ตอนที่ 20 : คนสวน กับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 20 โรงกักสัตว์อสูร
คนสวน กับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 20 โรงกักสัตว์อสูร
หากถามถึงความรู้สึกจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ องค์ชายหนึ่งแทบคลั่งใจตาย แต่เขาไม่ใช่คนโง่ โอสถที่อัศจรรย์ขนาดนี้แม้แต่ในวังก็ยังไม่มีแม้สักเม็ด
พระราชวังกรีนแลนด์ไม่ได้ขาดแคลนยาระดับเงินขั้นสูง แต่การหลอมมันให้ออกมาเป็นยาฟื้นฟูในระดับที่คุณชายเจ็ดนำมาใช้นี้ ไม่มีอย่างแน่นอน
ความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ เด็กน้อยที่ไม่ธรรมดาตรงหน้านี้พูดมันออกมาเองว่า นี่เป็นเพียงยาระดับเงินขั้นกลางเพียงเท่านั้น! แต่ศักยภาพของมันกลับเทียบเท่าได้กับยาระดับเงินขั้นสูง ที่เหล่านักหลอมของราชวงศ์ได้หลอมออกมา
เช่นนั้น นี่ก็หมายความว่า ศาสตร์การหลอมของตระกูลโอเดลรอส มิสูงส่งกว่าของบรรดาราชวงศ์หรอกหรือ ผู้ใดเป็นอาจารย์ของอัจฉริยะน้อยผู้นี้กัน หากสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ คาดว่าผลประโยชน์คงมิตกไปไหนอย่างแน่นอน
องค์ชายหนึ่งต้องยอมระงับโทสะ และปรับใบหน้าจนฉาบไปด้วยรอยยิ้ม วาเลนมองออกว่ามันไม่จริงใจ และอยู่ในสภาวะจำยอม เด็กน้อยนับถือในความใจเย็นและมองการณ์ไกลขององค์ชายผู้นี้ นับว่ายังฉลาดอยู่บ้าง ที่ไม่ตีโพยตีพาย กับเรื่องรูปกายของสัตว์อสูรของตน
หากองค์ชายหนึ่งเอาโทษเขาในสถานการณ์เช่นนี้ นั่นจะเป็นการดีที่จะใช้เป็นข้ออ้างปฏิเสธความสัมพันธ์ใด ๆ ที่อาจเกินขึ้นได้ในอนาคต
วาเลนตัดสินใจไม่พูดสิ่งใด สิ่งที่ทำได้ในเวลานี้ เขาได้ทำไปหมดแล้ว เด็กน้อยกล่าวลา องค์ชายหนึ่ง และบิดาของเขาทันที ก่อนที่จะจากไปอย่างรวดเร็ว แม้ในขณะที่เขาก้าวจากไป บนใบหน้าของผู้คนก็ยังคงอยู่ในลักษณะที่ตกใจ หลายคนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
เด็กน้อยบรรลุวัตถุประสงค์ของเขาแล้ว การได้เข้าถึงข้อมูลของวิหคทมิฬยกระดับความรู้ในเรื่องของสัตว์อสูรของเขาได้อย่างมหาศาล
ข้อมูลลับมากมายฉายชัดอยู่ในหัวของเด็กน้อย การพัฒนาอสูร จะนับว่าง่ายก็ง่าย จะนับว่ายากก็ยาก หากไม่รู้ถึงที่ไปที่มาของมัน การจะพัฒนาให้มันยกระดับนั้นก็นับว่ายากยิ่งกว่า การพัฒนานักเวทย์ คนหนึ่งเสียอีก
วิหคทมิฬเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ สัตว์อสูรตัวนี้มีเชื้อสายของอสูรโบราณ ตัวตนของอสูรโบราณ และอสูรบรรพกาลนั้น น่าครั่นครามเป็นอย่างมากในอดีต
แต่ในยามนี้ พวกมันหลงเหลือเพียงตำนานเรื่องเล่าขาน เพียงเท่านั้น การจะหาตัวพวกมันนั้นยากยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทร ไม่ต้องหวังถึงข้อมูลในการพัฒนาของพวกมัน นั่นคือฝันที่แทบไม่อาจเป็นจริง
