ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : คนรู้จักที่เคยคุ้น
ตอนที่ 3 คนรู้จักที่เคยคุ้น
“ยัยหึ่ง”
“ปึ๊ก”
ฉายาเก่าๆ มีผลมากกว่าที่อริญคิด เพราะแค่ได้ยินมันหลุดออกมาจากปากของอดีตตี๋หน้าหยก มือของเธอก็วิ่งเข้าใส่ลิ้นปี่อีกฝ่ายทันที ส่งให้คนที่พูดไม่คิดแถมยังลืมไปด้วยว่าอีกฝ่ายนอกจากฉายาหึ่งยังมีอีกฉายาที่เหล่าเพื่อนร่วมรุ่นและรุ่นน้องเรียกกันติดปากว่า เจ๊โหด
“เจ๊โหดทำไรอ่ะ”
สมเจตอุทานด้วยความประหลาดใจที่เห็นอดีตเจ๊ใหญ่ของกลุ่มมายืนอัดลูกพี่ของตัวเองอยู่ตรงหน้า แต่จากหางตารวมถึงที่สังเกตเห็นว่ากำปั้นที่เพิ่งสถิตบนร่างหมอสัมเบนมาทางตน ไอ้ตัวปากเปราะก็ถอยไปพ้นรัศมีมือทันที
“ก็ย้ายห้องมาน่ะสิ อาร์มมันไม่บอกเลยหรือไงว่าฉันย้ายวันนี้ ทำไมแกไม่คิดจะมาช่วยฉันซักหน่อยเลยเหอะไอ้จุ๊ย”
อริญบอกห้วนๆ เนื่องจากเหนื่อยจากการใช้แรงย้ายข้าวของ โชคดีที่เธอมีของใช้ไม่มากประกอบกับน้องชายและเพื่อนช่วยจัดเก็บอย่างว่องไว จนตอนนี้เหลือแค่แกะกล่องของใช้ส่วนตัวเข้าที่ ห้องใหม่ของเธอก็เรียบร้อยพร้อมใช้งานแล้ว
“ผมบอกมันแล้วพี่เอย แต่สงสัยแอลกอฮอลล์จะปิดประสาทหูมัน หรือไม่งั้นมันก็ไม่มีน้ำใจอยากจะช่วยพี่เอยแหงๆ เลย”
อรัญที่เพิ่งเสร็จจากการจัดเก็บของรีบแจกแจงเป็นเชิงฟ้องให้อริญฟัง สมเจตทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกออก อริญรู้ดีว่ามันแกล้งลืม เธอไม่อยากเอาเรื่องเพราะรู้นิสัยกันดีว่ามันขี้เกียจ แต่คนที่ติดใจจะเอาความดันเป็นสัมมา และจะเอาเรื่องอรัญแทน
“แต่มึงไม่ได้บอกกู ว่าพี่มึงย้ายมาอยู่นี่”
เพราะเห็นว่ารุ่นพี่โดนต่อยไปเต็มแรง แถมยังถามเสียงโหดอรัญเลยไม่แน่ใจว่าหมอสัมเคืองหรือเปล่า ที่อริญย้ายมาอยู่ใกล้ๆ จึงรีบหลบไปยืนหลังพี่สาวของตัวเองโดยอัตโนมัติ เพราะมั่นใจในฝีมือบวกฝีปากของคนเป็นพี่
“แล้วไงไอ้หมอ แกเป็นเจ้าของตึกหรือไง โทษทีนะชั้นรู้ช้าไปหน่อย เลยลืมจุดธูปบอกแกก่อนย้ายของเข้า”
อริญรู้ดีว่าสัมมาไม่ได้ต้องการต่อว่าจึงแกล้งถามจึงเหมือนหาเรื่องออกไป เช่นเดียวกับสัมมาไม่ได้โกรธเคืองอะไร แต่พอเห็นอดีตคู่กัดจึงอดแหย่กลับไม่ได้ ตามประสาคนปากไว
“ก็แค่คนมาอยู่ที่นี่ก่อน ว่าแต่แกเหอะ ไม่รู้หรือไงว่าตึกนี้เขาห้ามเลี้ยงสัตว์ หมาแมวจรจัดเขายังไม่ให้เข้าตึก หมาบ้านี่คงห้ามขาดเลย”
“จริงหรอ แล้วแกยัดเงินไปเท่าไหร่ล่ะ เขาถึงให้เข้าอยู่ได้”
“จบยกที่หนึ่ง”
