ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำสารภาพของฆาตกร ภาค3 (The Message)

    ลำดับตอนที่ #9 : คืนที่ใจหลายดวงเต้นแรง(100%)

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 54


     

    ...................................................................
    “คุณหมอจะไม่ดื่มอีกหน่อยหรือค่ะ”
    คนพูดอาศัยบรรยากาศสลัวและเสียงดนตรีที่ยังบรรเลงดังลั่นเกยคางบนบ่ากว้างของหมอสัมพร้อมกับเอ่ยเสียงต่ำพร่าใกล้ๆ ใบหูของหมอหนุ่ม สัมมามองแก้วเครื่องดื่มที่เพิ่งหมดลง คืนนี้เขาฝืนกฎส่วนตัวดื่มเหล้ามากกว่าที่เคย แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวที่เพิ่งรู้จักจะอยากให้เขาดื่มมากขึ้นไปอีก
    “คุณเมย์จะมอมเหล้าผมหรือครับ”
    “แล้วถ้าเมย์จะทำอย่างนั้นจริงๆ คุณหมอจะยอมเมย์ไหมล่ะ”
    เมย์เบียดกระแซะเข้าไปใกล้ชายหนุ่มมากขึ้นไปอีก ราตรีนี้ใกล้สิ้นสุดแล้ว และเธอไม่อยากลับไปนอนโดยไม่รู้ถึงตัวตนของชายที่พึงใจ ไม่ใช่ทุกคืนที่นักล่าแต้มอย่างเธอ จะเจอเหยื่อที่สมบูรณ์พร้อมอย่างหมอสัม
    “แปลกนะทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนล่อลวงยังไงไม่รู้”
    “อืม...แล้วถ้าเมย์บอกคุณหมอว่าเมย์สามารถทำให้คุณหมอมีความสุขได้ล่ะ จะถือว่าเป็นการหลอกลวงหรือเปล่า”
    ขณะที่พูดมือบางก็ลูบไล้ไปตามแนวซิบกางเกงเพื่อปลุกสัญชาติญาณดิบในตัวของหมอสัมให้ตื่นขึ้น
    “ผมจะถือว่าเป็นคำพูดที่รอการพิสูจน์แล้วกันนะ”
    แขนยาวโอบเอวบางให้ลุกไปยังมุมที่ห่างสายตาคนอื่นเพื่อทำในสิ่งที่ทั้งคู่ต้องการ ไม่สนแม้สายตาของคนที่ยังจับจ้องอยู่
    ........................................
    ไม่ต้องมีการบอกบท หรือการส่งสัญญานใด เมื่อสัมมาดันร่างของเมย์เข้าไปยังห้องน้ำชาย หลังจากกวาดตามองว่าเป็นสถาณที่ที่ปลอดคน หญิงสาวก็เดินนำไปยังห้องย่อย พอชายหนุ่มล๊อคประตูเสร็จก็พบว่าเมย์นั่งอยู่บนฝาชักโครกที่ปิดลง แล้วเอื้อมแขนดึงตัวสัมมาไปยืนใกล้ๆ สองมือของหญิงสาวเชี่ยวชาญยิ่งนัก เพราะมันสามารถถอดเข็มขัดปลดกระดุมกางเกง รูดซิบ และดึงส่วนที่กำลังตื่นเร้าของชายหนุ่มออกมาในเวลาไม่ถึงนาที ก่อนที่เธอจะทำตามที่พูดด้วยปากและลิ้นที่เอ่ยคำนั้นออกมา
    สัมมารู้สึกว่าเขากำลังจะหลงลืมตนปลดปล่อยทุกอย่างออกมา แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเขาก้มลงมองไปยังใบหน้าที่กำลังให้ความสุขเขาอยู่ มันทำให้เขารู้ตัวว่ากำลังจะทำอะไร และจะต้องทำอะไร เขาดึงตัวออกมา ซึ่งเมย์เองก็ชำนาญพอที่จะไม่ทักท้วงอะไร มือขวาของหมอหนุ่มล้วงหยิบอุปกรณ์ป้องกันจากกระเป๋ากางเกง ในขณะที่มือซ้ายจับต้นแขนของหญิงสาวให้ลุกขึ้น และจับเธอให้ยืนหันหลังให้ เขาอยากเข้าไปในตัวเธอ แต่ไม่ได้อยากเห็นใบหน้าของเธอ
    ทุกจังหวะที่เขาโถมเข้าใส่เป็นไปตามธรรมชาติ เป็นสิ่งที่กายของเขาต้องการ จวบจนสิ้นสุดเขาก็พอจะหลอกตัวเองว่าเขาต้องการแบบนั้น แม้ว่าเขาจะเจ็บปวดใจอย่างยิ่งเมื่อพบว่าตัวเองกำลังสวมกอดด้านหลังผู้หญิงแปลกหน้าที่คล้ายกับกรรณิกา แต่ไม่ใช่เธอ
    ..............................................