พื้นฐานของสัตว์อสูรเลือดผสมเหล่านี้นั้นดีกว่าบรรดาสัตว์อสูรทั่วไป มันจึงก้าวข้ามระดับได้ไวกว่าปกติ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งมันก็จะหยุดพัฒนา นี่คือปัญหาคอขวด ที่ผู้เป็นเจ้าของจะต้องช่วยมัน มิเช่นนั้นมันก็จะติดอยู่ในระดับนี้ไปจนตาย
วิธีพัฒนาอสูรนั้นแต่ละตัวมีวิธีการที่ต่างกันไป มันไม่สามารถใช้วิธีที่เหมือนกันได้ทั้งหมด หากวิธีการเหล่านั้นใช้หลักการเช่นเดียวกัน เช่นนั้น จะมีอสูรที่โดดเด่นได้อย่างไร
วิหคทมิฬเป็นอสูรที่มีสายเลือดผสมของอสูรโบราณ มันจึงต้องการบางอย่างที่ต้องใช้เป็นตัวกระตุ้น ข้อมูลจากสัมผัสพิเศษของวาเลน เปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ ให้เด็กน้อยได้รับรู้ ทั้งหมด
เลือดของสัตว์อสูรโบราณเป็นหนึ่งในตัวเลือกเหล่านั้น แต่ปัญหาของมันคือ จะหาอสูรเหล่านั้นได้จากที่ไหน? คำถามต่อมาคือ ถ้าหาได้ จะมีชีวิตรอดออกมาไหม?คาดว่าคงได้ตายก่อนจะมีโอกาสได้เลือดแม้เพียงหนึ่งหยดของพวกมัน
ตัวเลือกที่สองคือการพัฒนาจากสมุนไพรระดับสูง ตั้งแต่ระดับทองขึ้นไป ตัวเลือกนี้ดูจะเห็นผลได้ง่ายกว่า แต่การจะหาสมุนไพรธาตุมืดระดับสูงนั้นก็ไม่นับว่าง่ายเสียทีเดียว เพราะสมุนไพรธาตุเหล่านี้จะขึ้นอยู่ในเขตพื้นที่จำเพราะที่เอื้อประโยชน์ต่อมันเท่านั้น ต้องไม่ถูกรบกวนโดยเหล่านักล่า และมันต้องยืนต้นผ่านกาลเวลาอย่างน้อย หนึ่งร้อยปี ถึงจะเก็บเกี่ยวเพื่อการนี้ได้
อีกวิธี คือการหลอมสมุนไพรให้เป็นโอสถวิธีการนี้คือการนำศาสตร์การหลอมเข้ามาประยุกต์ใช้ แต่แทบไม่มีผู้ใดกล้าใช้มัน การใช้สมุนไพรระดับสูงพัฒนาสัตว์อสูรคนผู้นั้นจะต้องร่ำรวยมากจริง ๆ จึงจะทำเช่นนี้ได้ ก็ไม่ต่างจากวิธีการที่ให้มันกินสมุนไพรที่มีอายุนับร้อยปี
สิ่งล้ำค่าเหล่านี้ ผู้คนส่วนใหญ่มักนำมันไปพัฒนาตนเองเสียมากกว่า ที่จะใช้มันไปพัฒนาอสูร
และตัวเลือกของการพัฒนาอีกมากมายที่สามารถนำมาใช้ได้ นับว่าวาเลนตัดสินใจถูกแล้วที่ยอมมารักษาอาการบาดเจ็บของวิหคทมิฬ มิเช่นนั้นคงไม่มีทางที่เขาจะได้ใช้พลังแห่งสัมผัสพิเศษเปิดคลังความรู้เหล่านี้ขึ้นมาได้ หากเขาปล่อยเหตุการณ์นี้ให้ผ่านไป มิคาดว่าความรู้ที่ควรจะได้รับ ก็คงจะหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย
ข้อมูลการพัฒนาเหล่านี้เด็กน้อยเลือกที่จะเก็บมันเอาไว้ไม่มีประโยชน์อะไรที่เอาไปพูดให้องค์ชายหนึ่งได้ฟัง ข้อมูลบางอย่างหากใช้มันอย่างไม่ระมัดระวัง มันมีแต่จะนำปัญหามาให้ไม่รู้จบสิ้น
แต่กรณีของข้อมูลเหล่านี้ มันจะมีประโยชน์อย่างมากมายมหาศาลแน่นอนในอนาคต การจะดำเนินชีวิตให้สะดวกสบาย วาเลนคิดว่าอย่างน้อย ก็ต้องมีหลักประกันบางอย่างที่สามารถเอาไว้ต่อรองได้บ้าง