เสียงระฆังรุ่นหมวดชาญพยายามขัดขึ้นมาแบบนุ่มๆ แต่มีหรือว่าสองคนที่กำลังปะทะฝีปากจะหันไปสนใจ
“ว่าไงไอ้หมอจ่ายไปเท่าไหร่ล่ะ แล้วต้องจ่ายค่าฉี่มุมตึกด้วยไหม”
“ก็ไม่เท่าไหร่หรอก จะให้ช่วยจ่ายไหมล่ะ จะได้ไปแจ้งด้วยว่านอกจากสุนัข ยังมีสกั๊งค์จอมหึ่งมาด้วย”
อะไรอริญก็ทนได้ยกเว้นฉายาหึ่งที่สัมมามอบให้ สมัยมอสามตอนที่เธอไปทำกิจกรรมเหงื่อซก เป็นเหตุให้กลิ่นตัววัยรุ่นที่เธอไม่รู้มาก่อนว่าแรงขนาดนั้น โชยออกมาให้เพื่อนร่วมรุ่นได้กลิ่น และที่ร้ายที่สุดก็ดันโชยไปเข้าจมูกคู่แค้นที่ปะฉะดะกันมาตั้งแต่มอหนึ่ง จนเป็นจุดอ่อนให้ตี๋ปากหมายกเอามาล้อเลียนจนถึงวันนี้
“ไอ้...”
“เอยมาแล้วหรอ ขนของมาเหนื่อยไหม มีอะไรให้ธัญญ่าช่วยหรือเปล่า”
ธัญญ์ชยาเดินออกมาจากห้องใหม่แบบไม่รู้เรื่องรู้ราว เธอทักทายคนมาใหม่ก่อนจะสังเกตเห็นการประจันหน้าของคนทั้งคู่
“เอยรู้จักกับสัมด้วยหรอ”
คนเชื่องช้าถามด้วยความประหลาดใจ แต่คนที่ตอบคำถามแทน กลับเป็นหมวดชาญที่อยู่ระหว่างกลั้นหัวเราะ
“ผมกับเอยรู้จักกันตั้งแต่เรียนมอต้น เอยเป็นพี่สาวไอ้อาร์ม เลยไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แต่เอยสนิทกับสัมมากกว่า”
เสียงชิ หลุดจากปากทั้งคู่พร้อมกัน เป็นจังหวะที่วิทยาแบกของขึ้นมา อรัญรีบไปช่วยเพื่อนยกทันที ทำให้วิทยาเสียจังหวะเซมาทางอริญ สัมมาดึงแขนหญิงสาวให้หลบด้วยท่าทางเหมือนปกป้อง ธัญญ์ชยามองยิ้มๆ ก่อนจะเอ่ยแซว
“คู่นี้เขาสนิทกันจริงๆ ด้วย”
และเป็นอีกครั้งที่คู่กัดทำสีหน้ารังเกียจอีกฝ่ายเหมือนๆ กัน จนชาญเดชกับธัญญ์ชยาอดที่จะหัวเราะขำไม่ได้
“อืม เขาทะเลาะกันดีกันมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ แต่พอเข้าเรียนมหาลัยฯ ก็เริ่มห่างๆ กันไป ว่าแต่ทำไมผมถึงไม่รู้ว่าเอยรู้จักกับธัญญ่าล่ะ”
“เอยเขาเพิ่งเข้ามาทำงานแทนตำแหน่งของน้องเปรี้ยวน่ะ จุ้ยก็เคยเจอ”
ธัญญ์ชยาตอบพร้อมกับหันไปทางสมเจตเป็นเชิงถาม ว่าทำไมไม่เล่าให้ตัวเองกับชาญเดชรู้ว่าอริญคุ้นเคยกับพวกหนุ่มๆ ทั้งหมดมาก่อน
“เซอร์ไพรไงพี่”
ไอ้ตัวแสบบอกเสียงใสแฝงแววตาระยิยระยับเป็นนัยไปทางสัมมา เพราะรู้ดีว่าอริญมีบางเรื่องที่ทำให้ต้องห่างๆ จากกลุ่มของตัวเอง หมอผ่าศพทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ชาญเดชเห็นแล้วคันมือขยับจะโบก แต่สมเจตหลบแบบว่องไว ก่อนจะรีบเบี่ยงประเด็นไปพึ่งธัญญ์ชยา
“ธัญญ่า ผมหิวจังเลย ไปหาอะไรกินกันเหอะ”
