คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 It's called happiness
ตอนที่ 4
It's called happiness
ในเวลาหลายชั่วโมงที่เครื่องบินของสายการบินKorean Airlineได้บินอยู่เหนือน่านฟ้า เพื่อข้ามเส้นขอบแดนไปยังอีกที่ๆหนึ่งที่น่าตื่นเต้น ตลอดทางที่ผมอยู่บนเครื่องนั้นแทบไม่ได้หลับเลย ผมมองไปยังหน้าต่าง ภาพเบื้องล่างของผมเห็นก้อนเมฆสีขาวที่ตอนนี้เริ่มบางลงๆ เป็นสัญญาณว่ากำลังใกล้พื้นโลกเข้าไปทุกทีๆ และแล้วผมก็เห็นยอดหลังคาของสนามบินนานาชาติปักกิ่งผม เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นแผ่นดินของประเทศอื่นซึ่งภายนอกไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากนัก ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นมากเลยครับ ผมตื่นเต้นที่ได้มาปักกิ่ง ตื่นเต้นที่ได้เรียนต่างประเทศ และที่ตื่นเต้นมากที่สุดคือโฮตส์ของผม ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้เค้าจะมารอรับผมหรือยัง แล้วเค้าจะรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอผมเหมือนที่ผมรู้สึกอยู่ตอนนี้รึป่าว
เครื่องบินได้ลงจอดที่Runwaysของสนามบิน ผมสะพายกระเป๋าแล้วลงจากเครื่องไปและเข้าGateในสนามบินไปรอรับกระเป๋า ระหว่างทาที่ผมกำลังเดินออกมา ผมพยายามสอดส่องหาโฮตส์ของผมไปด้วย ผมหยิบรูปจากในกระเป๋าเป้ขึ้นมาดูแล้วก็มองไปรอบๆว่ามาคนหน้าตาเหมือนคนในรูปบ้างมั้ย แล้วผมก็ไปสะดุดตากับคนๆหนึ่ง เค้ามีผมสีทอง เสื้อลายเปลวไฟแบบกราฟิกสีเหลืองดำ ใส่แว่นตาดำกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ ผมไม่แน่ใจว่าใช่รึป่าว เลยเดินเข้าไปหาดู
“….. ?? (สวัสดีครับ)”ผมทักทายเค้า แล้วเค้าก็หันมา เสร็จแล้วเค้าก็พูดอะไรกับโทรศัพท์ซักอย่างแล้วก็วางสายไป
“สวัสดี...ใช่ บยอน แบคฮยอนรึป่าว”
“ช...ใช่ครับ คุณพูดเกาหลีได้ด้วยเหรอครับ” ผมถามเค้าด้วยความสงสัย เค้าเป็นคนจีนไม่ใช่เหรอ ทำไมพูดเกาหลีชัดจัง
“ อืม ก็พูดได้นิดหน่อยอ่ะนะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ผมชื่อลู่หาน เรียกผมว่าลู่หานนะ ไม่ต้องเรียกว่าคุณหรอก เราอายุเท่ากัน” ลู่หานยื่นมือมาจับมือกับผมเหมือนเป็นการทักทาย
“อืม...”
ลู่หานเหรอ? เป็นผู้ชายที่น่ารักจัง หน้าตาของเค้าเหมือนผู้หญิงมากเลย ดวงตากลมโตเป็นประกาย แถมเค้ายังตัวสูงกว่าผมซะอีก เกือบจะ180cmได้มั้งนั่น
“มานี่ม่ะ เดี๋ยวผมช่วยถือของให้นะ” ลู่หานยิ้มให้ผมพร้อมกับเดินมาแทรกหว่างกลางระหว่างตัวผมกับรถเข็นกระเป๋าจากนั้นเค้าก็เข็นไปยังที่จอดรถภายในสนามบิน ผมเห็นรถสีขาวBMWจอดรออยู่แล้วก็มาคนเดินมาช่วยถือของจากลู่หานไปอีกที คนขับรถแหง=_= บ้านรวยนิหว่า เหมือนอีตาปาร์ค ชานยอลเลย ไม่ๆๆๆๆๆ>_< ต้องไม่คิดถึงเค้านะ เรามาอยู่ที่นี่แล้วเลิกคิดแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ซะ เข้าใจมั้ย!!
