ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เหตุผลของคนตาย

    ลำดับตอนที่ #18 : วันที่ 17 พฤศจิกายน 2011 เวลา 17.48 นาฬิกา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 155
      1
      1 ต.ค. 56


     

    วันที่ 17 พฤศจิกายน 2011 เวลา 17.48 นาฬิกา (ห้องพยาบาล ภายในเรือนจำกลาง)

                เข็มนาฬิกาเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ มันผ่านเวลาทำงานของห้องพยาบาลไปแล้ว แต่หมอเอกยังไม่อยากออกจากห้องตรวจ เพื่อกลับไปยังห้องพักที่ว่างเปล่าของตัวเอง เนื่องจากทนอยู่เพียงลำพังในห้องชุดที่มีแต่ความเงียบไม่ได้

    ทว่าตอนนี้เมื่อต้องอยู่ในชั่วโมงที่เงียบงัน กับห้องพยาบาลที่ปราศจากสิ่งมีชีวิตตามลำพัง หมอเอกก็คิดว่าสำหรับเขา ทั้งสองสถานที่มันก็คงจะให้ผลไม่แตกต่างกัน  เพราะชายหนุ่มเหม่อมองตู้เอกสารกับฝาผนังและโต๊ะทำงานมาหลายนาทีแล้ว โดยที่ไม่รู้ตัวสักนิดว่าตนเองกำลังจ้องมองอะไรอยู่

                “คุณหมอยังไม่กลับหรือค่ะ”

                เยาวรินทร์ที่กำลังจะเดินทางกลับบ้าน สังเกตเห็นแสงในห้องพยาบาลยังเปิดสว่างอยู่ เข้าใจว่าหมอหนุ่มลืมปิดไฟจึงเดินเข้ามาหวังจะช่วยปิดให้ แต่กลับพบว่าเจ้าของห้องยังนั่งอยู่ในห้อง

    ใจของหญิงสาวไหวสั่นด้วยความคาดหวังทันที หลายวันมานี่เธอแทบไม่เคยได้พูดคุยกับหมอเอกนอกเหนือจากเรื่องงาน ความหวังที่จะสานสัมพันธ์ก็ลดน้อยลงทุกที ดังนั้นเวลานี้เยาวรินทร์จึงคิดจะใช้โอกาสเพิ่มความคืบหน้า

                “งานของคุณหมอยังไม่เสร็จหรือค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมค่ะ”

                ถึงในยามนี้เอกณรงค์จะอยากให้ใครสักคนอยู่เคียงข้างเพื่อแบ่งปันความทุกข์ใจที่มี แต่ชายหนุ่มก็คาดหวังอยากให้เป็นใครสักคนที่จะเข้าใจเขา มากกว่าคนที่ต้องการสิ่งที่เป็นเพียงเปลือกนอกของเขา

                “ไม่มีอะไรครับ ผมเพียงแต่กำลังคิดอะไรเพลินๆ เดี๋ยวก็จะกลับแล้ว คุณเยาวรินทร์ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ กลับบ้านเถอะ”

                คำปฎิเสธบวกกับคำไล่ที่แสนสุภาพ บาดความรู้สึกของเยาวรินทร์ แต่หญิงสาวก็ยังดื้อดึงจะอยู่ต่อ

    “งั้นขอดิฉันกลับพร้อมกับคุณหมอได้ไหมค่ะ คือเพิ่งจะสังเกตว่ามันมืดแล้ว ไม่อยากเดินออกไปคนเดียว”

    เมื่อไม่อยู่ในอารมณ์ที่พร้อมจะรับมือกับความเครียดที่นอกเหนือจากที่เผชิญอยู่ได้อีก หมอเอกจึงตัดสินใจพูดตรงๆ

    “ผมว่าคงจะไม่ดีมั้งครับ ผมค่อนข้างจะระวังในเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะในเชิงชู้สาว”

    “แต่ดิฉัน คือดิฉันไม่...”

