่าดำนิลกาฬ
คนสวน กับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 26 จ่าฝูงหมาป่าดำนิลกาฬ
วาเลนเหลือบสายตามองจ่าฝูงหมาป่าดำนิลกาฬ มันไล่ตามเขามาติด ๆ ได้ระยะหนึ่งแล้ว ภายในใจของมันนั้นกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างยินดี เด็กชายผู้นี้ใกล้หมดหนทางที่จะหนีไปจากมัน มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่เบื้องหน้า
ระยะห่างระหว่างมันกับเด็กชายตรงหน้า ล่นเข้าหากันอย่างต่อเนื่อง เด็กคนนี้มีธาตุที่เหมือนกับมันนั่นก็คือ ธาตุลม ธาตุที่เด่นล้ำในด้านความเร็วเหมือนกันแต่ถึงอย่างนั้นพลังเพียงแค่นี้ก็ไม่สามารถหลบหนีจากมันได้พ้น เพราะมันคือเจ้าถิ่นที่มีอำนาจมากตนหนึ่งในป่าบรรพกาลระดับต้นแห่งนี้ อีกทั้งตัวมันยังว่องไวมากที่สุดในบรรดาสัตว์อสูรเจ้าถิ่นที่มีระดับเดียวกัน จึงทำให้มันมั่นใจว่าเหยื่อตรงหน้าไม่สามารถหลบหนีไปจากมันได้
สำหรับวาเลนนั้น แม้แต่ คารีสผู้มีธาตุพิเศษสายฟ้า ยังไม่สามารถติดตามเขาได้ทัน จ่าฝูงหมาป่าดำนิลกาฬนั้นไม่นับว่าอยู่ในสายตาเขาแต่อย่างใด
แต่ที่มันสามารถติดตามเขามาจนทันได้เป็นเพราะเขาจงใจหลอกล่อให้มันออกมาจากฝูงของมัน เมื่อเห็นว่าวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นนี้กำลังจะยากเกินที่จะแก้ไข ด้วยระดับพลังภายในกลุ่มของเขานั้น ความสามารถของคารีส กราดิส และกาเร็ท รวมกัน ก็เป็นไปได้ยากที่จะจัดการสัตว์อสูรระดับต่ำเหล่านี้ได้ ในขณะที่พวกมันยังถูกบัญชาการจากจ่าฝูงที่มีสติปัญญาในระดับที่ถือว่าสูง
นั่นจะทำให้ภาระทั้งหมดตกไปเป็นขององค์ชายสามผู้ที่มีระดับสูงที่สุดไปในทันที
แต่หากพวกมันขาดการชี้นำก็เป็นเรื่องง่ายที่จะถูกจัดการได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้นับได้ว่ากลุ่มของเขายังโชคดี ที่ถึงแม้ว่าจ่าฝูงมันจะมีสติปัญญา แต่ทว่าปัญญาของมันนั้นกลับถูกบดบังด้วยโทสะ และความถือดีของมันเอง
จ่าฝูงหมาป่าดำนิลกาฬกระโดดสุดตัวครั้งสุดท้าย พุ่งทะยานหมายตะปบไปที่หัวของวาเลน อุ้งเท้าขนาดใหญ่ถูกกางออกและขยายแบนราบเผยให้เห็น กรงเล็บสีดำสนิทที่แหลมคมและโค้งงอราวกับเคียวของมัจจุราช
อีกเพียงนิดเดียวที่กรงเล็บแหลมคมจะสัมผัสเข้ากับศรีษะของวาเลน ปราการสายลมที่ทรงพลังก็ก่อกำเนิดห้อมล้อมร่างหมาป่าดำนิลกาฬเอาไว้ทันที
ตรึมมมมม
การโจมตีของมันนั้นราวกับเอากำปั้นทุบกำแพงหิน นอกจากไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ยังพานทำให้ขาของมันปวดร้าวราวกับจะปริแตกในทันที ปราการสายลมที่มันไม่รู้ที่ไปที่มานี้ ไม่เพียงสะท้อนการโจมตีของมันออกไปแต่เพียงชั่วพริบตามันกลับบดขยี้กรงเล็บ และขาหน้าของมันอย่างรุนแรงจนทำให้มันปวดร้าวเข้ากระดูก จนยากจะทานทน จนต้องคำรามด้วยความเจ็บปวด
แต่ที่มันตกใจไม่ใช่ปราการสายลมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น บัดนี้ตัวของมันกลับถูกกักขังอยู่ใจกลางกระแสลมหมุน ทุกด้านรอบตัวมันกลายเป็นปราการแข็งแกร่งที่ยากจะพังทลาย ด้านนอกปราการสายลมที่ค่อย ๆ ทวีความรุนแรงและบ้าคลั่งขึ้นเรื่อย ๆ นี้ มีแววตาเจ้าเล่ห์ของเด็กหนุ่มที่มันติดตามไล่ล่าเอาชีวิตมาตลอดทาง ยืนห่างออกไปจากมันไม่ถึงสองก้าว เขากำลังจ้องมองมาที่มันสายตานั้นราวกับกำลังมองตัวโง่งม มันหลงกล!