    “คืนนี้คุณหมอไปต่อกับเมย์นะค่ะ นะค่ะ”
    คำพูดของเมย์คล้ายกับเสียงดนตรีที่ดังอยู่ สัมมาได้ยินและเข้าใจ แต่ไม่ได้ใส่ใจเขายังโอบเอวของหญิงสาวเพื่อพาทั้งคู่ออกจากห้องน้ำ แต่เมื่อพ้นประตูก็พบคนที่กำลังรออยู่ ด้วยแววตาร้าวราน
    “สัม ขอเอยคุยกับสัมหน่อยได้ไหม”
    นานมากแล้วที่อริญแทนตัวเองด้วยชื่อเล่น สัมมารู้ดีว่าคงเป็นเพราะคืนนี้หญิงสาวเมามาก จนเผลอทำในสิ่งที่ใจเรียกร้องโดยไม่คำนึงถึงเหตุผล เขาอยากจะหลบเลี่ยงเหตุการณ์เช่นนี้ แต่อริญยังยืนขวางทางเขากับเมย์อยู่
    เมย์มองหน้าอริญ ก่อนจะหันไปมองหน้าหมอสัม แม้ว่าจะไม่ทราบว่าทั้งคู่เกี่ยวข้องกันยังไง แต่เธอก็ไม่ชอบที่จะให้ใครมายุ่งกับผู้ชายที่เธอเพิ่งจะมีสัมพันธ์
    “คงไม่ได้มั้งค่ะ เมย์กับคุณหมอยังไม่จบเรื่องกันเลย”
    อริญทำสีหน้าเหมือนอยากฆ่าเมย์ให้ตาย แต่เมย์ก็ไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้าเตรียมจะมีเรื่อง สัมมาจึงต้องเป็นฝ่ายออกปากเอง
    “เมย์ไปรอที่โต๊ะก่อนแล้วกันนะครับ ผมขอคุยกับเพื่อนแป๊บนึงแล้วจะรีบตามไป”
    คำว่าเพื่อนตอกย้ำความเจ็บให้อริญ เมย์ส่งยิ้มเยาะก่อนจะเดินผ่านไป แต่เพื่อความสะใจเธอก็ทิ้งท้ายด้วยเสียงหวาน
    “ได้ค่ะ ถึงยังไงคืนนี้คุณหมอก็ไปต่อกับเมย์อยู่แล้ว”
    เวลาเหมือนหยุดนิ่ง ก่อนที่อริญจะสามารถพูดในสิ่งที่เธอคิดออกมาได้
    “ทำไมถึงไม่ใช่เอย”
    เมื่อสัมมาไม่ตอบ อริญจึงถามย้ำอีกครั้ง
    “ถ้าสัมต้องการผู้หญิงสักคนแทนก้อย ทำไมถึงไม่ใช่เอย”
    สัมมาเมินไปมองทางอื่นเพื่อหลบความเจ็บปวดในแววตาของหนึ่งในคนที่เขาถือว่าเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิท
    “สัมก็รู้ว่าเอยรักสัมมาตลอด รักตั้งแต่สัมยังไม่เจอก้อย แล้วในเมื่อตอนนี้สัมไม่มีใคร ทำไมสัมถึงไม่เห็นใจเอยบ้าง”
    “เพราะเอยเป็นเพื่อนของผมไงล่ะ”
    อริญปิดเปลือกตาลง แต่ไม่อาจห้ามน้ำตาที่ไหลรินออกมาได้ เหตุผลนี้เป็นเหตุผลที่เธอรู้อยู่แก่ใจ แต่เป็นเหตุผลที่เธออยากให้มันไม่มี เมื่อมั่นใจว่าตนเองจะสามารถเปล่งเสียงอื่นนอกจากเสียงร้องไห้ได้ อริญก็พูดต่อด้วยเสียงสั่นเครือ
    “เราเลือกที่จะคบใครเป็นเพื่อนก็ได้นะ แต่เราเลือกที่จะรักใครไม่ได้ และเมื่อรักแล้วเราก็เลือกที่จะตัดใจไม่ได้”
    “ผมรู้ดีเอย เพราะวันนี้ผมก็ยังเลิกรักก้อยไม่ได้”
    ประโยคนั้นทำให้น้ำตาของอริญยิ่งหลั่งไหลมากยิ่งขึ้นไปอีก
    “อย่าร้องไห้เลยเอย ผมไม่ได้พูดเพราะอยากให้เอยเสียใจนะ”
