คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เรื่องวุ่นๆ
5
ธนพตน์มาถึงบริษัทในตอนสาย และยังไม่ทันที่เดินเข้าไปในห้องทำงาน เลขาของเขาก็รายงานขึ้นมาซะก่อนว่า ดนุพัตน์เรียกประชุมด่วน ให้เขารีบตามเข้าไป
“
คุณรู้มั้ยว่าเรื่องอะไร “ ชายหนุ่มถามเลขาอย่างแปลกใจ เพราะประชุมประจำปีก็เพิ่งเสร็จไปเมื่อวาน แล้วยังมีอะไรให้ต้องปวดหัวกันอีก“
เรือส่งสินค้าล่มค่ะ มีรายงานเข้ามาเมื่อ . “ ภาวินีเลขาประจำตัวของเขา บอกอย่างตื่นเต้น แต่ไม่ทันจะขาดคำ เจ้านายของเธอก็วิ่งหน้าตั้งไปยังห้องประชุมเสียแล้วเมื่อเปิดประตูเข้าไปธนพตน์ก็หันไปมองหน้าพี่ชายเป็นเชิงถามทันที ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ดนุพัตน์พยักหน้าให้น้องชายนั่งลง แล้วหันไปฟังรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากผู้จัดการฝ่ายเดินเรือต่อไป
“
แล้วตอนนี้พนักงานของเราที่อยู่บนเรือเป็นอย่างไรบ้าง “ ดนุพัตน์ถามขึ้นน้ำเสียงเครียด“
ยังหาไม่พบเลยครับ “ ผู้จัดการฝ่ายเดินเรือตอบอย่างหมดหวัง เพราะจุดที่เรืออับปางลงนั้นมันไกลจากฝั่งอยู่หลายร้อยกิโลเมตร ถ้าหลุดออกมาจากเรือได้ ก็ไม่รู้ว่าจะตามหากันเจอหรือเปล่า“
เพิ่มการค้นหาเข้าไปอีก ตามพวกเขากลับมาให้ได้ . พตน์ติดต่อบริษัทประกันได้เลย ส่วนคุณไปกับผม “ ดนุพัตน์หันไปบอกผู้จัการฝ่ายเดินเรือของบริษัทด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างใช้ความคิด“
พี่พัตน์จะไปศรีราชาเหรอครับ “ ธนพตน์ถามอย่างรู้ดี ว่าพี่ชายคงต้องไปจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองแน่ๆ“
อืม .นายโทรบอกคุณพ่อด้วยล่ะ “ ดนุพัตน์บอกก่อนที่จะก้าวออกไปจากห้องประชุม ปล่อยให้ธนพตน์นั่งจับต้นชนปลายอยู่สักพัก จึงเดินตามออกไปบ้างบริษัทอัศวนาถ เป็นธุรกิจเดินเรือขนส่งสินค้าซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยนายเจนภพยังหนุ่มๆ และธุรกิจการงานก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นบริษัทเดินเรือที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในตอนนี้ แต่นายเจนภพนั้น วางมือจากการบริหารมาได้หลายปีแล้วหลังจากที่ได้ลูกชายทั้งสองมาช่วยสืบทอดงานต่อ ซึ่งตอนนี้นายเจนภพก็ได้แต่นั่งตำแหน่งประธานบริษัท โดยมีมือขวาและมือซ้ายคือดนุพัตน์และธนภพ และเขาทั้งสองก็ไม่เคยทำให้บิดาต้องผิดหวังเลย
ในตอนเที่ยงนายเจนภพเปิดโทรทัศน์เพื่อดูข่าว แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นข่างเรือของบริษัทตนเอง เขารีบคว้าโทรศัพท์ติดต่อเข้าบริษัทในทันที ธนพตน์ที่กำลังนั่งรวบรวมข้อมูลอุบัติเหตุอยู่จึงต้องรีบละจากงานตรงหน้าในทันที แล้วเขาก็นึกตำหนิตัวเองที่ลืมโทรไปแจ้งบิดา นี่ท่านคงรู้ข่าวจากทางโทรทัศน์หรือเพื่อนฝูงของท่านแน่ๆ ธนพตน์คิดอย่างห่วงบิดา
“
มันเกิดขึ้นได้ยังไง “ นายเจนภพเอ่ยถามขึ้นน้ำเสียงเครียด“
ยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงครับคุณพ่อ ทางตำรวจสันนิฐานว่าน่าจะเกิดจากการบรรทุกของเกินมาตรฐาน “ ธนพตน์บอกบิดาอย่างไม่เห็นด้วยกับข้อสันนิฐานนี้เลย เพราะพนักงานทุกคนรู้ถึงข้อกำหนดนี้เป็นอย่างดี และดนุพัตน์เองก็เข้มงวดกับเรื่องนี้ที่สุด หากเกิดข้อผิดพลาดนี้ขึ้น พี่ชายเขาไม่มีทางปล่อยเรือลำนั้นออกจากท่าแน่นอน ซึ่งข้อนี้ทุกคนในบริษัทรู้ดี“