"คุณชายใจจริงข้ามิอยากให้ท่านยุ่งเกี่ยวสิ่งใดกับองค์ชายท่านนี้ มีข่าวลื่อมากมายเกี่ยวกับตัวเขา ข้าไม่ปฏิเสธเรื่องความสามารถอันโดดเด่น แต่ในเรื่องการเอาเปรียบผู้คน และเจ้าแผนการ เขาไม่น่าไว้วางใจ เป็นไปได้เราไม่ควรยุ่งเกี่ยวสิ่งใดกับเขาอีกเลย"คารีสพูดอย่างจริงจัง ไม่สมกับท่าทางของเด็กน้อย
วาเลนรับฟังอย่างไม่หนักใจ เขาเข้าใจในความห่วงใยของคารีส เพื่อนตัวเล็กคนนี้ นับตั้งแต่เหตุการณ์ปลุกพลังในครั้งนั้น ยิ่งสร้างความสนิทสนมระหว่างพวกเขาให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม การทัดทานเล็ก ๆ นี้มาจากการข่าวที่ฉับไว อีกนัยหนึ่งมันก็เป็นการแสดงถึงความห่วงใยและใส่ใจในแบบของเขาเท่านั้น
"ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูที่ถาวร"วาเลนพูดประโยคที่เขาเคยอ่านในเรื่องสามก๊ก จากโลกเก่า เอามาตอบความห่วงใยของคารีส
"ทำไมท่านจึงคิดเช่นนั้น ถ้าอย่างนั้นข้านับเป็นอะไร"คารีสถามอย่างน้อยใจ เด็กน้อยผู้นี้ยังไม่เข้าใจความนัยที่วาเลนกำลังจะสื่อถึง
"มิใช่เช่นนั้น ข้ากำลังพูดถึงเรื่องการวางตัวต่างหาก เราควรวางตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ไม่ควรสร้างศัตรูที่ถึงกับอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ และหากเป็นมิตรก็ไม่ควรเชื่อใจไปเสียทุกอย่าง เราจะสามารถอยู่ได้อย่างสบายและไม่ต้องถึงกับหวาดระแวง"
คารีสนิ่งคิดตามที่วาเลนพูด เด็กน้อยค่อย ๆ ทำความเข้าใจก่อนจะพบว่าสิ่งที่คุณชายเจ็ดพูดนั้น คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด เขายิ้มและพยักหน้าน้อย ๆ
"ข้าเข้าใจแล้ว"
"ดี.....มีข่าวเพิ่มเติมเรื่อง เทศกาลล่าอสูรไหม?" วาเลนถามถึงหนึ่งในหลาย ๆ เรื่องที่เขาใช้ให้คารีสออกไปสืบข้อมูล
"มีไม่มากคุณชาย ข่าวพวกนี้ถูกเก็บเงียบและแทบไม่มีใครพูดถึง แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผู้คนกล่าวถึงทั่วไป คือ การคัดสรรผู้เข้าร่วมทีมขององค์ชายสาม น่าผิดหวังนักที่ไม่ค่อยมีผู้ใดให้ความสนใจ"คารีสรายงานพร้อมกับเพิ่มความรู้สึกส่วนตัวลงไปด้วย
"ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?" วาเลนถามอย่างสงสัย
"นั่นเพราะสถิติการแข่งขันที่ผ่านมา มีเพียงองค์ชายหนึ่ง และองค์ชายสองเท่านั้น ที่สลับกันชนะมาโดยตลอด ผู้เยาว์ที่โดดเด่นส่วนใหญ่ จึงเข้าร่วมกับองค์ชายทั้งสองไปจนหมดแล้ว" คารีสตอบ
"แล้วเหตุที่เจ้าบอกว่าน่าผิดหวังเล่า มันคือเรื่องใด" วาเลนต้องการรู้ถึงความใส่ใจในองค์ชายผู้นี้ของเด็กน้อย
