ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (EXO) Love with Alternative (Baekhyun x All)

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 Good Bye.

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 56


    ตอนที่ 3

    Good bye.



     

                            “แบค!! เร็วๆเข้าสิ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก”

                            “เสร็จแล้วแม่ เร่งจังเลย นี่ก็ยังเช้าอยู่เลยนะแม่” ผมมองดูนาฬิกาที่ตอนนี้บอกเวลาว่าเพิ่งจะ7โมงครึ่งเอง =_=!!

                            “ลูกเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวนะ มันก็ต้องไปถึงก่อนแขกสิ เวลาเพื่อนมีปัญหาอะไรจะได้จัดการได้” ผมเงยหน้าขึ้นมองแม่ของตัวเองที่ยืนเท้าเอวอยู่หน้าบ้านทันทีที่พูดจบ แหม๋...คำก็เพื่อน 2คำก็เพื่อน จะแทงใจดำกันไปไหนฟร้ะ >0<

                            “อ่ะเสร็จและ แค่ใส่รองเท้าแปปเดียวเอง” ผมเดินตามหลังแม่ออกจากบ้านแล้วขึ้นรถแท็กซี่ที่แม่โทรเรียกมา ตอนนี้ผมกำลังจะไปที่บ้านของปาร์คชานยอลครับ วันนี้เป็นงานหมั้นของเขา พูดตามตรงเลยนะ ว่าผมไม่อยากไป แต่ว่าถ้าไม่ติดว่า พ่อของชานยอลประธานบริษัทของแม่ผมให้ผมไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานหมั้นผมก็ไม่ไปมันหรอก เพราะว่าผมไม่อยากจะทนเห็นภาพแบบนั้น ผมไม่สามารถอธิบายได้ว่าผมรู้สึกแบบไหน แต่ที่รู้สึกได้คือผมเจ็บไปทั่วร่าง เหมือนมีเข็มเล่มเล็กๆนับล้านทิ่มแทงลงไปจนไม่เหลือเนื้อที่ พูดแล้วก็เหมือนเวอร์ แต่ผมรู้สึกอย่างงั้นจริงๆ....

                หลังจากวันนั้น วันที่แม่ของผมเอาการ์ดมาให้ ผมเลยตัดสินใจบอกแม่ว่าผมจะไปเป็นนักเรียนทุนเรียนที่ปักกิ่ง 1 ปี ตอนแรกแม่ผมก็ไม่ให้ แต่ผมก็เกลี้ยกล่อมจนแม่อนุญาต มีเวลาเตรียมตัวอีก 1 เดือน จะว่าสั้นก็สั้น จะว่ายาวก็ยาว แต่ผมวางแผนไว้แล้วว่า จะเอาเวลาที่เหลืออีก 1 เดือน อยู่กับแม่ กับเพื่อนให้มากที่สุด เพราะว่าถ้าผมกลับมาก็เรียนจบกันไปหมดแล้ว

               

                ณ คฤหาสตระกูลปาร์ค

                รอบๆสวนหน้าบ้านถูกตหแต่งไปด้วนดอกไม้ที่ถูกจัดแต่งอย่างดี ส่วนใหญ่แล้วจะมีแต่สีแดง สีขาว และสีชมพู รถแท็กซี่ที่ผมนั่งมาจอดที่หน้าบ้านของปาร์คชานยอล พวกเมดที่เคยเห็นกันมาก่อนหน้านี้แล้วก็มาเปิดประตูรถให้ผม เธอยิ้มให้แสดงว่ายังจำผมได้อยู่สินะ -_- ผมกับแม่เดินขึ้นไปบนบ้านแล้วมุ่งตรงไปยังห้องโถงใหญ่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ค่อยมีใครมามากนัก แต่ระหว่างทางที่เดินไปนั้นก็เห็นชานยอลกำลังยืนอยู่กับพ่อเขา แม่ของผมเลยเข้าไปทักทายเหมือนอย่างลูกจ้างคนหนึ่งเค้าทำกัน ผมก้มหัวให้ท่านเป็นการทักทาย1ที บอกตรง ผมไม่อยากจะเห็นหน้าท่านด้วยซ้ำ ไม่อยากแม้จะมาเหยียบที่นี่ให้เขาดูถูกอีก มันรู้สึกเสียศักย์ศรี ผมเงยหน้าขึ้นมามองชานยอลที่ตอนนี้ก็มองผมด้วยเช่นเดียวกัน เขาใส่ชุดทักซิโด้สีขาวสะอาดตา ผมที่ดูยุ่งเหยิงที่ผมเห็นเป็นประจำถูกจัดเซ็ตตัวขึ้นเป็นอย่างดี รู้สึกว่าหล่อมากกๆ -///- ตลอดระยะเวลา 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมไม่ได้เจอหน้าเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว จะว่าผมจงใจหลบหน้าก็ได้ และผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาอยากเจอผมมั้ย แต่ตอนนี้....พวกผมได้เจอกันแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นการพบกันที่ไม่สวยหรูก็ตาม

     

                 9.00 น.

