ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic The maze runner:Once again(Minho x Newt)

    ลำดับตอนที่ #1 : Part : Newt

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.02K
      6
      9 ต.ค. 57

    ทุกอย่างมันผิดพลาดไปตั้งแต่ตอนไหนนะ?

    ทำไม ทำไมต้องเป็นแบบนี้

    ทำไมต้องเป็นฉัน ทำไมต้องจบลงแบบนี้

    ฉันทำผิดอะไรไปเหรอ ฉันบาปหนักขนาดไหน

    ทำไมกัน

    ขอเถอะ  ขออีกสักครั้ง

    ขอให้….

     

    -.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-

     

    ดึกแล้วทำไมยังไม่นอน

                   

    เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาคนที่นั่งเหม่ออยู่ถึงกับสะดุ้ง ร่างเล็กบางหันไปมองคนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาขัดความสุขยามราตรีของเขา ร่างสูงกำยำของหัวหน้านักวิ่งเดินถือตะเกียงมานั่งลงข้างๆ

     

    แล้วทำไมนายไม่นอน พรุ่งนี้ต้องออกไปวิ่งอีกไม่ใช่หรือไง

     

    เอ่ยถามแบบไม่ได้ต้องการคำตอบมากนัก เขาเหม่อมองความมืดตรงหน้าอีกครั้ง

     

    เห็นเด็กดื้อไม่ยอมนอน กลัวจะนอนไม่พอเลยมาตาม

     

    ตอบกลับแบบกลั้วหัวเราะให้เขาต้องส่งสายตาดุๆไปให้ ใบหน้าคมแบบชาวชาวเอเชียถึงจะยอมหุบยิ้มลง ก่อนจะ(พยายาม)ทำหน้าจริงจัง

     

    กังวลเรื่องอะไรอยู่เหรอ

     

    ไม่รู้เพราะว่าสีหน้าเขาแสดงออกมากเกินไปหรือว่าอย่างไร ร่างสูงถึงได้เข้าใจความกังวลของเขา

     

    เรื่องเบนใช่ไหม

     

    คราวหลังถ้ารู้อยู่แล้วก็อย่าถาม เขาคิด แต่ไม่ได้เอ่ยออกไป ก่อนจะพยักหน้าส่งๆ เขาคิดเรื่องนี้อยู่จริงๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเบนถึงได้โดนต่อยได้ ตอนกลางวันซะด้วย

     

    นายว่านี้เป็นสัญญาณบอกอะไรพวกเราหรือเปล่า

     

    หลังจากเงียบกันมาเนิ่นนานเขาก็เลือกที่จะถามสิ่งที่คิดออกไป มินโฮหันมามองเขาอย่างมึนงง คงจะไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไร

     

    ไม่เคยมีกรีฟเวอร์ออกมาตอนกลางวัน หรืออย่างน้อยก็ไม่มีใครเคยเจอ แล้วทำไมเบนถึงได้โดนต่อยได้ล่ะ แถมยังจะฆ่าไอ้เด็กใหม่นั้นด้วย

     

    เขาพรั่งพรูสิ่งที่คิดออกมา ความกลัวเริ่มเข้ามาครอบงำจิตใจ เขากลัว กลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวความสงบที่มีกันมาตลอดสามปีจะหายไป ถึงแม้จะอยากออกไปจากที่นี่มากแค่ไหน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าอยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว อดคิดไม่ได้จริงๆ

     

    มันอาจจะเป็นพวกที่ไม่อยากนอนกลางวันก็ได้ ยังไงซะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันกับอัลบี้ก็จะไปดูตรงจุดนั้นอยู่แล้ว ถ้ามันมีอะไรก็คงจะเจอเอง

     

    คำกล่าวนั้นทำเอาเขาใจหายวาบ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่กลับรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย

     

    พรุ่งนี้นายจะไปจริงๆเหรอ

     

    แม้จะรู้ดีว่าคำตอบจะเป็นยังไง แต่นิวท์ก็อยากที่จะรั้งอีกฝ่ายไว้

     

    หืม?

    พรุ่งนี้ พวกนายจะกลับไปที่จุดนั้นจริงๆเหรอ ไม่คิดว่ามันอันตรายบ้างล่ะ ถ้าเกิดว่ากรีนเวอร์ตัวนั้นยังอยู่จะทำยังไงกัน

     

    ถึงจะรู้ว่าไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจเปลี่ยนใจหัวหน้านักวางคนนี้ได้ แต่เขาก็ไม่อยากให้คนข้างๆออกไปพรุ่งนี้เลยจริงๆ

     

    นิวท์ อย่าพูดเอาแต่ใจแบบนั้นสิ พรุ่งนี้ไปแค่สำรวจเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว

     

    คำปลอบโยนของอีกฝ่ายเป็นดั่งสายลมที่พัดผ่านหูเขาไป มันไม่ได้ช่วยให้เขาสบายใจขึ้นเลยสักนิด

