ตอนที่ 7 : บทที่ 6 รักชีวิตอย่าคิดเถียงป้า (รีไรท์)
ตอนซองอูกลับไปถึงเสียงกระแทกเปลี่ยนเป็นเสียงตะกายเร่งร้อน พร้อมกับเสียงขู่คำรามราวกับไม่ใช่มนุษย์ กุญแจถูกสอดเข้าไปในลูกบิดอย่างรวดเร็ว แต่เขาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะเปิดประตู
“เฮ้ย! พี่นิด!” เคราะห์ดีที่ซองอูระวังตัวไว้ก่อนแล้ว หลังจากบิดลูกบิด เขาก็เพียงแค่แง้มประตูเข้า รอให้คนที่อยู่อีกด้านออกมาเอง แทนที่จะถลันเข้าไป แต่เขาไม่นึกว่าคนที่พุ่งสวนออกมาจะมีสภาพเช่นนี้
อรุณีไม่เหลือเค้าหญิงสาวที่ชอบแต่งหน้าแต่งตัวสวย ชุดนอนผ้าซาตินของเธอเต็มไปด้วยคราบเลือด ดวงตาทั้งคู่แดงฉานพอๆ กับริมฝีปากโชกเลือด เมื่อแสยะอ้าก็เห็นเศษเนื้อสดติดเต็มซอกฟัน ผิวของเธอเป็นสีเทาอมเขียวคล้ำ และหากเธอไม่ขยับเขยื้อนร่างกายด้วยท่าทางขัดแข็ง ซองอูคงนึกว่าเธอเป็นศพไปแล้ว เพราะสภาพของเธอคล้ายคนตายมากกว่าคนเป็น แต่หลังจากที่เธอเห็นเขาอยู่อีกด้านของประตู ก็เหมือนเธอถูกฉีดสารกระตุ้นให้ร่างกายเพิ่มความเร็วขึ้น กรงเล็บเปื้อนเลือดทั้งสองข้างพุ่งตรงมาหาน้องสามี ทำเอาเขาต้องผงะถอยไปตามสัญชาตญาณ
แม้จะมีมีดอยู่ในมือ ซองอูก็ไม่คิดจะใช้ข่มขู่พี่สะใภ้ เพราะท่าทางของอีกฝ่ายใกล้เคียงกับสัตว์ร้ายมากกว่ามนุษย์ที่สามารถพูดคุยกันได้ด้วยเหตุผล แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อาจใช้อาวุธกับเธอได้ ยังดีที่ร่างของเธอเคลื่อนไหวแบบขัดแข็ง เขาจึงอาศัยเพียงฝีมือเทควันโดที่เรียนมาตั้งแต่ยังเด็ก ถีบสวนไปที่ยอดอกของเธอให้หงายหลังล้มลงไปบนทางเดิน เปิดโอกาสให้เขาแทรกตัวเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูตามหลัง
เขาเข้าไปในห้องสำเร็จโดยกันพี่สะใภ้บ้าเลือดเอาไว้ด้านนอก แต่แล้วก็รู้สึกเหมือนหลุดจากฝันร้ายมาเจอฝันร้ายกว่า
ถ้าเมื่อครู่ซองอูเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายในรูปแบบพี่สะใภ้ ตอนนี้เขาก็ได้เห็นนรกที่มีพี่ชายของเขาเป็นตัวแสดงนำ ร่างของโซอุนนอนคว่ำอยู่บนเตียง แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาไม่เหลือส่วนดีเลย เนื้อแต่ละส่วนถูกฉีกทึ้งด้วยเขี้ยวเล็บ เหวอะหวะ แต่ส่วนที่สาหัสที่สุดคือหลังศีรษะที่หัวกะโหลกถูกบางอย่างขบกัดจนแตก กลายเป็นรูโหว่ กระดูกกะโหลกขาวโพลนตัดกันกับเส้นผมสีดำ ผสมปนเปกับสีแดงและสีขาวอมเหลืองของเลือดและมันสมอง ราวกับโดนสัตว์ร้ายบางอย่างกัดแทะเข้าไปกินเนื้อสมอง
“เกิดอะไรขึ้น! พี่โซล!” เขาถลันไปหาพี่ชาย แต่ยิ่งซองอูเห็นร่างของโซอุนชัดขึ้นเท่าไร เขาก็รู้ว่าหมดหวังที่จะช่วยพี่ให้กลับมามีชีวิต ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังจับชีพจรบนต้นคอตามด้วยพยายามเขย่าร่างผู้เป็นพี่
“ลุกขึ้นสิ ไม่นะ! พี่นิด พี่ทำอะไรพี่โซล”
ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจากร่างที่แข็งทื่อ ซองอูเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโกรธเกรี้ยว หันไปตะโกนใส่ประตูห้องที่มีเสียงอรุณีทุบกระแทกหมายจะเข้ามาเล่นงานเขา ชายหนุ่มเองก็ถูกความโกรธลบล้างความกลัวจนหมดสิ้น มือข้างที่ถือมีดกำแน่น พุ่งกลับไปหาประตู แต่อีกไม่กี่ก้าวจะไปถึง อยู่ๆ เสียงก็เงียบหายไป สิ่งที่เขาได้ยินเป็นเสียงวิ่งออกห่าง โดยมีปลายทางเป็นเสียงร้องไห้จ้าของศักรินทร์
ซองอูเปิดประตูไปแบบไม่ต้องคิดพร้อมกับตะโกนก่อนที่จะเห็นตัวอรุณีเสียอีก “พี่นิดหยุดนะ!!”
