ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : คืนที่ใจหลายดวงเต้นแรง(100%)
...................................................................
“คุณหมอจะไม่ดื่มอีกหน่อยหรือค่ะ”
คนพูดอาศัยบรรยากาศสลัวและเสียงดนตรีที่ยังบรรเลงดังลั่นเกยคางบนบ่ากว้างของหมอสัมพร้อมกับเอ่ยเสียงต่ำพร่าใกล้ๆ ใบหูของหมอหนุ่ม สัมมามองแก้วเครื่องดื่มที่เพิ่งหมดลง คืนนี้เขาฝืนกฎส่วนตัวดื่มเหล้ามากกว่าที่เคย แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวที่เพิ่งรู้จักจะอยากให้เขาดื่มมากขึ้นไปอีก
“คุณเมย์จะมอมเหล้าผมหรือครับ”
“แล้วถ้าเมย์จะทำอย่างนั้นจริงๆ คุณหมอจะยอมเมย์ไหมล่ะ”
เมย์เบียดกระแซะเข้าไปใกล้ชายหนุ่มมากขึ้นไปอีก ราตรีนี้ใกล้สิ้นสุดแล้ว และเธอไม่อยากลับไปนอนโดยไม่รู้ถึงตัวตนของชายที่พึงใจ ไม่ใช่ทุกคืนที่นักล่าแต้มอย่างเธอ จะเจอเหยื่อที่สมบูรณ์พร้อมอย่างหมอสัม
“แปลกนะทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนล่อลวงยังไงไม่รู้”
“อืม...แล้วถ้าเมย์บอกคุณหมอว่าเมย์สามารถทำให้คุณหมอมีความสุขได้ล่ะ จะถือว่าเป็นการหลอกลวงหรือเปล่า”
ขณะที่พูดมือบางก็ลูบไล้ไปตามแนวซิบกางเกงเพื่อปลุกสัญชาติญาณดิบในตัวของหมอสัมให้ตื่นขึ้น
“ผมจะถือว่าเป็นคำพูดที่รอการพิสูจน์แล้วกันนะ”
แขนยาวโอบเอวบางให้ลุกไปยังมุมที่ห่างสายตาคนอื่นเพื่อทำในสิ่งที่ทั้งคู่ต้องการ ไม่สนแม้สายตาของคนที่ยังจับจ้องอยู่
........................................
ไม่ต้องมีการบอกบท หรือการส่งสัญญานใด เมื่อสัมมาดันร่างของเมย์เข้าไปยังห้องน้ำชาย หลังจากกวาดตามองว่าเป็นสถาณที่ที่ปลอดคน หญิงสาวก็เดินนำไปยังห้องย่อย พอชายหนุ่มล๊อคประตูเสร็จก็พบว่าเมย์นั่งอยู่บนฝาชักโครกที่ปิดลง แล้วเอื้อมแขนดึงตัวสัมมาไปยืนใกล้ๆ สองมือของหญิงสาวเชี่ยวชาญยิ่งนัก เพราะมันสามารถถอดเข็มขัดปลดกระดุมกางเกง รูดซิบ และดึงส่วนที่กำลังตื่นเร้าของชายหนุ่มออกมาในเวลาไม่ถึงนาที ก่อนที่เธอจะทำตามที่พูดด้วยปากและลิ้นที่เอ่ยคำนั้นออกมา
สัมมารู้สึกว่าเขากำลังจะหลงลืมตนปลดปล่อยทุกอย่างออกมา แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเขาก้มลงมองไปยังใบหน้าที่กำลังให้ความสุขเขาอยู่ มันทำให้เขารู้ตัวว่ากำลังจะทำอะไร และจะต้องทำอะไร เขาดึงตัวออกมา ซึ่งเมย์เองก็ชำนาญพอที่จะไม่ทักท้วงอะไร มือขวาของหมอหนุ่มล้วงหยิบอุปกรณ์ป้องกันจากกระเป๋ากางเกง ในขณะที่มือซ้ายจับต้นแขนของหญิงสาวให้ลุกขึ้น และจับเธอให้ยืนหันหลังให้ เขาอยากเข้าไปในตัวเธอ แต่ไม่ได้อยากเห็นใบหน้าของเธอ
ทุกจังหวะที่เขาโถมเข้าใส่เป็นไปตามธรรมชาติ เป็นสิ่งที่กายของเขาต้องการ จวบจนสิ้นสุดเขาก็พอจะหลอกตัวเองว่าเขาต้องการแบบนั้น แม้ว่าเขาจะเจ็บปวดใจอย่างยิ่งเมื่อพบว่าตัวเองกำลังสวมกอดด้านหลังผู้หญิงแปลกหน้าที่คล้ายกับกรรณิกา แต่ไม่ใช่เธอ
..............................................