     

    สัญญา ก็เหมือนกับทุกวันนั้นแหละ

     

    พูดพลางเอื้อมมาบีบมือเขา ความอบอุ่นจากมือหนาทำให้ความว้าวุ่นในใจเบาบางลงบ้าง แต่ก็ไม่ได้หายไปซะหมด

     

    กลับมาเร็วๆล่ะ

     

    แม้จะอยากรั้งไว้สักแค่ไหน แต่หน้าที่ต่างๆก็ค้ำคอพวกเขาไว้อยู่ นิวท์เป็นรองหัวหน้า การรั้งนักวิ่งคนสำคัญเอาไว้มีแต่จะทำให้อะไรแย่ลง เช่นเดียวกับมินโฮ ถึงจะไม่อยากออกไป แต่การละเลยหน้าที่การเป็นหัวหน้านักวิ่งไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย เขาจึงต้องออกไป

     

    อืม บอกแล้วว่าเดี๋ยวก็กลับมา

     

    บีบมือบางแน่นเพิ่มความมั่นใจ เงียบกันไปนานก่อนที่ร่างสูงจะตัดสินใจลุกขึ้น ก่อนจะดึงเขาให้ลุกขึ้นตาม

     

    ดึกมากแล้ว ไปนอนเถอะ อากาศเย็นลงมากแล้ว เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก

     

    มือหนาจูงมือเขาให้เดินตามไปทางที่พัก หัวหน้านักวิ่งส่งเขาจนถึงที่นอน ก่อนจะเดินออกไป ซึ่งก็ไปก็ไม่วายหันมาแอบมอบริมฝีปากไว้บนหน้าผากเขาเอง ทำหน้าความร้อนแล่นเห่อขึ้นใบหน้า เขาหลบตาอีกฝ่าย ไม่อยากมองใบหน้าหล่อที่คงจะยิ้มจนตาหยีนั่น

     

    ฝันดีนะนิวท์

     

    พูดจบก็เดินออกไปทางที่นอนที่ค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากที่เขานอน ไม่มั่นใจว่าคนที่เดินออกไปจะได้ยินไหม แต่เขาก็ได้แต่ตอบกลับเบาๆ

     

    ฝันดีเหมือนกันนะ

     

    -.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-

     

    ยังไม่กลับมา

     

    ความจริงที่ปรากฎอยู่ตอนนี้ทำเอาเขาแทบบ้า ทำไมถึงยังไม่กลับมาอีก ไหนว่าจะรีบกลับมาไง นี่รีบแล้วใช่ไหมฮะ

     

    ยิ่งใกล้ได้เวลาประตูจะปิดเท่าไหร่ยิ่งเป็นดั่งการเพิ่มเชื้อเพลิงให้กับไฟที่ร้อนรนอยู่ในใจ แม้จะพยายามเก็บซ่อนได้เท่าไหร่ เวลาที่เดินต่อไปเรื่อยๆก็ทำเอาเขาทนไม่ไหว ในใจหวังเพียงจะเห็นร่างสูงกำยำที่คุ้นเคยวิ่งกลับมา แม้จะแค่คนเดียวก็เถอะ

     

    ความรู้สึกผิดแล่นวูบขึ้นมาแทนความคิดเมื่อกี้ นี้เขาปล่อยให้ตัวเองคิดเรื่องร้ายกาจแบบนั้นได้ยังไง ทั้งคู่จะต้องกลับมาสิ ต้องกลับมาทั้งคู่เลย

     

    เสียงดังลั่นที่ราวกับจะฉีกกระชากใจคนฟังดังขึ้น เสียงที่นิวท์ไม่รู้ว่าจะมีเสียงไหนเกลียดได้เท่าเสียงนี้อีก เขาหลับตาลง ไม่กล้าแม้จะหันไปมอง ความเจ็บปวดกัดกินอยู่ภายในใจทำเอาแรงที่มีหายไปเหมือนโดนสูบออก  สมองว่างโล่งจนแทบจะลืมวิธีหายใจ

     

    เสียงเด็กใหม่ที่ร้องตะโกนทำเอาความหวังที่เหือดแห้งกลับคืนมา เขาเงยหน้าขึ้นมองเห็นร่างสูงที่คุ้นตากำลังเดินมาด้วยท่าทางที่ผิดปกติ เสียงเตือนภัยกรีดร้องขึ้นในใจเมื่อมองเห็นร่างสูงผิวเข้มของหัวหน้าทุ่งโดนแบกมา ท่าทางแบบคนที่ไม่มีสติ  

     

    แม้จะอยากวิ่งเข้าไปช่วยประคองแค่ไหน แต่กฎและหน้าที่ที่ค้ำคอกลับตรึงให้เขาอยู่กับที่ เสียงร้องตะโกนของชาวทุ่งที่อยู่รอบกายฟังดูไม่ได้ศัพท์ ประตูขนาดใหญ่เกินจะเชื่อเลื่อนเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆเหมือนค่อยๆดึงความหวังที่กลับคืนมาออกไปอีกครั้ง รู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีทางมาทัน แต่ก็ไม่อาจจะวิ่งเข้าไปช่วยได้

     

    เดี๋ยว หยุดนะ โทมัส!”