“ก็ดี มึงรีบลงไปหาอะไรกินเลยนะ พี่กำลังจะทำกับข้าวจะได้ไม่ต้องทำเผื่อ”
“ชาญล่ะก็ แกล้งจุ๊ยอีกแล้ว”
ธัญญ่าติงคนรักยิ้มๆ แต่เจ้าตัวแสบเบียดกระแซะเข้าหาแฟนของหมวดหนุ่มจนชิด ทำให้เฉียดโดนมือพิฆาต โชคดีที่มันไวจัดเลยหลบได้แบบฉิวเฉียดเช่นเคย ก่อนจะส่งเสียงออดอ้อนรุ่นพี่
“ผมฝากท้องด้วยคนไม่ได้หรอ ฝีมือร้านไหนหรือจะสู้ฝีมือพี่ชาญ”
“ได้ไงล่ะ อยู่กันครบพวกกูก็ต้องได้กินด้วยสิ”
วิทยารีบโวยวายตามประสาคนห่วงใยสวัสดิภาพกระเพาะ หมวดชาญแกล้งทำท่าไม่เต็มใจ แต่ธัญญ่าเป็นฝ่ายออกปากเอง
“ได้สิ มากินที่ห้องธัญญ่าก็ได้ เพิ่งไปซื้อของสดมา ถ้าไม่พอค่อยออกไปซื้อเพิ่ม เอยไปกินข้าวที่ห้องธัญญ่าด้วยกันนะ”
ท้ายประโยคธัญญ์ชยาที่กลัวว่าเพื่อนสาวจะเกรงใจ รีบตวัดสายตาไปทางหมวดชาญให้ช่วยรับลูกต่อ ซึ่งชายหนุ่มก็รู้งานเป็นอย่างดี
“นั้นสิเอย ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี มานั่งคุยกันยาวๆ ดีกว่า จริงไหมไอ้หมอ”
“ก็ดี งั้นกูไปซื้อพวกอาหารสำเร็จรูปมาเพิ่มให้เลยดีกว่า มึงได้ไม่ต้องเสียเวลาทำเยอะ เอยยังชอบพวกไก่ทอดเหมือนเดิมใช่ไหม หน้าปากซอยมีเจ้านึงอร่อย เดี๋ยวเราซื้อมาให้”
สัมมาเห็นด้วย เขาหันไปคุยกับอริญด้วยท่าทีคุ้นเคยชนิดที่คนรอบตัวปรับโหมดตามแทบไม่ทัน ยกเว้นคนที่ชินกับนิสัยของทั้งคู่ ว่าเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายต่อกันมาตั้งแต่ยังวัยรุ่น แต่เป็นเพื่อนสนิทที่รู้จักความชอบของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี
“เราไปด้วยดีกว่า ของขนมาจะเสร็จแล้ว จะได้ซื้อเหล้ามาให้พวกนี้ด้วยเป็นค่าแบกหาม ชั้นเลี้ยงแกก็ได้ไอ้จุ๊ย ค่าแนะนำห้อง”
ประโยคหลังอริญหันไปบอกสมเจต ที่แสร้งทำตาละห้อยเพราะกลัวไม่ได้กินด้วย เนื่องจากจำได้แต่แอบหลบไม่ได้ช่วยแบกสักนิด
“งั้นไปเลยเหอะ เอยเอากุญแจรถมาเราขับให้”
“นี่ยังไม่คิดจะถอยรถเป็นของเองอีกหรอ แกเนี่ยมันเหลือเกินจริงๆ รวยแล้วยังจะเกลืออีก”
ถึงจะบ่นแต่อริญก็ส่งกุญแจรถของตังเองให้คู่ปรับ สัมมายิ้มรับพร้อมกับแตะศอกเพื่อนเก่าเบาๆ ให้เดินไปด้วยกัน คนที่เหลือมองตามคนทั้งคู่ที่เดินห่างออกไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย บางคนรู้สึกดี ในขณะที่บางคนรู้สึกเจ็บแปลบแต่ไม่กล้าแสดงออก
To be continue.
To be continue.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น