ตอนที่ 18 : คนสวน กับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 18 แก้ปัญหา
คนสวน กับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 18 แก้ปัญหา
ภายในหอโอสถก็ ยังคงเป็นเหมือนเช่นที่เคยเป็นมาในแต่ละวัน กระไอยา จากเตาหลอม ล่องลอยคล้ายหมอกควัน ที่เบาบาง อบอวลไปทั่วทั้งห้องโถงใหญ่
หลังเตาหลอมแต่ละใบ มีนักหลอมโอสถฝึกหัดมากมาย ผู้เยาว์เหล่านี้ เป็นเด็กน้อยของตระกูลที่ผ่านด่านทดสอบหนึ่งร้อยสมุนไพรมาแล้ว ซึ่งเป็นด่านแรกที่ใช้ทดสอบคุณสมบัติการเป็นนักหลอมที่ดี มีความรู้มากพอ และพร้อมที่จะหลอมโอสถได้
ศักยภาพของแต่ละคนจะถูกประเมินไว้โดยเหล่าผู้คุมสอบของหอโอสถ วาเลนก็ถูกประเมินโดยวิธีการนี้เช่นกัน แต่ศักยภาพของเด็กน้อยไม่อาจรู้ได้ชั่วคราว เนื่องมาจากการรีบจบบททดสอบของเหล่าผู้คุม
วาเลนถูกใช้ให้มาเป็นผู้ควบคุมการหลอมโอสถของบรรดาผู้เยาว์เหล่านี้ ในช่วงที่ผู้อาวุโสเอียน ออกเดินทางค้นหาสมุนไพร
ช่วงแรกที่เด็กน้อยเข้ามานั้น สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาเหล่าผู้คุมคนเก่า และ บรรดาศิษย์ที่เข้ามาอยู่ในหอโอสถก่อนหน้าเด็กน้อยเป็นอย่างมาก
สิ่งเหล่านี้อยู่ในการคาดการณ์ของผู้อาวุโสเอียนอยู่แล้ว ชายชราจึงได้จัดการทดสอบการเลื่อนขั้นฐานะให้กับเด็กน้อยอย่างเป็นทางการ ก่อนจะออกเดินทางอย่างสบายใจ
การทดสอบหลอมสมุนไพรจึงถูกจัดขึ้นเพื่อเลื่อนระดับและฐานะของคุณชายเจ็ดโดยเฉพาะ ท่านหญิงวิเรร่าเพื่อเห็นแก่ความก้าวหน้าของบุตร จึงจำต้องยอมให้เด็กน้อย เข้ารับทดสอบหลอมสมุนไพร อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ครบกำหนดบทลงโทษ
การทดสอบดำเนินไปอย่างเรียบง่ายแต่กลับได้ผลลัพธ์ที่ไม่มีใครคาดคิด การหลอมสมุนไพรของคุณชายเจ็ดนั้น แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ไม่ธรรมดา อายุเพียงเท่านี้ แต่กลับสามารถหลอมสมุนไพรระดับเงินออกมาได้ ทำให้ไม่มีใครกล้าเกิดข้อกังขากับความสามารถของวาเลนอีกเลย นี่ยังนับว่าเด็กน้อยไว้หน้าบรรดาผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ในหอโอสถมากแล้ว กับการที่เขาไม่หลอมโอสถระดับเงินขั้นสูง! ออกมา
ใบหน้าของผู้เยาว์รุ่นพี่ที่เคยสบประมาทเด็กน้อยถึงกับ บิดเบี้ยว ด้วยความริษยา และ ไม่พอใจ การมาก่อน หรือ มาทีหลัง ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร หากไม่มีพรสวรรค์ บางคนก็จำต้องอยู่ในสถานะเดิมจนตาย
ผู้เยาว์เหล่านั้น พยายามสะกดอารมณ์ความผิดหวัง แล้วละสายตาจากเด็กน้อยที่น่าอิจฉา หันกลับมาสนใจกับการหลอมโอสถตรงหน้าของตนเอง
ในหม้อหลอมของผู้หลอมโอสถฝึกหัดตอนนี้นั้น ปรากฎฟองอากาศ เดือดปุด อย่างที่ไม่ควรจะเป็น นั่นเป็นสัญญาณไม่ดีไม่ใช่หรือ ? ใบหน้าผู้หลอมโอสถฝึกหัดคนนั้น ปรากฎแววตาเสียใจทันที ที่มัวแต่เขม่นมองเด็กน้อยจนทำให้การหลอม ล้มเหลวอีกครั้ง
วาเลนสังเกตเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่เด็กน้อยแกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจ สิ่งสำคัญของการพัฒนาศักยภาพ อันดับแรกเลย สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ต้องตัดอคติทั้งหมดให้หายไป และเปิดใจรับฟัง หาไม่แล้ว ก็เป็นการยาก ที่จะข้ามผ่านระดับเหล่านี้ไปได้
