ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายใย....แห่งรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : เรื่องวุ่นๆ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 253
      0
      19 พ.ค. 50

    5

    ธนพตน์มาถึงบริษัทในตอนสาย และยังไม่ทันที่เดินเข้าไปในห้องทำงาน เลขาของเขาก็รายงานขึ้นมาซะก่อนว่า ดนุพัตน์เรียกประชุมด่วน ให้เขารีบตามเข้าไป

    คุณรู้มั้ยว่าเรื่องอะไร ชายหนุ่มถามเลขาอย่างแปลกใจ เพราะประชุมประจำปีก็เพิ่งเสร็จไปเมื่อวาน แล้วยังมีอะไรให้ต้องปวดหัวกันอีก

    เรือส่งสินค้าล่มค่ะ มีรายงานเข้ามาเมื่อ……. ภาวินีเลขาประจำตัวของเขา บอกอย่างตื่นเต้น แต่ไม่ทันจะขาดคำ เจ้านายของเธอก็วิ่งหน้าตั้งไปยังห้องประชุมเสียแล้ว

    เมื่อเปิดประตูเข้าไปธนพตน์ก็หันไปมองหน้าพี่ชายเป็นเชิงถามทันที ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ดนุพัตน์พยักหน้าให้น้องชายนั่งลง แล้วหันไปฟังรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากผู้จัดการฝ่ายเดินเรือต่อไป

    แล้วตอนนี้พนักงานของเราที่อยู่บนเรือเป็นอย่างไรบ้าง ดนุพัตน์ถามขึ้นน้ำเสียงเครียด

    ยังหาไม่พบเลยครับ ผู้จัดการฝ่ายเดินเรือตอบอย่างหมดหวัง เพราะจุดที่เรืออับปางลงนั้นมันไกลจากฝั่งอยู่หลายร้อยกิโลเมตร ถ้าหลุดออกมาจากเรือได้ ก็ไม่รู้ว่าจะตามหากันเจอหรือเปล่า

    เพิ่มการค้นหาเข้าไปอีก ตามพวกเขากลับมาให้ได้……. พตน์ติดต่อบริษัทประกันได้เลย ส่วนคุณไปกับผม ดนุพัตน์หันไปบอกผู้จัการฝ่ายเดินเรือของบริษัทด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างใช้ความคิด

    พี่พัตน์จะไปศรีราชาเหรอครับ ธนพตน์ถามอย่างรู้ดี ว่าพี่ชายคงต้องไปจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองแน่ๆ

    อืม….นายโทรบอกคุณพ่อด้วยล่ะ ดนุพัตน์บอกก่อนที่จะก้าวออกไปจากห้องประชุม ปล่อยให้ธนพตน์นั่งจับต้นชนปลายอยู่สักพัก จึงเดินตามออกไปบ้าง

    บริษัทอัศวนาถ เป็นธุรกิจเดินเรือขนส่งสินค้าซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยนายเจนภพยังหนุ่มๆ และธุรกิจการงานก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นบริษัทเดินเรือที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในตอนนี้ แต่นายเจนภพนั้น วางมือจากการบริหารมาได้หลายปีแล้วหลังจากที่ได้ลูกชายทั้งสองมาช่วยสืบทอดงานต่อ ซึ่งตอนนี้นายเจนภพก็ได้แต่นั่งตำแหน่งประธานบริษัท โดยมีมือขวาและมือซ้ายคือดนุพัตน์และธนภพ และเขาทั้งสองก็ไม่เคยทำให้บิดาต้องผิดหวังเลย

    ในตอนเที่ยงนายเจนภพเปิดโทรทัศน์เพื่อดูข่าว แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นข่างเรือของบริษัทตนเอง เขารีบคว้าโทรศัพท์ติดต่อเข้าบริษัทในทันที ธนพตน์ที่กำลังนั่งรวบรวมข้อมูลอุบัติเหตุอยู่จึงต้องรีบละจากงานตรงหน้าในทันที แล้วเขาก็นึกตำหนิตัวเองที่ลืมโทรไปแจ้งบิดา นี่ท่านคงรู้ข่าวจากทางโทรทัศน์หรือเพื่อนฝูงของท่านแน่ๆ ธนพตน์คิดอย่างห่วงบิดา

    มันเกิดขึ้นได้ยังไง นายเจนภพเอ่ยถามขึ้นน้ำเสียงเครียด

    ยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงครับคุณพ่อ ทางตำรวจสันนิฐานว่าน่าจะเกิดจากการบรรทุกของเกินมาตรฐาน ธนพตน์บอกบิดาอย่างไม่เห็นด้วยกับข้อสันนิฐานนี้เลย เพราะพนักงานทุกคนรู้ถึงข้อกำหนดนี้เป็นอย่างดี และดนุพัตน์เองก็เข้มงวดกับเรื่องนี้ที่สุด หากเกิดข้อผิดพลาดนี้ขึ้น พี่ชายเขาไม่มีทางปล่อยเรือลำนั้นออกจากท่าแน่นอน ซึ่งข้อนี้ทุกคนในบริษัทรู้ดี