“...บยอน แบคฮยอน”
“ฮะ!!”
“เหม่ออะไรอยู่น่ะ ขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวไปกินข้าวเที่ยงกันแล้วค่อยกลับบ้านนะ ผมหิวอ่ะ^^”
“อ...อืม” ผมขึ้นรถของลู่หานไป ระหว่างทาง ลู่หานก็คุยอะไรกับคนขับรถก็ไม่รู้ ดูท่าทางร่าเริงมาก แน่นอนว่าผมแปลมันไม่ออกหรอก แต่ว่าผมก็พอรู้แหละว่านั่นน่าจะหมายถึงผม เพราะว่าหันมาทางผมหลายรอบมาก
ไม่นานก็มาถึงร้านอาหารจีนแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าอันใหญ่โต แล้วก็จัดแจงสั่งอาหารโดยที่ไม่ถามผมซักแอะว่าอยากจะกินอะไรมั้ย แต่ว่าถึงแม้ว่าจะถามไปผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะกินอะไร
“ดีใจมั้ยที่ได้มาเรียนที่ปักกิ่ง เดี๋ยวผมจะพาแบคฮยอนเที่ยวกำแพงเมืองจีนด้วยนะ แต่ต้องรอให้ผมเคลียร์เรื่องเรียนเสร็จก่อนแล้วผมจะพาไปนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างหนึ่งฉันก็มาในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนแล้วลู่หานก็เป็นโฮตส์ให้ฉันได้อยู่อาศัยด้วย แค่นี้ก็ดีมากแล้ว”
“อืมๆ ไม่เป็นไร ผมอยากจะเที่ยวอยู่แล้วด้วย แถมเรื่องเป็นโฮตส์อ่ะผมไม่ได้โดนยัดเยียดซักหน่อย ผมเต็มใจมาก ผมอยากจะเรียนภาษาเกาหลีเยอะๆ เพื่อซักวันผมจะได้เป็นนักร้องในค่ายSM Ent’ค่ายที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี^o^”
”ลู่หานอยากเป็นนักร้องเหรอ?”
“อืม ใช่แล้ว”
“งั้นก็เหมือนกันเลย ฉันก็อยากเป็นนักร้อง เลยมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่นี่ เพื่อจะได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง”
“ฮิฮิฮิ^^ พวกเรา2คนนี่เหมือนกันเลยเนอะ งั้นพรุ่งนี้ผมจะพาไปดูรอบๆโรงเรียน อยากบอกว่าที่นี่ไม่แพ้กับที่เกาหลีหรอกนะ มีพร้อมทุกอย่างที่ต้องการ”
“อืม ฉันตื่นเต้นมากเลย^^ อยากเห็นไวๆแล้วสิ”
ระหว่างที่เรา2คนกำลังพูดกันอยู่นั้น อาหารมากหน้าหลายตาก็ทะยอยกันมาเสิร์ฟ อาหารที่นี่อร่อยมาก เป็นรสชาดที่ผมไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน ถึงแม้ว่าผมจะเคยกินอาหารจีนที่เกาหลีหลายครั้งก็ตาม แต่รสชาดมันก็ไม่เหมือนกัน ลู่หานบอกว่าเป็นเพราะที่นี่เชฟที่ทำอาหารเป็นคนสืบทอดการทำอาหารจีนต้นตำหรับชาววังเพียงมีเพียงไม่กี่คนในประเทศที่เป็น ผมเลยถามเค้าว่ารู้ได้ไง คำตอบที่ได้มาคือ
‘ก็ผมเป็นลูกเจ้าของห้างนี่นา^^ ’
เงิบเลยครับ ลูกคนรวยเต็มๆเลย =_=