     

    ตะโกนเรียกชื่อคนที่วิ่งแทรกเข้าไปในช่องว่างที่ใกล้จะปิดลง มือพยายามเอื้อมรั้งไว้แต่ก็ไม่ทัน ร่างสมส่วนของเด็กใหม่หายเข้าไปอีกด้านของประตูพร้อมกับหัวใจของเขา กลับมาไม่ทัน

     

    ความเจ็บปวดเหมือนมีใครบีบรัดหัวใจทำเอาเขาแน่นอก ทำอะไรไม่ได้นอกจากทรุดตัวลงบนพื้น ขอบตาร้อนผ่าว เสียงซุบซิบพูดคุยต่างๆนานาของชาวทุ่งไม่อาจเข้ามาในโสดประสาทเข้าได้แม้สักนิด เขาสะบัดมือใครก็ไม่รู้ที่แตะไหล่เขาเหมือนดั่งจะปลอบใจออก เขาไม่ได้ต้องการมัน โดยเฉพาะตอนนี้

     

    หากแต่แม้จะเจ็บปวดจนอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆสักแค่ไหน แต่ตอนนี้ที่คนสำคัญทั้งสองต่างก็ไม่อยู่แล้ว เขาจึงจำเป็นที่จะต้องกดความรู้สึกต่างๆไว้ ลุกขึ้นมองไปรอบกาย ตอนนี้เขาต้องเป็นผู้นำ จะอ่อนแอไม่ได้เด็ดขาด

     

    ลุกขึ้นสั่งให้ทุกคนที่ยังคงมุงอยู่ที่เดิมแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง ความมืดยามราตรีคืบคลานเข้ามา ชาวทุ่งทุกคนต่างเดินเข้าที่นอนประจำของตัวเอง แม้จะรู้ดีว่าไม่อาจจะนอนหลับได้ก็ตาม

     

    นิวท์ทรุดตัวนั่งพิงกำแพงที่พึ่งปิดไป กักขังคนทั้งสามให้อยู่ข้างนอกนั่น อยู่กับเขาวงกตที่มีสัตว์ประหลาดคอยเฝ้าคอย ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงวันข้างหน้าที่ไม่มีร่างสูงคนเดิมกลับมา

     

    เขายกเข้าตัวเองขึ้นมากอดไว้ ซุกหน้าลงและปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ กลั้นเสียงสะอื้น เขาไม่ต้องการให้ใครมาได้ยินและรู้ว่าเขากำลังร้องไห้ หากผู้นำอ่อนแอก็จะไม่สามารถที่จะปกครองใครได้

     

    แต่ถึงจะไม่อยากอ่อนแอ แต่ก็เข้มแข็งต่อไปไม่ไหวจริงๆ

     

    บทสนนทนาเมื่อคืนวานแล่นเข้ามา ความรู้สึกต่างๆที่ถาโถมทำเอาเขาต้องกัดปากเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นไว้ โกธรทุกอย่าง ทั้งหัวหน้านักวิ่งงี่เง่าที่วิ่งไปรนหาที่ตาย ทั้งตัวเขาเองที่ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากรอ แม้ความหวังจะมีเพียงน้อยนิดก็ตาม

     

    เขาเงยหน้ามองความมืดมิดด้านบน ไม่มีแม้แต่ดวงดาวหรือพระจันทร์ที่ควรส่องแสงเป็นประกาย เหมือนกับแสงแห่งชีวิตของเขาที่ดับมืดลง ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทำไม ทำไมและทำไม

     

    เขาไม่เคยเชื่อในพระเจ้า  อย่างน้อยก็คิดว่าคงไม่มีจริงในโลกที่เลือนรางในความทรงจำ แต่เขาก็ยังอยากที่จะขอ ขอในสิ่งที่ไม่เคยเชื่อมาตลอด

     

    ขอขอสักครั้งได้ไหมครับ

    ขอให้เขากลับมาได้ อย่างปลอดภัยเถอะ

     

    ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่เชื่อ จะหวังอะไรกับสิ่งที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยคิดว่ามีตัวตน หากแต่เส้นด้ายแห่งความหวังที่แม้จะบางแต่ก็คงจะมากพอในเขาอยู่จนถึงวันพรุ่งนี้ ที่จะมีคนกลับมา

     

    -.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-

     

    พวกเขากลับมาได้

     