    แล้วมีใครเป็นอะไรหรือเปล่า นายเจนภพถามด้วยความเป็นห่วงสวัสดิภาพของพนักงาน

    ยังตามหากันไม่เจอเลยครับ ตอนนี้พี่พัตน์สั่งให้เอาเรือที่บริษัทออกค้นหาอีกแรง ธนพตน์เล่าตามที่ได้รับรู้มา

    จากเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ตอนที่เขาโทรไปสอบถามความคืบหน้าการค้นหาและรายละเอียด

    ของอุบัติเหตุ เพราะเขาไม่สามารถติดต่อดนุพัตน์ได้เลย

    เจ้าพัตน์ไปที่นั่นแล้วใช่มั้ย

    ครับ….ไปตั้งแต่เช้าแล้ว พี่พัตน์คงออกไปกับเรือค้นหาด้วย เพราะผมโทรเข้ามือถือหลายรอบแล้วแต่ไม่ติดเลย สงสัยจะไม่มีสัญญาณ

    แล้วแกเคลียร์กับทางลูกค้าหรือยัง นายเจนภพถามถึงสิ่งที่จะต้องเป็นห่วงเป็นลำดับต่อมาในทันที

    ผมแจ้งปัญหาไปแล้วครับ ตอนนี้กำลังเรียกประกันเข้ามาคุย ช่วงบ่ายๆ ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยครับ ธนพตน์บอกบิดาให้คลายกังวล เพราะยังไงบริษัทก็มีประกันชั้นหนึ่งไว้คอยดูแลความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอยู่แล้ว ชายหนุ่มคิดอย่างเชื่อมั่นในศักยภาพของอัศวนาถ ที่จะไม่มีวันทำให้ลูกค้าต้องผิดหวังอย่างที่คู่แข่งหลายๆ คนต้องการจะให้เป็น

    แพรลดานอนซมอยู่บนเตียงโดยมีคุณเพียงพรเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง ใบหน้าหวานซีดเซียวจนน่าสงสาร ไข้ลดลงแล้วแต่ คนที่นอนอยู่ดูเหมือนไม่ดีขึ้นเลย

    แพรยังไม่ตื่นอีกเหรอ นายเจนภพค่อยๆ แง้มประตูเข้ามาถามอย่างเป็นห่วง ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ เมื่อเห็นหลานสาวยังหลับสนิทอยู่บนเตียง

    ยังค่ะ….อีกซักพักคงต้องปลุกขึ้นมาทานยา แล้วนี่คุณแต่งตัวจะออกไปไหนคะ คุณเพียงพรถามสามีอย่างแปลกใจ

    ผมจะเข้าบริษัท พอดีว่ามีปัญหานิดหน่อย ค่ำๆ คงจะกลับ ถ้าแพรอาการไม่ดีขึ้นคุณก็พาไปโรงพยายาลเถอะ อย่าปล่อยไว้อย่างนี้เลย เดี๋ยวจะแย่ไปกันใหญ่ นายเจนภพบอกอย่างห่วงๆ ก่อนจะเดินออกไป ไม่ปล่อยให้ภรรยาซักถามให้มากความ กลัวว่าจะวิตกไปกันใหญ่ รอให้รู้ตอนปัญหาทุกอย่างผ่านไปแล้วจะดีกว่า

    คุณเพียงพรหันกลับมายังคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงอย่างชั่งใจ กว่าจะเอายังไงดี ถ้าแพรลดาไม่ดีขึ้นเห็นทีจะต้องส่งโรงพยาบาลอย่างที่สามีเธอว่าจริงๆ

    การช่วยเหลือลูกเรือที่อับปางเสร็จสิ้นลงในตอนค่ำ โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร เพราะกัปตันเรือโยกย้ายลูกเรือลงไปยังเรือช่วยชีพได้ทัน ถึงแม้จะต้องลอยขวางอยู่กลางทะเลมานานหลายชั่วโมงก็ตาม แต่ทุกคนก็ไม่ถอดใจ ที่จะพยายามติดต่อกลับเข้าฝั่ง จนเรือค้นหาแล่นมาตามจนเจอ

    ดนุพัตน์รีบติดต่อส่งข่าวกลับไปยังสำนักงานใหญ่ของอัศวนาถทันที ที่กลับเข้าถึงฝั่ง บิดาของเขาเป็นคนรับโทรศัพท์ในห้องทำงานของธนพตน์ นายถึงกับเจนภพถอนหายใจออกอย่างโล่งอก ที่รู้ว่าทุกคนในเรือปลอดภัยดี ถึงแม้สินค้าทั้งหมดจะเสียหายจนประเมินมูลค่าไม่ได้ก็ตาม

    แล้วนี่แกจะกลับมาเลยหรือเปล่าพัตน์ “ บิดาถามอย่างรู้ดีว่าดนุพัตน์คงยังไม่กลับมาง่ายๆ แน่ ถ้าทุกอย่างยังไม่เรียบร้อย

    “ คงอีกซักสองสามวันครับคุณพ่อ ผมขอสอบสวนหาสาเหตุทางนี้ก่อน คิดไม่ออกจริงๆ ว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ยังไง “ เขาบอกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างที่ติดค้างอยู่ในใจ