แล้วมีใครเป็นอะไรหรือเปล่า “ นายเจนภพถามด้วยความเป็นห่วงสวัสดิภาพของพนักงาน“
ยังตามหากันไม่เจอเลยครับ ตอนนี้พี่พัตน์สั่งให้เอาเรือที่บริษัทออกค้นหาอีกแรง “ ธนพตน์เล่าตามที่ได้รับรู้มาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ตอนที่เขาโทรไปสอบถามความคืบหน้าการค้นหาและรายละเอียด
ของอุบัติเหตุ เพราะเขาไม่สามารถติดต่อดนุพัตน์ได้เลย
“
เจ้าพัตน์ไปที่นั่นแล้วใช่มั้ย ““
ครับ .ไปตั้งแต่เช้าแล้ว พี่พัตน์คงออกไปกับเรือค้นหาด้วย เพราะผมโทรเข้ามือถือหลายรอบแล้วแต่ไม่ติดเลย สงสัยจะไม่มีสัญญาณ ““
แล้วแกเคลียร์กับทางลูกค้าหรือยัง “ นายเจนภพถามถึงสิ่งที่จะต้องเป็นห่วงเป็นลำดับต่อมาในทันที“
ผมแจ้งปัญหาไปแล้วครับ ตอนนี้กำลังเรียกประกันเข้ามาคุย ช่วงบ่ายๆ ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยครับ “ ธนพตน์บอกบิดาให้คลายกังวล เพราะยังไงบริษัทก็มีประกันชั้นหนึ่งไว้คอยดูแลความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอยู่แล้ว ชายหนุ่มคิดอย่างเชื่อมั่นในศักยภาพของอัศวนาถ ที่จะไม่มีวันทำให้ลูกค้าต้องผิดหวังอย่างที่คู่แข่งหลายๆ คนต้องการจะให้เป็นแพรลดานอนซมอยู่บนเตียงโดยมีคุณเพียงพรเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง ใบหน้าหวานซีดเซียวจนน่าสงสาร ไข้ลดลงแล้วแต่ คนที่นอนอยู่ดูเหมือนไม่ดีขึ้นเลย
“
แพรยังไม่ตื่นอีกเหรอ “ นายเจนภพค่อยๆ แง้มประตูเข้ามาถามอย่างเป็นห่วง ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ เมื่อเห็นหลานสาวยังหลับสนิทอยู่บนเตียง“
ยังค่ะ .อีกซักพักคงต้องปลุกขึ้นมาทานยา แล้วนี่คุณแต่งตัวจะออกไปไหนคะ “ คุณเพียงพรถามสามีอย่างแปลกใจ“
ผมจะเข้าบริษัท พอดีว่ามีปัญหานิดหน่อย ค่ำๆ คงจะกลับ ถ้าแพรอาการไม่ดีขึ้นคุณก็พาไปโรงพยายาลเถอะ อย่าปล่อยไว้อย่างนี้เลย เดี๋ยวจะแย่ไปกันใหญ่ “ นายเจนภพบอกอย่างห่วงๆ ก่อนจะเดินออกไป ไม่ปล่อยให้ภรรยาซักถามให้มากความ กลัวว่าจะวิตกไปกันใหญ่ รอให้รู้ตอนปัญหาทุกอย่างผ่านไปแล้วจะดีกว่าคุณเพียงพรหันกลับมายังคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงอย่างชั่งใจ กว่าจะเอายังไงดี ถ้าแพรลดาไม่ดีขึ้นเห็นทีจะต้องส่งโรงพยาบาลอย่างที่สามีเธอว่าจริงๆ
การช่วยเหลือลูกเรือที่อับปางเสร็จสิ้นลงในตอนค่ำ โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร เพราะกัปตันเรือโยกย้ายลูกเรือลงไปยังเรือช่วยชีพได้ทัน ถึงแม้จะต้องลอยขวางอยู่กลางทะเลมานานหลายชั่วโมงก็ตาม แต่ทุกคนก็ไม่ถอดใจ ที่จะพยายามติดต่อกลับเข้าฝั่ง จนเรือค้นหาแล่นมาตามจนเจอ
ดนุพัตน์รีบติดต่อส่งข่าวกลับไปยังสำนักงานใหญ่ของอัศวนาถทันที ที่กลับเข้าถึงฝั่ง บิดาของเขาเป็นคนรับโทรศัพท์ในห้องทำงานของธนพตน์ นายถึงกับเจนภพถอนหายใจออกอย่างโล่งอก ที่รู้ว่าทุกคนในเรือปลอดภัยดี ถึงแม้สินค้าทั้งหมดจะเสียหายจนประเมินมูลค่าไม่ได้ก็ตาม
“
แล้วนี่แกจะกลับมาเลยหรือเปล่าพัตน์ “ บิดาถามอย่างรู้ดีว่าดนุพัตน์คงยังไม่กลับมาง่ายๆ แน่ ถ้าทุกอย่างยังไม่เรียบร้อย“ คงอีกซักสองสามวันครับคุณพ่อ ผมขอสอบสวนหาสาเหตุทางนี้ก่อน คิดไม่ออกจริงๆ ว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ยังไง “ เขาบอกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างที่ติดค้างอยู่ในใจ