    ใบหน้าของเยาวรินทร์แดงซ่านด้วยความอับอาย เธอระล่ำระลักจะแก้ตัว แต่เอกณรงค์ไม่มอบโอกาสนั้นให้

    “ผมดูออกนะครับว่าคุณเยาวรินทร์คิดอะไรกับผมอยู่ เอาเป็นว่าเรื่องนั้นมันเป็นไปไม่ได้แล้วกัน”

    เพราะรู้สึกว่าตนเองพูดจารุนแรงกับเพื่อนร่วมงานเกินไป หมอหนุ่มจึงรีบพูดเสริมอย่างรวดเร็ว

    “ไม่ใช่ว่าคุณไม่ดีนะครับ แต่ผมไม่ชอบมีสัมพันธ์ส่วนตัวกับเพื่อนร่วมงาน มันจะมีปัญหาในภายหลัง”

    เมื่อหมอเอกพูดจบ เยาวรินทร์ก็ข่มกลั้นความอับอายที่กำลังแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ โกหกเพื่อรักษาหน้าตัวเอง

    “ดิฉันไม่ได้คิดอะไรกับคุณหมอเลยนะคะ”

    ดวงตาของเยาวรินทร์แข็งกระด้างด้วยอารมณ์รุนแรง เธอมองหน้าหมอหนุ่มด้วยความโกรธเคืองที่เอาความรู้สึกของเธอมาโยนใส่หน้า แต่สำหรับเอกณรงค์ที่เรียนรู้มาจากเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าอย่าแคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าตัวเอง ก็ยังคงเดินหน้าเพื่อสะสางเรื่องที่ค้างคากับผู้ช่วยสาว

    “ถ้าคุณไม่คิด ผมก็ขอโทษด้วยแล้วกันที่พูดออกไปแบบนี้ และถ้ามันเป็นอย่างที่คุณว่าจริง ผมก็คงต้องขอให้คุณช่วยอยู่ห่างจากผมหน่อย”

    เยาวรินทร์คอแข็งกับคำสั่งนั้น จากคำพูดที่ออกจากปากหมอเอก เขาทำเหมือนกับว่าเธอเป็นพวกโรคจิตชอบตามตื้อที่ทำให้เขารำคาญ ถึงเธอจะชอบเขามากและอยากให้เขาเป็นแฟนของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้ทำตัวเลวร้ายขนาดนั้น

    แต่ยังไม่ทันที่พยาบาลสาวจะได้มีโอกาสแก้ต่างให้กับตัวเอง นายแพทย์หนุ่มก็พูดต่อเหมือนรู้สิ่งที่เธอคิดอยู่

    “มันอาจจะดูเป็นคำสั่งที่ไร้สาระ แต่ผมว่าถ้าเรายังอยู่ใกล้กันมากว่าเรื่องงาน มันอาจจะมีข่าวลือที่ไม่จริงเกิดขึ้น คุณเป็นผู้หญิง ผมไม่อยากให้คุณต้องเสียหาย”

    “ได้ค่ะ งั้นดิฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”

    ที่หมอเอกพูดสร้างความผิดหวังและโกรธแค้นแก่เยาวรินทร์ แต่ในฐานะพนักงานใต้สายบังคับบัญชา เธอจึงไม่อาจโต้แย้งได้ หญิงสาวกล่าวอำลาหมอหนุ่มด้วยความรู้สึกเจ็บแค้นแทบอยากฆ่าเขาให้ตายคามือ

    แต่ก่อนที่จะหมุนตัวออกจากห้อง เยาวรินทร์ก็สังเกตเห็นเอกสารบางอย่างบนโต๊ะของนายแพทย์เอกณรงค์ ความสงสัยเคลื่อนเข้ามาในความคิดของพยาบาลสาว พร้อมกับความตื่นตระหนก แต่เธอก็เก็บกิริยาเพื่อเดินออกไปอย่างสงบ พร้อมกับประมวลความคิดที่จะเอาคืนชายหนุ่มที่เธอเคยหลงรัก

                เสียงเยาวรินทร์ปิดประตูตามหลังไม่ดังนัก แต่มันเหมือนเสียงลั่นดานปิดประตูหัวใจของเอกณรงค์ที่จะให้คนอื่นสามารถเข้ามาในความรู้สึกของเขา เวลานี้ชายหนุ่มไม่พร้อมจะให้โอกาสใครมาทำร้ายเขาอีก

    แต่เมื่อนาทีผ่านไปในความเงียบ และเอกณรงค์ก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เขาก็เริ่มหวังจะให้ใครสักคนก้าวผ่านความมืดหม่นแล้วเปิดประตูที่ถูกปิดตายด้วยฝีมือตนเอง เพื่อเข้ามาสู่ใจที่เปลี่ยวเหงาของเขา

    ………Brake………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×