คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 Date cruel.
ตอนที่ 2
Date cruel.
เสียงนกร้องตอนเช้า เสียงลมพัด และแสงแดดอุ่นๆยามเช้า มันเป็นอะไรที่โรแมนติกและอบอุ่นหัวใจ แต่มันไม่ใช่สำหรับผม ตอนนี้ผมไม่อยากลุกขึ้นไปเจอแสงแดดอะไรทั้งนั้น ผมอยากจะอยู่แบบนี้ อยู่ตรงนี้แล้วจริงๆ
ร่างเล็กนอนขดตัวอยู่บนที่นอน ผ้าห่มสีขาวคลุมเอาไว้ เพื่อปกปิดความขุ่นหม่นในตัว ความมืดที่เขาคิดว่าจะช่วยลบน้ำตาที่ไหลรินอย่างไม่หยุด แต่มันไม่ได่ช่วยอะไรเลย....
“ทำไมเป็นแบบนี้....” ผมพร่ำอยู่คนเดียวบนเตียง ตอนนี้ผมไม่รู้ว่ารู้สึกยังไง ผมรู้แต่เพียงว่า ชาและเจ็บไปหมด ไม่อยากลุกไปไหน ไม่อยากเจอใครทั้งนั้น แม้กระทั่งคนในครอบครัวของตัวเอง พอผมยิ่งคิดถึงเหตุการณ์วันนั้น น้ำตามันก็ยิ่งไหล ตั้งแต่เริ่มคบกันทุกวินาทีของผม หัวใจของผม ได้มอบให้กับเค้าหมดแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่า วันเป็นความรักที่เป็นไปไม่ได้ เราทั้ง2คนไม่อาจจะแต่งงานกันได้ แต่เราก็สัญญากันว่า ถึงแม้ว่าเราทั้ง2คนจะมีคำว่าเพศมาแบ่งกั้นระหว่างเราทั้ง2คนอยู่ แต่ก็ขออยู่มันอย่างนี้ตลอดไป จะไม่มีใคร และผมก็เชื่อมั่นอย่างนั้น แต่วันนั้น การตัดสินใจของเค้า มันทำให้ผม...หมดความเชื่อมั่นนั้นไปทันที...ถึงแม้ผมจะรู้ว่าที่ทำไปนั้นก็เพื่อผม เพื่อครอบครัวของผม เพื่อคนรอบข้าง ผมอยากจะทำใจตัวเอง แต่ผมก็ทำไม่ได้ ได้แต่ยอมรับความจริงไป ทำไมกันนะ ทำไมผมต้องเกิดมาเป็นผมแบบนี้ด้วย ถ้าผมเกิดเป็นผู้หญิงก็คงจะดีใช่มั้ย....
ปังๆๆๆ…..
“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว 7โมงแล้วนะ ทำไมยังไม่ตื่นอีก!!!” เสียงของแม่ดังเข้ามาในโสตประสาทหูของผม ผมรีบเด้งตัวขึ้นมาทันที
“กำลังจะอาบน้ำแล้วแม่OoO!!” ที่ผมต้องรีบลุกขึ้นาทั้งๆที่ไม่อยากตื่นไม่ใช่เพราะอะไรหรอก ผมไม่อยากให้แม่รู้นั่นเองว่าผมเป็นอะไร แม่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมคบกับชานยอล ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเลิกกันไปแล้วก็ตามT^T
“เร็วๆเข้า วันนี้วันจันทร์ แม่มีประชุมตอนเช้า”
“คร้าบบบ แม่” ผมรับคำแม่เสร็จแล้วรีบจัดแจงหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำทันที แปลงฟัน สระผม อาบน้ำอย่างรีบเร่ง แล้วก็ออกมาแต่งตัว เสร็จภายในครึ่งชั่วโมง ระหว่างทางที่ผมลงมาข้างล่าง ผมก็เห็นรูปของพ่อที่ตั้งอยู่ในห้องเล็กๆห้องหนึ่ง มันสามารถมองผ่านเข้าไปเห็นได้เลย ใบหน้าที่ดูหล่อเหลาของคนที่ยังหนุ่มอยู่ดูเข้ากับดอกไม้สีขาวของเเจกันที่ถูกเปลี่ยนทุกวัน ธูป1ดอกที่ปักไว้ตรงกลางที่เป็นสัญลักษณ์ของการทำความเคารพผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ผมเข้าไปในห้อง นั่งลงกันพื้นอย่างช้าๆ
“สวัสดีครับ คงสบายดีนะ ขอให้วันนี้เป็นวันที่มีความสุขอีกวันนะครับ^^” ผมยิ้มให้กับท่าน ถึงแม้ว่าตั้งแต่เกิดมาผมจะไม่เคยเห็นหน้าท่านเลยก็ตาม แต่ผมก็รู้สึกอบอุ่นเสมอ...