                ตอนนี้ก็ถึงเวลาอันสมควรแล้ว แขกทุกคน พ่อของชานยอล แม่ของฮยอลอา ชานยอล รวมถึงพวกผมด้วย ก็มาถึงห้องโถงที่จัดงาน พิธีหมั้นก็ได้เริ่มต้นขึ้น ชานยอลนั่งอยู่ที่พื้นด้านล่าง ทำความเคารพแม่ฮยอลอา แทนที่จริงตรงนั้นควรเป็นแม่ผมนะ...TT หลังจากนั้นชานยอลก็ลุกขึ้นแล้วไปรับฮยอนอาจากประตูหน้าห้อง ฮยอนอาใส่ขุดเดรสสีขาวยาวที่ไม่ดุเวอร์จนเกินไปแต่ดูดีมากๆ วันนี้เธอแต่งหน้าอ่อนลงจนกลายเป็นสาวหวาน ไม่เหมือนกับที่ผมเจอเธอในช่วงแรกๆ พวกเขาทั้ง 2 นั่งลงข้างหน้าผม และข้างหน้าพ่อแม่ของพวกเขา รับแหวนแล้วแลกแหวนกันสวมใส่กันอย่างหน้าอิจฉา

                  “ผมจะรับเธอไว้เป็นคู่หมั้น และจะรักษาเธอในทางบริสุทธิ์จนกว่าจะถึงพิธีสมรสศักดิ์สิทธ์ครับ” ชานยอลให้คำหมั้นสัญญา

                            “ฉันก็จะรับเขาไว้เป็นคู่หมั้น และจะดูแลจนกว่าจะถึงพิธีสมรสศักดิ์สิทธ์เช่นกันค่ะ” ฮยอนอาให้คำหมั้นสัญญา

                ผมมอง2คนนี้ที่ให้สำหมั้นสัญญากันอย่างหน้าตาเฉย ทั้งๆที่พวกเขาก็ไม่ได้รักกันเลย ไม่สิ..!! ผมรู้สึกได้ และผมก็คิดว่าฮยอนอาก็ชอบชานยอลด้วยเหมือนกัน มันเลยทำไม่ให้เธอคัดค้านเรื่องงานหมั้นครั้งนี้ น้ำตาของผมตอนนี้เริ่มไหลขึ้นมาออกันอยู่ที่ขอบตาด้านล่างแล้ว ไม่รู้เป็นอะไรทั้งๆที่ข้างในใจผมรู้สึกชาไปหมด ไม่ได้เจ็บปวดมากมายเหมือนกับตอนรอวันเวลาจนถึงงานหมั้น ตอนนี้ผมคิดอย่างเดียวว่าผมอยากจะลุกขึ้นแล้วพังงานนี้มันให้หมด ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่งานหมั้น แต่ในอนาคตเขาต้องได้แต่งงานกันแน่ๆ แต่ผมก็ได้แต่เก็บการกระทำนั้นไว้

     

    .....และเก็บน้ำตาเอาไว้เหมือนเดิม.....

     

                เมื่องานหมั้นเสร็จสิ้นลง ผมกับแม่นั่งรถเบ้นซ์คันหรูที่ผมเคยนั่งกับชานยอลกลับบ้านตามคำสั่งของพ่อชานยอล ไม่สิ ผมคิดว่าเป็นของชานยอลมากกว่า เพราะว่าผมเห็น 2 พ่อลูกนี่เขม่งสายตากันอยู่ -_-++ ให้ตายเหอะ ผมไม่อยากรับส่วนบุญจากคนในครอบครัวนี้เลยจริงๆ

               

    1เดือน ผ่านไปไวเหมือนโกหก

    เวลา 7.00 น. ณ สนามบิน อินชอน

                “จะไปแล้วจริงดิT0T กูต้องคิดถึงมึงมากๆแน่ๆเลยอ่า” คยองซูร้องโอดครวญให้ผมฟัง ตอนนี้ผมยืนอยู่ที่หน้าเค้าเตอร์เชคอินแล้วครับ เชคอินแล้ว รอตรวจเอกสารเข้าเกทอย่างเดียว เพราะว่าผมมีเวลาอยู่อีกเยอะ เครื่องของผมออกตอน9.00 น.ครับ พูดแล้วก็ตื่นเต้น ในเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงในวันนี้ผมก็จะได้ไปเหยียบแผ่นดินจีนแล้ว อ่า.... อยากกินเป็ดปักกิ่งจัง^^

