ตอนที่ 15 : คนสวน กับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 15 ทดลอง
คนสวน กับต่างโลก ภาค พิภพพฤกษา ตอนที่ 15 ทดลอง
สองถึงสามวันที่ผ่านมา วาเลนแทบไม่มีช่วงเวลาว่าง เด็กน้อยราวกับคนเสพติดการฝึกฝน เขาทุ่มเทพลังใจ และพลังกายอย่างบ้าคลั่ง โดยมีท่านหญิงวิเรร่าผู้เป็นมารดา สั่งสอนพื้นฐานการใช้พลังเบื้องต้นของเวทย์มนต์ธาตุให้
มรดกความรู้ส่วนใหญ่ที่วาเลนได้รับจากการปลุกพลังแปลงสภาพเลือด ทำให้เขามีความเข้าใจรุดหน้าอย่างมาก เพราะมีต้นทุนความรู้อยู่แล้วส่วนนึง การสอนสั่งของมารดา จึงทำให้วาเลนเข้าใจได้ในทันที ราวกับเขาแค่มาเรียนพิเศษเพิ่มเติม
ไม่มีวันไหนที่ท่านหญิงวิเรร่าไม่ปลาบปลื้มใจ บุตรชายของเธอนั้นนอกจากจะเป็นอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากแล้ว แต่กลับยังขยันฝึกฝนมากกว่าคนทั่วไปอีกเท่าตัว
เธอผู้เป็นมารดา สามารถบอกได้คำเดียวว่า ช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้สอง สามวันที่ผ่านมานั้น บุตรชายของเธอได้ ทำความเข้าใจและสามารถย่อยข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ที่มากมายได้อย่างรวดเร็วจนถึงขั้นน่าตกใจ
ต้องเข้าใจว่าการปลุกพลังเวทย์ได้ มิได้หมายความว่า คน ๆ นั้นจะเชี่ยวชาญ อย่างฉับพลันทันที มันยังต้องอาศัยการฝึกฝนจนชำนาญ สั่งสมประสบการณ์ และพลิกแพลงตามสถานการณ์ อีกด้วย ผู้มีความสามารถจริง ๆ นั้น สามารถประยุกต์ธาตุอื่น ๆ ให้เข้ากัน ทำความเข้าใจ และนำมันมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกเหนือจากการฝึกฝนพื้นฐานธาตุพลังเวทย์แล้ว วาเลนยังคงมุ่งมั่นในด้านของศาสตร์การหลอมโอสถ
ตั้งแต่วันที่ผู้อาวุโสเอียนได้รับ สมุนไพรระดับสีเงินที่เด็กน้อยได้นำมาให้ แววตาของชายชราก็แสดงออกอย่างดีใจ ถึงแม้มันจะไม่ใช่สมุนไพรระดับสูงที่เป็นที่นิยม แต่มันก็ถือได้ว่า เป็นสมุนไพรระดับสูงต้นหนึ่ง การที่ใครสักคนจะมีมันไว้ครอบครองไม่นับว่าเป็นเรื่องง่าย ยิ่งสำหรับผู้หลอมโอสถ การครอบครองสมุนไพรระดับสูงนี้ ยิ่งมากยิ่งมีหน้ามีตา ยังนับได้ว่ามีค่ากว่าทรัพย์สินเงินทองทั้งปวงเสียอีก
"ศิษย์ที่ดี" ผู้อาวุโสเอียนพูดพลางรับสมุนไพรมาตรวจดู
"เจ้าได้มันมาได้อย่างไร คุณชายเจ็ด" ผู้อาวุโสเอียนถามอย่างแปลกใจ
"ข้าได้มา เพราะการสนับสนุน ของท่านแม่ ขอรับ" วาเลนโยนความดีความชอบไปยังมารดาของตน ถึงแม้จะเป็นเขาที่เป็นคนทำมันขึ้นมา แต่ต้องรู้ว่าอำนาจของตระกูลนั้นส่วนใหญ่ล้วนถูกสนับสนุนโดยเหล่าผู้อาวุโส และดูเหมือนมารดาของตนกับ ผู้อาวุโสเอียนจะ มีข้อตกลงบางอย่างร่วมกัน การกระทำของวาเลนจึงเสมือนเป็นการกระชับความสัมพันธ์และ เพิ่มความเชื่อมั่นขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
ชายชราพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ในตระกูลโอเดลรอสนี้ หากจะถามหาว่าใครคือผู้เยาว์อันดับหนึ่งในเรื่องความสามารถ ทุกคนจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า คือ คุณชายหนึ่ง อลองเฟย์ โอเดลรอส
แต่กลับกันหากถามว่า ผู้ที่สนับสนุน และเทิดทูลกุลบุตร มากที่สุดในตระกูล คนๆ นี้ จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ท่านหญิงวิเรร่า มารดาของคุณชายเจ็ด
"นี่อาจจะถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะเริ่มกำหนดอนาคต เจ้าต้องการเป็นสิ่งใด ในภายภาคหน้า ถึงข้าจะเป็นอาจารย์ของเจ้า แต่เราทั้งสองรู้ดี ถึงที่ไปที่มาของมัน การที่เจ้าคำนับ รับข้าเป็นอาจารย์ อาจเป็นไปด้วยสถานการณ์บังคับ นี่จึงทำให้ข้าต้องถาม เพื่อความแน่ใจในเรื่องที่จะทำการอบรมส่งเสริมศิษย์ หากเจ้าต้องการเป็นผู้หลอมโอสถ ข้านั้นก็ยินดีจะสั่งสอน แต่หากว่าต้องการเรียนรู้ในศาสตร์อื่น ๆ ข้าก็พร้อม จะติดต่อขอความกรุณาผู้อาวุโสท่านอื่นให้"
วาเลนยิ้มรับกับผลที่เกินคาด เด็กน้อยย่อมเลือกเส้นทางของศาสตร์การหลอมโอสถอยู่แล้ว คนเราจะเรียนเรื่องดักนก กับนักตกปลาได้อย่างไร วาเลนเลือกเส้นทางนี้ เพราะไม่ต้องการใช้ชีวิตที่โลดโผน เขาแทบไม่มีความคิดที่จะเป็นนักล่า อย่างที่ผู้เยาว์ส่วนใหญ่ในตระกูลใฝ่ฝันกัน
"ข้าย่อมเลือก เส้นทางของศาสตร์การหลอมโอสถ ขออาจารย์โปรดวางใจ "วาเลนตอบอย่างไม่ลังเล การมีศิษย์ที่คิดศึกษาศาสตร์อื่นนอกเหนือจากที่ผู้เป็นอาจารย์ถนัด นับเป็นความอัปยศ อย่างหนึ่ง กรณีนี้จะเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่ก็มิได้หมายความว่าไม่เคยมี
ผู้อาวุโสเอียนได้ยินดังนั้นพลั้นรู้สึกโล่งใจอย่างที่สุด
"ดี ดีมาก เช่นนั้น เจ้าจงรับหม้อหลอมชุดนี้ไป และจงอ่านบันทึกเล่มนี้ และทำความเข้าใจเสีย หากไม่เข้าใจสิ่งใด จงกลับมาถามข้า ตรานี่เป็นสัญลักษณ์ของข้า มันจะช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้า ผ่านผู้คุมด้านหน้าได้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าคือศิษย์นักหลอม ของข้าอย่างเป็นทางการ" และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการหลอมโอสถของวาเลน
"ท่านถึงกับมอบชุดหม้อหลอมให้กับเด็กนั่นเลยหรือผู้อาวุโส"ชายที่เร้นกายในเงามืดเอ่ยเสียงถามเมื่อเห็นว่า เด็กน้อยเดินออกไปแล้ว เด็กนั่นมีดีอะไร นอกจากสร้างเรื่องขายหน้า
"เขาก็เป็นศิษย์คนหนึ่งของข้าเช่นกัน ไม่นับว่าแปลกแต่อย่างใด และอีกนัยนึง เขาก็เป็นถึงบุตรชายของท่าน ท่านมิดีใจรึ ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นนี้ ท่านผู้นำตระกูล " ผู้อาวุโสเอียนถามโดยไม่หันไปมอง ราวกับรู้ว่าเป็นผู้ใด แท้จริงแล้ว คนผู้นี้คือบิดาของวาเลน อเลย์ โอเดลรอส ผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน
"ใช่! ข้าเห็นถึงการเปลี่ยนแปลง และมันเปลี่ยนแปลงไปมากจริง ๆ ท่านคิดดีแล้วหรือ ? ที่จะเลือกฝั่ง ข้าแค่กลัวว่าท่านจะตกไปในหลุมพรางของเหล่าขั้วอำนาจที่แก่งแย่งกันเหมือนหมาล่าเนื้อภายในตระกูลนี้ ทำไมท่านถึงไม่เป็นกลางดังเช่นที่ผ่านมา ผู้อาวุโส" ผู้นำตระกูลนั้นเหตุที่มาเยือนถึงที่พักของผู้อาวุโสเอียนก็เพราะด้วยความห่วงใย ชายชรานี้อยู่มาตั้งแต่ยุคของผู้นำตระกูลคนก่อน ไม่เคยสักครั้ง ที่จะหยั่งขาเข้ากับอำนาจฝั่งไหน ยังคงทำทุกอย่างให้ตระกูลก่อนอื่นใดเสมอ
"ข้าเลือกฝั่งมาตั้งนานแล้ว ท่านผู้นำ ข้าเลือกฝั่งตระกูล!! และสนับสนุนผู้เยาว์ที่มีความสามารถ นั่นคืออุดมการณ์เริ่มแรก และยังไม่เปลี่ยนแปลง เผื่อท่านมิได้สังเกตบุตรชายของท่าน คุณชายเจ็ด!มิใช่คนไร้ความสามารถอีกต่อไป เมื่อมิมีใครในตระกูลให้การสนับสนุนเขา ข้าย่อมต้องทำ"
บิดาของวาเลนเงียบและยื่นนิ่งอยู่ในมุมสลัว ก่อนที่เขาจะจากไปโดยมิได้โต้แย้งสิ่งใดอีก มีเพียงความกังวลเล็กๆ ที่ก่อตัวขึ้นในใจของผู้นำตระกูลเพียงเท่านั้น ยิ่งบรรดาบุตรชายของเขาเติบโตมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ผู้อาวุโสที่เป็นอาจารย์เหล่านั้นห่ำหั่น เชือดเฉือน กันมากเท่านั้น
หลังจากที่วาเลนออกมาจากการเข้าพบปะกับผู้อาวุโสเอียน เด็กน้อยก็ใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการหลอมโอสถ
สมุนไพรระดับต่ำมากมายถูกวางเรียงรายอยู่เต็มด้านหน้าของเตาหลอม แต่ละต้นล้วนเป็นสมุนไพรที่สมบูรณ์ที่สุดจากแต่ละแปลง
วิธีการที่เด็กน้อยได้สมุนไพรเหล่านี้มานั้นหากท่านหญิงวิเรร่าที่เป็นผู้สอนได้มาเห็นคงอดที่จะหุบยิ้มมิได้
ท่าเท้าสายลม หนึ่งในกระบวนท่าพื้นฐานของเวทย์มนต์ธาตุลม กลับถูกวาเลนใช้ได้อย่างชำนิชำนาญ ทุกย่างก้าวของเด็กน้อย ล้วนเต็มไปด้วยกระแสลมที่หนุนรับและดีดส่ง การเคลื่อนไหวของวาเลน จึง พริ้วไหว และ ว่องไว ราวกับภูตพราย ก็มิปาน
และด้วยร่างที่เล็กและปราดเปรียว ยิ่งทำให้วาเลนหลีกเร้นจากสายตาผู้คนได้อย่างง่ายดาย
สวนที่กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยสมุนไพรระดับต่ำมากมายจึงถูกเด็กน้อยเลือกเฟ้นและเก็บเกี่ยวได้อย่างสบายใจ โดยไม่ถูกผู้ใดรบกวน
วาเลนทดลองหลอมโอสถระดับทองแดงชนิดหนึ่ง มันเป็นโอสถระดับต่ำสุดที่ส่วนใหญ่จะถูกใช้ไปกับบรรดาข้าทาส บริวาร ยามบาดเจ็บ หรือป่วยไข้
และเมื่อมันคือการทดลอง วาเลน จึงปรับเปลี่ยนส่วนผสมของตัวยา จากสูตรในบันทึกของอาจารย์ สมุนไพรบางตัวสามารถใช้แทนกันได้หรืออาจให้ผลของตัวยาที่ดีกว่า และผลปรากฏออกมาว่า วาเลนคิดถูก!!