    นิวท์แทบจำไม่ได้ว่าตอนนั้นตัวเองทำหน้าแบบไหน หรือแม้แต่ความรู้สึก มันตีกันยุ่งเหยิงจนเขาทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เพียงตั้งสติ ตะโกนเรียกเหล่าพยาบาลเพื่อรักษาคนที่เจ็บหนัก ดูแลจนมั่นใจว่าสภาพอีกฝ่ายคงที่ แม้จะถูกต่อยไปแล้วก็ตาม

     

    ความหวังที่จะออกไปถูกจุดขึ้นอีกครั้ง โทมัส เด็กใหม่นั้นสามารถฆ่ากรีฟเวอร์ได้ สามารถหาเบาะแสที่ไม่มีใครค้นพบได้ในเวลาไม่ถึงสองวัน

     

    ความอบอุ่นจากร่างกายกำยำแบบผู้ชายส่วนใหญ่ควรจะมีทำเอาเขากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เขาจำไม่ได้ว่าตอนนั้นเขาพูดอะไรออกไปบ้าง อีกฝ่ายตอบอะไรกลับมาบ้าง สิ่งที่รู้เพียงอย่างเดียว คือความดีใจ ดีใจที่เห็นเด็กหนุ่มชาวเอเชียคนนี้กลับมาได้ ดีใจที่ไม่ได้เป็นอะไรไป

     

    หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างเขาก็แทบจำไม่ได้ พวกเขาหนีออกจากเขาวงกต เสียพวกพ้องไปมากมาย แม้แต่อัลบี้ หากแต่ความดีใจที่ได้หลุดพ้นจากที่บ้าๆพรรค์นั้นยังไม่ทันจะสิ้นสุด ความสิ้นหวังรูปแบบใหม่ก็โผล่มาอีก ที่แดนมอดไหม้ เหล่าผู้ช่วยที่พวกเขาคิดว่าช่วยออกมาจากนรกพวกนั้นถูกแขวนคอ แล้วศพก็หายไปได้ภายในไม่กี่วินาที ไม่มีใครบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีคนใหม่มา ชื่อ อริส บอกพวกเขาว่ามาจากวงกตอีกฝั่งหนึ่งที่คล้ายกับเขาแต่ต่างกันเพียงเพศ และรอดชีวิตออกมาได้มากกว่า

     

    พวกเขาโดนปล่อยให้เดินผ่านอะไรก็ไม่รู้ที่ถูกเรียกว่าระนาบเคลื่อนย้าย มีลูกบอลเหล็กบินได้ไล่งับหัวคน แถมยังต้องเผชิญกับความร้อนบรรลัยของดวงอาทิตย์

     

    หากแต่ที่น่ากลัวที่สุดคือเหล่าผู้คนที่ติดไข้วาบ พวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นแคร้ง ราวกับสูญเสียความเป็นมนุษย์ไป ไม่ต่างอะไรกับซากศพที่เดินได้เลยสักนิด

     

    แต่สุดท้ายพวกเขาก็ผ่านมันไปได้ ความรู้สึกต่างๆเริ่มชินชา เขาเบื่อที่จะสิ้นหวังหรือตกใจกลัวอะไรอีกแล้ว เพราะเพียงแค่ได้มีอีกฝ่าย มีมินโฮ เขารู้ดีว่าคนๆนี้จะเป็นคนคอยปกป้องเขา ไม่ว่าจะจากอะไรก็ตาม ทำให้เขาแอบหวังว่าจะสามารถฝ่าฟันบททดสอบงี่เง่าอะไรแบบนั้นได้

     

    แล้วทำไม ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้

     

    เสียงกล่าวรายชื่อของบุคคลที่ไม่มีผู้คุ้มกันโรคไข้วาบนั้นเหมือนผลักเขาลงสู่ก้นเหว ความรู้สึกเหมือนโดนทิ้งลงจากที่สูงทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก ทั้งมินโฮและโทมัสต่างก็มองมาที่เขา แต่เหมือนเขาจะไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว มันด้านชา ภาพเหล่าคนไร้สติที่หลุด แล้วทำเอาเขากลัว เขาไม่อยากเป็นแบบคนพวกนั้น

     

    แต่สิ่งที่แสดงภายนอกกลับแตกต่างตรงกันข้ามกับความรู้สึก เขาทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร เหมือนกับคนที่โดนเรียกชื่อนั้นเป็นการบอกคะแนนสอบ เพื่อให้ทั้งสองมั่นใจ แต่ดูเหมือนว่าจะได้ผลกับแค่คนเดียว

     

    มินโฮลากเขาเข้าไปกอดทั้งทีที่มีโอกาสอยู่กันแค่สองคน เขาเข้าใจความร้สึกของคนตรงหน้าดี ความรู้สึกที่ต้องสูญเสียคนที่รัก ไม่ต่างอะไรกับตอนที่อีกฝ่ายติดอยู่ในเขาวงกตนั่น

     

    นายต้องหาย นิวท์ นายจะไม่เป็นอะไร ฉันจะอยู่กับนาย จะปกป้องนายเอง

     