                “มึงก็อย่าเวอร์นัก Facebookก็มีโทรศัพท์ก็มี เดี๋ยวนี้คุยเห็นหน้ากันได้อีกตังหาก มึงจะเหงาอะไรว่ะ”

                “โหมึง แต่มันจับเนื้อต้องตัวไม่ได้นะเว้ย!!

                “=0=!!” เอิ่ม ตกลงมึงคิดอะไรป่ะเนี่ย

                “มึงอย่าคิดลึก มันก็ต้องมีกันบ้างดิวะ”

                “เออๆ กูรู้ว่าเมิงไม่คิด แล้วนี่มึงจะมาส่งทำไมวะ ไม่ไปโรงเรียนเหรอ ที่นี่มันไกลจากโรงเรียนมากเลยนะเว่ย”

                “แหม๋ กูก็เห็นว่ามึงไม่มีแม่ไม่มีเพื่อนมาส่ง กูเลยมาไง กลัวมึงน้อยใจ”

                “กูก็ไม่ใช่เด็กนะ กูไม่น้อยใจเพราะเรื่องแค่นี้หรอก แต่ก็ขอบใจนะเว่ยที่มา” ผมตบไปที่บ่าของคยองซูแล้วก็ล็อกคอมันเล่น ไอนี่มันก็น่ารักดีนะครับ มันเป็นเพื่อนที่เข้าใจผมที่สุดเลยล่ะ ผมชอบมันจัง=0=

                “ถ้ามึงอยู่คนเดียวได้งั้นกูไปและ เดี๋ยวต้องหารถไปโรงเรียนอีก ไกลก็ไกล ตอนแรกกูก็คิดอยู่นะว่ากูจะมาทำไมวะ”

                “อ่าว ไอเชี่ยนี่นิ-_-++

                “ล้อเล่น งั้นกูไปและ เดินทางดีๆนะมึง ถ้าถึงแล้วก็โทรบอกกูด้วย”

                “อืม ขอบใจมากมึง” ผมโบกมือให้คยองซูที่ตอนนี้รีบวิ่งไปที่ประตูทางออกเพื่อที่จะไปโรงเรียน ผมเดินที่จุดที่ขายของกิน ผมเดินตรงเข้าไปที่ร้านสตาร์บัคแล้วสั่งกาแฟอเมริกาโน่มานั่งกินค่าเวลาไปเรื่อยๆ ผมเอาจดหมายและรูปถ่ายของโฮ้สที่ต้องอยู่ด้วยขึ้นมาอ่าน แทนที่จริงผมได้รับจดหมายนี้มาซัก2-3วันแล้ว แต่ผมไม่มีเวลาเปิดอ่านก็เท่านั้นเอง รูปโฮ้สของผมตอนแรกที่ผมดูแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าเขาเป็นผู้ชาย เพราะว่าเขาสวยมากกกก ใบหน้าที่ขาวใส ผมสีน้ำตาลจนเกือบทอง ดวกตาที่กลมโต และริมฝีปากที่เป็นกระจับ สวยงามได้รูป ดูยังไงเขาก็สวยมากๆ  สวยมากๆจนผมรู้สึกเคลิ้มเลยทีเดียว=///=

     

    หมับ!!!!

    เหมือนมีใครบางคนจับข้อมือผมแล้วกระชากให้ผมลุกขึ้นแล้วหลุดจากภวังค์เมื่อกี้ไป แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะตามเขาไปนี่

                “นี่!! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ นายเป็นใครมาลากฉันเนี่ย” ชายคนนั้นไม่พูดอะไรและยังไม่เลิกลากผมไป ผมมองไม่เห็นหน้าเขา ผมเห็นแค่หลังของเขา เป็นผู้ชายที่น่าจะสูงซัก 185 เซนติเมตร ใส่เสื้อกันหนาวสีดำมีฮูท กางเกงยีนขายาวสีดำและรองเท้าผ้าใบของแวนสีแดง หรือว่าคนนี้ก็คือ......

                “ปาร์ค ชานยอล” ผมเรียกชื่อเขาออกไปทำให้ 2 เท้าของเขาหยุดลง แล้วผมก็หยุดตามเขาเช่นกัน “นายเป็นบ้าอะไรเนี่ย ลากฉันออกว่าทำไมกันฮะ!!