"องค์ชายสามผู้นี้นับได้ว่า เป็นผู้ที่มีความตรงไปตรงมาที่สุดแล้ว ในบรรดาพี่น้องของเขา นี่จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่องค์ชายหนึ่งและองค์ชายสองไม่เปิดโอกาสชนะใด ๆ ให้แก่เขาเลย องค์ชายผู้นี้เหมาะสมกับบัลลังก์มากที่สุดแล้วในความคิดของข้า"
วาเลนยิ้มและมองเด็กน้อยที่ชมชอบความตรงไปตรงมาอย่างเอ็นดู เด็กคนนี้ยังมีโลกที่เหมือนกับเป็นผ้าขาว เขามองเห็นแค่ความชั่วและความดี ในโลกนี้ ไม่มีหรอกที่จะแบ่งแยกสิ่งเหล่านี้ออกจากกันได้ ชั่วและดี อยู่ที่อะไร? บางครั้งมันอยู่ที่ใจเรากำหนด และกฎเกณฑ์ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน หนึ่งร้อยคน ก็หนึ่งร้อยรูปแบบ วาเลนจึงไม่พูดแก้สิ่งใด เรื่องบางเรื่องก็ต้องให้เขาเรียนรู้มันด้วยตนเอง
"ท่านคิดที่จะเข้าร่วมเทศกาลล่าครั้งนี้บ้างไหม คุณชาย" คารีสถามอย่างตื่นเต้น เมื่อไม่เห็นวาเลนตอบโต้สิ่งใดในเรื่องนี้ เทศกาลล่าอสูรนั้น เมื่อก่อนมันไม่เคยอยู่ในหัวของเด็กน้อย เพราะถูกจำกัดด้วยพลังและอำนาจ แต่ในตอนนี้เขาปลุกพลังเวทย์ได้แล้ว จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ความคิดเหล่านั้นจะเปลี่ยนไป
"ไม่....นี่เป็นเหตุผลส่วนใหญ่ที่ข้าเลือกศึกษาในศาสตร์แห่งการหลอมโอสถ"วาเลนตอบทันทีแบบไม่ต้องคิด เขาไม่นิยมการไล่ล่า เด็กน้อยไม่มีความสุขกับการฆ่าสังหาร แม้ว่านั่นจะเป็นสัตว์อสูรก็ตาม
"ท่านก็ไม่จำเป็นต้องล่าสัตว์อสูรก็ได้ มีหลายคนที่เข้าไปล่าอย่างอื่น เช่น พวกนักล่าสมุนไพร"คารีสตอบ
แววตาของวาเลนเป็นประกายขึ้นมาทันที จริงสิ! นี่เป็นโอกาสอันดีที่ข้าจะพบสมุนไพรใหม่ ๆ หากพลาดโอกาสนี้ไป คงน่าเสียดายแย่
คารีสรอบยิ้มกับท่าทางเช่นนั้นของวาเลน ทำไมเขาจะไม่รู้ ว่าคุณชายผู้นี้ชอบสิ่งใด
"แต่การเข้าร่วมงานเทศกาลล่าในครั้งนี้ท่านก็จำเป็นต้องมีสัตว์อสูรในครอบครอง ถึงจะเข้าร่วมได้ มันเป็นกฎ ที่ถูกตราเอาไว้และต้องปฎิบัติตาม" คารีสท้วงถึงบางสิ่งที่เด็กน้อยยังไม่มี
"เช่นนั้นข้าคงต้องไปหาซื้อสัตว์อสูรสักตัว"วาเลนกล่าวพึมพัมเบา ๆ อย่างหมายมาด
คารีสส่ายหน้าเมื่อได้ยินดังนั้น คุณชายเจ็ด นี่ท่านไม่เคยสำรวจตระกูลตัวเองเลยหรืออย่างไร ว่ามีสิ่งใดไม่มีสิ่งใด
"ท่านจำเป็นต้องซื้อด้วยหรือ? โอเดลรอสคือตระกูลนักล่า นั่นคือจุดประสงค์ที่องค์ชายหนึ่งยอมมาที่นี่ แต่ท่านกลับจะไปซื้ออสูรที่อื่น ข้าล่ะปวดหัวจริง ๆ " คารีส เกาหัวแกรก ๆ เขารู้สึกปวดประสาทกับคุณชายท่านนี้จริง ๆ
วาเลนที่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับยิ้มเผล่อย่างไม่ตั้งใจ เขาลืมคิดเรื่องนี้ไปได้ยังไง หากพูดเรื่องนี้ออกไป คงได้กลายเป็นตัวตลกในตระกูลอย่างแน่นอน
"ข้าจะพาท่านไปที่โรงกักสัตว์ และโรงเก็บไข่อสูร"คารีสยิ้มอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะเร่งนำไปยังสถานที่ ๆ เขาพูดถึง