“เสร็จยังแบคฮยอน!!” แม่เรียกผมอีกครั้งนึง ผมก็รีบขานรับทันทีแล้วก็ลงไปข้างล่าง เห็นแม่กำลังจัดแจงข้าวของจะออกไปทำงานแล้ว
“วันนี้แม่มีประชุมเช้ามากเลยเหรอครับ” ผมถาม
“ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าวันนี้ประธานบริษัทแม่เค้าจะประชุมเรื่องงานหมั่นของลูกชายท่านน่ะ ต้องจัดแจงเรื่องงานและสถานที่ เลยให้แม่ไปเช้าหน่อย”
“ออ งั้นเหรอครับ” แม่ของผมเป็นพนักงานบริษัทของพ่อชานยอล ผมไม่รู้เหมือนกันนะว่าเรื่องที่พ่อชานยอลรู้ แม่จะรู้ด้วยรึป่าว ผมภาวนาให้ไม่รู้ละกัน
“...วันนี้ลูกเป็นไร ทำไมดูเนือยๆจัง ตั้งแต่เมื่อวานและ” แม่หยุดจัดเก็บข้าวของแล้วหันมามองผมเหมือนคนจับผิด
“ไม่มีไรครับ แค่อ่านหนังสือหนักไปหน่อย ทฤษฎีมันยากอ่ะครับ^^” ผมปั้นหน้ายิ้มเพื่อไม่ให้แม่ซักไซ้ต่อ และดูเหมือนท่านจะเชื่ออย่างงั้น
ไม่นานที่ผมออกจากบ้านมาพร้อมกับแม่ก็มาถึงที่โรงเรียน บอกตามตรงผมไม่อยากมาที่นี่เลย ผมไม่อยากจะเจอหน้า ’ใครบางคน’ ถึงแม้ว่าจะอยู่คนละตึกเรียน แต่สายตาของผมมันละจากเค้าไม่ได้ นั่นแหละ มันเป็นสิ่งที่ผม รู้สึกเจ็บปวดที่สุด....
ผมเดินตรงเขาห้องเรียนไป ก็เห็นคยองซูเพื่อนสนิทของผมกำลังเอากระเป๋าวางบนเก้าอี้พอดี แล้วมันก็หันหน้าควับมาหาผมทันที เอ่อ...=_=!! เมิงมองหน้ากูไมอย่างงั้นวะ
“มีไรจะบอกกูป่ะ” มันยิงคำถามเข้าหาผมทันที นี่ยังไม่ถึงโต๊ะเลยนะ มันถามมาและ มันรู้อะไรมาป่าววะ
“ก็ไม่มีนิ”
“แน่ใจนะว่าไม่มี-_-++” มันมองผมด้วยสายตาอย่างงั้นอีกและ
“แล้วเมิงต้องการอะไร” ผมถามมัน
“ต้องการรู้ความจริง เรื่องของเมิงอ่ะ” เรื่องของผม...?
“รู้ได้ไง”
“พี่ชายเมิงไง เมื่อวานเค้าโทรมาถามว่าเมิงอ่ะเป็นไร กูก็มีรู้เหมือนกันก็เลยมาถามเนี่ย เผื่อมีไรอยากจะบอก” คำพูดห้วนๆของคนเป็นเพื่อน ถึงแม้ว่ามันจะไม่หวาน ไม่แสดงความเป็นห่วงมากนักแต่ผมรู้สึกได้ครับ ว่ามันเป็นยังไง.... ผมลากคยองซูออกมาที่สวนหลังโรงเรียน จากนั้นผมก็พรั่งพลูน้ำตาออกมาหมดเลย ผมเก็บนะครับ ผมเก็บน้ำตานี้ไม่ให้ใครเห็นมานานมาก ผมเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้คยองซูฟั มันถึงกับเงียบไปเลย ได้แต่กอดผมอยู่อย่างงั้นไม่พูดอะไรออกมาซักคำ และผมก็รู้อีกแหละครับว่ามันเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ ไม่รู้จะพูดยังไงให้ผมสบายใจ แต่แค่อ้อมกอดนี้ ผมก็สำผัสถึงความรู้สึกได้ครับ
“ขอบใจนะ คยองซู...”