                “ก็นายนั่นแหละ จะไปทำไมไม่บอก นี่กะจะไม่ให้ฉันรู้เลยใช่มั้ย นายจะหนีฉันไปรึไง!!” ชานยอลพูดเสียงดังจนทำให้คนที่สนามบินที่อยู่รอบข้างผมหันมามองกัน ประมาณว่าเกิดอะไรขึ้น

                “แล้วทำไมฉันต้องบอกด้วยในเมื่อนายก็หมั้นไปแล้วมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับนายด้วย”

                “ใครว่ามันไม่สำคัญกัน คนที่ฉันรักกำลังจะไปโดยที่ฉันไม่รู้อะไรเลย นายคิดว่าฉันจะเป็นยังไง”

                “เป็นไงก็ช่าง แต่ฉันคิดว่านายควรกลับไป” ผมสะบัดมือของชานยอลออก แล้วหันหลังให้กับเขา แต่เขาก็ยังกระชากผมแล้วกวฃอดผมไว้แน่น แน่นจนผมหายใจไม่ออก “นี่! นายจะทำอะไร ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ กลับไปซะ”

                “ไม่ ฉันไม่ไป แล้วนายก็จะไม่ไปเหมือนกัน ดังนั้นนายอย่าไปเลยนะ...ฉันขอร้อง” ขอร้องตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้วชานยอล เพราะฉันตัดสินใจไปแล้ว แล้วผมก็ใช้แรงทั้งหมดผลักชานยอลออกไป

                “ชานยอล นี่มันเป็นโอกาสของฉันนะ ปล่อยให้ฉันไปมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิมเถอะ แล้วนายหลังจากการหมั้นครั้งจบลงไปแล้ว แต่นายอย่าลืมว่างานแต่งงานยังไงก็ต้องถูกจัดขึ้นหลังจากนี้ และแน่นอนว่านายไม่มีทางเลือก เรื่องของเราต่อจากนี้มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว ฉันขอโทษนะที่ฉันทำตามสัญญาที่เคยให้กันไว้ไม่ได้แล้ว ยอมรับความจริง...แล้วกลับไปซะ”

                “แบค...”

                “แล้วหลังจากนี้ก็เลิกติดต่อมาด้วยนะ เพราะฉันไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นมือที่3ของใคร” ผมหันหลังแล้วเดินจากไปโดยที่ผมไม่ได้ลาซักคำ ผมเองก็เสียใจเหมือนกัน ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ เมื่อกี้นี้มันทำให้ผมรู้แล้วว่าเขายังรักผมอยู่ แล้วก็รักมากด้วย แต่ผมไม่อยากเจ็บอีก ถ้าผมยังอยู่ที่นี่ต่อไป ถ้าผมจะต้องทำตามความรู้สึกของตัวเอง ผมคงอึดอัดมากที่ผมต้องคบกันไป โดยที่ผมไม่ได้ครอบครองมัน

                ตี๊ด!

                            ฉันรักนายนะ ฉันรู้ว่านายก็รักฉัน และฉันก็จะรักนายอย่างงี้ตลอดไปจนวันตาย ข้อความของชานยอลถูกส่งมายังโทรศัพท์ของผม มันเป็นข้อความที่ทำให้ผมน้ำตาไหลออกมาทันที ผมตัดสินใจลบข้อความนี้ทิ้งไปเพราะผมไม่อยากให้มันเป็นเครื่องยืดเหนี่ยวให้ผมจมปลักกันคำว่ารักของเขา ผมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ปักกิ่ง และผมเชื่อยว่ามันจะเป็นชีวิตที่ดีกว่าเดิม

     

    “ลาก่อนนะ ปาร์ค ชานยอล”

    ผมพูดพร้อมกับน้ำตา


    ___________________________________________________________________________________________________

    อันนยอง^0^
    ห่างหายกันไปนานมาก
    เเต่ยอดวิวไม่กระเตื้องเลยน้าาาT^T
    เศร้าใจจัง........
    ตอนนี้ เเบคฮยอนได้เริ่มตัดสินใจที่จะออกห่างจากชานยอลเเล้ว
    ต่อไปนี้เเหละคะ จะเป็นทางเลือกของเเท้
    อยากให้คู่กับใครบอกมาได้เลยนะคะ
    เพราะคนเเต่งเเต่งตามอารมณ์คะ555+
    คอยติดตามกันเรื่อยได้เลยนะคะ^^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×