วาเลนไม่เคยเฉียดกายเข้ามาใกล้สถานที่แห่งนี้ มีเพียงโรงกักอสูรเก่า ๆ เท่านั้นที่เขาเคยไปพักอาศัยยามถูกลงโทษ
เมื่อมาถึงเขาพบว่ามีโรงกักสัตว์อสูรมากมายทั้งโรงที่ยังว่างเปล่า และโรงที่ถูกใช้งาน มีบรรดาผู้คุมมากมายในที่แห่งนี้ คนเหล่านั้นจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตรวจตราตามสถานที่รอบ ๆ อย่างเข้มงวด ชนิดที่แม้แต่มดสักตัวก็ไม่มีทางรอดสายตา
วาเลนได้เข้ามาแค่เขตที่ผู้คุมอนุญาตเพียงเท่านั้น ในเขตนี้ไม่มีสัตว์อสูรระดับสูงที่อันตราย เด็กน้อยจึงไม่จำเป็นต้องมีใครติดตาม เขาและคารีสเดินดูไปรอบ ๆ โรงกักอสูร อย่างไม่เบื่อหน่าย ที่แห่งนี้จัดแยกประเภทสัตว์อสูรไว้อย่างชัดเจน มันให้ความรู้สึกราวกับเขากำลังเดินเล่นในสวนสัตว์ของโลกเก่าอย่างไงอย่างงั้น
วาเลนและคารีสเดินสำรวจสัตว์อสูรไปรอบ ๆ จนครบทุกประเภทที่ตระกูลมี ยกเว้นเขตที่ผู้คุมห้ามเขาเข้าไป
สัตว์อสูรเหล่านี้ถูกจัดแบ่งออกเป็นเขต อย่างง่าย ๆ เช่น อสูรสัตว์ขี่ อสูรสัตว์ปีก อสูรสวยงาม อสูรตระกูลมีพิษ อสูรนักล่า และอีกมากมาย ที่ตระกูลจัดไว้เป็นหมวดหมู่
การจัดเขตในลักษณะนี้ก็เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายแก่ผู้ที่เข้ามาเลือกซื้ออสูรเหล่านี้ไปใช้งาน มันคือแหล่งทำเงินอันมหาศาลของตระกูล
"คุณชายท่านว่านั่นเป็นอย่างไร "คารีสชี้ไปที่อสูรสัตว์ขี่ตัวหนึ่ง ข้าง ๆ โรงกัก ของมันมีป้ายเล็ก ๆ กำกับเอาไว้
"อาชาวายุ" สัตว์อสูรตัวนี้ดูนุ่มนวลนิ่งสงบแต่ในเวลาเดียวกัน ก็ดูดุดันและรุนแรง เอาแน่เอานอนไม่ได้ ลำตัวของมันมีลักษณะเป็นสีขาวราวน้ำนม หางของมันคล้ายกับแส้ มีความยาวกว่าปกติที่อาชาควรมี ในความเป็นจริงคารีสดูว่ามันน่าจะเหมาะกับวาเลนที่สุดอีกอย่างมันยังสามารถอำนวยความสะดวกให้กับเขาได้ด้วย
แต่ผิดคาดที่วาเลนส่ายหน้าน้อย ๆ เขาคิดว่ามันไม่เหมาะกับเขา ประการแรกคือตัวมันใหญ่เกินไป เป็นที่สะดุดตาได้ง่าย ประการที่สอง การล่าสมุนไพรไม่จำเป็นต้องใช้ความว่องไว อาชาวายุมีนิสัยที่รวดเร็ว ตามธรรมชาติของมัน การที่ควบมันช้า ๆ จะสร้างความเหนื่อยกายให้กับมันเป็นสองเท่าตัว นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
"อย่างนั้น ท่านต้องการอสูรประเภทไหน"คารีสถามอย่างสงสัย
วาเลนทำท่าหนักใจ ไม่มีตัวไหนที่ใช้ประโยชน์ได้จริง ๆ จัง ๆ เขาไม่ต้องการอสูรเหล่านี้ แต่ดันจำเป็นต้องมีเพื่อให้เข้าร่วมงานเทศกาลที่กำลังจะมีขึ้นได้
คารีสลังเลอยู่ขณะหนึ่ง ก่อนที่เด็กน้อยจะถามขัดจังหวะความคิดของวาเลน