หลังจากที่กินข้าวเที่ยงกันเสร็จ ก็ได้เวลากลับบ้านไปเก็บข่าวเก็บของ ลู่หานบอกว่า ตอนนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้าน ไปทำงานที่ต่างประเทศดั้งนั้นเลยอยู่กับพี่ชายแค่ 2 คน บ้านของลู่หานเหมือนกับคอนโดใจกลางกรุงปักกิ่ง พวกเราขึ้นไปที่ชั้น52ของคอนโด ผมแทบจะไม่ต้องขนอะไรเข้าบ้านเลยเพราะว่ามีลูกน้องของลู่หานคอยช่วยถือของให้ทุกอย่าง ก็มีแต่กระเป๋าเป้ที่ใส่ของกะจุ๊กกะจิ๊กของผมใบเดียวนี่แหละ
ลู่หานจัดแจงเสียบคีย์การ์ดเข้าไปในช่องเสียบคีย์การ์ดแล้วประตูก็ปลดล็อคให้พวกเราเข้าไปได้ O0O!!! อัยย๋า....ทำไมบ้านลื้อใหญ่อย่างงี้อ่า ผมตะลึงมาเลยครับ ก้าวแรกที่ผมเข้าไปในบ้าน ผมก็เห็นอะไรที่อลังการมาก ข้างในเป็นคอนโดแบบ2ชั้น ตกแต่งเป็นโทนสีน้ำตาล-ขาวแล้วก็สีเบจดูเข้ากันมาก
“ข้างล่างนี่เป็นห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ แล้วก็ห้องครัวนะ ส่วนชั้นบนเป็นห้องนอน3ห้อง มีห้องน้ำในตัว เดี๋ยวผมจะพาขึ้นไปดูนะ”
“อืม แต่นี่บ้านนายลู่หานเหรอ สวยจัง…..”
“ที่นี่เป็นบ้านพักของผม บ้านจริงๆอยู่อีกที่นึงนอกเมือง ผมย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะว่าอยู่ใกล้ก็โรงเรียนน่ะ....ป่ะ ขึ้นไปข้างบนไปดูห้องกัน^^”
“อืม” ผมตามลู่หานขึ้นไปบนชั้น2 ห้องของผมอยู่ตรงกลางห้องนอนทั้ง3ห้อง ด้านขวามือเป็นห้องของลู่หาน ด้านซ้ายมือเป็นห้องของพี่ชายซึ่งตอนนี้ออกไปทำงานข้างนอก ผมเปิดปะตูเข้าไปในห้อง ผมก็พบกับสิ่งมหัสจรรย์อีกครั้ง ห้องนอนของผมตอนนี้มันเทียบเท่ากับห้องนอนที่บ้านผม10ห้องรวมกันได้ แถมห้องนี้2ด้านยังเป็นกระจกแบบสามารถมองเห็นวิวของกรุงปักกิ่งได้แบบ180องศา บอกตามตรงนะ ผมว่าเกิดใหม่ก็คงไม่มีบ้านแบบนี้แน่ แม่ครับT^Tผมอยากขอบคุณพระเจ้าจังเลยที่ทำให้ผมได้มาเจออะไรแบบนี้
“เอ้า!! นี่ชุดนักเรียนแบคฮยอนนะ” ลู่หานยื่นชุดนักเรียนให้ผม เป็นชุดสูทสีดำ เนคไทสีแดงดูเรียบหรู “แบคฮยอลต้องใส่มันพรุ่งนี้นะ เดี๋ยวเราไปโรงเรียนพร้อมกัน”
“อืม ขอบใจนะ เตรียมให้ฉันทุกอย่างเลย ประทับใจจัง^^”
“วันนี้ก็พักผ่อนซะนะ เหนื่อยมากแล้ว ผมไปล่ะ”
“อืม ขอบใจมากนะ ลู่หาน”
“^^”
วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขมากๆเลย ได้รับความรู้สึกดีๆและมีสิ่งตื่นตาตื่นใจมากมาย ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองยังไม่เคยรู้ ผมว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ดีนะครับ เค้าให้เกียรติผมมากเลย ดูแลเทคแคร์ผมอย่างดี ผมเริ่มหลงรักเมืองนี้เข้าให้แล้วล่ะ
เช้าวันต่อมาผมตื่นนอนแต่เช้า อาบน้ำ แปลงฟัน ใส่ชุดนักเรียนแล้วลงมาข้างล่าง เห็นลู่หานกำลังนั่งหลับกินข้าวเช้าอยู่ แต่ว่ายังอยู่ในชุดนอน ผมเลยเข้าไปทัก