    “เอยรู้ว่าสัมไม่อยากให้เอยเสียใจ แต่เอยรักสัม เอยอยากให้สัมมองเอยเหมือนที่สัมมองผู้หญิงคนอื่น ได้ไหมสัม เอยขอให้สัมมองเอยแบบนั้นสักครั้งจะได้ไหม”
    จบประโยคนั้น ความหวังของอริญก็ลอยอยู่ระหว่างทั้งคู่ แต่สัมมาเห็นแก่อริญเกินกว่าจะให้ความหวังผิดๆ
    “เอยจะเลิกคบผมเป็นเพื่อนก็ได้นะ แต่สำหรับผมเอยเป็นคนสำคัญมาก สำคัญมากจน...จนผมไม่อาจใช้เอยเพื่อให้ลืมก้อยได้”
    “แล้วถ้าเอยบอกว่าเอยไม่แคร์ล่ะ”
    สัมมานิ่งไปอึดใจเพราะไม่รู้จะใช้คำพูดแบบไหนตอบโต้ เขามองตาของอริญที่มองสบสายตาของเขาอย่างจริงจังเพื่อตอกย้ำประโยคที่เธอเพิ่งพูดออกไป
    “พอเถอะเอย อย่าพูดอะไรอีกเลย ผมไม่อยากให้เอยตื่นมาตอนเช้า แล้วเสียใจที่ตัวเองพูดอะไรออกไป”
    “เอย...”
    “พี่เอยครับ”
    เสียงเรียกจากปากวิทยาตัดประโยคที่อริญกำลังจะพูด และเป็นเหมือนการตัดสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่
    “ผมจะกลับแล้ว พี่เอยจะกลับด้วยกันเลยไหมครับ”
    อริญไม่ตอบแต่หมุนตัวเดินกลับไปยังโต๊ะอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ชายหนุ่มทั้งสองเผชิญหน้ากันด้วยความอึดอัด ก่อนที่วิทยาจะทำลายมันด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
    “พี่หมอจะกลับพร้อมกันเลยไหมครับ”
    “ไม่ล่ะ พี่ว่าจะอยู่รอไอ้จุ๊ยมันหน่อย”
    วิทยาพยักหน้ารับทราบ พร้อมกับทำท่าจะเดินจากไป แต่แล้วก็เปลี่ยนใจหันกลับมาพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา
    “พี่เอยเจ็บมาพอแล้วนะพี่หมอ”
    “อย่าพูดอะไรดีกว่ากอร์ฟ อย่างที่พี่บอกกับเอยน่ะแหละ อย่าพูดอะไรที่จะทำให้ตัวเองต้องเสียใจภายหลัง”
    ชั่วขณะวิทยาทำเหมือนอยากจะโต้เถียง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของรุ่นพี่ วิทยาก็ตัดสินใจเดินจากไป เพราะเขาเองก็รู้ดีว่าอริญไม่ใช่คนเดียวที่เจ็บ
    สัมมาอยากจะชกต่อยอะไรสักอย่าง อยากจะตะโกนใส่หน้าใครสักคน อยากจะทำให้คนอื่นเจ็บปวดกายเหมือนที่เขากำลังเจ็บปวดหัวใจ แต่เขาก็เลือกที่จะยืนนิ่งเงียบให้เวลาผ่านไป ให้ความมืดโอบล้อมเขาไว้ โดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนที่ยืนแอบมองมาเนิ่นนาน อย่างที่หลายคนรู้ดี ในคืนนี้มีหลายคนที่เจ็บ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เลือกจะไม่ทำร้ายคนอื่น
    To be continue.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×