อรุณีไปถึงหัวบันไดแล้ว แต่เสียงของซองอูทำให้เธอหันกลับมา เมื่อเทียบกับเสียงที่ยังมองไม่เห็นตัว เธอถูกกระตุ้นให้จู่โจมเหยื่อตัวโตๆ ตรงหน้ามากกว่า ทั้งเขี้ยวและกรงเล็บพุ่งเข้าใส่เขาอีกครั้ง ชายหนุ่มรู้ด้วยสัญชาตญาณว่าไม่เป็นเขาก็ต้องเธอที่ตาย รวมกับความโกรธแค้นที่เพิ่งเห็นศพของพี่ชาย มือของเขาจึงพุ่งไปข้างหน้าราวกับมันมีความต้องการเป็นของตนเอง เสือกมีดแทงเข้าไปในอกของเธอ
สวบ! “โอ๊ย!” แทนที่จะเป็นอรุณีร้องกลับเป็นซองอูที่ร้องออกมาเพราะถูกเล็บของเธอข่วนเข้าที่แขนโดยไม่สนใจมีดที่เสียบแน่นจนมิดด้ามอยู่ในอกของตนเอง แล้วเธอยังพยายามคว้าจับแขนของเขาดึงเข้าหาตัว หวังจะฝังเขี้ยวเข้าไปในเนื้อ
ยังดีที่ฝีมือเทควันโดของซองอูไม่ได้ตกต่ำหลังจากไม่ได้ซ้อมมานาน เขาดึงแขนลงหนีกรงเล็บที่พยายามจิกแน่น แล้วใช้ลูกถีบสร้างระยะห่างของทั้งคู่ เมื่ออรุณีพุ่งเข้ามาอีก เขาก็หมุนตัวเตะเข้าไปบนชายโครงของเธอเต็มแรง จนกระดูกซี่โครงส่งเสียงดังลั่นและส่งให้เธอลงไปนอนกับพื้น แต่หญิงสาวไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ ลุกขึ้นมาได้ใหม่พร้อมความต้องการที่จะฉีกกระชากเนื้อของเขา
ภายใต้ความตื่นตกใจ ซองอูรู้แล้วว่าพี่สะใภ้ของเขาไม่ได้อยู่ในสภาวะของมนุษย์ปกติ ไม่มีใครสามารถเคลื่อนไหวได้พร้อมๆ กับที่มีดยังปักคาบนอก และไม่มีใครถูกเตะจนซี่โครงหักและลุกขึ้นมาไวได้ขนาดนี้ เขายังมีแรงเหลือพอจะบู๊กับเธอได้อีกหลายยก แต่ฉลาดพอจะรู้ว่ายิ่งพัวพันนานไป เขาจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ การจู่โจมของอรุณีหนักหน่วงขนาดที่พลาดเพียงนิดเดียวเขาก็อาจจะตายได้ทันที เมื่อได้จังหวะเตะตวัดขาอัดเข้าใส่เธอจากทางด้านข้างจนล้มลงอีกรอบ เขาก็พุ่งตัวหาบันได หวังจะหนีออกจากบ้านตนเองให้ไวที่สุด
ขาของซองอูกระโดดข้ามบันไดทีละหลายขั้นลงไปชั้นล่าง วิ่งไปถึงห้องนั่งเล่น คว้าตัวศักรินทร์ที่ร้องไห้จ้าขึ้นมา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่อรุณีตามมาทัน เมื่อมือหนึ่งมีหลาน เขาก็ลดความสามารถในการป้องกันตัวลง ลูกเตะพลาดเป้า ถูกเล็บของพี่สะใภ้ข่วนน่องเป็นทางยาว มันจึงไม่ง่ายเลยที่จะพาหลานออกไปนอกบ้าน
