ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พนมเป็ญนครรัก(Phnom Phen love story)

    ลำดับตอนที่ #1 : บ้านใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 51


    รานดกำลังเดินตามหลังผู้หญิงคนหนึ่งในบ้านใหญ่หลังหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นคือคุณครูดาณีเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ ไปถึงห้องข้างในก็เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งท่าทางไม่ค่อยสบายใจเท่าไรเดินไปชั้นบนอย่างเร็ว....
    อ่ะ...วีลูก นี้รานดนะลูก​​​ ครูดาณีพูดพร้อมหันมาดูรานด   เขาจะมาอยู่กับเรานะลูก
                    วีหันมามองรานดโดยหน้าเครียด แล้วก็หันกลับไปโดยไม่พูดสักคำ แล้วเดินขึ้นบันไดอย่างเร็ว เห็นอย่างงั้นครูดาณีหันมาดูรานดทำหน้าเศร้า 
                    ไม่ต้องไปสนเขาหรอกนะ เขาคงทะเลาะกับพ่อเขาอีกแล้ว  
                    ครับ 
    รานดทำหน้างงเหมือนกันกับท่าทางของลูกเจ้าของบ้าน แต่เขาก็ไม่อยากสนอะไรมากได้แต่คิดว่าลูกคนรวยคือเป็นแบบนี้และ                
    อ่ะ..ห้องนี้และค่ะ ดูไปก็ไม่ค่อยใหญ่เท่าไรหรอกนะค่ะ​​​​ ผู้หญิงคนนั้นพูดกับรอยยิ้ม ขณะเปิดประตู้ห้อง
    ไม่เป็นไรครับ   ผมอยู่ที่ไหนก็ได้
                    อืม..เอาของไปเก็บไว้ก่อนนะ ป้าซอยค่ะ
                    ค่ะ มีอะไรเหรอค่ะ ผู้หญิงกลางคนเดินมาอย่างเร็วในชุดสีขาว
                    นี่ป้ารานดเขาจะมาอยู่กับเรา ป้าซอยช่วยดูรานดด้วยนะ บอกเขาว่าจะทำอะไรบ้าง เดียวฉันไปข้างก่อนนะค่ะ
    สวัสดีครับป้า   รานดยกมือไหว้
    ค่ะ ๆ สวัสดี เดินทางเหนื่อยแล้วใช่ไหมค่ะ เดียวอาบน้ำอาบท่าก่อนนะจะ นั่นห้องน้ำในห้องก็มี
    ครับ     ป้าซอยก็เดินออกจากห้อง
     รานดวางกระเป๋าใบใหญ่ของเขาแล้วก็เปิดเอาเสื้อผ้าออกมาจัดรียงไว้ในตู้เสื้อผ้าที่ได้จัดไว้อย่างดี   เขาเป็นคนนิสัยดี หน้าตาน่ารัก ผิวไม่ค่อยขาวเท่าไรแต่ก็พอดูดีกับหุ่นดีมีกล้ามเนื้อพอดูดี  เขาเป็นลูกชาวนายากจนคนหนึ่งที่พึ่งจบ ม.6 มา ปีนี้เขาต้องมาเรียนที่มหาวิทยาลัย   ด้านการโรงแรม เขามีน้องชายอีกหนึ่งคน ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ ม.4 และพ่อคนหนึ่งอายุ 50ปีแล้ว รานดไม่เคยเห็นหน้าแม่ของเขาเลยสักครั้ง มีแต่รูปถ่ายเก่า ๆ พ่อของเขาบอกว่าแม่ของเขาตายตั้งแต่เขาอายุได้หนึ่งปี แต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมแม่เขาตายเพราะอะไรแต่เขาก็ไม่คิดอะไรมากคิดแค่ว่าแม่ไปสบายแล้ว เขาเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ไม่น้อยใจกับชีวิตตัวเองแม้แต่เป็นคนยากจนเขาก็ยังมีความสุขกับชีวิตของเขา สิ่งที่มีค่าที่สุดของเขาก็มีแต่พ่อและน้องชายของเขาเท่านั้นเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อพ่อและน้องชายของเขา