    ความอบอุ่นแผ่ซ่าน กลบความไม่สบายใจต่างๆออกไปหมด เขากอดร่างนั้นกลับแม้จะรู้ดีว่าความหวังนั้นไม่ต่างอะไรกับเปลวเทียนที่ใกล้จะดับลง แต่เขาก็อยากที่จะเชื่อ

     

    อืม ฉันจะไม่เป็นไร เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ

     

    -.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-

     

    สุดท้ายความฝันก็ไม่มีวันเป็นความจริง

     

    เขารู้ว่าตัวเองเปลี่ยนไปแค่ไหน ความรู้สึกต่างๆเหมือนจะอ่อนไหวง่ายกว่าเดิมหลายเท่า มองอะไรก็แทบจะขัดหูขัดตาไปซะทุกอย่าง

     

    เขาเสียใจมากเมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอทำร้ายคนที่รักไป ความโกธรเพียงชั่ววูบที่ทำให้เขาปล่อยหมัดใส่ใบหน้าหล่อนั้น แต่คงไม่เท่าความเจ็บปวดที่รู้ดีว่าคงไม่มีทางที่จะหายจากโรคที่กัดกินสมองเขาอยู่ ณ ตอนนี้

     

    เขาจะต้องหนีไป เขาไม่อาจอยู่กับอีกฝ่ายได้แล้ว ไม่อยากจะทำร้ายใครอีก โดยเฉพาะกับมินโฮ

     

    แต่เขาไม่อยากจะเป็นบ้า ไม่อยากจะกลายเป็นส่วนเดียวกับคนพวกนั้น และหนทางเดียวที่เขารู้ว่าจะหนีมันพ้นคงจะมีแค่ความตายเท่านั้น

     

    แม้จะรู้ว่าคำขอจะทำร้ายคนที่เขามองเป็นเพื่อนรักแค่ไหน แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เขาตัดสินใจให้โทมัสเป็นคนที่จะฆ่าเขา ถึงจะดูเห็นแก่ตัวมากมาย แต่เขาไม่อยากจะให้มินโฮต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกแล้ว

     

    -.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-

     

    เขาทั้งโกธรและดีใจในเวลาเดียวกันที่รู้ว่าทั้งสองตามหาเขาจนเจอ แต่ความเจ็บปวดเหมือนจะมีมากที่สุด เขากลับไปไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์ที่จะกลับไปอีกแล้ว การต้องเล็งปืนและทำร้ายคนที่รักเหมือนการตอกตะปูลงในใจ แต่มันจำเป็นต้องทำ

     

    ฉันเป็นแคร้งนะมินโฮ ทำไมมันถึงไม่ได้ทะลุสมองหนาๆของนายเลยฮะ

     

    เน้นย้ำคำว่าแคร้งเพื่อตอกย้ำความจริง เขาพยายามความรู้สึกต่างๆไว้ในส่วนลึกของจิตใจ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่แสดงมันออกมาผ่านแววตา

     

    ความโกธรปะทุขึ้นอีกเมื่อเห็นแคร้งคนอื่นจะทำร้ายคนที่เขารัก มือบางเหนี่ยวไกอย่างไม่ลังเลใส่คนที่กล้าจะทำร้ายมินโฮ เขาส่งแววตาวิงวอนให้แก่โทมัส ไม่อาจสบตากับอีกคนได้จริงๆ

     

    ไปกันเถอะมินโฮ

     

    คำพูดของโทมัสดูจะช่วยเหลือและทำร้ายเขาได้ในเวลาเดียวกัน เขาหลบตา ยกมือที่สั่นระริกขึ้นขู่ รู้ตัวดีว่าไม่อาจเหนี่ยวไกทำร้ายอีกฝ่ายได้ แต่ก็ต้องทำ

     

    ภาพแผ่นหลังกว้างที่คุ้นเคยที่ห่างไกลออกไปเรื่อยไปต่างอะไรกับการกรีดหัวใจเขาซ้ำๆ เขาต้องใช้ความพยายามทั้งหมดในการไม่เอื้อมมือไปรั้งอีกฝ่ายไว้ ได้แต่มองจนกระทั่งแผ่นหลังนั้นหายไป ไม่ต่างอะไรกับใจของเขาเลยสักนิด

     

    ดีแล้ว ให้มันเป็นแบบนี้น่ะดีแล้ว

     

    พยายามบอกตัวเองซ้ำๆแบบนี้ คิดไปว่านี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว เขาจะไม่ยอมให้ความเอาแต่ใจของเขาไปทำร้ายใครอีก แต่ทำไม ทำไม

     

    น้ำตาถึงได้ไม่หยุดไหลสักที

     

    -.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-

     

    เขาเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้มากขึ้น

     

    ไวรัสงี่เง่าที่กัดกินสมองของเขา อาการหลุดเริ่มแสดงให้เห็นบ่อยจนเขาเบื่อที่จะคุมมัน บางทีการปล่อยตัวเองไปตามยถากรรมดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้

