ตอน7 บันทึกคำสารภาพรัก
วันที่ 3 ฉันแค่อยากอยู่กับเธอต่อไป
เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับ
จะมีใครรู้ไหมว่าฉันเฝ้ามองฟางอยู่
จะมีใครรู้ไหมว่าฉันคิดกับเธอแบบไหน
อาจจะมีใครรู้ก็ได้
อาจจะเป็นยายคนนั้น รปภ หรือคนที่อาศัยอยู่ตึกเดียวกับเรา
แล้วฟางจะรู้หรือยัง
เธอจะหลบหน้าฉันไหม
เธอจะไปจากฉันหรือเปล่า
และฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไรถ้าไม่มีเธอ
9.26 AM
มันเป็นเช้าที่น่าหดหู่ ฟางเดินออกไปจากห้องโดยที่ฉันไม่ได้คอยแอบมองตามหลังส่งเธอ ฉันไม่กล้าเจอหน้าเธอ มันอาจจะดูหวาดระแวงเกินไป แต่ฉันกลัว กลัวว่าจะเจอสายตาแสดงความรังเกียจ เมื่อวานเป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนเรียกเธอว่าฟางชัด ๆ ฉันชอบชื่อนี้นะ ถึงฉันจะไม่เคยอยากรู้ชื่อเธอ นามสกุลเธอ รวมถึงไม่เคยอยากรู้จักบ้านเกิดเธอ หรือแม้แต่หน้าตาพ่อแม่เธอก็ตาม สิ่งที่ฉันอยากรู้คือเธอชอบอะไรและดำเนินชีวิตอย่างไรเท่านั้นเอง
ตลอดเวลาสี่ร้อยห้าสิบหกวันสิบสองชั่วโมงที่ฉันเฝ้ามองฟาง ฉันเลือกที่จะจดจำได้ทุกรอยยิ้ม ทุกอากัปกิริยาของเธอ ฉันคิดว่าคงไม่มีใครรู้จักความชอบของฟางเท่าที่ฉันรู้จัก แต่ฉันรู้ตัวดีว่าไม่อาจแม้แต่เป็นแมลงที่จะเข้าไปคลอเคลียเธอ อย่างที่ทำได้ ก็เป็นเพียงแค่ดอกหญ้าดอกหนึ่งที่หลงรักดอกฟ้าอย่างฟาง ที่ผ่านมาฉันพอใจที่จะเฝ้ามองฟางอยู่ห่าง ๆ เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่รักเธอสุดหัวใจ แค่นั้นเอง แต่นับวันเข้าฉันก็ไม่อาจแบกรับความรักที่ฉันมีต่อเธอได้ มันมีแต่ความหวาดกลัวที่พอกพูนขึ้นมา ว่าสักวันหนึ่งฉันอาจจะเสียเธอไปให้กับคนอื่น แล้วฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร
.
11.42 AM
ใกล้เที่ยงแล้ว ฉันตั้งใจที่จะเดินไปซื้อราดหน้าร้านที่ฟางชอบมากิน เมื่อวันก่อนฉันเห็นเธอนั่งกินอยู่ที่ร้าน วันนี้ฉันจะซื้อมากินแล้วจะปรุงมันแบบเดียวกับที่ฟางชอบ พริกครึ่งช้อน น้ำตาลหนึ่ง น้ำส้มสี่ เธอชอบใส่พริกดองเยอะ ๆ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันรู้ทุกอย่างที่ฟางชอบ รู้แม้กระทั่งรายละเอียดเล็ก ๆ ที่แม้แต่เธอเองก็คงไม่รู้เช่นกัน เธอชอบเสยผมหลังจากเปิดประตูห้องแล้วค่อยเดินเข้าไป ใส่รองข้างซ้ายก่อนข้างขวา แต่จะถอดรองเท้าข้างขวาก่อนเสมอ
ขณะที่ฉันกำลังเดินผ่านหน้าห้องของยายแก่คนนั้น คนที่มาจุ้นจ้านเรื่องของเรา แกกำลังเปิดประตูเข้าห้อง ฉันชำเลืองมองแก พยายามสังเกตความผิดปกติจากสายตาแก ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์จากห้องไหนสักห้องในชั้นดังขึ้น ฉันตกใจจนเผลอปล่อยกระเป๋าใส่สตางค์หลุดมือ มันเปิดออกให้เห็นภาพฟางอยู่ภายใน ภาพเธอกำลังแย้มยิ้มแจ่มใส ภาพเธอที่ฉันแอบเอาฟิล์มในห้องเธอไปอัด ภาพหนึ่งในบรรดาภาพนับสิบหรืออาจจะร้อยที่ฉันมี ฉันรีบก้มลงเก็บแต่ในขณะที่เงยหน้าขึ้น ก็เห็นสายตาของยายแก่มองมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ แกมองหน้าฉันสลับกับภาพของฟาง และเมื่อมองเห็นสีหน้าของฉัน สายตาของยายยิ่งแสดงความตระหนกจนออกนอกหน้า
ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงทำลงไปแต่ฉันกลัวว่าแกจะโวยวายกลัวแกจะถาม ฉันกระโจนเข้าใส่ยาย เราทั้งคู่ล้มไปในห้องด้วยกัน ตัวฉันล้มคว่ำทับตัวแกไว้ในขณะที่มือของฉันตระครุบอยู่บนปากแก ยายแก่ ๆ ดิ้นรนผลักตัวฉันออก น้ำหนักฉันคงเบาจนแกหลุดไปได้พร้อมกับถลันออกนอกห้อง ฉันกระโดดกอดคอเอามือขวาปิดปากและลากแกกลับมา เราทั้งคู่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันห่างประตูไม่ถึงเมตร แกพยายามจะสลัดให้หลุด เสียงอู้อี้ที่เล็ดรอดออกมาบอกให้รู้ว่าแกจะตะโกนขอความช่วยเหลือแน่ถ้าทำได้ แต่แล้วจู่ ๆ มือที่กำลังดึงแขนฉันออกก็เกร็งค้าง มันบีบแน่นจนฉันเจ็บ ตัวแกเหมือนไม่สามารถยืนเองได้ร่างของแกหงายมาพิงฉันพร้อมกับทรุดลงไปกองที่พื้น
จากความแฉะเหนียวฉันรู้สึกถึงน้ำลายปริมาณมากมายไหลมาโดนมือ น่าขยะแขยงจนต้องเผลอปล่อยมือออก แต่ยายกลับไม่ส่งเสียงร้องอะไรออกมา ตัวแกลื่นไหลลงไปด้านล่าง แต่มือของแกที่ยังไม่ปล่อยออกจากแขนฉัน มันรั้งให้ต้องก้มไปมอง หน้าของเราอยู่ห่างกันไม่ถึงสามสิบเซนติเมตร แต่ฉันเห็นชัดถึงตาที่เริ่มเหลือกโพลงของแกปากเกร็งบิดเบี้ยว ฉันแทบจะกรีดร้องออกมาแต่กลับไม่สามารถเปล่งเสียงใด ๆ ได้ เมื่อพยายามดึงแขนออกเหมือนกับยิ่งถูกดึงให้เข้าไปใกล้ตัวของแก ฉันใช้มือขวาแกะนิ้วของแกออกจากแขนซ้ายของฉัน มือของหญิงแก่แข็งเหมือนคีมเหล็ก เมื่อเป็นอิสระตัวฉันถอยออกมาก้นกระแทก สายตามองเห็นว่าร่างกายของแกเริ่มชักกระตุก ตัวของฉันก็กระทดตัวหนีโดยอัตโนมัติ ฉันจะทำไงดี ฉันไม่อยากฆาตกรฆ่ายาย แต่ฉันไม่อยากให้ใครรู้
เมื่อมองไปที่ประตู ได้ยินเสียงลิฟต์มาหยุดที่ชั้นเดียวกัน ฉันกระโจนก้าวข้ามร่างของยายที่นอนขวางอยู่ปิดประตูอย่างรวดเร็ว ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะยังมีสติพอที่จะไม่กระแทกให้เกิดเสียงดัง ฉันเงียหูฟังไม่พบเสียงใด ๆ เมื่อกี้นี้คงเกิดจากอุปทาน ฉันทรุดตัวพิงประตูพยายามให้ทุกส่วนของร่างกายอยู่ไกลจากยายให้มากที่สุด รู้สึกหนาวขึ้นมาจับใจ เมื่อยกมือขึ้นกอดอกฉันพบว่าตัวเองกำลังสั่นเทาไม่ใช่จากความหนาวแต่ฉันกำลังกลัว กลัวอย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อน ฉันไม่อยากให้ยายตาย แต่ฉันกลัวยิ่งกว่าถ้าจะทำให้เธอรู้ความจริง ร่างของยายกระตุกอย่างรุนแรงฉันสะดุ้งสุดตัวทุกครั้งที่เห็น มันค่อยๆเบาลงจนหยุดนิ่ง ฉันไม่รู้ว่ายายแกเป็นโรคอะไร อาจจะลมบ้าหมู เส้นเลือดในสมองแตกหรือหัวใจก็เป็นได้ เมื่อทุกอย่างสงบนิ่ง ฉันยังไม่ขยับตัว กลัวว่าถ้าเคลื่อนไหวร่างกาย แกอาจจะลุกขึ้นมาคว้าตัวฉันไว้
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ฉันจึงสามารถรวบรวมความกล้าค่อย ๆ ย่องไปใกล้ตัวแก ภาพที่เห็นคือตาของยายที่เบิกโพลงมันเหลือกขึ้นจนแทบไม่เห็นตาดำ น้ำลายหยดมานองที่พื้น ฉันยกมือขึ้นจ่อที่จมูกไม่รู้สึกถึงลมหายใจแก สมองฉันสั่งการทันทีว่าต้องทำลายหลักฐาน