ความสุขและความรักทุกอย่างที่เขาได้รับจากพ่อและน้องชายมาทำให้เขารู้สึกว่ามันเพียงพอแล้วที่เป็นสาเหตุให้เขาไม่เคยมีแฟนเลยสักครั้ง แต่เขาก็ไม่รู้สึกว่าเหงาและก็ไม่ต้องการมันด้วย ความฝันของเขาก็คืออยากให้พ่อและน้องอยู่อย่างสบายเหมือนคนทั่วไปได้เรียนสูง ๆ เหมือนคนอื่น ถ้าตามความเป็นอยู่ของครอบครัวเขาคงจะไม่สามารถมาเรียนถึงมหาฯลัยได้   แต่ตอนจบ ม.6 เขาได้สอบชิงทุนการศึกษาได้จากกลุ่มนักธุรกิจด้านการโรงแรม ที่เป็นบริษัทที่ใหญ่มีโรมแรมหลายสาขาทั่วเอเชีย ที่จริงเขาต้องไปเรียนที่ประเทศไทย แต่โดยการห่วงพ่อและน้อง   เขาจึงขอเรียนที่บ้านเกิดที่กัมพูชาในเมืองพนมเป็ญ   ตอนแรกบริษัทผู้ให้ทุนจะให้ไปพักอยู่โรงเรียนแต่โดยปีนี้หอพักในโรงเรียนไม่เหลือห้องว่าง เขาก็เลยให้เขามาพักที่บ้านอาจารย์ดาณาที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษานักเรียนทุน
    รานดอาบน้ำเสร็จแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า   ก็มีเสียงเคาะประตู้ขึ้นมา
    เสร็จหรือยังนด
    อ่ะ... เสร็จแล้วครับ
    ดีและ เดียวเดินตามป้ามานะ
    ครับ
    ป้าซอยเดินพารานดดูทั่วบ้านและให้รู้จักห้องทุกห้องในบ้านอันใหญ่ของอาจารย์ดาณา มันก็คงเป็นที่แปลกตาสำหรับคนยากจนอย่างรานดนี้ เขาก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มาอยู่บ้านหลังใหญ่แบบนี้ แต่ระหว่างบ้านหรูหราหลังใหญ่กับบ้านเก่า ๆ เล็ก ๆ ที่ไหนจะได้รับความสุขกว่ากันระหว่างลูกชาวนายากจนกับลูกนักธุรกิจที่ร่ำรวยอย่างครอบครัวนี้
    อาจาร์คาณาจะให้นดไปกินข้าวร่วมโต๊ะกันกับครอบครัวของเขา ป้าซอยพูดอย่างไม่ค่อยสบายใจ
    แต่ป้าคิดว่านดมากินในครัวกับป้าดีกว่าไหม
    ทำไมหรือครับป้า รานดถามออกอาการแบบงง
    “อืม..... ป้าไม่อยากพูดเรื่องของครอบครัวของเขาหรอกนะ เอาเป็นว่านดค่อยดูเองแล้วกันนะ”
    “ครับป้า ผมกินที่ไหนก็ได้ครับ”
    “อืม งั้นไปกินกับป้าที่โรงครัวแล้วกันนะ ป้าจะได้มีเพื่อนคุยด้วยนะค่ะ”
    “ครับ”
    ที่ห้องของวีอาจารย์ดาณากำลังคุยกับลูกอย่างไม่สบายใจ...............
    “เป็นไง ทะเลาะกับเองอีกแล้วหรือ” วีไม่ตอบ
    “อย่าทำแบบนี้สิลูกยังไงเขาก็เป็นพ่อนะ พูดอะไรเกร็งใจที่ท่านบ้างนะลูก”
    “แม่...”   วีพูดอย่างเบื่อ ๆ      “แม่ก็รู้ว่าพ่อเป็นคนยังไง” 
    “วิธีที่ดีก็อย่าเถียงกับท่านนะลูก เดียงท่านก็เข้าใจเอง”
    “แล้วพ่อเป็นคนมีเหตุผลที่ไหนละแม่...... ทำอะไรก็ตามใจตัวเองหมด ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของใครเลย”
    “อืม... ครูดาณาไม่พูด”
    “แม่ครับ.... “ วีเห็นแม่หน้าเศร้าก็เลยปลอบใจแม่   “ไม่ต้องห่วงหรอกแม่ ผมไม่เป็นไรหรอก เดียงพ่อก็กลับเกาหลีแล้ว เรื่องทุกอย่างมันก็ดีขึ้นเองและแม่”