     

    คิดอย่างนั้น จนได้เจอกับอดีตเพื่อนรักอย่างโทมัสอีกครั้ง

     

    แม้จะอยากเดินกลับไปตามที่อีกฝ่ายชวนมากแค่ไหน อยากเจอคนอีกคนที่ได้รู้ว่ายังอยู่ดีมากเท่าไหร่ แต่สภาพของเขาตอนนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้อีก ไม่ได้ตั้งแต่ตอนที่เขาโดนจับไปอยู่กับแคร้งคนอื่นๆแล้ว

     

    เขาพยายามจะเหนี่ยวรั้งตัวตนของตัวเอง ให้กลับมาได้มากที่สุด หากมันก็ยากเต็มที ความคิดที่เหลืออยู่มีเพียงการรอความตายเท่านั้น จะได้หลุดพ้นจากเรื่องบ้าๆอะไรแบบนี้

     

    รู้ดีว่านี้จะเป็นการสร้างตราบาปให้คนอีกคนขนาดไหน เขารู้ว่าโทมัสจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตหลังจากนี้ แต่นี่เป็นสิ่งสุดท้ายแล้วที่อยากจะเห็นแก่ตัว ครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ

     

    เขาหลับตา รอเวลาที่มัจจุราชจะมาพรากลมหายใจเขาไป กระบอกปืนที่จ่ออยู่ที่หัวรอการเหนี่ยวไกจากเพื่อนรัก อีกไม่นานเขาก็จะได้สบายแล้ว

     

    ตลกดีที่ในช่วงวินาทีก่อนจะตาย ภาพที่มีในหัวกลับมีแค่เพียงคนๆเดียว ใบหน้าคมเข้มแบบเด็กหนุ่มชาวเอเชียลอยไปมาอยู่ในหัว ความทรงจำที่มีก่อนหน้านี้ช่างดูงดงาม โดยเฉพาะตอนที่อยู่ในทุ่งนั้น

     

    นายรักฉันบ้างไหม นิวท์

    คำถามที่ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำเอาสมองเขาหยุดทำงานไปหลายวิถึงจะประมวลผลตอบได้

    ถามบ้าอะไรของนายน่ะ

    นึกว่าอีกฝ่ายเพียงแค่จะล้อเล่น แต่ดวงตาเรียวคมนั้นกลับมองเขาอย่างจริงจัง

    ก็ฉันไม่เคยได้ยินนายบอกบ้างเลย อยากได้ยินเหมือนกันนะ

    ความจริงจังในน้ำเสียงนั้นเรียกความร้อนเห่อขึ้นมาบนใบหน้าเขาได้ไม่ยาก หวังว่าความมืดในยามรัตติกาลนี้จะช่วยบดบังไม่ให้อีกคนเห็นนะ

    จำเป็นต้องได้ยินด้วยหรือไง ฉันว่าฉันก็ เอ่อฉันก็แสดงออกมากเยอะนะ

    ตอบตะกุกตะกัก ความร้อนที่ใบหน้าเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจะไม่กล้าที่จะสบตาอีกฝ่าย

    ก็อยากได้ยินบ้างนิ เมื่อไหร่นายจะพูดให้ฉันฟังสักที

    น้ำเสียงติดจะตัดเพ้อนิดหน่อยทำเอาเขาแอบรู้สึกหมั้นไส้ไม่ได้ ถึงได้ตอบไปแบบประชดนิดๆ

    พาฉันออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อนสิ ฉันถึงจะยอมพูด

    เหมือนร่างสูงจะไม่ได้รู้เลยว่าเขาพูดประชด ดวงหน้าคมเข้มยิ้มกว้างเพิ่มความดูดีขึ้นเป็นเท่าตัว ก่อนจะตอบเหมือนเด็กที่รอรับของเล่น

    ได้ ฉันจะรอนะ

     

    แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ได้พูดออกไป

     

    เขายกยิ้มขมขื่น คนเรามักจะเสียดายในสิ่งที่ไม่ได้ทำเสมอ และเมื่ออยากจะทำ กลับไม่สามารถที่จะทำได้ แบบเขาในตอนนี้

     

    ระหว่างรอรับความเจ็บปวดที่จะทะลุสมอง ในหัวเขากลับอยากเจอคนที่ไม่ได้อยู่ด้วยตรงนี้ตอนนี้มากที่สุด อยากจะเอ่ยคำพูดที่ไม่ได้บอกออกไป อยากจะบอก แม้จะรู้อยู่แล้วทั้งคู่ก็ตาม

     

    ฉันรักนายนะมินโฮ รักมากๆด้วย

     

    รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีใครได้ยิน แต่ก็ยังอยากที่จะพูด การรอคอยช่างทรมานนัก เขาอยากจะเร่งให้โทมัสเหนี่ยวไกเร็วๆ แต่ก็ไม่ได้ทำ แค่นี้ก็ทรมานเพื่อนรักคนนี้มากเกินไปแล้ว