สูตรยาระดับทองแดงขั้นต่ำของตระกูลถูกเด็กน้อยยกระดับ เป็นระดับทองแดงขั้นกลาง เกือบทะลุขั้นสูง!!! นี่คือผลของการเข้าถึงขุมทรัพย์อัศจรรย์ คลังความรู้ผ่านสำนึกเชื่อมต่อของวงวารพืช หลังปลุกพลังธาตุพิเศษ อย่างธาตุพฤกษา
วาเลนไม่รีรอ เขาจัดเก็บตัวยาเหล่านี้ทันทีหลังการหลอมเสร็จสิ้น พร้อมกับจดบันทึกขึ้นมาใหม่เป็นของตนเอง โดยการจดบันทึกนี้เป็นการจดสูตรที่ถูกปรับปรุงโดยตัวของเขาเองเรียบร้อยแล้ว มันจึงไม่เหมือนกับต้นฉบับเดิม เหตุที่วาเลนไม่จดสูตรใหม่ทับลงไปนั้นเป็นเพราะวาเลนให้ความเคารพแก่ผู้อาวุโสเอียน และแสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติแก่มรดกทางความรู้ชิ้นนี้
มือน้อย ๆ ยังคงหยิบจับ และจัดแจงสมุนไพรออกเป็น ชุดๆ และทำการหลอมแต่ละชุดโดยใช้สูตรพื้นฐานเดิมของผู้อาวุโสเอียน แต่ในแต่ละครั้งก็จะทำการเพิ่มเติมสมุนไพรบางชนิดที่มีความเข้ากัน และนำสมุนไพรตัวเดิมในสูตรที่มีประสิทธิภาพด้อยกว่า หรือมีฤทธิ์กดประสิทธิภาพยาตัวอื่นออก
เด็กน้อยสนุกและเพลิดเพลินไปกับการทดลองจนหลงลืมเวลา การกระทำนี้หากทว่าไม่มีความรู้ลึกซึ้งในสมุนไพร แม้แต่ปรมาจารย์ด้านการหลอม ก็มิกล้าแม้แต่จะคิดที่จะนำสมุนไพรมาใช้อย่างฟุ่มเฟือยและทดลองไปเรื่อย ๆ เช่นนี้ เพราะผลที่ออกมา มิคาดว่าจะสำเร็จดังเช่นที่เด็กน้อยทำ
ท่านหญิงวิเรร่าแอบดูบุตรชายของเธอเงียบ ๆ ประกายตาของความสุข และความภาคภูมิใจฉายชัดยามเมื่อมองบุตรชายเพียงคนเดียวของเธอ
"นำมันเข้าไปให้คุณชายสิ คารีส"เธอหันมาบอกกับเด็กน้อยข้างกายที่ประคองถาดอาหารและเครื่องดื่มยืนอยู่ถัดออกไปทางด้านข้าง
บุตรชายของเธอใฝ่รู้จนหลงลืมเวลา จนผู้เป็นแม่อย่างเธออดที่จะห่วงไม่ได้
"ขอรับ ท่านหญิง" คารีส พลอยยิ้มอย่างมีความสุขตามไปด้วย ท่านหญิงที่น่าสงสารเปลี่ยนไปแล้วพร้อม ๆ กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ของคุณชายเจ็ด นี่สิคือครอบครัวที่ควรจะเป็น ตามความคิดของเด็กน้อย
จากการติดตามและเฝ้าดูคุณชายเจ็ดมาเนิ่นนาน คารีสรับรู้ได้ว่า นี่คือการเปลี่ยนแปลงจริง ๆ มิได้เสแสร้งแกล้งทำ หรืออุบายให้ตายใจแต่อย่างใด มันคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ไม่มีใคร ๆ คาดคิด กระแสลมเริ่มเปลี่ยนทิศ โดยที่ผู้คนไม่รู้เสียแล้ว นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ ของตระกูลโอเดลรอสก็ได้ ใครจะรู้!!