“ งั้นก็ตามใจ แกไม่ต้องห่วงทางนี้นะ พ่อสั่งให้เจ้าพตน์มันจัดการแล้ว “ นายเจนภพบอกพร้อมกับชำเรืองมองไปยังห้องรับแขกที่อยู่ติดกับห้องทำงานของธนพตน์อย่างนิดนึง ก่อนจะหันมาคุยกับดนุพัตน์ต่อ
" แล้วแพรเป็นไงบ้างครับ " ความรู้สึกบ้างอย่างทำให้เขาต้องถามถึงเธอขึ้นมาอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้
" ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เห็นแม่แกโทรมารายงานอะไรเลย คงไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ " เมื่อวางสายจากลูกชายคนโตนายเจนภพห็หันไปมองยังห้องรับแขกอีกครั้งอย่างหนักใจ เพราะลูกชายเขาเข้าไปคุยกับตัวแทนบริษัทประกันมาร่วมสี่ชั่วโมงแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลงซักที แต่เขาก็เชื่อว่าธนพตน์จัดการปัญหานี้ได้ไม่
อยาก ในเรื่องการเจรจาต่อรอง ลูกชายคนนี้ไม่เป็นอันดับสองรองใครอยู่แล้วในบริษัทนี้ แม้แต่ดนุพัตน์ก็ยังต้องยอมให้ นายเจนภพจึงได้แต่นั่งสังเกตุการอยู่ห่างๆ
ธนพตน์เดินออกมาจากห้องรับแขกของบริษัทอย่างหัวเสีย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องหงุดหงิดใจมากมายขนาดนี้ ตัวแทนบริษัทประกันที่ดูแลบริษัทของเขาอยู่เกิดล้มป่วยกระทันหัน แล้วส่งลูกน้องมาเจรจาแทน ข้ออ้างต่างๆ ที่ได้ยินได้ฟัง ทำให้ธนพตน์เกือบตบะแตกไล่ตะเพิดแขกกลับไป ใบหน้ายียวนกวนประสาทจนเกือบเป็นทะเล้นยามอารมณ์ดี ตอนนี้เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด จนบิดาต้องหัวเราะออกมา เพราะนานๆ จะได้เห็นลูกชายคนเล็กจริงจังกับชีวิตซักที
“ แกไปเคลมประกัน หรือไปโดนเขาเคลมมาวะเจ้าพตน์ “ นายเจนภพยิ้มขันอดไม่อยู่
“ อย่าไปพูดถึงมันเลยครับ เรากลับบ้านกันดีกว่า “ ธนพตน์วางเอกสารลงบนโต๊ะแล้วบอกบิดาอย่างเซ็งๆ
“ แล้วตกลงเขาว่ายังไง จะรับผิดชอบให้เราทั้งหมดหรือเปล่า “ ผู้เป็นพ่อถามอย่างเป็นงานเป็นการขึ้นมาบ้าง
“ ยังตกลงกันไม่ได้ครับ อีกสามวันเขาจะส่งคนมาคุยด้วยใหม่ เขาขอเวลาไปเก็บรวบรวมข้อมูลก่อน “ ธนพตน์ว่าพลางหยิบกระดาษโน๊ตบนโต๊ะที่เลขาเขาทิ้งไว้ให้ มาเปิดดูทีละใบ เห็นว่าไม่เป็นธุระสำคัญมากก็วางแบะกลับลงไปเหมือนเดิม
“ จริงสิ .พี่พัตน์โทรกลับมาบ้างหรือยังครับคุณพ่อ ไม่รู้ว่าทางนู้นเป็นยังไงบ้าง “ ความเครียดเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นกังวลขึ้นมาแทน
“ เรียบร้อยแล้ว ไม่มีใครเป็นอะไร “ เมื่อได้ยินที่บิดาพูด ธนพตน์ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเช่นกัน
ก่อนที่สองพ่อลูกจะเดินออกมาจากห้องทำงาน เสียงโทรศัพท์มือถือของนายเจนภพดังขึ้น ขัดจังหวะการสนทนาของสองพ่อลูกลง
“ แม่แกโทรตามพ่อแล้วว่ะเจ้าพตน์ “ นายเจนภพยักคิ้วให้บุตรชาย ก่อนจะกดรับ
“ ว่าไงคุณ “
“ ยายแพรไข้ขึ้นจนช็อคไปเลยค่ะ ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล คุณรีบมานะคะ หลานเข้าห้องฉุกเฉินไปพักใหญ่แล้ว ยังไม่ยอมออกมาซักที “ คุณเพียงพรพูดเร็วรัวราวกับคนขวัญเสีย จนสามีพลอยใจคอไม่ดีไปด้วย
“ คุณทำใจดีๆ ไว้ก่อนนะ เดี๋ยวผมจะไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ “ นายเจนภพตัดสาย แล้วหันมาบอกธนพตน์ทันที ทั้งสองคนจึงรีบออกจากบริษัทมุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลในทันที
ความคิดเห็น