เหตุผลของคนตาย

ลำดับตอนที่ #37 : วันที่ 10 ธันวาคม 2011 เวลา 20.35 นาฬิกา

วันที่ 10 ธันวาคม 2011 เวลา 20.35 นาฬิกา (ข้างศาลาสวดศพ)

เสียงสะท้อนไม่ใช้เสียงที่น่าฟัง โดยเฉพาะเสียงสะท้อนที่ทำให้ต้องย้อนมองแง่มุมที่ไม่งดงาม ที่สำคัญต่อให้ได้ยินได้ฟังเสียงสะท้อนดังสักเพียงไหน เราก็ไม่อาจแก้ไขที่มาของเสียงสะท้อนนั้นๆ ได้

เช่นเดียวกับสถาณการณ์ตอนนี้ ถึงต้องเผชิญกับความจริงที่ซ่อนอยู่ของเอกณรงค์โดยไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน แต่โอภาสและนารีก็เข้าใจในเรื่องที่ว่าอดีตผ่านไปแล้วแก้ไขไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาพอจะทำได้ ก็คือช่วยทวงถามความยุติธรรมให้กับบุตรชาย

“แล้วท่านพัศดีเจอหลักฐานอะไรบ้างแล้วครับ มีอะไรที่พวกผมจะพอช่วยเหลืองานของท่านได้บ้าง”

โอภาสพูดอย่างมีความหวังว่าอย่างน้อยเขาและภรรยาก็อาจจะมีส่วนร่วมในการค้นหาผู้ที่คิดร้ายกับหมอเอก แต่พัศดีตรังกลับส่ายหน้า

“ยังไม่มีครับ ทางตำรวจเองก็บอกว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่จะเป็นเหตุฆาตกรรม เพราะห้องของหมอเอกอยู่ในสภาพปิดทึบ และผลการชันสูตรก็ยืนยันว่าเขาฆ่าตัวตาย แต่ยังไงผมก็อยากให้มีการตรวจสอบอีกรอบเผื่อว่าจะพบอะไร”

พัศดีตรังหยุดพูดเพื่อมองหน้าโอภาสและนารีอีกครั้ง ก่อนจะพูดต่อ

“ที่ผมมานี่ก็เพื่อจะขอให้คุณโอภาสกับคุณนารีช่วยนึกดูให้ดีว่าเคยเห็นอะไรที่ผิดไปจากปกติของหมอเอกหรือไม่”

สองสามีภรรยาสบตากันก่อนที่จะตอบปฎิเสธ เพราะถ้าหากทั้งคู่รู้เห็นสิ่งผิดปกติใดๆ จากตัวของบุตรชาย ก็คงจะพยายามตรวจหาที่มาว่าเกิดอะไรขึ้น และคงไม่ปล่อยให้เอกณรงค์ต้องตายก่อนวัยอันควรเช่นนี้

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบโดยเร็ว”

หลังจากที่พัศดีตรังเดินจากไปทิ้งข้อสงสัยเรื่องสาเหตุการตายของเอกณรงค์ไว้กับโอภาสและนารี ทั้งคู่ก็เฝ้าแต่ถามตัวเองว่ามันจริงหรือไม่ ว่ายานรกจะสามารถเปลี่ยนบุคคลอันเป็นที่รักของทั้งสอง จากหมอที่อุทิศตัวเพื่อสังคมกลายเป็นคนที่ผลาญชีวิตเพื่ออื่นด้วยยาเสพติด

เงื่อนงำที่สองจากคำบอกเล่าของพัศดีตรังก็ไม่อาจให้ความกระจ่างใดๆ แก่พ่อและแม่ของนายแพทย์เอกณรงค์ได้เลย แต่มันกลับยิ่งเพิ่มความสงสัยในใจของโอภาสและนารีมากขึ้นไปอีก ว่าเหตุใดหมอที่ควรจะเปี่ยมด้วยความรับผิดชอบต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ จึงกลับกลายมาเป็นผู้ทำลายชีวิตคนอื่นด้วยยาเสพติด

เงื่อนงำนี้ไม่ได้ให้อะไรนอกจากความปวดร้าว ถึงจะมีความหวังว่าบุตรชายไม่ได้เจตนาลงมือปลิดชีพตนเอง แต่สิ่งที่เอกณรงค์เลือกที่จะทำลงไปก็เป็นความผิดบาปใหญ่หลวงจนแทบไม่แตกต่างกัน

มือของโอภาสและนารีที่ยังจับกุมกันอยู่หลอมรวมกันแน่นยิ่งขึ้น แม้จะมีน้ำตาคลอหน่วยแต่ทั้งคู่ก็สบตากันด้วยความสงสัย ว่าจะมีโอกาสหรือไม่ ในการที่ทั้งสองจะได้รู้เหตุผลที่แท้จริงในการเสียชีวิตของเอกณรงค์

แต่หลังจากได้พูดคุยกันไม่กี่นาทีทั้งคู่ก็ได้ข้อสรุปตรงกันว่าถึงจะเจ็บปวดใจแค่ไหน สองสามีภรรยาก็จะไม่ยอมถอดใจ ทั้งคู่ยังพร้อมที่จะรับฟังคนรอบข้างของบุตรชายต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้ความจริง ว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ลึกเบื้องหลังอาชีพที่มีเกียรติ แท้จริงแล้วบุตรชายของตนเป็นคนเช่นไร

………Brake………