“คืนนี้คุณหมอไปต่อกับเมย์นะค่ะ นะค่ะ”
“คืนนี้คุณหมอไปต่อกับเมย์นะค่ะ นะค่ะ”
คำพูดของเมย์คล้ายกับเสียงดนตรีที่ดังอยู่ สัมมาได้ยินและเข้าใจ แต่ไม่ได้ใส่ใจเขายังโอบเอวของหญิงสาวเพื่อพาทั้งคู่ออกจากห้องน้ำ แต่เมื่อพ้นประตูก็พบคนที่กำลังรออยู่ ด้วยแววตาร้าวราน
“สัม ขอเอยคุยกับสัมหน่อยได้ไหม”
นานมากแล้วที่อริญแทนตัวเองด้วยชื่อเล่น สัมมารู้ดีว่าคงเป็นเพราะคืนนี้หญิงสาวเมามาก จนเผลอทำในสิ่งที่ใจเรียกร้องโดยไม่คำนึงถึงเหตุผล เขาอยากจะหลบเลี่ยงเหตุการณ์เช่นนี้ แต่อริญยังยืนขวางทางเขากับเมย์อยู่
เมย์มองหน้าอริญ ก่อนจะหันไปมองหน้าหมอสัม แม้ว่าจะไม่ทราบว่าทั้งคู่เกี่ยวข้องกันยังไง แต่เธอก็ไม่ชอบที่จะให้ใครมายุ่งกับผู้ชายที่เธอเพิ่งจะมีสัมพันธ์
“คงไม่ได้มั้งค่ะ เมย์กับคุณหมอยังไม่จบเรื่องกันเลย”
อริญทำสีหน้าเหมือนอยากฆ่าเมย์ให้ตาย แต่เมย์ก็ไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้าเตรียมจะมีเรื่อง สัมมาจึงต้องเป็นฝ่ายออกปากเอง
“เมย์ไปรอที่โต๊ะก่อนแล้วกันนะครับ ผมขอคุยกับเพื่อนแป๊บนึงแล้วจะรีบตามไป”
คำว่าเพื่อนตอกย้ำความเจ็บให้อริญ เมย์ส่งยิ้มเยาะก่อนจะเดินผ่านไป แต่เพื่อความสะใจเธอก็ทิ้งท้ายด้วยเสียงหวาน
“ได้ค่ะ ถึงยังไงคืนนี้คุณหมอก็ไปต่อกับเมย์อยู่แล้ว”
เวลาเหมือนหยุดนิ่ง ก่อนที่อริญจะสามารถพูดในสิ่งที่เธอคิดออกมาได้
“ทำไมถึงไม่ใช่เอย”
เมื่อสัมมาไม่ตอบ อริญจึงถามย้ำอีกครั้ง
“ถ้าสัมต้องการผู้หญิงสักคนแทนก้อย ทำไมถึงไม่ใช่เอย”
สัมมาเมินไปมองทางอื่นเพื่อหลบความเจ็บปวดในแววตาของหนึ่งในคนที่เขาถือว่าเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิท
“สัมก็รู้ว่าเอยรักสัมมาตลอด รักตั้งแต่สัมยังไม่เจอก้อย แล้วในเมื่อตอนนี้สัมไม่มีใคร ทำไมสัมถึงไม่เห็นใจเอยบ้าง”
“เพราะเอยเป็นเพื่อนของผมไงล่ะ”
อริญปิดเปลือกตาลง แต่ไม่อาจห้ามน้ำตาที่ไหลรินออกมาได้ เหตุผลนี้เป็นเหตุผลที่เธอรู้อยู่แก่ใจ แต่เป็นเหตุผลที่เธออยากให้มันไม่มี เมื่อมั่นใจว่าตนเองจะสามารถเปล่งเสียงอื่นนอกจากเสียงร้องไห้ได้ อริญก็พูดต่อด้วยเสียงสั่นเครือ
“เราเลือกที่จะคบใครเป็นเพื่อนก็ได้นะ แต่เราเลือกที่จะรักใครไม่ได้ และเมื่อรักแล้วเราก็เลือกที่จะตัดใจไม่ได้”
“ผมรู้ดีเอย เพราะวันนี้ผมก็ยังเลิกรักก้อยไม่ได้”
ประโยคนั้นทำให้น้ำตาของอริญยิ่งหลั่งไหลมากยิ่งขึ้นไปอีก
“อย่าร้องไห้เลยเอย ผมไม่ได้พูดเพราะอยากให้เอยเสียใจนะ”