    “ไม่ให้แม่ห่วงยังไงอะวี”   อาจารย์ดาณาพูดมีอาการจะร้องให้
    “แม่ทนเห็นพ่อกับเองไม่ยอมกันได้ไงฮะ ดูครอบครัวเขาสิลูก เขามีแต่ความสุขเวลาอยู่ด้วยกัน แต่ครอบครัวของเราทำไมต้องเป็นแบบนี้ละ”
    “ขอโทษครับแม่ ลูกสัญญาว่าจะทำให้ดีกว่านี้ให้ได้” วีปลอบใจแม่
    “อืม....” พูดแค่นี้ครูดาณาก็ออกจากห้องของวีลูกชายคนเดียว
    วีเอ็นหลังไปบนที่นอนแล้วถอนหายใจแสดงถึงการมีความเศร้าในใจที่ไม่สามารถบอกใครได้ วีเป็นคนหน้าตาดี ชอบแต่งตัวแบบเกาหลีแต่จะเป็นคนที่ไม่ชอบที่พูดมาก ไม่ชอบยิ้ม แล้วก็ไม่ชอบคุยกับใครนอกจากแม่และเพื่อนสนิทอีกคนก็คืออยาที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เขาเรียนด้วยกันตั้งแต่อนุบาลจนถึงจบ ม.6 พูดได้ว่าสนิทกันมาก คนที่วีจะส่งยิ้มให้มีแค่สองคนนี้และก็คือแม่และอยา นอกจากนั้นถ้าไม่จำเป็นวีไม่เคยยิ้มให้ใครทั้งนั้น ปีนี้อยาได้สอบเข้าคณะมนุษย์ศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยของรัฐบาล ส่วนวีได้มาเรียนที่โรงเรียนเอกชนชื่อดังด้านบริหารธุรกิจ วีไม่ชอบด้านนี้เลยแต่นี้ถูกพ่อบังคับให้เรียนเพราะพ่อเป็นนักธุรกิจ วีอยู่ในครอบครัวของคนร่ำรวยแต่เขารู้สึกว่าไม่เคยได้รับความสุขเลยแม้แต่นิดเดียว เขาได้รับการกดดันด้านจิตใจจากพ่อตั้งแต่ตอนวัยรุ่น จนมาถึงวันนี้ เขาไม่ชอบพ่อของเขาเลย เขาชอบเถียงกับพ่อเขาทุกครั้งที่พูดกัน ส่วนพ่อของเขาก็เป็นคนที่ไม่มีเหตุผลเหมือนกัน ทำอะไรก็ตามใจตัวเองหมดไม่เคยได้ถามใจของลูกเลยว่าอยากได้อะไร ถ้าคิดว่าอะไรจะดีก็บอกให้ลูกทำทันที เหมือนที่เรียนนี้ ที่จริงวีอยากเรียนวิศวฯ แต่ถูกพ่อเขาไม่อนุญาต ยังนี้และนะการมีสิ่งที่เปรียบพร้อมก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีความสุขตลอดไป
    “มีอะไรให้ช่วยไหมครับป้า “ รานดเอยถามขณะเดินเข้าห้องครัว
    “ไม่มีอะไรมากหรอกนด... แค่ทำอาหารนิดหนึ่งเอง ไม่ต้องทำหรอกมันเป็นหน้าที่ของป้านะ พึ่งมาใหม่ ๆ แบบนี้เหนื่อยแล้วไม่ใช่เหรอ ไปพักผ่อนไปนะลูก”
    “ไม่เป็นไรครับป้า..... นั่งเฉย ๆ ไม่ทำอะไรแบบนี้มันน่าเบื่อนะครับป้า”
    “เหรอ....หิ้วหรือยังลูก”
    “ยังครับป้า นี่ก็พึ่งห้าโมงเย็นเอง”
    “พรุ่งนี้จะไปไหนเหรอ”
    “อาจารย์ดาณาบอกว่าจะไปที่มหาฯลัยครับ   ยังไม่รู้จักทางไปเลย” 
    “ดีและนะจะได้รู้จัก” 
    “นดช่วยป้าเช็ดโต๊ะนี้หน่อยนะ นั่นผ้า” 
    ป้าซอยมองดูรานดแล้วแอบยิ้ม “เด็กอะไรน่ารักจัง” ป้าซอยชอบรอยยิ้มของรานดมาก เวลาทีไรรานดมักจะยิ้มให้เป็นประจำ อาจพูดได้ว่าในบ้านหลังใหญ่นี้ป้าซอยอาจจะไม่ค่อยได้สัมผัสกับรอยยิ้มเท่าไรจึงมาเจอกับรอยยิ้มกับหนุ่มอารมณ์ดีคนนี้ก็เลยอารมณ์ดีไปด้วย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×