"คุณชายน้อย ท่านจะไม่แนะนำพวกเขาสักหน่อยหรือ" คารีสถาม ยิ้ม ๆ เด็กน้อยมอมแมมในวันนั้น กลายเป็นเด็กที่มีสง่าราศีทันที ที่ปลุกพลังธาตุพิเศษ อย่างธาตุสายฟ้าขึ้นมาได้ และตั้งแต่วันนั้น เป็นต้นมา คารีสก็ตัวติดกับวาเลนเป็นเงาตามตัว กลายเป็นองค์รักษ์จำเป็นไปโดยปริยาย
มีผู้อาวุโสมากมาย ต้องการรับตัวเขาเข้าเป็นศิษย์ แต่เด็กน้อยนั้นกลับยืนยันจะอยู่กับวาเลนสถานเดียว ไม่มีใครเปลี่ยนใจเขาได้ แม้แต่วาเลนเองก็ตาม
"การแนะนำจะมีประโยชน์อะไร ถ้านิสัยเขายังเย่อหยิ่งเช่นนี้ ไม่มีประโยชน์ที่จะให้คำแนะนำในตอนนี้ นิสัยเช่นนี้จะเป็นอุปสรรคขนาดใหญ่ กับเขาแน่นอน เมื่อต้องพัฒนาในระดับที่สูงขึ้น เมื่อนั้นคำพูดเหล่านี้ มันถึงจะมีประโยชน์ " คารีสพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดนี้
ในขณะที่วาเลนกำลังพูดคุยกับคารีสนั้น ก็มีผู้อาวุโสคนหนึ่งเร่งรุดเข้ามาอย่างว่องไว ชายคนนั้นเข้าไปหาผู้คุมที่คุ้นเคย และถามหาผู้อาวุโสเอียนทันที พร้อมกับเล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้
ผู้อาวุโสท่านนั้นหน้าเปลี่ยนสี เป็นขาวซีดทันทีเมื่อรู้ว่าผู้อาวุโสเอียน ไม่อยู่ภายในหอโอสถ ชายชราที่เป็นความหวังเดียวของตระกูลตอนนี้ กลับไม่อยู่! เขาไม่รู้ว่าจะกลับไปรายงาน ข่าวร้าย เหล่านี้ได้อย่างไร
ผู้อาวุโสท่านนี้กำลังรู้สึกว่าตนเองคิดผิดเป็นอย่างมากที่เป็นผู้เร่งรุดมายังที่แห่งนี้ การกลับไปเพื่อแจ้งข่าวร้ายที่ไม่มีใครอยากฟังนี้ สร้างความอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เขาคาดว่าเมื่อต้องพูดออกไป ทุกคนจะมองเขากลายเป็นตัวโชคร้ายของตระกูลอย่างแน่นอน นี่คือวิกฤตของเขาอย่างแท้จริง!
ผู้คุมที่แจ้งข่าวมองท่าทางกระวนกระวายของผู้อาวุโสที่คุ้นเคยอย่างเห็นใจ แต่เพียงครู่เดียว เขาก็พลันนึกเรื่องบางเรื่องขึ้นมาได้ ในใจพลันลิงโลดอย่างยินดี
แววตาแห่งความริษยาทอประกายอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะมองไปยังเด็กน้อยผู้มากไปด้วยพรสวรรค์ คนใหม่ของหอโอสถ
"ข้าพอจะหาทางออกให้ท่านได้แล้วล่ะ"ชายคนนั้นกล่าวขึ้นเบา ๆ
"อย่างไร ? เร่งบอกมา" ผู้อาวุโสถลึงตาโต ทันทีเมื่อได้ยินถึงทางรอด จากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้
"เมื่อเร็ว ๆ นี้ หอโอสถได้ทดสอบศิษย์คนหนึ่งของผู้อาวุโสเอียน ที่มีพรสวรรค์มากที่สุด เท่าที่เคยมีมา ท่านอาจไม่รู้เขาสามารถหลอมโอสถระดับเงินออกมาได้ นั่นจึงทำให้เขากลายเป็นผู้คุมสูงสุดแทนตำแหน่งเดิมของข้าไป " แท้จริงแล้วชายผู้นี้ คือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างมหาศาล จากการเลื่อนระดับฐานะของเด็กน้อย และผู้อาวุโสท่านนี้ก็พอจะรู้ได้ในทันที ว่าชายคนนี้กำลังจะยืมมือของเขาฆ่าคน
การที่ส่งเด็กน้อยคนนี้ไป หากเขาไม่สามารถช่วยวิหคขององค์ชายหนึ่งได้ จะกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ อย่างแน่นอน
"เจ้าคิดว่าการกระทำนี้จะไม่เป็นการยั่วยุ ผู้อาวุโสเอียนอย่างนั้นรึ!"ผู้อาวุโสท่านนั้นพูดออกมาอย่างอารมณ์เสีย เขานึกว่าจะได้ฟังคำแนะนำที่ดีกว่านี้
"ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องนี้ จะไม่มีใครกล้าพูดกล่าวให้ร้ายท่านได้ นี่คือวิกฤตของตระกูล ทุกคนย่อมต้องช่วยกันและกัน หรือท่านว่าไม่จริง!"