วาเลนมองจ่าฝูงหมาป่าดำนิลกาฬใกล้ ๆ การฆ่ามันไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับเขา ความผิดพลาดหนึ่งเดียวของมันคือ การที่เด็กหนุ่มตรงหน้านั้น มิได้ธรรมดาสามัญอย่างที่มันเห็น การที่วาเลนมีจุดกำเนิดพลังพิสดาร นั้นแทบไม่เคยปรากฎมานานหลายพันปี
เพราะการปลุกพลังในลักษณะที่วาเลนทำนี้ ถูกจารีตประเพณีตีตราห้ามพูดถึง และถูกออกกฎเข้มไว้โดยนักสู้ผู้ทรงพลังในอดีตจากเมื่อหลายพันปีก่อน แต่เมื่อกาลเวลาพ้นผ่านมา เรื่องราวที่ถูกห้ามพูดถึงนี้ ก็เลือนหายไปตามกาลเวลาจนหมดสิ้น นักสู้ผู้ทรงพลังทั้งหลายเหล่านั้นก็ล้วนล้มหายตายจากไปจนหมด จึงเป็นไปไม่ได้ที่ปัจจุบันเรื่องราวเหล่านี้ จะกลายเป็นที่แพร่หลาย
จุดกำเนิดพลังที่วาเลนมีจึงเป็นเรื่องพิสดารเป็นอย่างมาก เพราะนักสู้ หรือผู้ใช้เวทย์ส่วนใหญ่ จะพัฒนาระดับขั้นพลังได้โดยการบ่มเพราะจุดกำเนิดพลังขั้นแรกกำเนิด นั่นก็คือเริ่มพัฒนามาจากแอ่งน้ำของผู้ใช้เวทย์ เมื่อผู้ใช้เวทย์บ่มเพราะพลังจนเต็มล้นจนสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดได้แล้ว แอ่งน้ำของผู้ใช้เวทย์จะถูกขยายด้วยอำนาจของพลังเวทย์กลายเป็นทะเลสาบแห่งพลังของนักเวทย์แทน
ผู้ใช้เวทย์จำต้องใช้ทรัพยากรเป็นอย่างมากในการก้าวข้ามระดับขั้นพลัง หรือไม่ก็ต้องฝึกฝนท้าทายขีดจำกัดของตัวเองอย่างหนักหลาย ๆ ครั้งเพื่อเพิ่มการดูดซับพลังให้มากขึ้น การดูดซับพลังที่มากขึ้นจะนำไปสู่การขยายขอบเขตจุดกำเนิดพลัง และก้าวข้ามระดับได้ แต่บางครั้งส่วนใหญ่ เพียงมีความสามารถอย่างเดียวอาจไม่พอ มันจำเป็นต้องอาศัยโชคเข้ามาช่วยด้วย
ผู้คนส่วนใหญ่จึงยังติดอยู่ในระดับของนักเวทย์ อัจฉริยะที่โดดเด่นเท่านั้น ที่มีแนวทางบ่มเพราะจนสามารถไปถึงขั้นของ จุดกำเนิดทะเลพลังเวทย์ของจอมเวทย์ได้ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงขั้นของ มหาจอมเวทย์ ตัวตนเหล่านั้น ย่อมไม่อยู่ในอาณาจักรเล็ก ๆ อย่างนี้แน่นอน
แต่วาเลนนั้นต่างออกไป จุดกำเนิดพลังของเขานั้นไม่ได้ขยายไปพร้อมกับระดับพลัง มันเป็นจุดกำเนิดพลังที่ถูกขยายมาแล้วอย่างเต็มที่ พูดได้ว่าเขามีสิ่งที่ทุกคนต่างขวนขวายพยายามเพื่อให้ได้มา นั่นก็คือ โลกมหาสมุทรจุดกำเนิดพลัง มันคือจุดกำเนิดพลังของมหาจอมเวทย์! ตัวตนที่อยู่บนจุดสูงสุดของ ผู้ใช้พลังเวทย์ทั้งปวง
