ตอนที่ 34 : จิ้งจอกน้อย
หากข้ามมายังอีกฟากของแดนดิน และข้ามไปยังยามเย็นย่ำค่ำใกล้เวลาพักผ่อน ก็จะพบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันชวนตกตะลึงไม่แพ้กัน แต่ในที่นี้เป็นตกอยู่ในสภาวะไม่คาดฝันของหงจูเชวี่ย ซึ่งตามปกติเขามักจะทำให้ผู้อื่นตกตะลึง ทว่าคราวนี้กู่ซานกลับสามารถทำให้เขาเป็นฝ่ายพูดไม่ออกบ้าง
“คืนนี้มานอนเตียงเดียวกันเถอะ” กู่ซานที่มักเอ่ยวาจาฉาดฉานเปลี่ยนเป็นอึกอัก หนำซ้ำยังพูดเรื่องที่ชวนให้ย้อนถามความหมาย
“นี่เจ้ากำลังชวนข้านอนร่วมเตียงหรือ” หงจูเชวี่ยไม่เคยรู้สึกว่าตนเองประหลาดใจเท่านี้มาก่อน ถึงขั้นต้องย้อนถาม
ยามกองคาราวานพักแรมในป่า พวกเขาจะตั้งกระโจมง่ายๆ สำหรับพักผ่อน เพื่อไม่ให้ผู้ที่มีประสงค์ร้ายใช้รถม้าคันใหญ่เตะตาเป็นเป้าหมาย หงจูเชวี่ยกับกู่ซานจึงย้ายเข้าไปนอนในกระโจมเหมือนคนอื่นในขบวนคาราวาน ต่างกันตรงนางนอนบนเตียงเปล ส่วนเขานอนบนฟูกเหนือพื้น เว้นระยะห่างระหว่างกันเอาไว้ แต่คืนนี้นางถึงกับเชิญชวนเขาขึ้นเตียงที่ทั้งเล็กทั้งแคบ
“ใช่” นางสูดหายใจลึกกลบความประหวั่นของสตรีที่ยังไม่ออกเรือนลง สบตาเขาอย่างห้าวหาญแล้วเชิดหน้าย้อนถาม
“มีปัญหาหรือ”
มีปัญหาหรือ ชั่วขณะนั้น หงจูเชวี่ยหวนนึกไปถึงยามเยาว์วัยของทั้งสอง ร่างเล็กที่ไม่มีอำนาจหรือกำลังใดๆ กลับชอบชี้นิ้วบงการเขา ยามที่เขากล้าตั้งคำถาม นางก็จะเชิดหน้าย้อนถามเช่นนี้ แน่นอนว่าเขาย่อมไม่กล้ามีปัญหากับกู่ซานตัวน้อย
“จะเป็นการทุ่มทุนเกินไปหรือไม่กับการพยายามจับผิดข้า ไม่สิ แบบนี้เรียกว่าอะไรกันนะ” นิ้วชี้ของเขาแตะบนริมฝีปากทำท่านึกครู่หนึ่งก่อนจะโพล่งคำกวนโทสะเช่นเคย
“ซานเอ๋อร์กำลังเอาตัวเข้าแลกใช่หรือไม่”
“เอาตัวเข้าแลกหรือไม่ ผ่านคืนนี้ ข้ากับท่านก็จะรู้เอง”
หลังจากฝึกความอดทนมาหลายวัน ในที่สุดกู่ซานก็บรรลุถึงคำว่า ขั้นสุดของการอดทนต่อการยั่วยุ ที่สำคัญนางมีเป้าหมายให้กระทำ วิสัยทหาร ต้องข่มกลั้นกับทุกสิ่ง เมื่อนางมองหงจูเชวี่ยเป็นศัตรูที่ต้องทำความเข้าใจและเอาชนะ ก็สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องต้องทนการยั่วเย้าของเขาได้
“ซานเอ๋อร์ ข้านับถือความพยายามของเจ้าจริงๆ แต่เจ้าไม่กลัวหรือว่า...”