ท่านหญิงวิเรร่าจากไปเงียบ ๆ เธอปล่อยเด็กน้อยของเธอไว้กับสิ่งที่เขาอยากทำ และมีความสุขกับมัน สิ่งนี้คือเจตนารมณ์ของเธอ ดังที่เธอกล่าวไว้กับผู้อาวุโสทั้งสองในห้องสมุด หลังเหตุการณ์ปลุกพลัง
วาเลนรับรู้ถึงการมาของเด็กน้อยที่คุ้นเคย แต่เขาก็ยังคงมุ่งมั่นกับการหลอมโอสถตรงหน้าโดยไม่วอกแวก ขั้นตอนต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ต้องใส่ใจ หากผิดพลาดหรือหลงลืมเทคนิคเฉพาะของตัวยาสูตรนั้นๆ ผลของมันจะเพี้ยนไปทันทีราวกับคารีสรับรู้ถึงความสำคัญ ของขั้นตอนนี้เช่นกัน เด็กน้อยวางถาดอาหารลงอย่างเบามือ ก่อนจะหลบฉากไปยืนดูเงียบ ๆ อยู่มุมห้อง
ผ่านไปสักพัก หม้อหลอมของคุณชายเจ็ดก็พลันเปลี่ยนแปลงไป เกิดประกายรัศมีสีเงินขึ้นอย่างฉับพลัน แสงระยิบระยับของมันสวยงามตาตรึงใจ สิ่งที่ตามมาหลังการเกิดประกายที่สวยงามนั้นก็คือ กลิ่นของสมุนไพรที่ให้ความรู้สึกสดชื่นอย่างประหลาด กลิ่นที่ให้ความรู้สึกถึงพลังอย่างแปลกประหลาดกำจายไปทั่วทั้งห้องโถง
วาเลนกระตุ้นพลังธาตุลมผลักดันเม็ดยาขึ้นจากหม้อหลอมและเก็บมันทันที กล่องน้อย ๆ ถูกนำออกมาใส่สมุนไพรเหล่านั้น อย่างหวงแหน นี่คือความภาคภูมิใจ! ด้วยการทดลองที่ผ่านมา นับครั้งไม่ถ้วน วาเลนก็ประสบผลสำเร็จ ตัวยาระดับสีเงินอยู่ในกำมือของเด็กน้อยด้วยความเพียรพยายามอย่างหนัก
คารีสเบิกตากว้าง นี่นับว่าเป็นข่าวดีอย่างมากหากมันแพร่สะพัดออกไป ตระกูลได้ให้กำเนิดนักหลอมโอสถอัจฉริยะอายุน้อยอีกหนึ่งคน ไม่เท่านั้น นี่นับเป็นความสำเร็จในระดับสูง ตัวตนของนักหลอมโอสถนั้นนับว่าหายาก เพราะการฝึกฝนจากทรัพยากรที่จำกัด นั้นทำให้การพัฒนาความรู้ความสามารถนี้ล้าหลัง ผู้คนส่วนใหญ่จึงหันไปพึ่งเวทย์มนต์แห่งการรักษาแทนที่จะเป็นเหล่านักหลอมโอสถ
การที่ผู้นำตระกูลห่วงใย ผู้อาวุโสเอียนจึงนับว่าถูกต้องแล้ว ผู้หลอมโอสถระดับทอง มีค่ายิ่งสำหรับตระกูล ถึงแม้ว่าการรักษาโดยเวทย์มนต์จะรวดเร็ว แต่ก็เป็นการรักษาแค่เพียงเปลือกนอก เท่านั้น การรักษาขั้นสูง จึงเป็นเรื่องของตัวยาที่มาจากการหลอม ไม่เพียงเท่านั้น การเพิ่มพูนศักยภาพบางครั้ง ตัวยาก็มีส่วนสำคัญ ต่อการพัฒนาเวทย์มนต์