“เพล้ง!” เสียงกระจกจากส่วนบนของประตูแตก เรียกสายตาของซองอูและอรุณีให้หันไปทางนั้น พบมือข้างหนึ่งเอื้อมผ่านช่องกระจกที่แตกละเอียดเข้ามาหมุนลูกบิดประตูด้านในเพื่อปลดล็อกออก
แวบหนึ่งซองอูคิดว่ามีหน่วยกู้ภัยเข้ามาช่วยเขา ก่อนจะเห็นใบหน้าของคนที่เข้ามา ซึ่งก็คือวันเพ็ญ ผู้หญิงที่สูงวัยกว่าเขามาก และแน่นอนว่าต้องมีความสามารถในการต่อสู้ต่ำกว่าเขา
“หนีไปป้า!” ซองอูตะโกนลั่น
ถึงซองอูจะกลัวแสนกลัว แต่นิสัยส่วนลึกที่ห่วงใยชีวิตคนอื่นทำให้เขาร้องตะโกนบอกวันเพ็ญที่โผล่มากะทันหันให้หนีไป ก่อนที่จะกลายมาเป็นเหยื่อไปด้วยกัน ทันใดนั้นอรุณีก็หันความสนใจมาตามเสียง และพร้อมจะกระโจนกัดเขาให้ตาย ชายหนุ่มรู้ว่าเขาคงสู้ต่อไปได้ไม่นาน จึงตัดสินใจวางหลานชายลง หวังก็แต่เพื่อนบ้านของเขาจะมีสติและไม่ใจร้ายเกินไปนัก ช่วยพาหลานของเขาหนีไปด้วย
“เอาสกายไปด้วย!” ซองอูตะโกนสั่งเสียพร้อมกับพุ่งไปทางพี่สะใภ้ หวังจะจับตัวเอาไว้เพื่อเปิดทางรอดให้คนอื่น แต่...
ดูเหมือนว่าเขาจะคำนวณบางอย่างผิดไป
เสียง ‘ปุ๊’ เหมือนอะไรบางสิ่งถูกทุบจนยุบดังขึ้นในมุมที่ซองอูมองไม่เห็น เพราะร่างของอรุณีพุ่งคว่ำหน้ามาทางเขา ชายหนุ่มเบี่ยงหลบแบบฉิวเฉียดแล้วพบว่าด้านหลังศีรษะของพี่สะใภ้ยุบเป็นหลุม เมื่อมองไปอีกด้านเขาก็เห็นค้อนเปื้อนเลือดในมือวันเพ็ญ นั่นต้องเป็นที่มาของสภาพกะโหลกยุบอย่างไม่ต้องสงสัย เพื่อเน้นให้เขาแน่ใจ ป้าข้างบ้านก็เดินหน้ามาอีกหลายก้าว แล้วกระหน่ำทุบศีรษะร่างที่นอนชักกระตุกบนพื้นซ้ำๆ จนมันสมองกระจาย ไร้ความสามารถที่จะลุกขึ้นมายืนใหม่อีก
“จะฆ่าซอมบี้ต้องตีหัว” มือค้อนหันมาบอกคนอ้าปากค้างนิ่งๆ แม้เธอจะซ่อนเสียงที่สั่นด้วยความกลัวและความตื่นเต้นเอาไว้ไม่มิด
“ครับป้า”
“ใครป้าเธอ!” จากเสียงสั่นกลายเป็นเสียงโหดฉับพลัน
“ครับพี่” ต่อหน้าร่างซอมบี้ที่ถูกทุบหัวจนมันสมองกระจาย ซองอูไม่คิดจะมีเรื่องกับคนที่ถือค้อนเปื้อนเลือดในมือ กระทั่งศักรินทร์ที่ก่อนหน้านี้ร้องไห้เสียงดังยังนั่งเงียบกริบอยู่บนพื้น
รักชีวิตอย่าคิดเถียงป้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ป้าาา ไม่กลัวเลยหรอ ซอมบี้เลยนะ
สนุกมากๆค่ะ
โอ้ย!"ขำตรง "ครับป้า"