ความเห็นแก่ตัววาบผ่านสมองของผู้อาวุโสท่านนั้น ทันที เป็นจริงดังที่ผู้คุมพูด เรื่องนี้ ผู้อาวุโสเอียนจะโทษคนที่ต้องการช่วยตระกูลได้อย่างไร
"เช่นนั้น ท่านก็ไปเชิญเขามา ! บอกเขาไปว่า ให้เป็นตัวแทนผู้อาวุโสเอียน เดินทางไปพบท่านผู้นำตระกูลที่คอยเขาอยู่ที่ห้องรับรองใหญ่ ที่เหลือให้ข้าจัดการเอง" ผู้อาวุโสเร่งบอกทันที
"ขอรับ"ผู้คุมตอบรับพลางยิ้มประจบเอาใจ เขาจากไปแจ้งข้อความเหล่านั้นกับวาเลนทันที ไม่มีเด็กน้อยนี่สักคน ก็ไม่มีทางที่เขาจะต้องพบเจอกับความอัปยศเหล่านี้ สายตาสมเพช และเวทนา ที่จ้องมา แม้เพียงเสี้ยวนาที ก็สร้างความเจ็บปวด ราวกับถูกทุบตี ให้แก่เขาเป็นอย่างมาก
วาเลนจ้องมองผู้คุมคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา แม้เด็กน้อยจะไม่ได้ไปไหน มาไหน ในตระกูล แต่ไม่มีแม้สักครั้งที่เขาจะพลาดข่าวสารใด ๆ ไป
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร ที่คารีสกลายเป็นเหยี่ยวข่าวกลาย ๆ คอยจับความเคลื่อนไหวภายในตระกูลและคอยรายงาน ให้กับวาเลนได้รับรู้อยู่เสมอ
เด็กน้อยคนนี้มีทักษะการสะกดรอย และการหาข่าวที่ไม่ธรรมดา ประกอบกับพลังแห่งธาตุพิเศษสายฟ้า ยิ่งส่งให้เขาพัฒนาศักยภาพในด้านนี้ได้ไม่สิ้นสุด
คารีสรอบส่งสายตาให้วาเลนทันที เด็กน้อยไม่ต้องการให้คุณชายเจ็ดต้องมีส่วนร่วมกับวิกฤตตระกูลในครั้งนี้
วาเลนส่งรอยยิ้มที่เยียบเย็นให้กับผู้คุม เด็กน้อยไม่มีท่าทีสะทกสะท้านแต่อย่างไร ต่อให้รับรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเด็กน้อยก็ไม่คิดว่า สิ่งนี้ จะสร้างวิกฤตให้กับชีวิตน้อย ๆ ของเขาได้ ผิดกับผู้คุมที่เสียวสันหลังวาบ กับรอยยิ้มของเด็กน้อยที่ส่งมาให้ มันมีบางสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่ดี
"ไปกันเถอะ คารีส อาจมีเรื่องสนุก ๆ ให้ทำก็ได้ เจ้าไม่เบื่อบ้างหรือไง ที่ต้องมานั่งเฉย ๆ แบบนี้" วาเลนพูดพรางขยิบตาให้เด็กน้อย ทันที
คารีสชะงักงันทันทีที่ได้ยินว่าอาจมีเรื่องสนุก ขนแขนของเด็กน้อยลุกเกลียวทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ คราวที่แล้วคุณชายเจ็ดก็ทดลองเม็ดยาสมุนไพร ระดับสูง ผลของการกระทำนั้น ทำให้เกิดเหตุวินาศสันตะโร ก็เพราะการคิดทดลองอะไรสนุก ๆ อย่างนี้เหมือนกัน
"ดะ....เดี๋ยวสิ! คุณชาย " คารีสถลาวิ่งตามไปทันที อย่างว่องไว คุณชายเจ็ด นี่ท่านคิดจะทำอะไรอีก?