ท่านหญิงวิเรร่านั้นมองการณ์ไกลเธอมิได้จับสุ่มผู้อาวุโสคนใดก็ได้ให้เป็นอาจารย์ของบุตรเธอ อย่างน้อยอาจารย์นั้นก็มีความสำคัญในเรื่องฐานอำนาจที่มั่นคง ผู้อาวุโสเอียนจึงกลายเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ ของเธอ
วาเลนหันกลับมายิ้มน้อย ๆ ให้กับท่าทีตกใจของเด็กน้อย คารีส ผู้ที่นับได้ว่าเป็นเพื่อนคนแรกของเขา
"เจ้ามาก็ดีเลย ข้ากำลังคิดถึงอยู่พอดี "วาเลนพูดพรางหยิบจับกล่องใส่ยา ของผู้อาวุโสเอียนขึ้นมา แน่นอนภายในนั้นย่อมต้องบรรจุตัวยา ปลุกพลังเวทย์ ที่ผู้เป็นอาจารย์เคยมอบให้ หากแต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันกับเกิดขึ้นกับเด็กน้อยเสียก่อนจึงทำให้วาเลนไม่ได้ใช้ยาตัวนี้
"มาใกล้ ๆ สิ ข้ามีบางสิ่งจะให้" วาเลนเรียกคารีส เด็กน้อยเดินเข้ามาหาอย่างงุนงง ใบหน้ายังคงแสดงอาการตกใจ เมื่อวาเลนเปิดกล่องยาออก ก็ได้ยินเสียงสูดลมหายใจเข้ายาว ๆ ของคารีส
"นี่มัน.... ตัวยาปลุกพลังเวทย์!"คารีสร้องบอกอย่างตกใจ
วาเลนเพียงยิ้มให้ ก่อนที่เด็กน้อยจะหยิบตัวยาหนึ่งเม็ดดีดส่งให้กับ คารีส
คารีสยกมือคว้าจับอย่างฉับไว ก่อนจะมองสลับระหว่างวาเลนกัน ยาในมืออยู่พักใหญ่
"ให้ข้ารึ"คารีสถามอย่างไม่แน่ใจ คนรับใช้ส่วนใหญ่แทบไม่เคยได้โอกาสเหล่านี้ พวกทาสและบริวาร จึงต้องเน้นการฝึกทักษะความแข็งแกร่งทางร่างกายทดแทน
"ใช่.....ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น ข้าไม่ได้ให้ฟรี ๆ มีค่าตอบแทนแน่นอนสำหรับเรื่องนี้ แต่เจ้าต้องแข็งแกร่งกว่านี้เสียก่อนจึงจะทำได้"วาเลนบอกกล่าวให้คารีสสบายใจ หากมิกล่าวเช่นนี้ออกไป มีความเป็นไปได้ ที่เพื่อนตัวเล็กผู้นี้จะไม่รับมัน
คารีสดีใจจนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เขาไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ เด็กน้อยนั้นเพียงคิดแค่ว่าจะประคองชีวิตตนเอง และครอบครัวให้อยู่รอดก็เพียงพอแล้ว การได้รับโชค จากวาเลน จึงเสมือนกับเปิดประตูสู่โลกอีกใบให้กับเด็กน้อย หนทางข้างหน้าของเขานั้น หากผ่านการปลุกพลังเวทย์ไปได้ ก็เท่ากับ ก้าวเดินไปอีกขั้นใหญ่ ๆ ของชีวิต
วาเลนฉวยไปที่ข้อมือของเด็กน้อยคารีส ก่อนกระตุ้นพลังของสัมผัสพิเศษ!
ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ไหลผ่านให้วาเลนได้เห็น ภาพเหล่านั้นราวกับวีดีโอกดย้อนถอยหลัง มันคือ ความทรงจำที่ผ่านสายตาของคารีส มาตั้งแต่เด็ก ทั้งที่เขาเองจำได้และไม่ได้ วาเลนต้องการหาอะไรบางอย่างจากความทรงจำของเด็กน้อยคนนี้
เปรี๊ยะ!! ฉับพลัน ภาพสายฟ้าขนาดใหญ่ ถูกซัดเข้าใส่กันเอง มันเป็นบอลพลังงานที่น่ากลัว มันคือภาพเหตุการณ์ การต่อสู้ระหว่างผู้ใช้ธาตุพิเศษ สายฟ้า!! เหตุการณ์เหล่านี้ผ่านสายตาของคารีสตั้งแต่ยังน้อย มีหลายครั้งที่เขาเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์เหล่านี้ ก่อนจะเกิดเหตุบางอย่าง ที่วุ่นวาย จนทำให้ ครอบครัวนี้ต้องระเหเร่ร่อน ออกจากตระกูล!
วาเลนปล่อยมือ ออกจากคารีส แค่นี้ก็เพียงพอแล้วกับสิ่งที่เด็กน้อยต้องการ เขาแค่หาว่าแท้จริงแล้วคารีสมีสายตระกูลที่ผูกพัน กับบรรดาผู้ใช้เวทย์มนต์มากน้อยแค่ไหน
วาเลนหันกลับมาหาบันทึกความรู้ของผู้อาวุโสเอียนอีกครั้ง โดยไม่ได้อธิบายการกระทำก่อนหน้านี้ของตนแก่คารีส
เพียงแต่บอกให้คารีสกินยาปลุกพลังเวทย์มนต์เสียแต่ตอนนี้ คารีสทำตามสิ่งที่วาเลนบอกทันทีอย่างไม่ลังเล
เวลาไหลผ่านไปไม่ถึง สิบนาที โดมมายา กฎสวรรค์ ก็กำเนิดครอบคลุมคารีส เป็นสัญญาณการปลุกพลังเวทย์
วาเรนหันมามองดูขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น การปลุกพลังของคารีสดำเนินไปเรื่อย ๆ อย่างสบายๆ เด็กน้อยคนนี้ มีธาตุสายฟ้าจริง ๆ เสียด้วย มันคือธาตุพิเศษที่น้อยคนจะมี กระแสสายฟ้าที่พิโรธ โอบกอดร่างน้อยราวกับสมบัติสวรรค์ ที่ถูกปกป้องก็มิปาน มันรุนแรง และแผ่วเบา สลับไปมา นานเกือบ ยี่สิบนาที
ในระหว่างนั้นวาเลนก็หันมาศึกษาบันทึกต่อ เมื่ออ่านจนเข้าใจเด็กน้อยจึงเริ่มปรุงยาชนิดหนึ่งขึ้นมา ช่วงเวลาของการปรุงนั้นเสร็จคาบเกี่ยวพอดีกับที่คารีสปลุกพลังธาตุสำเร็จ
เมื่อโดมมายากฎสวรรค์หายไป จมูกของคารีสก็ได้กลิ่นสมุนไพรที่กระตุ้นเลือดลมในกายอย่างบ้าคลั่ง มันมาจากหม้อหลอมโอสถของคุณชายเจ็ด
ประกายสีเงินเข้มข้นสาดกระจาย
หากมองไปรอบ ๆ หม้อหลอมจะเห็นถึงสมุนไพรระดับเงิน!! นับสิบต้นวางระเกะ ระกะอยู่รอบ ๆ
มันคือสมุนไพร ที่วาเลนถ่ายเทพลังธาตุพฤกษาให้จนวิวัฒนาการมาเป็นสมุนไพรระดับเงินขั้นสูง ยาตัวนี้คือ ยาระดับเงินขั้นสูง! ที่ถูกหลอมเสร็จสด ๆ ร้อน ๆ สูตรตัวยานี้ก็มาจากบันทึกของผู้อาวุโสเอียน