สิ่งนี้สร้างความคลางแคลงใจให้วาเลนเสมอมา มันต้องเป็นเพราะหยดเลือดอักษรรูน ที่เขาใช้ปลุกพลังอย่างแน่นอน สิ่งนี้เป็นอะไรที่พิเศษเอามาก ๆ มันถึงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลัก ๆ เหล่านี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ และหากมันไม่พิสดาร โดมมายากฎสวรรค์ คงจะไม่ลงทัณฑ์เขาอย่างหนักหน่วงเช่นนั้นเป็นแน่
แต่ถึงอย่างไร มันก็ไม่ได้ทำให้พลังเวทย์ของวาเลนมีมากมายมหาศาล เขายังต้องสะสมพลังในจำนวนที่เท่ากันกับคนอื่น ๆ แต่โชคของเขานั้นจะดีกว่าตรงที่ว่า แรกเริ่มจากการแปลงสภาพเลือดนั้นเขาก็อยู่ในขั้นของผู้ใช้เวทย์ขั้นสูงแล้ว ขีดจำกัดของขั้นพลังหรือที่ นักเวทย์เรียกว่า คอขวดสำหรับเขานั้นไม่มี นี่คือสิทธิพิเศษที่เขาได้รับจากการปลุกพลังแปลงสภาพเลือด และจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องปัจจุบันระดับขั้นธาตุลมและพฤกษาของเขานั้นจึงแตะอยู่ในช่วงของนักเวทย์ขั้นสูง ระดับเดียวกับองค์ชายสามหรืออาจจะมากกว่านั้น
"ดูเหมือนบรรดาธาตุทั้งหมดนี้ นอกจากสำนึกรู้ของธาตุพฤกษาแล้ว ก็มีธาตุลมที่ทรงพลังที่สุด" วาเลนพูดวิเคราะห์พลังตนเอง ราวกับไม่สนใจ หมาป่าดำนิลกาฬตัวใหญ่ด้านหน้า ธาตุทั้งห้าของเขานั้น หากเทียบขั้นของพลัง วาเลนยังไม่สามารถใช้มันได้อย่างเท่าเทียม ถึงเขาจะปลุกพลังได้ถึงห้าธาตุและทั้งห้าธาตุนั้นอยู่ในระดับผู้ใช้เวทย์ขั้นสูง กลายเป็นนักเวทย์เบญจธาตุก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อไม่มีการใช้งาน ความรู้ความเข้าใจในการใช้พลังเวทย์ ก็ถูกจำกัดขอบเขตความรู้อยู่เพียงระดับของผู้ใช้เวทย์ขั้นสูงเท่านั้น มีเพียงธาตุพฤกษาและธาตุลมที่พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องจากการใช้งานที่ผ่านมา
ผู้ใช้เวทย์หนึ่งคนพัฒนาหนึ่งธาตุให้สูงล้ำและโดดเด่น เพื่อเป็นผู้ทรงพลังในสายธาตุนั้น ๆ นักเวทย์ทวิธาตุ จะต้องลำบากกว่านั้นเป็นสองเท่า ไม่ต้องพูดถึงนักเวทย์ไตรธาตุ จตุรธาตุ และเบญจธาตุ ผู้คนเหล่านี้หากไม่มีโชควาสนา ก็พัฒนาได้ไม่เกิน ทวิธาตุ