“ลู่หาน...ทำไมมานั่งหลับอยู่ตรงนี้ ไปอาบน้ำแล้วค่อยมากินข้าวเช้าสิ”
“ฮืมมม...????????? (อยากกินข้าวเช้าก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยไปอาบน้ำ) ” ลู่หานพูดเป็นภาษาจีนด้วยสีหน้าที่งัวเงียมาก สงสัยพึ่งตื่นแหงๆ ผมเลยดึงแขนเค้าให้เข้าไปในห้องน้ำแล้วหยิบผ้าขนหนูกับชุดนักเรียนของลู่หานที่แม่บ้านน่าจะเข้ามาจัดเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เมื่อวานนี้เข้าไปในห้องน้ำแล้วก็จัดแจงผลักลู่หานเข้าไปข้างใน ดูท่าอิดออดของเจ้าตัวรู้เลยว่าเป็นคนที่ขี้เซามาก น่ารักจัง คิคิ^^ ผมนี่ท่าจะบ้า เห็นผู้ชายน่ารัก
ครึ่งชั่งโมงต่อมาลู่หานก็เดินออกมาจากห้องพร้อมกับชุดนักเรียนและกระเป๋าหนังสืออันดูดีมีราคา ลู่หานนั่งตรงข้ามผมแล้วก็นั่งมองหน้า =_=!! มองมาทำไมวะ กินข้าวไม่ลง
“อาหารเช้าอร่อยมั้ย” ลู่หานถามผมขณะที่ผมกำลังคีบเอาเต้าหู้ผัดพริกเข้าปาก
“อืม อร่อยมากเลย นี่เป็นอาหารจีนหมดเลยเหรอ”
“ใช่ ผมคิดตลอดเลยว่าถ้าแบคฮยอนมาอยู่กับผม ผมอยากจะพาไปกินอาหารจีนให้หมด พาไปเที่ยวทุกที่^^” ผมมองหน้าลู่หานที่ตอนนี้ยิ้มให้ผมจนตาปิด ตอนแรกผมคิดว่าผมมาอยู่ที่นี่ผมอาจจะรู้สึกคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ คิดถึงคยองซูและเพื่อนๆที่โรงเรียน แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้โฮสต์เป็นลู่หาน เค้าทำทุกอย่างเพื่อผมจนผมรู้สึกเกรงใจบ้างในบางครั้ง แต่เค้าก็ทำให้ผมรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่กับลู่หาน
พอพวกผมกินข้าวเช้ากันเสร็จก็ลงไปที่หน้าคอนโดที่ตอนนี้มีพนักงานขับรถและรถBMWสีขาวคันเดิมจอดรอผมอยู่ คนขับรถจัดแจงเปิดประตูรถให้ผมกันลู่หานและปิดมันอย่างนุ่มนวล รถได้เคลื่อนตัวออกจากคอนโด ระยะทางเพียงไม่กี่กิโลเมตรรถก็มาถึงหน้าโรงเรียนจนได้
ผมก้าวเท้าลงมาจากรถ ภาพที่ผมเห็นเบื้องหน้าคือโรงเรียนที่ถูกตกแต่งสไตล์ยุโรป มันดูดีและหรูหรามาก จนผมคิดว่าทำไมที่นี่ถึงได้ดูแตกต่างจากที่เกาหลีจัง ทั้งๆที่ก็เป็นโลกใบเดียวกัน แต่ว่าตั้งแต่ที่ผมเข้ามาเหยียบในแผ่นดินนี้ ผมยังไม่ได้ลิ้มลองความลำบากและสิ่งที่แลแล้วไม่น่ามองเลย ผมเห็นแต่สิ่งที่Perfect และไร้ที่ติ หรือจะเป็นเพร่าผมอยู่กับคนๆนี้
ผมเดินตาลู่หานเข้าไปในโรงเรียน นักเยนมากมายมองผมกับลู่หานเหมือนประมาณว่า ’ผมคือใคร...มาจากไหน...ทำไมไม่เคยเห็น...และที่สำคัญทำไมมากับลู่หาน’ ทำไมผมถึงรู้สึกอย่างงั้นนะ=_= ?