“เอยรู้ว่าสัมไม่อยากให้เอยเสียใจ แต่เอยรักสัม เอยอยากให้สัมมองเอยเหมือนที่สัมมองผู้หญิงคนอื่น ได้ไหมสัม เอยขอให้สัมมองเอยแบบนั้นสักครั้งจะได้ไหม”
จบประโยคนั้น ความหวังของอริญก็ลอยอยู่ระหว่างทั้งคู่ แต่สัมมาเห็นแก่อริญเกินกว่าจะให้ความหวังผิดๆ
“เอยจะเลิกคบผมเป็นเพื่อนก็ได้นะ แต่สำหรับผมเอยเป็นคนสำคัญมาก สำคัญมากจน...จนผมไม่อาจใช้เอยเพื่อให้ลืมก้อยได้”
“แล้วถ้าเอยบอกว่าเอยไม่แคร์ล่ะ”
สัมมานิ่งไปอึดใจเพราะไม่รู้จะใช้คำพูดแบบไหนตอบโต้ เขามองตาของอริญที่มองสบสายตาของเขาอย่างจริงจังเพื่อตอกย้ำประโยคที่เธอเพิ่งพูดออกไป
“พอเถอะเอย อย่าพูดอะไรอีกเลย ผมไม่อยากให้เอยตื่นมาตอนเช้า แล้วเสียใจที่ตัวเองพูดอะไรออกไป”
“เอย...”
“พี่เอยครับ”
เสียงเรียกจากปากวิทยาตัดประโยคที่อริญกำลังจะพูด และเป็นเหมือนการตัดสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่
“ผมจะกลับแล้ว พี่เอยจะกลับด้วยกันเลยไหมครับ”
อริญไม่ตอบแต่หมุนตัวเดินกลับไปยังโต๊ะอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ชายหนุ่มทั้งสองเผชิญหน้ากันด้วยความอึดอัด ก่อนที่วิทยาจะทำลายมันด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
“พี่หมอจะกลับพร้อมกันเลยไหมครับ”
“ไม่ล่ะ พี่ว่าจะอยู่รอไอ้จุ๊ยมันหน่อย”
วิทยาพยักหน้ารับทราบ พร้อมกับทำท่าจะเดินจากไป แต่แล้วก็เปลี่ยนใจหันกลับมาพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา
“พี่เอยเจ็บมาพอแล้วนะพี่หมอ”
“อย่าพูดอะไรดีกว่ากอร์ฟ อย่างที่พี่บอกกับเอยน่ะแหละ อย่าพูดอะไรที่จะทำให้ตัวเองต้องเสียใจภายหลัง”
ชั่วขณะวิทยาทำเหมือนอยากจะโต้เถียง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของรุ่นพี่ วิทยาก็ตัดสินใจเดินจากไป เพราะเขาเองก็รู้ดีว่าอริญไม่ใช่คนเดียวที่เจ็บ
สัมมาอยากจะชกต่อยอะไรสักอย่าง อยากจะตะโกนใส่หน้าใครสักคน อยากจะทำให้คนอื่นเจ็บปวดกายเหมือนที่เขากำลังเจ็บปวดหัวใจ แต่เขาก็เลือกที่จะยืนนิ่งเงียบให้เวลาผ่านไป ให้ความมืดโอบล้อมเขาไว้ โดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนที่ยืนแอบมองมาเนิ่นนาน อย่างที่หลายคนรู้ดี ในคืนนี้มีหลายคนที่เจ็บ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เลือกจะไม่ทำร้ายคนอื่น
To be continue.
To be continue.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น