คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 6
“อี๊!!! นี่มันอะไรเนี่ย”
สัมผัสลื่นๆ แหยะๆ ใต้ฝ่าเท้าทำเอาคนที่พยายามเชิดเหมือนพญาหงส์หลุดมาดเก๊ก คนบนเตียงคงจะรู้แล้วว่าเธอเหยียบอะไรจึงทำหน้ายิ้มแหยๆ ตอนเธอยกเท้าตะแคงดู ไม่ว่าใครก็ต้องเคยเดินเหยียบหมากฝรั่งสีชมพูที่คนบ้วนลงพื้นมาแล้วทั้งนั้น แต่สีชมพูใสปนกับอะไรบางอย่างที่ติดเท้าเธอขึ้นมามันคือ ถุงยางอนามัยใช้แล้ว
“เอ่อ... คือ... ขอโทษที”
แวบหนึ่งเขาคิดว่าเธอจะหยิบมันขึ้นมาปาใส่หน้าเขา แต่หลังจากตำหนิทางสายตาเสร็จเธอก็ถูฝ่าเท้าเข้ากับพรมเพื่อกำจัดสิ่งไม่พึงประสงค์ออกแบบเดียวกับที่คนทำเวลาเหยียบอุจจาระสุนัข ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
เมื่อไม่มีสายตาคนมองจ้อง เขาก็พร้อมจะเปิดเผยร่างกาย หนึ่งในเหตุผลที่เขายอมให้เธอเข้าห้องน้ำคือการทุ่มเถียงกับเธอส่งความรู้สึกแปลกๆ ไปยังอวัยวะบางส่วนของเขา แต่ก็อีกนั่นแหละ บางทีมันอาจจะแค่ตื่นรับอรุณตามปกติก็ได้ เขาคงไม่ได้มีอารมณ์กับผู้หญิงหัวยุ่งปากร้ายหรอก ขายาวๆ รีบก้าวไปหยิบเสื้อผ้าจากตู้ก่อนจะจ้ำอย่างเร็วชนิดที่เรียกได้ว่าวิ่งเพื่อจะไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำอีกห้อง แต่ระหว่างนั้นเขาก็ไม่ลืมที่จะคว้าอุปกรณ์ใช้แล้วที่ยังนอนประจานอยู่กับพื้นไปทิ้งให้พ้นหูพ้นตา
บ้าชะมัด เป็นคำเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัว หลังจากอาบน้ำลวกๆ ธีรยุทธก็ได้ความฉลาดของตัวเองกลับคืนมา แม้ส่วนใหญ่จะยังเชื่องช้าเพราะอาการเมาค้างก็ตาม มือข้างหนึ่งของเขาขยี้ผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด เขาทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิงไปหมด พอๆ กับเสื้อผ้าของเธอกับเขาที่กระจัดกระจายเกลื่อนห้องนั่งเล่นที่เขายังคิดไม่ออกว่าควรจะจัดการยังไงดี นับว่าเป็นโชคของเขาที่สั่งพนักงานเอาไว้ว่าให้เข้ามาทำความสะอาดได้เฉพาะเวลาที่เขาอนุญาตเท่านั้น ไม่อย่างนั้นป่านนี้คงมีคนสงสัยแล้วว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องบ้าบออะไรขึ้น
‘อย่าทำตัวเหมือนพ่อนะโทมัส’
เสียงแม่ที่เคยพร่ำสอนยังชัดเจนเหมือนเมื่อยี่สิบปีก่อน มันอาจจะเป็นความเจ็บปวดในสีหน้าและน้ำเสียงของแอนนาก็ได้ที่ทำเขาจดจำสิ่งที่แม่พูดได้เสมอ เมื่อสามสิบปีก่อนสาวน้อยที่เพิ่งจะพ้นโรงเรียนประจำในคอนแวนต์ได้ถูกหนุ่มสังคมพยายามล่อลวงให้ตกหลงรัก เมื่อไม่สำเร็จก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกล่อทำให้เธอเสียความบริสุทธิ์และตกเป็นของเขาด้วยสุรา เมื่อแอนนาตั้งท้อง เขาก็ได้แต่งงานกับเธอ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะซื่อสัตย์กับเธอไปจนวันตาย ธเนศยังคงมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงมากหน้าหลายตา ยิ่งภรรยาไม่เคยมีปากเสียงเขาก็ยิ่งทำตามอำเภอใจ หารู้ไม่ว่าความนิ่งนั่นหมายถึงการอดทนรอวันระเบิดในท้ายที่สุด โดยมีลูกของทั้งคู่อยู่ตรงกลาง