ขั้นแรกฉันรีบสำรวจตามเนื้อตัวของตัวเองก่อน เมื่อไม่พบรอยขีดข่วนที่ตัวเองหรือแม้แต่รอยฉีกขาดของเสื้อผ้า จึงรีบสำรวจที่ร่างกายของยาย มีรอยแดงเป็นปื้นที่หน้าผาก คงจะเป็นตอนที่ฉันกระแทกตัวแกลงไป แต่ไม่เจอรอยข่วน เล็บของฉันมันสั้นกุดจากการถูกกัด เสื้อของแกกระดุมขาดไปเม็ดนึงจากการโรมรันพันตู ฉันลนลานหามันจนเจอมองไปรอบห้องค้นในลิ้นชักพบเข็มกับด้ายสีเดียวกับเสื้อ ฉันรีบเย็บติดเข้าที่เดิม ร่างชราดูเหมือนจะเย็นลงเรื่อย ๆ ฉันแน่ใจว่าไม่ได้คิดไปเองเพราะเมื่อปลายนิ้วของฉันบังเอิญสัมผัสโดน ตัวแกมันเย็นจนฉันสะดุ้ง ไม่เหมือนกับความเย็นจากน้ำแข็ง แต่มันเย็นจนจับขั้วหัวใจฉัน
หลังจากหยิบผ้าขี้ริ้วในห้องมาเช็ดรอยคราบนิ้วมือในทุกที่ที่น่าจะมี รอยดินจากรองเท้า เส้นผมของฉันที่หล่นอยู่ ตรวจดูความผิดปกติที่อาจจะมีให้เห็นอย่างถี่ถ้วน เสร็จแล้วก็จัดทุกอย่างกลับเข้าที่ของมัน โดยที่ฉันพยายามจะไม่เก็บให้เรียบร้อยเกินไป ฉันหวังว่าจะทำให้ดูเหมือนกับว่าหญิงชราล้มลง แต่ไม่สามารถเรียกคนมาช่วยได้จนสุดท้ายก็ขาดใจตาย ก่อนออกมาฉันสำรวจข้าวของตัวเอง กุญแจห้องของฉัน กุญแจห้องของเธอ กระเป๋าสตางส์ของฉันที่มีรูปถ่ายของเธอ แม้แต่ตอนปิดประตูเหล็กดัดฉันก็ยังไม่ลืมสอดมือที่พันผ้าเช็ดหน้าเข้าทางช่องรับของเพื่อปิดจากด้านใน เอื้อมมือกดล๊อคลูกบิดและปิดประตู ทิ้งร่างของยายที่เคยหายใจนอนอยู่จุดเดิมเพียงลำพัง
13.18 PM
ฉันเลือกเดินกลับมาห้องตัวเองโดยไม่ได้ลงไปซื้ออะไรขึ้นมากิน เวลาผ่านไปไม่นาน แต่เหมือนกับมันเนิ่นนานเท่าชั่วชีวิตของฉัน ฉันไม่ได้ยินเสียงที่สื่อถึงสิ่งมีชีวิตใด ๆ หรือจะมีเพียงฉันคนเดียวที่ยังคงหายใจอยู่ คงอีกนานกว่าจะมีใครรู้เรื่องของยาย เท่าที่รู้แกอยู่ในห้องนั้นเพียงคนเดียวโดยไม่มีญาติมิตรมาเยี่ยมเยียนบ่อยนัก ฉันก็อยู่คนเดียว เธอเองก็อยู่คนเดียว จะมีใครสักกี่คนนะที่มีคนอยู่เคียงข้างตลอด ฉันล้มตัวลงบนเตียงขดตัวกลมทั้งที่ไม่รู้สึกหนาวกอดตัวเองแน่นเท่าที่จะทำได้ ฉันอ้างว้างเหลือเกิน เมื่อไหร่เธอจะกลับมา
18.02 PM
ฉันได้ยินเสียงเธอเปิดประตูห้อง วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ผ่านไปโดยที่เธอยังไม่รู้อะไรเลย ฉันลุกขึ้นมาพิมพ์ไดอารี่ถึงเธอ ไม่รู้สึกง่วงหรือหิว ถ้าทำได้อยากให้เธออ่านมันในสักวันหนึ่ง อยากให้เธอรู้ว่าฉันรักเธอมาก รักมากจนทำได้ทุกอย่าง ขอแค่เราได้อยู่ด้วยกันต่อไป
To be continue.
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
จะหลงเหลือหลักฐานหรือเปล่าก็ไมรู้
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ......
แก... ทำพลาดขนาดนี้... แล้วยังจะหวังให้คนอื่น ไม่รู้ ไม่ระแคะระคาย... อีกอย่างงั้นหรอ.... ?
หึๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สิ่งแรก.... สิ่งแรกที่แกพลาด... คือการที่แกไม่ได้แอบตามดูเธออย่างที่ควรจะทำเป็นกิจวัตร
และที่แกพลาดที่สุดของที่สุด.... คือแกโง่พอจะฆ่ายายแก่นั่นด้วยตัวของแกเอง....
อ้่ายฆาตกรเกรดต่ำเอ๊ย.... ฉันผิดหวังในตัวแกจริงๆ ผิดหวัง
ผิดหวังพอๆ กันกับที่ยายแก่นั่นผิดหวังในตัวแก
><