คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Artha`and`Arius
เรื่องราวของเอเทรอส เริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา จากคำบอกเล่า กลับกลายเป็นตำนาน เรื่องราวของตัวแทนทั้ง 3 ทวีปได้กลายเป็นตำนาน จนถึงยุคสมัย องค์ กษัตริย์ อารุส ลูกหลานของ แองเจอลัส เจ้าเมือง ราอาจิโนว่า (Rarjinova) เมืองหลวง ของ ทวีป บาลัม (Balum)
กลางดึกคืนหนึ่งในปราสาท ราอาจิโนว่า เสียงของเด็กทารก แฝด ได้แผดจ้า ขึ้น ''ได้เด็กผู้ชายแฝด เจ้าค่ะ'' เสียงของหมอตำแย ได้กล่าวกับ กษัตริย์ ''แต่องค์ พระนางได้สิ้นลมไปแล้วเจ้าค่ะ'' น้ำตาขององค์กษัตริย์อารุสไหลออกมาอาบแก้ม เป็นทางยาว ก่อนที่พระองจะอุ้มเจ้าชายตัวน้อยๆ 2 พระองค์ และกล่าวว่า ''เป็นกรรมของข้า หรืออย่างไร พระผู้เป็นเจ้าถึงมอบความยินดี และ ความเศร้าโศกให้แก่ข้า ลูกชายของข้า เอ๋ย ข้าจะให้นามแก่เจ้า อาทราส และ เอเรียส เจ้าจงเติบโตเป็น องค์กษัตริย์ ที่ดี ต่อบ้านแคว้นของเราเถิด'' เมื่อเจ้าชาย เอเรียส และ อาทราส ได้อายุ 3 ขวบ มีเหตุการณ์ ประหลาดได้เกิดขึ้น ''ดวงตาของเทวรูป แองเจอลัส ซึ่งอยู่ใจกลาง ปราสาท ราอาจิโนว่า ได้หลั่งน้ำตาออกมา องค์กษัตริย์ ได้สั่งให้ นักปราชณ์ ได้ตีความหมายออกมา ''เป็นลางดีพระเจ้าข้า เป็นอนาคต ของเจ้าชาย อาทราส และ
เอเรียส'' นักปราชณ์ กล่าว ''เป็นอย่างไรท่านลองว่ามาเถิด'' องค์กษัตริย์อารุส กล่าว อย่างปลื้มปิติ ''เจ้าชายอาทราส เมื่อเติบโตขึ้นไป พระองค์ จะได้อำนาจ ที่ไม่มีมนุษย์ ผู้ใดเคย อาจเอื้อมมาก่อน ส่วน เจ้าชาย เอเรียส เมื่อเติบโตขึ้นไป จะเป็น ผู้ที่มีพลังอันศักดิ์สิทธ์ มากมายเปรียบเสมือนเทพ พระเจ้าข้า'' นักปราชณ์กล่าวพลางตื่นเต้นไปกับผลทำนายด้วย ทุกอย่างเหมือนจะดำเนินเป็นไปด้วยดี แต่เมื่อนักปราชณ์ เดินทางกลับมาถึงบ้าน เขาได้ลองทำนายใหม่อีกครั้ง''แต่ผลออกมาคือ อำนาจที่เจ้าชายอาทราส จะได้มานั้นจะทำให้ 3 ทวีป ของโลกได้เปลี่ยนแปลงไป แต่เขา ก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปทูลบอก องค์กษัตริย์อารุส เพราะว่ากลัวจะถูกลงโทษ เขาจึงเก็บตัวเงียบและปกปิดความลับนี้ไว้
เมื่อเจ้าชายทั้ง 2 อายุได้ 7 ขวบเจ้าชาย อาทราส สามารถ ใช้ เวทย์มนต์ขั้นสูง ประสานเข้าวิชาดาบได้ โดยที่ไม่มีผู้ใดได้ ล่วงรู้มาก่อน เจ้าชายอาทราส ซึ่งเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดจา ใช้เวลาอยู่กับ วิชาดาบ และเวทมนต์ มากกว่าจะเที่ยวเล่นเหมือนเด็ก ทั่วๆไป ส่วนเจ้าชายเอเรียส เป็นคนสนุกสนาน โอบอ้อมอารี เป็นที่ รัก ของคนในปราสาท นิสัยของ 2 พระองค์ แตกต่างโดยกันสิ้นเชิง