สายตาของวาเลนที่เหมือนกับจ้องมองหมาป่าดำนิลกาฬเบื้องหน้านั้น แท้จริงแล้ว กำลังวิเคราะห์การทำงานของบทเวทย์กักขังของธาตุลม วาเลนมองว่า มันยังไม่ใช่บทเวทย์ที่กักขังได้อย่างสมบูรณ์ ในหัวของเขานั้นเต็มไปด้วยคลังความรู้ที่ได้จากพลังของสัมผัสพิเศษ มันได้ตักตวงกักเก็บมาจากหอสมุดของตระกูลการนำออกมาใช้ยังได้ไม่ถึงครึ่งที่เขาได้รับมา
เขาทำได้เพียงย่อยข้อมูลเหล่านั้น และฝึกฝนมันด้วยตัวเองแทบทั้งสิ้น การใช้บทเวทย์ในสถานการณ์จริงนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะใช้ได้ตามอำเภอใจเมื่ออยู่ภายในอาณาเขตของตระกูลโอเดลรอส
ดังนั้นเมื่อเขาเข้ามาในป่าบรรพการ ที่ไร้การจับจ้องจากตระกูล เขาจึงอดไม่ได้ที่จะต้องทดลองอะไรใหม่ ๆ ที่ค้างคาใจและสงสัยใคร่รู้มานาน ยังพอมีเวลาสำหรับการรวบรวมสมุนไพร วาเลนแทบไม่ใส่ใจในเรื่องการค้นหา สำนึกรู้พฤกษา นั้นคือพลังที่ราวกับเรดาร์ ตรวจจับสิ่งมีชีวิตตระกูลพืชพันธุ์ มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะค้นหาสมุนไพรเหล่านั้นที่เขาต้องการ
จากการสังเกตวิธีการทำงานของบทเวทย์พลังธาตุของเขาอย่างตั้งใจ ธาตุสายลมนั้นไม่ใช่ธาตุที่คงรูปได้ เมื่อเขาไม่จ่ายพลังเวทย์ให้กับมัน บทเวทย์กักขังนั้นก็จะหายไปในทันที
"หากนี่เป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลัง และมีสติปัญญา มันก็เพียงแต่รอเวลาให้ผู้กักขังหมดพลังไปเอง บทเวทย์กักขังของพลังธาตุนั้น นับได้ว่าต้องจ่ายพลังเวทย์ออกไปมากมายมหาศาล และธาตุลมนั้นก็นับได้ว่ายังไม่ใช่ธาตุที่สมบูรณ์ มันสามารถใช้ได้เพียงชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้น" วาเลนสรุปทุกอย่างตามความเข้าใจตรงหน้าของเขา
จ่าฝูงหมาป่าดำนิลกาฬยังคงจ้องมองวาเลนอย่างคับแค้นใจ มันประมาทเด็กหนุ่มตรงหน้าจนเกินไป มันไม่คิดว่าลูกแกะที่ดูเคี้ยวง่าย จะกลายเป็นพยัคฆ์ร้ายที่น่าหวั่นเกรง
มันคำรามอย่างอัดอั้นและตวัดกรงเล็บอีกครั้งอย่างไม่ยินยอม มันทุ่มสุดกำลังเป็นครั้งสุดท้ายหวังที่จะออกไปจากปราการที่ทวีความเกี้ยวกราดขึ้นเรื่อย ๆ นี้ ขาอีกข้างที่ยังใช้การได้ถูกตวัดใส่เต็มพลัง
เฟี๊ยบ ควับ ฮูมมม!!
อำนาจที่ทรงพลังจากกรงเล็บของมันฉีกกระชากอากาศเป็นริ้ว ๆ ราวกับมิติถูกตัดขาด นัตย์ตาของวาเลนเบิกโพลง เมื่อเห็นว่ารอบ ๆ มิติที่ถูกฉีกกระชากนั้นมีวังวนที่ดูดกลืนทุกสรรพสิ่งเข้าไปอย่างตะกละตะกลาม รอยแผลมิตินี้ ราวกับหลุมดำของอวกาศ ก็ไม่ปาน
ตึงงง!