สายลมกรรโชกหนึ่งครา ก็พัดพาร่างเล็กของคุณชายเจ็ดให้หายไปทันที
วาเลนเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ด้วย ท่าเท้าสายลม การควบคุมลมของเด็กน้อยหนุนเสริมได้อย่างพอดิบพอดี ไม่มีขาด ไม่มีเกิน แสดงให้เห็นถึงการควบคุมเวทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ทุกการก้าวย่างของเด็กน้อยจึงเต็มไปด้วยท่วงท่าที่สง่างาม วาเลนดีดตัวครั้งสุดท้ายจากปลายยอดไม้ แรงดีดพาร่างเล็กพุ่งทะยานสูงขึ้นไป ราวกับกำลังไต่อากาศ
เด็กน้อยเหินเวหาอยู่ช่วงนึง ก่อนจะตกลงมาเป็นรัศมีโค้งที่งดงาม จากจุดที่ไม่ไกลออกไปจาก ตัวเรือนรับรองเท่าไหร่ วาเลนยืนรอไม่นาน เด็กน้อยคารีสก็ตามมาสมทบอย่างฉับไว
วาเลนมองคารีสยิ้ม ๆ อย่างพึงพอใจ เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนไป
"เจ้าบรรลุความเร็ว ในอีกระดับแล้วรึ? " เด็กน้อยคารีส มองค้อนวาเลนทันที ไม่ผิดจากที่วาเลนพูด เด็กน้อยบรรลุความเร็วในระดับที่น่าตกใจก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่สามารถตามทันความเร็วของคุณชายเจ็ดได้อยู่ดี คุณชายท่านนี้ราวกับเป็นตัวประหลาดอย่างแท้จริง
"ไปกันเถอะ" วาเลนชวนคารีส ก่อนที่ทั้งสองจะเดินมุ่งหน้าเข้าไปในเขตเรือนรับรอง ทันที
ท่ามกลางบรรยากาศที่อึมครึ้มและอึดอัดใจ เสียงเปิดประตูเรือนรับรอง ดังเอี๊ยดอ๊าด เรียกทุกสายตาที่รอคอย ให้หันไปมองอย่างพร้อมเพียง ผู้อาวุโสในตระกูลหลายราย เริ่มผ่อนคลายเพราะคิดว่า เป็นการมาถึงของผู้อาวุโสเอียน
ประตูบานใหญ่เปิดออก เผยให้เห็นผู้ที่เข้ามาใหม่ เด็กน้อยเพศชายทั้งสองคน เดินเข้ามาอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจใคร ราวกับเดินเล่นผ่อนคลาย ในสวนหลังบ้าน
ผู้อาวุโสทั้งหลายแทบล้มตึง เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใด เด็กน้อยที่คุ้นหน้าคุ้นตา กำลังยกยิ้มให้กับทุกคน อย่างสบายใจ เขาทำราวกับวันนี้เป็นวันสบาย ๆ ไร้กังวลใด ๆ ต่างกับทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น ที่สีหน้าราวกับคนจะสำลักน้ำตาย ไม่เว้นแม้แต่บิดาของวาเลน
"ขออภัยที่มาช้า ผู้เยาว์ถูกตามให้มาแก้ปัญหาอะไรสักอย่าง? "วาเลนพูดขึ้นด้วยเสียงที่ไม่เบานัก ทุกคนที่ได้ยินอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย ผู้อาวุโสในตระกูลทำสีหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ เคยมีใครได้ยินด้านดี ๆ ของคุณชายเจ็ดบ้าง ถ้อยคำที่พูดออกมา วายร้ายตัวน้อยผู้นี้อาจจะกำลังสื่อว่า เขาต้องการมาเพิ่มปัญหาให้หรือป่าว?
-----------------------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามากดกำลังใจ และคอมเม้นต์ให้นะครับ ผมตามอ่านทุกอันแต่ต้องขออภัยด้วย ที่อาจไม่ได้ตามตอบทุกเม้นต์
ไม่คิดว่านิยายเรื่องนี้จะมีคนตามอ่านเยอะขนาดนี้ครับ ขอบคุณทุกกำลังใจมาก ๆ ครับ
เจอกันตอนหน้าครับ ^^ วันนี้ฝันดีนะครับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นี่มันคือคู่หู คู่เรือหาย ชัดๆเรย หายนะกำลังจามาเยือน5555
วายร้ายตัวน้อยยยเอ็นดูทำไมต้องว่าน้องง 555
รอตอนต่อไปจ้าา
ขอบคุณ สู้ๆ
ต่อเร็วค้างงงงงง
รอฉันรอเธออยู่......
ขอบคุณครับ