ที่เป็นเช่นนี้เพราะผู้เป็นอาจารย์มิคิดว่าศิษย์ตนจะกล้ายุ่งเกี่ยวกับสูตรยาระดับสูง เพราะมันต้องใช้สมุนไพรระดับเงินขึ้นไปมาหลอม แต่ใครกันจะรู้ได้ว่าคุณชายเจ็ดผู้นี้กักเก็บสมุนไพรระดับสูงไว้มากน้อยเพียงใด
"กินมันซะ "วาเลนพูดบอกคารีส และเป็นอีกครั้งที่เด็กน้อยไม่ลังเลที่จะทำตาม
เมื่อยาเม็ดนั้นเข้าปากของเด็กน้อย ผ่านไปไม่นาน สายฟ้าก็วิ่งปราดไปทั่วผิวหนังของคารีส ในประกายตาของคารีสบังเกิดสายฟ้ากระพริบวาบนับร้อยเส้น อย่างน่ากลัว
พลังงานของเด็กน้อยคารีสนั้นพุ่งพรวดอย่างฉับพลัน กระแสไฟฟ้าฟาดใส่ข้าวของในห้อง พังพินาศสันตะโร ประจุไฟฟ้าขนาดย่อมก่อกำเนิดบอลพลังงานในมือของคารีส มันเริ่มจากขนาดลูกกอล์ฟ ลุกลามไปถึงขนาดฟุตบอล
ใบหน้าของคารีสแสดงความตกใจ เด็กน้อยที่เพิ่งผ่านการปลุกพลัง จะควบคุมพลังงานที่เพิ่มพูน นับเท่าพันทวีในช่วงเสี้ยววินาทีนี้ได้อย่างไร วาเลนลืมคิดถึงข้อนี้ไปเสียสนิท
"พลังของยาเพิ่มพลังเวทย์ที่หลอมโดยสมุนไพรระดับเงิน ทรงอำนาจขนาดนี้เลยหรือ?" ใบหน้าของวาเลนแตกตื่นกับเหตุการณ์ตรงหน้าเขาเพียงคิดทดลองยาที่ปรุงขึ้นมาเพียงเท่านั้น มิคาดว่า ผลของมันจะรุนแรงถึงเพียงนี้
ห้องของเขากำลังจะกลายเป็นสนามพลังสายฟ้า โดยมีคารีสเป็นศูนย์กลางความพินาศ บอลสายฟ้าที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สร้างความหวาดวิตกให้แก่วาเลนไม่น้อย มันคือ สถานการณ์ที่อันตราย!!
----------------------------------------------------------
ตอนนี้ยาวสุดเท่าที่แต่งมาแล้วครับ ตัดจบไม่ลง ปาไป 16 หน้า - -"
ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้กับเช่นเคยครับ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์และกำลังใจ ครับ
วันนี้มาลงดึก ๆ ยังไงก็ ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ นะครับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มีธาตุสายฟ้า งั้นต่อไปคงมีธาตุเหมันต์ ธาตุแสง และความมืด ตามมาแน่ๆ (เดาเอานะครับ แหะๆ)
ไอนิมันดีใจได้ยาแต่พระเอกมันเอาเพื่อนมันไว้ทดลองยา นิหว่า
คนข้างกายก็จะแข็งแกร่งต่อไปจะไม่มีใครมารังแกและดูถูกได้อีกน่ะ