ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เหตุผลของคนตาย

    ลำดับตอนที่ #23 : วันที่ 22 พฤศจิกายน 2011 เวลา 20.33 นาฬิกา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 161
      2
      29 ต.ค. 56

    วันที่ 22 พฤศจิกายน 2011 เวลา 20.33 นาฬิกา (ห้องนอนหมอเอก)

              โต๊ะอาร์มแชร์สีไวท์แดง ดูแตกต่างจากฝาผนังสีเขียวอ่อน เหมือนว่ามันเป็นสิ่งที่แทรกเข้ามาในโลกที่แสนสงบ เช่นเดียวกับเตียงขนาดใหญ่ที่มีผ้าปูที่นอนสีดำยับยุ่งจากการนอนเกลือกกลิ้ง ก็เป็นเหมือนทะเลแห่งบาปที่ยากจะหลุดพ้น  และบาปนั้นถูกเน้นให้เห็นมากกว่านามธรรมด้วย อุปกรณ์สร้างบาปที่ตกกระจายเกลื่อนพื้น

                และถึงจะมีทั้งที่นอนและที่นั่งอันแสนสบาย แต่ร่างของหมอเอกกลับทอดยาวอยู่บนพื้น ในสภาพสลึมสลือจากฤทธ์ของยาเสพติดที่ไหลเวียนอยู่ทั่วร่าง เขาค่อยๆ พยายามเอาตัวเองออกจากเครื่องแต่งกายที่ใช้ในตอนกลางวัน เนื่องจากชายหนุ่มรีบร้อนอยากใช้สารเสพติดแก้ความเครียดจนไม่ยอมเสียเวลาถอดถุงเท้าออกด้วยซ้ำ

                “กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง”

                เสียงโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ ขัดจังหวะการตั้งสติเพื่อถอดเสื้อผ้าของเอกณรงค์เป็นอย่างมาก เขาอยากจะทำเป็นไม่ได้ยิน แต่นึกขึ้นมาได้ว่ามีเพียงไม่กี่คนที่มีหมายเลขโทรศัพท์เบอร์นี้ จึงฝืนใจยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา

                “สวัสดีครับ”

                “เอกหรอลูก เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมแม่โทรเข้ามือถือของเอกไม่ติดล่ะ ปิดเครื่องหรอ”

                เสียงความห่วงใยของคุณนารีที่ผ่านออกมาตามสาย ทำให้เอกณรงค์ต้องใช้มือข้างที่ไม่ได้ยกหูโทรศัพ์อยู่ จิกนิ้วลงไปในเนื้อต้นแขนของตัวเองแน่นเพื่อเรียกสติ แล้วกัดฟันพยายามฝืนพูดกับมารดาด้วยน้ำเสียงปกติ

                “จริงหรอครับ ผมไม่ทันดู”

                หมอเอกพูดตามความจริงเพราะหลายวันที่ผ่านมาเขาไม่สนสักนิดว่าจะมีใครต้องการพูดคุยกับเขาบ้าง

                “จริงสิลูก เนี่ยแม่โทรหาเอกตั้งหลายทีแล้ว มันโอนสายเข้าระบบฝากข้อความตลอดเลย พอเห็นว่าหลายชั่วโมงยังไม่โทรกลับ แม่เลยโทรเข้าเบอร์ห้องแทน แบตหมดหรือเปล่า”

                “ครับ สงสัยจะแบตหมด พอดีวันนี้ยุ่งๆ ผมเลยไม่ได้เช็คดู”

                ด้วยสภาพของสมองที่เลอะเลือนจากฤทธิ์ยาเอกณรงค์จึงยึดข้ออ้างที่มารดาสงสัย ทั้งที่ความจริงชายหนุ่มเจตนาปิดเครื่อง เพราะไม่อยากถูกใครรบกวน ขณะที่เขากำลังเสพสุขจากสารเสพติด

                “เอกไปดูว่าแบตหมดหรือเปล่านะลูก เดี๋ยวใครโทรหาจะติดต่อไม่ได้ เนี่ยพ่อเขาก็หาว่าแม่ตื่นตูม แต่เอกไม่เคยปิดเครื่อง แม่เลยไม่ค่อยสบายใจ แล้วอย่าลืมไปตรวจดูนะลูก”

                คำสั่งของนารีไม่ได้ทำให้เอกณรงค์รู้สึกอะไรนอกจากอยากวางหู แต่เขาก็ยังพูดตามที่คิดว่ามารดาอยากฟัง

    “ได้ครับแม่ ขอโทษนะครับ ต่อไปผมจะระวัง”

    “ดีแล้วลูก เอกไปอยู่คนเดียวแบบนี้แม่กับพ่อก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้หรอก ถ้ายังไงลองคิดเรื่องย้ายมาทำงานใกล้บ้านก็ดีนะลูก”

    “แล้วผมจะลองๆ ดูครับ”

    เรื่องย้ายงานนารีพูดมาหลายครั้งแล้ว และเอกณรงค์ก็รับคำส่งๆ ไปทุกครั้ง เพราะไม่มีทางที่เขาจะปิดบังพ่อแม่เรื่องการเสพยาได้ถ้าอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน ที่สำคัญเขาไม่อาจหาแหล่งยาเสพติดจากแถวบ้านเพื่อบำบัดความเครียดได้

                 เอกณรงค์ฝืนพูดกับมารดาต่อไปเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่เขาจะฟังบ้างไม่ฟังบ้างเพราะไม่อยู่ในสภาพที่จะพูดจาโต้ตอบได้ เมื่อคนที่โทรมาด้วยความห่วงใยวางสายลง เขาก็หมดแรงล้มตัวลงนอนบนพื้น ทั้งที่อยู่ห่างจากเตียงนอนไม่กี่เซนติเมตร

    หลายชั่วโมงต่อมาหมอเอกถึงฟื้นคืนสติสัมปชัญญะที่สูญเสียไปเพราะฤทธิ์ยา เมื่อเริ่มรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน หมอเอกก็ใช้ยาเสพติดซ้ำอีกครั้ง โดยไม่แม้แต่จะเปิดโทรศัพท์มือถือที่ปิดเอาไว้ เพราะไม่ต้องการที่จะพูดคุยกับใครอีก ชายหนุ่มไม่อยากให้ใครเตือนว่าตัวเขาเองเป็นใคร ผ่านอะไรมา และต้องดำเนินชีวิตต่อไปยังไง

    ………Brake………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×