    “ งั้นก็ตามใจ แกไม่ต้องห่วงทางนี้นะ พ่อสั่งให้เจ้าพตน์มันจัดการแล้ว “ นายเจนภพบอกพร้อมกับชำเรืองมองไปยังห้องรับแขกที่อยู่ติดกับห้องทำงานของธนพตน์อย่างนิดนึง ก่อนจะหันมาคุยกับดนุพัตน์ต่อ

    " แล้วแพรเป็นไงบ้างครับ " ความรู้สึกบ้างอย่างทำให้เขาต้องถามถึงเธอขึ้นมาอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้

    " ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เห็นแม่แกโทรมารายงานอะไรเลย คงไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ " เมื่อวางสายจากลูกชายคนโตนายเจนภพห็หันไปมองยังห้องรับแขกอีกครั้งอย่างหนักใจ เพราะลูกชายเขาเข้าไปคุยกับตัวแทนบริษัทประกันมาร่วมสี่ชั่วโมงแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลงซักที แต่เขาก็เชื่อว่าธนพตน์จัดการปัญหานี้ได้ไม่

    อยาก ในเรื่องการเจรจาต่อรอง ลูกชายคนนี้ไม่เป็นอันดับสองรองใครอยู่แล้วในบริษัทนี้ แม้แต่ดนุพัตน์ก็ยังต้องยอมให้ นายเจนภพจึงได้แต่นั่งสังเกตุการอยู่ห่างๆ

    ธนพตน์เดินออกมาจากห้องรับแขกของบริษัทอย่างหัวเสีย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องหงุดหงิดใจมากมายขนาดนี้ ตัวแทนบริษัทประกันที่ดูแลบริษัทของเขาอยู่เกิดล้มป่วยกระทันหัน แล้วส่งลูกน้องมาเจรจาแทน ข้ออ้างต่างๆ ที่ได้ยินได้ฟัง ทำให้ธนพตน์เกือบตบะแตกไล่ตะเพิดแขกกลับไป ใบหน้ายียวนกวนประสาทจนเกือบเป็นทะเล้นยามอารมณ์ดี ตอนนี้เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด จนบิดาต้องหัวเราะออกมา เพราะนานๆ จะได้เห็นลูกชายคนเล็กจริงจังกับชีวิตซักที

    “ แกไปเคลมประกัน หรือไปโดนเขาเคลมมาวะเจ้าพตน์ “ นายเจนภพยิ้มขันอดไม่อยู่

    “ อย่าไปพูดถึงมันเลยครับ เรากลับบ้านกันดีกว่า “ ธนพตน์วางเอกสารลงบนโต๊ะแล้วบอกบิดาอย่างเซ็งๆ

    “ แล้วตกลงเขาว่ายังไง จะรับผิดชอบให้เราทั้งหมดหรือเปล่า “ ผู้เป็นพ่อถามอย่างเป็นงานเป็นการขึ้นมาบ้าง

    “ ยังตกลงกันไม่ได้ครับ อีกสามวันเขาจะส่งคนมาคุยด้วยใหม่ เขาขอเวลาไปเก็บรวบรวมข้อมูลก่อน “ ธนพตน์ว่าพลางหยิบกระดาษโน๊ตบนโต๊ะที่เลขาเขาทิ้งไว้ให้ มาเปิดดูทีละใบ เห็นว่าไม่เป็นธุระสำคัญมากก็วางแบะกลับลงไปเหมือนเดิม

    “ จริงสิ….พี่พัตน์โทรกลับมาบ้างหรือยังครับคุณพ่อ ไม่รู้ว่าทางนู้นเป็นยังไงบ้าง “ ความเครียดเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นกังวลขึ้นมาแทน

    “ เรียบร้อยแล้ว ไม่มีใครเป็นอะไร “ เมื่อได้ยินที่บิดาพูด ธนพตน์ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเช่นกัน

    ก่อนที่สองพ่อลูกจะเดินออกมาจากห้องทำงาน เสียงโทรศัพท์มือถือของนายเจนภพดังขึ้น ขัดจังหวะการสนทนาของสองพ่อลูกลง

    “ แม่แกโทรตามพ่อแล้วว่ะเจ้าพตน์ “ นายเจนภพยักคิ้วให้บุตรชาย ก่อนจะกดรับ

    “ ว่าไงคุณ “

    “ ยายแพรไข้ขึ้นจนช็อคไปเลยค่ะ ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล คุณรีบมานะคะ หลานเข้าห้องฉุกเฉินไปพักใหญ่แล้ว ยังไม่ยอมออกมาซักที “ คุณเพียงพรพูดเร็วรัวราวกับคนขวัญเสีย จนสามีพลอยใจคอไม่ดีไปด้วย

    “ คุณทำใจดีๆ ไว้ก่อนนะ เดี๋ยวผมจะไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ “ นายเจนภพตัดสาย แล้วหันมาบอกธนพตน์ทันที ทั้งสองคนจึงรีบออกจากบริษัทมุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลในทันที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×