3 ปีต่อมา องค์กษัตริย์อารุส ได้พา เจ้าชาย 2 พระองค์ไปล่าสัตว์แถวชายป่า ทางเข้า ไอซ์คราว กองคาราวานได้ ค้างแรม แถวนั้น ตกดึก ได้มี อสูรกาย เยติยัก บุกเข้าโจมตี ทำให้ทหารของกองคาราวาน ล้มตายไปจำนวนมาก องค์กษัตริย์ อารุส ทรงทนไม่ไหว จึงออกมาร่วม ต่อสู้จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าชายทั้ง 2 เห็น พ่อของตัวเองโดนทำร้าย จึงหยิบดาบ ที่เหน็บอยู่ข้างเอว ออกมาสู้ ขณะต่อสู้ เอเรียส ได้ยินเสียง อาทราสงึมงำๆ ร่ายมนต์เป็นภาษาเอลฟ์ ฟังดูไม่ได้ศัพท์ แต่พอหยุดร่ายมนต์ ดาบของอาทราส ได้เปล่งแสงสีแดง อย่างน่าอัศจรรย์ พอฟาดฟัน ประกายไฟ ก็พุ่งออกมาเป็น คลื่น เผาผลาญทุกสิ่งรอบด้าน ดาบเดียวทำให้เยติ บาดเจ็บสาหัส มันจึงวิ่งหนีเข้า เขต ป่ามรณะ อาทราส จะวิ่งเข้าไป แต่ องค์กษัตริย์ อารุส ได้ห้ามไว้ และบอกกล่าวว่า อันตราย ทั้งหมดจึงเดินทางกลับราอาจิโนว่า ขณะกลับ องค์กษัตริย์ ได้รับพิษไข้ จากบาดแผล เมื่อถึงเมือง จึงป่วยหนัก
ดอกไม้ในปราสาทเหี่ยวเฉา ใบไม้ได้ร่วงโรยออกจากต้น สงสัญญานถึง ลางไม่ดี ฝ่ายอุปราชณ์ ทั้ง 3 คน ได้จัดประชุมหา กษัตริย์คอย เพราะ อาการของ องค์กษัตริย์ อารุส ได้ทรุดหนักลง มหาอุปราชณ์ ทั้ง 2 ได้เสนอ มติว่าจะให้ เจ้าชาย อาทราส ได้ขึ้นครองบัลลังค์ แทนแต่ มหาอุปราชณ์ ออสโมเดียส น้องชาย ของอารุส ได้คัดค้าน โดยให้เหตุผล ที่ว่า เจ้าชาย อาทราส ยังเด็กนัก และเสนอ ว่าเขา จะ คลองบัลลังค์ แทนจนกว่าเจ้าชายจะอายุ ครบ 18 ปี ฝ่ายอุปราชณ์ ท่านหนึ่งไม่เห็นด้วย ตกดึก ออสโมเดียสได้ ส่งนักฆ๋า ไปจัดการเขา ทำให้ อุปราชณ์ คนที่เหลือไม่กล้าขัดขืน การประชุมได้ผลสรุป และ การจากไปของ องค์กษัตริย์อารุส
1ปีหลังจาก ออสโมเดียวได้ คลองบัลลังค์เขาได้ จัดการส่ง เอเรียส ไปยังเมือง มูนเกท (Moongate) เมืองทางเหนือสุดของ ทวีป ติดกับดินแดนแห่งเอลฟ์ และส่ง อาทราส ไปเมือง สโตนวอ (Stonewall) เมืองหน้าด่าน ติดกับ ทวีป มองโกลัส ของเผ่าออค ซึ่งเกิดสงครามแย่งชิงพื้นที่ ระหว่าง เผ่ามนุษย์ และ เผ่า ออค ตลอดทั้งปี เหล่า กองทหาร รับจ้าง มีอยู่เต็มเมือง ออสโมเดียส มีความคิดจะยึดครอง ทวีป มองโกลัสอยู่ เพื่อเหมืองทองในทะเลทราย การบุกรุกดินแดน ของเผ่า ออคทำให้ ความสัมพันธ์ ของ ออค ซึงไม่ดีอยู่แล้ว ทำให้ ทวีคูณ ยิ่งขึ้น และการ ส่ง อาทราส มาอยู่ที่เมืองนี้ เหมือนกำจัด เขาทางอ้อม และตัดขาดจากเมืองหลวง
ความคิดเห็น