แก็ก!!
เสียงลู่หานเปิดตู้ล็อกเกอร์เพื่อนำของไปเก็นและนำของบางส่วนออกมาเรียน แต่ข้างในนั้นผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง
“อะไรอยู่ในล็อกเกอร์อ่ะ เยอะแยะเลย” ผมถาม
“อ้อ...นี่อ่ะเหรอ มันเป็นขนมกับพวกจดหมายรักน่ะ พวกผู้หญิงชอบเอามาใส่ไว้^^” อ้อ...เก็จและ แต่...
“ในนั้นดูเหมือนจะมีอาหารกำลังจะเน่าแล้วนะ ไม่เอาออกหน่อยเหรอ-_-?” นี่แหละครับคือประเด็น
“นั่นดิ หยุดเรียนเสาร์อาทิตย์ก็เลยลืมเอาออก^^” แล้วลู่หานก็หยิบกล่องข้าวทิ่งกำลังจะเน่าไปทิ้งในถังขยะแถวๆนั้น
ลู่หานพาผมไปหาคุณครูไปจำชั้นซึงลู่หานจะต้องแปลจีนเป็นเกาหลี แปลเกาหลีเป็นจีนให้คุณครูและผมฟัง กว่าจะคุยกันจบก็เข้าชั่วโมงโฮมรูมพอดี
G.3/1
ผมเดินเข้าไปในห้องเรียนพร้อมกับลู่หานและคุณครู สายตาของผมตอนี้จับจ้องไปที่ทุกคนในห้อง มีทั้งชายและหญิงปะปนกันไป ทุกคนต่างมองผมด้วยท่าทางที่ตื่นเต้น และผมรู้สึกตื่นเต้นกับพวกเค้าเช่นกัน
“??,?? Baekhyun ??????????? (สวัสดี ผมชื่อแบคฮยอน ยินดีที่ได้รู้จักครับ)” ผมแนะนำตัวเองเป็นภาษาจีนตามที่ลู่หานสอนผมเอาไว้เมื่อคืนแล้วก็โค้งคำนับให้กับทุกๆคน ทุกคนก็ปรบมือให้ผมเหมือนเป็นการต้อนรับและมีเสียงซุบซิบกันไปต่างๆนานา ผมอยากรู้จังว่าพวกเพื่อนๆของผมเค้าพูดอะไรกันอยู่ แทนที่จริงผมไม่ได้พูดภาษาจีนไม่ได้หรืออ่านไม่ออกหรอก ผมพูดได้นั่นแหละ แต่แค่ไม่เคยฟังคนพูดกันจริงๆ เลยแปลไม่ออก
คุณครูให้ผมไปนั่งที่ว่างที่อยู่ข้างหน้าของลู่หานข้างหน้าของผมเป็นผู้หญิงผมยาวสีดำ ผิวขาวน่าตาน่ารัก เธอหันมาส่งยิ้มให้ผมด้วยล่ะ ^^ ส่วนด้านซ้ายกับขวาก็เป็นผู้ชายหน้าตาก็ดูดีติดออกจะเถื่อนๆกันซักหน่อย ผมคิดว่าในห้องเรียนแห่งนี้ ผผมคงจะอยู่ได้อย่างราบรื่นนะ....
คาบแรกได้เริ่มขึ้น ที่นี่แบบเรียนเหมือนกับที่เกาหลีเลย คงจะแตกต่างกันตรงที่ภาษาอย่างเราล่ะมั้ง ดีนะที่ผมติดหนังสือเรียนทั้งหมดที่เกาหลีมาจีนด้วย เวลาที่คุณครูสอนผมก็จะเป็นหนังสือตามไปด้วย มันทำให้ผมรู้ว่าตอนนี้คุณครูกำลังสอนอะไรถึงที่ไหน
แก๊กๆ!!