เข้าชั่วโมงเรียนแรกเป็นวิชาปฏิบัติการร้องเพลง เป็นวิชาที่ผมถนัดที่สุด และทำได้ดีที่สุด ไม่สิ อาจจะไม่ดีที่สุดก็ได้ เพราะผมกับคยองซูทำได้ดีพอๆกัน กินกันไม่ลงเลยทีเดียว เพราะเสียงของผมและคยองซูมันคนละแนวเลยเปรียบเทียบกันไม่ได้
“เอาล่ะทุกคนมันนี้คุณครูมีเรื่องมาแจ้งให้ทุกคนฟังนะ โรงเรียนพันธมิตรของเราที่ประเทศจีนกับประเทศของเราได้มีการจัดการประชุมและทำการตกลงไว้ว่าจะส่งเด็กนักเรียนในคลาสของเรา1คนไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเป็นระยะเวลา1ปี จนจบการศึกษา ทุกอย่างฟรีหมด แล้วคนที่ได้รับเลือกให้ไปนั้นก็คือ เธอ...บยอน แบคอยอน ^^” คุณครูแทยอนชี้มาทางผม ทำเอาผมอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง ทำไมเป็นผมอ่ะ...?
“ทำไมเป็นผมอ่ะ ทำไมไปแค่คนเดียวเอง”
“เพราะว่าเธอมีผมการเรียนทางด้านภาษาเป็นอันดับ1น่ะสิ”
“........ผมขอคิดดูก่อนนะครับ ว่าจะไปมั้ย”
“ได้สิ แล้วแต่เธอเลย”
ไปเมืองจีนเหรอ มันเป็นอะไรที่ดีนะผมว่า แต่มันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้สิ ผมมองหน้าคยองซูเพื่อนของผมที่ยืนอยู่ข้างๆ
“มองทำไมเหรอ ดีแล้วที่ได้ไปนะ ถ้าเป็นกู กูจะไป โอกาสแบบนี้หาได้ที่ไหน” คยองซูพูดพลางตบที่บ่าของผมเบาๆ นั่นสิเนอะโอกาสแบบนี้หาได้ที่ไหนกัน แต่ว่า.....
“กูกลัวไม่มีเพื่อนว่ะ กูเก่งภาษาก็จริง แต่ว่าไม่เคยใช้จริงซักครั้งเลยนะเว้ย”
“เรื่องแค่นี้มันจิ๊บๆเว้ย กูเชื่อว่าเมิงทำได้ หรือว่าเมิงยังมีอะไรอยู่” มีอะไร...?
“ก็ป่าวนิ เมิงจะให้กูมีไรวะ-o-++”
“ก็ป๊าว ไม่มีไร” ผมชักไม่แน่ใจและว่าไอนี่มันคิดอะไรของมันอยู่ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นโอกาสที่ฟ้าประทานมาให้ผมฟรีๆ แต่ผมก็ยังไม่อยากไป ไม่รู้นะว่าเพราะอะไร แต่มันรู้สึกอย่างงั้น
12.00 เวลาพักเที่ยง
“วันนี้ที่โรงอาหารคนเยอะจัง” คยองซูพูดขึ้นมา ตอนนี้พวกผมมายืนอยู่หน้าประตูทางเข้าโรงอาหารครับ แต่ว่าปกติมันก็ไม่ได้เยอะมากมายอะไรขนาดนี้นะ
“นั่นดิ ทำไมเยอะวะ-o-!!” ผมว่า ผมกับคยองซูเลยเดินเข้าไปใกล้ๆ เห็นเป็นคนมุงอยู่ที่บอร์ดประกาศข้างกำแพงโรงอาหาร ด้วยความที่ผมกับคยองซูมันเตี้ยมันเลยมองไม่เห็น T^T
“อยากรู้อ่ะว่ามุงอะไรกัน” คยองซูพูด
“นั่นดิ อยากรู้เหมือนกัน” แล้วพวกผมก็แทรกๆกันเข้าไป จนไปถึงด้านหน้าสุดแล้วผมก็เห็น กระดาษประกาศแผ่นนั้น.....