นิ้วที่แตะเหนือริมฝีปากตนเองของหงจูเชวี่ย เปลี่ยนเป็นยื่นช้าๆ ไปหากู่ซานทำท่าจะแตะลงไปที่ริมฝีปากสีแดงของนาง แล้วก็พบว่าดวงตาโตตรงหน้าแววโรจน์ขึ้นมา ราวกับจะแยกเขี้ยวกัดนิ้วเขาให้ขาด ทว่าครู่เดียวก็กลับไปนิ่งสงบได้อย่างน่าชมเชย
“ท่านพูดเองมิใช่หรือ ว่ารูปงามเช่นท่าน ข้าต้องใช้กำลังปลุกปล้ำเท่านั้น” ไม่เพียงตอบโต้อย่างฉลาด นางยังยกมุมปากยิ้มในแบบที่เขามักจะยิ้มเวลาหยอกล้อนาง
ลมเบาๆ ที่ออกจากปากของนาง กระทบลงบนปลายนิ้วของเขา หงจูเชวี่ยยังคงรักษารอยยิ้มเอาไว้บนใบหน้า แต่หัวใจของเขาเต้นเบาๆ ราวกับเด็กหนุ่มแรกรุ่น ต้องเสแสร้งทำเป็นยกมือกลับขึ้นมาปัดฝุ่นที่ติดบนบ่าเสื้อ
“ถ้าเจ้าระแวงว่าข้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็ถามมาตรงๆ ได้เลย ข้าไม่ปิดบังเจ้าอยู่แล้ว”
ไม่ปิดบังแต่โกหก กู่ซานเอ่ยคำพูดที่หงจูเชวี่ยซ่อนเอาไว้ขึ้นมาในใจ นางไม่ได้รู้จักคนตรงหน้าแค่วันสองวัน สิบสามปีที่รู้จักเขา ทำไมนางจะไม่รู้ว่าเขาฉลาดเจ้าเล่ห์เพียงไหน เชื่อได้ว่าถ้านางถาม เขาไม่เพียงจะหาข้ออ้างต่างๆ นานา ยังสามารถชักนำให้นางหลงเชื่อได้ด้วย
“พี่สือซาน ท่านจะบอกไม่บอกก็เรื่องของท่าน แต่ดูเหมือนว่าท่านจะลืมไปแล้วว่าหน้าที่หมอยาไม่ใช่หน้าที่ของข้า เพียงนอนข้างท่าน ข้าคงไม่สามารถแยกแยะได้หรอกว่าท่านป่วยหรือไม่”
ประโยคข้างต้นนางโกหก สองปีก่อน หลังจากช่วยพาเขาที่กำลังเจ็บปางตายเพราะพิษไปส่งถึงมือพี่สะใภ้ กู่ซานก็ตำหนิตนเองเสมอมาที่ไร้ความสามารถด้านการรักษา ดังนั้นนางจึงศึกษาอาการเบื้องต้นของคนป่วย โดยเฉพาะชีพจรของคนถูกพิษ อาจไม่เก่งกาจเท่าหมอ และยิ่งเทียบกับเหมยเยี่ยเซียงไม่ได้สักนิด แต่หากหงจูเชวี่ยป่วยด้วยพิษ นางสามารถวินิจฉัยได้อย่างแน่นอน
“และเหตุผลที่ข้าให้ท่านขึ้นมานอนบนเตียง ก็เพราะข้าไม่แน่ใจว่าคืนนี้เราจะรอดพ้นจากการโจมตีครั้งใหญ่ของพวกโจรป่า”
เรื่องนี้นางไม่ได้โกหกเขา ลางสังหรณ์บอกว่าพวกโจรที่ถูกโจมตีจนล่าถอยตลอดหลายวันมานี่จะใช้โอกาสสุดท้ายก่อนกองคาราวานเข้าใกล้เมืองเฉิ่นตงจู่โจมแก้แค้น ดังนั้นนางต้องป้องกันทุกอย่างรวมถึงอันตรายที่เขาอาจจะได้รับ
“มิน่า เจ้าถึงได้ให้ทหารที่แฝงตัวในป่าถอยกลับเข้ามารวมกลุ่ม” หงจูเชวี่ยก็สังเกตเห็นคำสั่งเคลื่อนไหวของกู่ซานเช่นกัน
ถ้าจะบอกว่าสัญชาตญาณของกู่ซานมาจากสายเลือดทหารในกาย สัญชาตญาณระวังภัยของหงจูเชวี่ยก็มาจากการฝึกฝนผ่านอันตรายต่างๆ ที่เขาเคยเผชิญมานับตั้งแต่จำความได้ ที่จริงเขาเองก็อยากจะเอ่ยเตือนนางเช่นกัน แต่เห็นการดำเนินการรัดกุมแล้วก็ไม่มีช่องให้เขาแสดงความคิดเห็น
“เอาล่ะ คืนนี้ท่านไม่ต้องกังวลไป นอนหลับให้สบาย ข้าเตรียมตัวเอาไว้พร้อมแล้ว”
หงจูเชวี่ยตอบรับด้วยเสียงอืม พร้อมกับนึกชมเชยกู่ซานที่ใช้วิธียิงเกาทัณฑ์ดอกเดียวได้นกถึงสองตัว นางไม่เพียงเอาเขาเข้ามาไว้ใกล้ๆ เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันตอนกลางดึก นางยังมีเหตุผลลอบตรวจชีพจรขณะนอนหลับของเขาอย่างแนบเนียน
ในมุมลับตากู่ซานคิดว่าตนซ่อนเขี้ยวจิ้งจอกน้อยของตนได้ แต่อีกมุมจิ้งจอกที่บำเพ็ญตบะมายาวนานกว่าอย่างหงจูเชวี่ยก็กำลังยิ้มเช่นกัน เพียงแต่พวกเขาไม่มีโอกาสหัวเราะเยาะอีกฝ่ายภายหลัง เพราะเรื่องไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น
......................................
โปรดติดตามตอนต่อไป
#ยอดพธูคู่หทัย
ขอแจ้งข่าวดีค่ะ ยอดพธูคู่หทัย ผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์สถาพรแล้วนะคะ ส่วนจะออกเป็นเล่มเมื่อไหร่ มีความคืบหน้าจะแจ้งทันทีค่ะ ที่แน่ๆ มีอีบุ๊คแน่นอน
ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนมากนะคะ ที่ติดตามอ่านและส่งกำลังใจให้แว่นเสมอ กอดๆๆ
ฝาก โหลด #ขันทีตัวปลอมจอมใจตัวจริง ในรูปแบบ E-Book ด้วยนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จะเกิดอะไรขึ้นกันนะ อิอิ รอเลยค่ะ