ปราการสายลมที่แข็งแกร่งของวาเลนนั้นพังทลายลงทันที ที่สัมผัสเข้ากับมัน อำนาจฉีกกระชากจากกรงเล็บนั้นเป็นอำนาจที่ไม่ธรรมดา กระทั่งสามารถกรีดผ่านอากาศเปิดช่องว่างของมิติได้ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นาน แต่รอยแยกนั้น ก็สามารถพังทลายปราการที่แข็งแกร่งได้ในทันที
สิ่งนี้คือ รอยแยกมิติ สัตว์อสูรตัวนี้สามารถโจมตีจนมันโผล่ออกมาได้นับว่าอำนาจนั้นไม่ธรรมดา ถึงจะเป็นแค่ชั่วเวลาแป๊บเดียวก็ตาม มิใช่ว่าทุกการโจมตี หรือการใช้อำนาจ จะสามารถทำลายมิติได้ การทำให้มันโผล่ออกมานับว่าเป็นการโจมตีที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง
สายตาของวาเลนพลันเปลี่ยนไป ยามแรกเขาคาดว่าจะใช้สัตว์อสูรตัวนี้เป็นหินหยั่งเท้าวัดพลังต่อสู้ แต่มิคาดว่า นอกจาก วิหคทมิฬขององค์ชายหนึ่งแล้ว เขาจะยังพบสัตว์อสูรที่มีความสามารถเกี่ยวกับมิติได้อีกในป่าแห่งนี้
ประกายตายินดีปรากฎขึ้นอย่างฉับพลัน หากเข้าถึงข้อมูลของมันได้ เขาจะสามารถพัฒนาและเข้าใจในพลังของมิติที่มิสามารถหาได้จากที่ไหน มีเพียงผู้ใช้ธาตุพิเศษความมืดเท่านั้นที่มีความสามารถเกี่ยวข้องกับมิติได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ค่อยพบได้จากมนุษย์ ธาตุพิเศษเหล่านี้มักมีในสัตว์อสูร
ดังนั้นการปล่อยสัตว์อสูรที่ร้ายกาจนี้ให้ตกตายนับว่าน่าเสียดายเป็นอย่างมากแต่สิ่งหนึ่งที่วาเลนยังกังวลใจ สัตว์อสูรที่เติบใหญ่ในป่า ยากนักที่จะหาความสวามิภักดิ์จากพวกมันได้ วาเลนมองร่างสีดำขนาดใหญ่ที่ไหวตัววาบผ่านออกมาจากม่านปราการสายลมที่พังทลาย
จ่าฝูงหมาป่าดำนิลกาฬ เมื่อมันหลุดจากปราการสายลมได้ มันกระโดดถอยหลังพลางขู่คำรามเข้าใส่วาเลนทันที แต่ถึงจะมีท่าทีดุร้ายและคุกคามแต่มันกลับไม่ผลีผลามโจมตีเข้ามา เห็นได้ชัดว่ามันมีความระมัดระวังที่เพิ่มมากขึ้น
"หมาพันธุ์ดี! แต่เจ้ามีนิสัยไม่น่ารัก เห็นทีว่าต้องจับมาฝึกเสียใหม่ " วาเลนพูดยิ้ม ๆ ทำทีเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ในมือของเขานั้น ปรากฎหอกที่มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่และมีความยาวกว่าลำตัวของเขาจับถือเอาไว้อย่างมั่นคง
หากสังเกตดูดี ๆ จะพบว่ามีแหวนหนึ่งวง ที่ถูกประดับเอาไว้บนนิ้วมือข้างซ้ายของวาเลน นี่คือของอีกชิ้นที่ท่านแม่ผู้มีแต่ความลึกลับของเขาจัดหามาให้ "ยุทธภัณฑ์วิญญาณประเภทกักเก็บ ระดับเงิน" แหวนมิติ!
"ข้าขอยืมแรงเจ้าหน่อยนะ กุงนีร์" วาเลนพูดกระซิบเบา ๆ ก่อนกระชับหอกในมือแน่น พริบตาที่วาเลนเร่งอำนาจของพลังเวทย์ธาตุลมถึงขีดสุด เขาทิ้งเงาร่างไว้เบื้องหลัง และปรากฎตัวเบื้องหน้าของจ่าฝูงหมาป่าดำนิลกาฬในพริบตา จ้าวแห่งความเร็วของป่าบรรพกาลชั้นต้น ได้แต่มองศาสตราวุธวิเศษในมือของเด็กชายกระหน่ำฟาดใส่ร่างกายของมัน อย่างทำอะไรไม่ได้ เคลื่อนไหวในพริบตา
มันไม่สามารถหาร่างจริงของวาเลนเจอ ทุกครั้งที่มันพยายามโจมตีออกไป จะพบว่ากรงเล็บของมันฟาดใส่อากาศเบื้องหน้ามากกว่าที่จะเป็นร่างเนื้อของเด็กชาย มันถูกหลอกมาโดยตลอด เด็กชายที่ดูไร้พิษสงตรงหน้าไม่ได้มีระดับพลังที่ต่ำต้อยด้อยค่า อาจจะมากกว่ามันเสียด้วยซ้ำ