"หรือท่านจะลองไปดูที่โรงเก็บไข่อสูร แต่ที่นั่นเป็นที่ ๆ มีไว้สำหรับขายไข่อสูรให้กับผู้เยาว์ที่มีเงินไม่เพียงพอต่อการซื้อสัตว์อสูรตัวเต็มวัย มีไข่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งได้จากรัง ทั้งจากเก็บได้ และ ได้จากการแลกซื้อ ท่านสามารถไปดูได้ แต่หากจะให้ทันต่อการเข้าเทศกาลล่า ยังไงก็ต้องเอาสัตว์อสูรเหล่านี้ไปใช้อยู่ดี " คารีสต้องการเลื่อนระยะเวลาตัดสินใจของวาเลนออกไป เขาจึงเสนอทางออกที่ไม่เร่งรีบมากมายให้คุณชายผู้นี้
วาเลนตัดสินใจตามคารีสไปยังโรงเก็บไข่อสูร เขาต้องการเวลาอีกนิดในการตัดสินใจ เพื่อต้องเลือกตัวหนึ่งตัวใด เพื่อเข้าไปเป็นคู่หู
ในโรงเก็บไข่อสูรนั้น ต่างจากโรงกักสัตว์อสูรอย่างชัดเจน ไข่แต่ละใบถูกวางสะเปะสะปะ ไม่เป็นระเบียบ ราวกับที่แห่งนี้ไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจเสียเท่าไหร่ มีทั้งไข่ที่ยังอยู่ในสภาพดี และเก่าเก็บ ไข่บางใบถูกฟักแล้ว และตัวอ่อนก็หายไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงเปลือกไข่เป็นที่ระลึก
วาเลนกวาดตามองไปรอบ ๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างดีใจ ใบหน้าของเขาแจ่มใสเหมือนได้เห็นขุมทรัพย์
เด็กน้อยเริ่มมหกรรมหยิบจับไข่ทุกใบราวกับจับจ่ายใช้สอยอยู่ในตลาด พลังแห่งสัมผัสพิเศษถูกกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่า มันส่งข้อมูลตรงเข้าสู่สมองของวาเลน เด็กน้อยกำลังคัดแยกไข่เหล่านี้! เมื่อมีใบที่น่าสนใจ เขาจะคัดให้คารีสถือไว้ทันที
คารีสมองคุณชายน้อยของเขาอย่างงุนงง และไม่เข้าใจ ไข่ไม่ต่ำกว่าห้าใบแล้วที่คุณชายเจ็ดคัดให้เขาถือเอาไว้ เขาจะเอาไปทำอะไร? นี่ไม่ใช่ไข่สำหรับกิน! เขาไม่ได้เข้าใจผิดใช่ไหม คารีสได้แต่คิดในใจ ไม่กล้าทัดทาน
วาเลนชะงั้นทันทีที่ถือไข่ใบหนึ่งไว้ในมือ มันมีลวดลายที่สวยงามและแปลกตาขนาดของมันใหญ่โตราวกับผลของฟักทอง จากสภาพที่เก่าเก็บของมัน แม้แต่คนดูแลก็คงไม่คิดว่ามันจะฟักออกมาเป็นตัวได้อย่างแน่นอน มันจึงถูกทิ้งเอาไว้ในสภาพเช่นนี้
นัตย์ตาของเด็กน้อยเป็นประกาย ใครจะคาดคิดว่าเขาจะพบกับสิ่งนี้ได้ในสถานที่เช่นนี้กัน
"ไม่น่าเชื่อว่าตำนานที่สาบสูญนี้ จะยังมีชีวิตอยู่ในมือของข้า" วาเลนแทบไม่สามารถระงับความตื่นเต้นเอาไว้ได้ ใบหน้าของเด็กน้อยเผยยิ้มอย่างตื่นเต้นดีใจ ยิ่งกว่าได้ขุมทรัพย์มหาศาล
---------------------------------------------------------------------
ช่วงนี้เข้าฤดูสอบงานแล้ว ไรท์อาจมาเป็นพัก ๆ นะครับ ^^ ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเม้นต์เป็นกำลังใจให้กันครับ
เจอกันตอนหน้าครับผม
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รอนะคะ
รอมานานบทสัตว์เลี้ยงชอบมาก
อยากอ่านต่อแล้วนะคะ
สนุกมากค่ะรอไรท์มาต่ออยู่นร้า