     

    เขาย้อนกลับไปนึกถึงวันนั้น วันที่ได้แต่เฝ้ารออยู่ในกำแพง วันที่เขาได้แต่อธิษฐานกับสิ่งที่ไม่เคยจะเชื่อ ไม่เคยคิดว่ามีตัวตนจริงๆ มาวันนี้ เขาก็อยากจะขออีกครั้ง

     

    ขออีกสักครั้งจะได้ไหมครับ

    ขอให้ผม….ได้พบกับเขา อีกสักครั้ง

     

    หากแต่บางที คำอธิษฐานก็ไม่มีทางเป็นจริงเสมอไป

     

    ปัง!

     

    -.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-

    เฮือก!

     

    เป็นอีกหนึ่งคืนที่ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาบนเตียงนุ่ม หายใจหอบก่อนจะรับรู้ถึงน้ำตาที่ไหลผ่านแก้ม เมื่อกี้เขาฝันบ้าอะไร รู้สึกถึงความทรงจำบางส่วนที่หายไป ภาพในความฝันช่างเลือนราง ที่รับรู้ตอนนี้มีเพียงความเศร้าในอกที่ยังไม่ยอมจางหายไปไหน

     

    เขาพยายามปาดน้ำตาออก แต่ความเศร้าไร้ที่มากลับรุมเร้าจนไม่อาจจะหยุดได้ นี่เขาเป็นบ้าอะไร ตื่นมานั่งร้องไห้เพราะฝันร้ายเนี่ยนะ อายุเท่าไหร่แล้ว

     

    กว่าที่น้ำตาจะหยุดไหลก็กินเวลาไปพอสมควร เขาเงยหน้ามองนาฬิกาข้างเตียง จะเช้าแล้ว วันนี้เขาว่าจะไปแคสติ้งหนังใหม่ที่จะถ่ายทำในอีกสองอาทิตย์หน้า ตื่นเลยก็น่าจะดี

     

    เขาฝืนร่างกายลุกขึ้น สติยังไม่คงที่นัก ได้แต่เดินโซซัดโซเซไปทางห้องน้ำ หวังว่าสายน้ำอุ่นๆตอนเช้าจะช่วยให้อะไรๆดีขึ้นได้บ้าง

     

    เขาอาบน้ำแบบเหม่อ ปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านไปทั่วร่าง ในหัวยังมีภาพความฝันที่ยังคงติดตรา ภาพของใครบางคนที่เลือนราง เขาจำอะไรในนั้นไม่ได้มาก เหมือนกับ เขาต้องผ่านบททดสอบอะไรสักอย่างที่เลวร้าย แล้วสุดท้ายเขาก็เป็นบ้า โดนยิงตาย? จำอะไรไม่ค่อยได้มาก ความจริงเขาไม่จำเป็นที่จะต้องเก็บความฝันบ้าๆบอๆแบบนั้นมาใส่ใจก็ได้ ถ้าไม่ติดว่าเขาฝันแบบนี้แบบนี้มาหลายวันติดแล้ว และทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมา เขาก็ต้องนั่งร้องไห้แบบหยุดไม่อยู่ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน

     

    หรือบางที เขาควรจะไปพบจิตเวช

     

    แต่ความคิดนั้นก็โดนปัดไปอย่างรวดเร็ว เกิดเขาเดินไปเข้าโรงบาลจิตเพื่อพบจิตแพทย์ขึ้นมาจริงๆคงได้เป็นข่าวดังแน่นอน ซึ่งนั้นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากให้มี

     

    หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ออกไปปิ้งขนมปังกินกับนมง่ายๆ มองดูตารางงาน วันนี้เขาจะไปแคสติ้งหนังใหม่ เรื่อง The maze runner เขาคงจะไปลองดูบทของนิวท์ หลังจากไปออดิชั่นมาจนคัดเหลือ 10  คน เขาก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับบทนี้

     

    ความฝันเมื่อคืนยังคงรบกวนอยู่ในความคิด เขาพยายามปัดมันออกไป ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยได้ผล

     

    กินเสร็จเรียบร้อยถึงจะลุกไปแต่งตัว เดินทางไปที่ที่จะแคสติ้งวันนี้

     

     

    -.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-

     

    ท้อเหมือนกันนะ

    ดูจากคนที่จะมาแคสแข่งกับเขาวันนี้ทำเขากำลังใจเขาเริ่มถดถอย แต่ละคนดูแต่งมากเลย เหาะกับบทด้วย เขาจะไหวไหมเนี่ย

     

    ดูจากคิวแล้วเขาคงต้องนั่งรออีกสักพักใหญ่ๆ เขากวาดตามองหาที่ที่พอจะนั่งได้ก็เห็นที่ว่างข้างๆใครคนหนึ่ง

     