‘ มันเป็นประกาศที่ผมไม่อยากจะเห็นมัน...มากที่สุด ‘
“แบค...” คยองซูวางมือบนบ่าของผม และมองหน้าผมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล แต่ผมไม่เป็นไรแล้วแหละ ตอนนี้ก็พอเข้าใจมันแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ จะเศร้าเสียใจไปก็เท่านั้น ในเมื่อฟ้ามันลิขิตมาให้เป็นแบบนี้ ผมก็จะไม่ขอขัดมัน ผมจับมาของคยองซูแล้วเอาออกจากบ่าของผม ผมยิ้มให้แต่ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ เป็นที่รู้กันว่าผมนั้นไม่เป็นไร ผมเดินออกมาจากกลุ่มตรงนั้น แต่ผมก็ต้องมาเจอกับ...
“ชานยอล...” ผมพูดชื่อนั้นออกมาโดยอัตโนมัติ ทั้งๆที่ผมไม่ได้อยากจะพูดชื่อนี้ออกมาเลย เสียงในโรงอาหารเริ่มดังขึ้นเหมือนเจอแจ็คพอทใหญ่ ผมรูว่าตอนนี้พวกเค้ากำลังคิดอะไรอยู่ที่ชานยอลมายืนอยู่ตรงหน้าผม
“นาย......” ชานยอลมองผมด้วยสีหน้าที่ผมไม่อยากจะมองมัน ผมเลยหันหน้ามองไปทางอื่นทันที
“..........”
“เห็นมันแล้วเหรอ....” เสียงอันแผ้วเบาได้ถามผม ผมควรจะตอบมันยังไงดีล่ะ เห็น หรือ ไม่เห็นดี
“...อืม...” ผมได้แต่พยักหน้าเท่านั้นแหละครับ ตอนนี้ผมไม่อยากจะออกสัยงอะไรออกมาทั้งนั้น พยายามกำลังจะเก็บน้ำตาอยู่ T^T แต่ก็ต้องชงักไปเมื่อมีใครอีกคนหนึ่งตามหลังชานยอลมา แต่เธอไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนของที่นี่ และไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนของที่ไหน เธอใส่ชุดไปรเวทเป็นชุดเดรสสั้นดูสง่างามมาก
“ไง แบคฮยอน เจอกันอีกแล้วนะ^^” ฮยอนอายิ้มให้ผม ถึงจะรู้ว่ามันเสแสร้งก็ตาม=_=!!
“อืม เจอกันอีกแล้วนะ แล้วเธอมาที่นี่มีอะไรรึป่าว” ผมถามไป แทนที่จริงก็ไม่ได้อยากถามอะไรหรอก แต่ว่ามันเป็นมารยาท
“ฉันมีอยากจะเอาไอนี่มาให้เธอน่ะ เห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทของชานยอล เลยคิดว่าถ้าเอามาให้ด้วยตัวเองจะดีกว่า” พอพูดจบเธอก็ยื่นการ์ดมาให้ผม เป็นการ์ดสีชมพูอ่อนๆ จ่าหน้าซองถึงผม ผมเลยจะเอาการ์ดข้างในออกมาดู
หมับ!!!!
ชานยอลจับที่มือของผม ผมเลยเงยหน้าขึ้นไปมอง ใบหน้าแลดูเคืองอยู่นิดๆ ประมาณว่าไม่ให้เปิด แต่ผมก็ยิ้มให้เค้า ชานยอลเริ่มคลายมือทำให้ผมดึงการ์ดออกมาดูง่ายขึ้น
ปาร์ค ชานยอล © คิม ฮยอนอา
วันที่ xx เดือน xx ปี 20xx
อีก1อาทิตย์เหรอ ไวจัง ผมเห็นมันอย่างงั้น แต่ตอนนี้ ผมก็ปรงแล้วแหละ.....
“แล้วฉันจะไปละกัน^^” ผมพูดแล้วก็เก็บการ์ดนั้นเข้ากระเป๋าเสื้อนอกไป
“เธอคงจะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวล่ะสินะ แต่งตัวให้หล่อๆล่ะ^^”
“อืม” ผมรับคำ แล้วจากนั้นชานยอลก็ถูกฮยอนอาลากออกจากตรงนั้นไป ทำไมผมถึงได้ปากไม่ตรงกับใจนักนะ ใจไม่อยาก แต่ปากบอกว่าจะไป ท่าจะบ้าไปซะและ-_-!!