มันพ่ายแพ้แล้ว! หากยังอยู่ตรงนี้ คงมีแค่ความตายที่รอมันอยู่ มันตัดสินใจ กระโจนออกไปเพื่อหาทางหลบหนี แต่เหมือนจะไม่มีโชคสำหรับมันในวันนี้
อีกด้านที่มันกระโจนหนีไป ปรากฎสัตว์อสูรขนาดใหญ่ ที่มีระดับพลังไม่ต่างไปจากมัน แต่หากเทียบกันจริง ๆ แล้ว สัตว์อสูรตรงหน้านั้นนับเป็น ราชาของป่าชั้นต้นอย่างแท้จริง เพราะมันคือหนึ่งในราชาของเผ่าพันธุ์ที่น่าครั่นคราม พื้นที่ล่าของราชาตัวนี้นั้น มีอาณาเขตติดต่อกับมัน แต่ด้วยความประมาท มิรู้ได้ว่าเมื่อไหร่กันที่มันพาตัวเองเข้ามาติดอยู่ในอาณาเขตล่าที่มีอันตรายถึงชีวิตนี้ได้
โฮกกกกกกกกก ตรึมมม
เสียงคำราม ตามด้วยเสียงกระแทกเท้าดังสนั่นหวั่นไหว คลื่นพลังจากเท้าของราชาอาณาเขตแผ่กระจาย ก่อเกิดพลังอำนาจทำลายล้างจากผืนดิน เสาดินมากมายทะลุทะลวงร่างกายภายใต้อาณาเขตของพลัง จ่าฝูงหมาป่าดำนิลกาฬผู้โชคร้ายตกตายภายใต้อาณาเขตของพลังนี้แทบจะทันที มันไม่มีพลังมากพอที่จะหลบหนีจากมัจจุราชตรงหน้าได้พลังส่วนใหญ่ของมันนั้นทุ่มไปกับการเปิดทางหนีจากมัจจุราชน้อยข้างหลังไปแล้ว ร่างของมันจึงนิ่งงันถูกเสียบตายทั้งอย่างนั้นอย่างน่าอนาถใจ
ร่างกายที่สูงใหญ่ราวกับม้าที่โตเต็มวัยเผยแววตาประสงค์ร้ายจับจ้องมาที่วาเลน ขนที่สยายยาวของมันทอประกายราวกับเส้นไหมสีทองคำ รอบกายของมันพลันปรากฎพลังงานที่หนุนเสริมจากพื้นปฐพีราวกับมีอำนาจที่ไม่สิ้นสุด
มันคือ ราชสีห์ขนทองคำ ทั้งยังเป็นราชาเผ่าพันธุ์ อำนาจของมันนั้นมิอาจดูเบา
วาเลนจ้องมองร่างของจ่าฝูงหมาป่าดำนิลกาฬอย่างเสียดาย นัตย์ตาของเขาทอประกายกรุ่นโกรธ อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นเขาอาจสยบมันได้ มิคาดว่าจะได้พบกับราชาสัตว์อสูรเจ้าถิ่นอีกตัวมาฆ่ามันตายเสียก่อน
โฮกกกกกก
เสียงคำรามดุร้าย และรังสีแห่งความตายถูกส่งมาให้วาเลน เด็กชายตวัดสายตามองราชสีห์ขนทองคำตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์
"จะเอาแบบนี้ใช่ไหม เดี๋ยวจัดให้" วาเลนกระชับหอกกุงนีร์ในมือแน่นเปิดเผยเจตนาฆ่า อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
"ออกมา มอโธร่า" ประกายแสงดาวย้อมไปรอบบริเวณเมื่อสิ้นเสียงเรียกของวาเลน ราชินีแห่งมวลภมรร่อนออกมาราวกับภาพฝัน ปีกขนาดใหญ่ของมันกางสยายเปิดเผยลวดลายลี้ลับประหลาดตา นัตย์ตาดำสนิทจดจ้อง ราชสีห์ขนทองคำตรงหน้าอย่างไม่กลัวเกรง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อันนี้มี ร.เรือ เพราะเราคู่กัน, เพราะว่านิยายสนุกมากถึงช่วยแก้คำผิด ^^
กลับมาแล้ว ย่าลืมลงให้อ่านนะ
จับเป็นอสูรในพันธะสัญญาให้หมด นายทำได้อยู่แล้ว อิอิ ไรท์ขอหลายๆตอนหน่อยหายไปนานเลย ชดเชยๆ 555
ค้างอ่ะ
คิดว่าเทนิยายเรื่องนี้ไปแล้วสะอีก ขอบคุณที่กลับมาอัพให้ได้อ่านนะคะ
ตอนนี้สนุกมากเลยค่ะ!
สนุกมากกกกก
มวล = เหล่า
ภมร = แมลง
ไม่น่าติดตามมาเลย ลงไม่ได้ พาลงที
ใจร้ายนะ