ผมหันไปตามเสียงที่เคาะเก้าอี้ผมจากข้างหลัง เห็นลู่หานเอามือป้องปากและกระซิบเบาๆว่า
“เข้าใจที่ครูพูดมั้ย”
“เข้าใจ...” แล้วผมก็ชูหนังสือของฉบับเกาหลีให้ลู่หานดู
“..อ้อ..” ลู่หานทำหน้าตาเหมือนเข้าใจแล้วผมก็หันกลับไปที่เดิม
แก๊กๆๆ!!
ผมหันไปตามเสียงที่เคาะเก้าอี้ผมจากข้างหลังอีกครั้ง เห็นลู่หานเอามือป้องปากและกระซิบเบาๆเหมือนเดิมแล้วพูดว่า
“วันนี้ไปกินข้าวข้างนอกโรงอาหารด้วยกันนะ”
“เอ๋...? ทำไมไม่กินโรงอาหารล่ะ” ผมถามกลับ
“คนมันเยอะ อยากกิน2คน^^”
เอ๋....3_3” นี่ผมฟังผิดไปรึป่าวครับ นี่มันเป็นคำพูดที่ดูน่าขนลุกมากเลยนะ ลู่หานครับ ผมกลัวรู้มั้ย
การเรียนการสอนตอนเช้าได้จบลง เด็กผู้หญิงในห้องก็รีบเข้ามาคุยด้วยกับพวกผมและลู่หาน พวกเธอถามผมว่า ‘ มาปักกิ่งตั้งแต่เมื่อไหร่ ’ ‘ เธอชื่อว่าอะไรนะ ออกเสียงยังไง ’ อะไรประมาณนี้ แต่พวกเธอพูดเป็นภาษาอังกฤษนะ ไม่งั้นผมฟังไม่ออกหรอก
ผมมองหน้าลู่หานเป็นอันรู้กันว่าตอนนี้ผมต้องการอะไร
“ เอ่อ...เดี๋ยวผมขอตัวไปทานข้าวเที่ยงก่อนนะครับ” ลู่หานพูดเป็นภาษาจีนออกไป แล้วสะกิดผมให้ออกไปด้วย ผมเดินตามลู่หานออกมาข้างนอก เห็นมือขวาของเขากำลังถือถุงผ้าสีฟ้าอยู่
“นั่นอะไรอ่ะ...” ผมถาม
“อ๋อ...เนี่ยเหรอ ข้าวกล่องเมื่อเช้าน่ะ มีคนใส่ไว้ในล็อคเกอร์ เลยเอามากิน”
“จะดีเหรอ ใช่ของเราจริงๆรึป่าว”
“ใช่สิ มันมีมาให้มุกวันเลย”
“..O_o!!..”
“ปกติก็ไม่ได้กินมันหรอก แต่วันนี้อยากินข้างนอก เลยเอามาด้วย มากินกันเหอะ^^”
ลู่หานจับแขนของผมแล้วลากผมออกไปจากตึกเรียนมาที่ใต้ต้นไม้ข้างหลังตึก ผมขอเน้นย้ำนะว่าลาก เพราะว่าเค้าเดินเร็วมาก หิวขนาดนั้นเลยรึไงกันนะ
ผมคิดว่าการที่ผมได้อยู่ที่นี่ ผมมีความรู้สึกที่ดีกว่าอยู่ที่บ้านของตัวเองอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าจะไม่มีเพื่อน ไม่มีแม่คอยอยู่เคียงข้าง แต่ผมคิดว่าผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าผมนี้ จะเป็นได้ทุกอย่าง
' สำหรับผม '
________________________________________________________________________________________________
สวัดีคร้าาาาา จากที่ห่างหายไปนานมากกว่า 2 เดือน
อันนั้นเป็นเพราะว่า การเปิดเทอมเป็นมาร การบ้านที่ครูสั่งเยอะมากกก
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นเเรกนะคะ ขอโทษนะคะที่ให้รอนาน
ตอนนี้อัพเเล้ว ขอให้ยิ้มไปกันลู่หานนะคะ^^
#เผื่อคนที่นึกภาพคอนโดลู่หานไม่ออก
ออกมาเป็นเเบบนี้เเหละคะ น่าอยู่มากกกกก^o^
ความคิดเห็น