หลังจากตอนนั้นผมกับคยองซูก็ไม่ได้กินข้าวเที่ยงกัน เหตุเพราะไม่มีอารมณ์จะกินนั่นเอง เจอเข้าไปขนาดนั้น ใครกินลงก็บ้าแล้วนะผมว่า แต่ระหว่างทางผมก็โดนคยองซูสวดยับไม่เลิกเหมือนกับ มันว่าผมโง่บ้างล่ะ บ้าบ้างล่ะ ปัญญาอ่อนบ้างล่ะ สรุปคือ ผมก็เป็นแบบที่มันบอกมาทั้งหมดนั่นนั่นแหละ-_-!! จะให้ทำไงได้ ผมพยายามเก็บอารมณ์ให้มากที่สุดแล้วนะ แต่มันพูดออกไปแล้วอ่ะ แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
“เอาเป็นว่า กูทนมันได้แล้วกันที่จะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว แล้ววันนั้นมันจะเป็นวันสุดท้ายแล้วที่กูจะเจอกับเค้า” ผมหันไปพูดก่อนจะเข้าห้อง หลังจากที่มันว่าผมมาตลอดทาง
“สาธุ!!! ขอให้มันทนได้จริงๆเถอะวะไอ้ถึก>o<”
“-o-“ ไอ้ถึก...?
ตอนเย็นผมก็กลับบ้านตามเวลาปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ ผมกลับแค่คนเดียว ไอ้คยองซูวันนี้มันมีนัดกับแม่ไปกินข้าวเย็นด้วยกัน พอถึงบ้านผมก็จะเอากุญแจไขประตูเข้าบ้าน แต่ดูเหมือนว่าประตูมันเปิดอยู่แล้ว สงสัยแม่จะกลับมาแล้ว
“แม่คร้าบบบบบบ วันนี้หิวจัง ทำข้าวเย็นให้ผมหน่อยสิ-o-“ ผมวิ่งเข้าไปในห้องนั่งแล่นแล้วกอดแม่จากด้านหลัง กลิ่นแม่นี่หอมจัง-///-
“วันนี้กลับมาเร็วจัง เดี๋ยววันนี้ออกไปกินข้าวข้างนอกกัน ไปตัดชุดให้ลูกด้วย”
“ชุดอะไรอ่ะแม่ -o-“
“งานหมั่นลูกท่านประทานไง ลูกเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเค้านิ ท่านประทานบอกแม่มา”
“OoO!!” พ่อชานยอลบอกแม่เหรอ “เอ่อ....แม่เค้าได้พูดอะไรต่อจากนั้นมั้ย”
“ไม่นิ เค้าบอกว่าลูกรู้แล้ว เลยบอกแม่มาแค่นี้ แต่ว่าลูกกับลูกชายท่านประทานไปสนิทกันตอนไหน แม่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“เอ่อ...ที่โรงเรียนน่ะแม่ แฮะๆๆ^^”
“เหรอ ทีหน้าทีหลังก็หัดแนะนำให้แม่รู้จักบ้างนะ นึกว่ามีแต่คยองซูคนเดียว” แม่ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วจับหัวผมโยกไปโยกมาเหมือนหมา
“คร้าบบบบ แม่” ดีนะที่รู้แค่นี้-_-!!
รู้สึกว่าวันนี้ จะซวยทั้งวันเลยเว้ย
ทำร้ายจิตใจกูกันจริงงงงงงงง
>o<
__________________________________________________________________________________________________
อัพตอนที่2เเล้วนะจ๊ะ ดูเหมือนว่าเรื่องมันช้าจัง ตอนละวันเอง-o-!!
ตอนที่กำลังเขียนตอนนี้อยู่ อยู่ดีๆไฟก็ดับเฉยเลย เเบบว่านอยส์มากอ่ะ
เเต่โชคดีที่เครื่องมันเซฟอัตโนมัติ รอดไปๆ "-_-
ตอนนี้ยอดViewเป็น50คนเเละ ดีใจมากเลย^^
ถึงเเม้ว่าเนื้อเรื่องตอนนี้มันยังน้อยๆอยู่ เเต่รับว่าต่อไปได้ฟินกันตัวงอเเน่ๆจร้าาาาา
ขอบคุณมากๆนะสำหรับ50คนเเรกที่เข้ามาดู ขอบคุณจากใจเลย^o^
ความคิดเห็น