เขาต้องแต่งงานกับเธอ นั่นคือสิ่งที่ธีรยุทธตัดสินใจ หลังจากตื่นมาพบว่าตนเองทำอะไรลงไป ส่วนใหญ่เพราะว่าสถานการณ์ของพุทธรักษากับเขา คล้ายกับที่แม่ของเขาเคยเจอ และที่สำคัญเขาให้คำสัญญากับมารดาเอาไว้ก่อนที่เธอจะจากไป ว่าจะไม่ล่อลวงผู้หญิงบริสุทธิ์ยกเว้นว่าเขาจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ คิดถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็อดที่จะหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้ เพราะรูปแบบคล้ายกับการแต่งงานของพ่อกับแม่
แล้วเป็นยังไง ในที่สุดก็ไปกันไม่รอด เสียงหนึ่งในสมองของเขาร้องเตือน แต่คำสัญญาก็ต้องเป็นคำสัญญา เขาไม่รู้ว่าจะประคองชีวิตสมรสไปรอดหรือไม่ แต่ยังไงเขาก็จะแต่ง แม้ว่าเขาจะทำมันไปแกนๆ เพื่อจะหย่าอย่างกระตือรือร้นทีหลังก็ตาม
สองมือของเขารวบเก็บเสื้อผ้าของตนเองขึ้นมา แล้วก็นึกได้ว่าเพื่อนร่วมห้องชั่วคราวของเขาไม่มีเสื้อผ้าใส่ นอกจากชุดที่ยังกองอยู่กับพื้นในเวลานี้ เขาชั่งใจว่าควรจะเอาไปให้เธอดี หรือจะรอจนกว่าคุยกันรู้เรื่องก่อนเพื่อกันไม่ให้เธอเผ่นออกจากห้อง
แต่เช่นเคยที่เขาเลือกทำตัวสุภาพด้วยการนำมันไปให้เธอ ถุงน่องกับรองเท้าคัทชูไม่น่าจะเป็นสิ่งเร่งด่วนที่เธอต้องสวม เขาคิดพลางหยิบสี่ชิ้นที่จำเป็นขึ้นจากพื้น ชุดของเธอไม่ได้ใช้ยี่ห้อดังติดหู แม้แต่เสื้อชั้นในกับกางเกงชั้นในก็ยังเป็นของที่เน้นการใช้งานมากกว่าปลุกอารมณ์ คิดแล้วเขาก็หัวเราะขำตัวเอง เพราะคิดได้ว่าสิ่งที่ทำให้เขาสติแตกเมื่อคืนไม่ใช่เสื้อผ้าบนตัวเธอ แต่เป็นตัวเธอที่ไม่ใส่เสื้อผ้าต่างหาก ขณะจะหยิบชิ้นสุดท้ายขึ้นมาจากพื้น เขาก็มองมันด้วยความประหลาดใจก่อนจะนึกบางอย่างที่ทำให้เขาหัวเราะเต็มเสียง
จะเอายังไงต่อดี หลังจากอาบน้ำอุ่นจนคลายความเหนอะหนะและบรรเทาอาการเจ็บระบม สติของพุทธรักษาก็กลับมาอย่างครบถ้วน เธอไม่ใช่นางเอกละครไทยที่จะมานั่งร้องไห้กับสิ่งที่เสียไปแล้ว แน่ล่ะ ความที่เป็นผู้หญิงมันทำให้เธอเสียใจ และเสียดายว่าทำไมถึงไม่เก็บความบริสุทธิ์เอาไว้สำหรับมอบให้กับคนที่เธอรัก แต่สมองของเธอก็รู้ดีว่าคงไม่มีวันนั้น ตั้งแต่อายุสิบสามพ่อแม่ของเธอได้สอนบทเรียนที่สำคัญให้เธอบทหนึ่งนั่นคือไม่มีใครคิดจะอยู่เคียงข้างเธอ เมื่อทั้งคู่จากโลกไป เธอก็ไม่คิดจะเกี่ยวข้องทางใจกับใครอีก แล้วแบบนี้เธอจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครได้ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนคงเป็นได้แค่เพียงความสัมพันธ์ชั่วคราวที่เธอจะเก็บเอาไว้ในความทรงจำเท่านั้นเอง
“เอาเสื้อผ้าไหมครับ”
เสียงห้าวของชายหนุ่มชั่วคราวของเธอดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะประตู หญิงสาวรู้สึกเหมือนได้ยินความขบขันซ่อนอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการแต่งตัวแล้วเผ่นหนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผ้าห่มรุ่มร่ามเกินไปน่าเสียดายที่เธอไม่ได้หยิบเสื้อคลุมหรือผ้าเช็ดตัวของโรงแรมเข้ามาด้วย ดังนั้นจึงต้องใช้มันห่อตัวจนมิดชิดไม่ให้เขาเห็นพื้นที่ลับใดๆ ของเธอ แม้จะยื่นเฉพาะมือไปรับเสื้อผ้าของตนเองเข้ามา
หลังจากปิดประตูตามหลังอย่างรวดเร็ว เธอก็โยนเสื้อผ้าลงบนเคาน์เตอร์หวังจะรีบสวม ก่อนจะเห็นว่าอะไรทำให้เขาขบขัน ก็กางเกงในที่บิดเป็นเลขแปดเพราะความรีบร้อนจะเสียตัวของเธอยังไงล่ะ
ความคิดเห็น