    ดูเหมือนจะเป็นคนเอเชีย ทั้งรูปร่าง หน้าตา สัดส่วนดูพอดีจนเกินไป คงจะมาแคสบทนักแสดงที่เป็นหัวหน้านักวิ่งอะไรเนี่ยแหละมั้ง เขาจำชื่อไม่ได้

     

    ไม่ต้องเสียเวลาคิด เขาเดินไปทางที่ว่างตรงนั้น ถามนิดหน่อยเป็นมารยากตามฉบับผู้ดีอังกฤษ

     

    ขอโทษนะครับ ตรงนี้ว่างหรือเปล่าครับ

     

    ร่างสูงเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ที่อ่านค้างไว้อยู่ ภาษาเกาหลีหรือเปล่านั้น เขาคิด ก่อนจะสบตากับอีกฝ่าย

     

    เหมือนมีอะไรสักอย่างวิ่งผ่านเข้ามาในหัว ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดแล่นวูบขึ้นมาทันทีหลังจากที่แค่สบตา สิ่งที่ดูเหมือนเป็นความทรงจำหรืออะไรก็ตามแล่นเข้ามาอย่างเลือนราง เหมือนน้ำขุ่นที่มีหมอกมาบดบังอีกครั้งหนึ่ง

     

    มินโฮ

    นายจะหายแน่นอน ฉันจะปกป้องนายเอง

    มันไม่มีทางหายไปได้หรอก ฉันเป็นแคร้งนะ

    ขอโทษนะ ฉันขอโทษ แต่มันไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ

     

    คุณครับ คุณ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ

     

    เหมือนเขาจะเหม่อมองหน้าอีกฝ่ายนานไปหน่อย เขาสะดุ้งเมื่อเห็นมือหนาโบกผ่านไปมาตรงหน้า เขาดึงตัวเองกลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง เขาส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเอ่ยขอบคุณเมื่ออีกฝ่ายเขยิบให้เขานั่งด้วย เขานั่งลง ในหัวยังคงมีแต่ภาพประหลาดๆที่ผุดขึ้นมาเมื่อสักครู่

     

    มาแคสเป็นใครเหรอครับ

     

    เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านข้างดึงเขาออกจากโลกในความคิดอีกรอบ เขาหันไปมอง เห็นเพียงตาตี่ๆของคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง

     

    นิวท์น่ะครับ ที่เป็นรองหัวหน้าทุ้ง คุณล่ะครับ

     

    การมีเพื่อนไว้ก่อนเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะคนต่างชาติแบบนี้ ท่าทางร่างสุงคนนี้คงจะเป็นคนเกาหลี ดูจากหน้าตา สีผมและสีตาแล้ว

     

    มินโฮครับ ที่เป็นหัวหน้านักวิ่ง ในบทดูเป็นคนจริงจังจนผมคิดว่าไม่น่าจะเล่นได้เลยล่ะครับ

     

    เขาหัวเราะให้กับคำกล่าวนั้น เหมือนจะจริง ดูจากการยิ้มกว้างจนไม่เห็นตาแบบนี้คงเป็นคนเฮฮาไม่น้อย แต่ก็อย่างว่า ตัวตนที่แท้จริงกับที่แสดงมักสวนทางกันเสมอ

     

    เงียบกันไปสักพัก มีคนเดินออกมาจากห้อง ท่าทางจะแคสเสร็จแล้ว สีหน้าท่าทางเหมือนคนโดนสูบพลังของคนที่เดินออกมาทำเอาเขาใจฝ่อ ผู้กำกับโหดขนาดนั้นเลยเหรอ

     

    ท่าทางเหมือนผู้กำกับจะโหดเอาเรื่องเลยนะครับ

     

    ดูเหมือนจะไม่มีเขาคิดแค่คนเดียว เสียงทุ้มที่พูดขึ้นทำเอาเขาหัวเราะอีกรอบ

     

    อ่าจริงสิ คุณชื่ออะไรเหรอ ผม กีฮงลี มาจากเกาหลีครับ

     

    พูดพร้อมกับยื่นมือมา เขาเอื้อมไปจับแบบไม่คิดอะไรมากก่อนจะแนะนำตัวกลับ

     

    ผม โทมัส โบรดี้-แซงสเตอร์ เป็นคนอังกฤษ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ

     

     

    -.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-

     

    ตัดจบไปเลย 55555

    เป็นอารมณ์ชั่ววูบที่อ่านฟิคดราม่าแล้วอยากแต่งบ้าง

    งงกับชื่อโทมัสนิดหน่อยอ่ะค่ะ ตกลงต้องมีคำว่า โบรดี้ไหมค่ะ ทำไมบางเว็บมีบางเว็บไม่มีอะ ขออัญเชิญผู้มีความรู้บอกด้วยนะคะ

    อ่านเล่มสามจบแล้วนั่งร้องไห้ ทำไมทำแบบเน้ ทำร้ายคนอ่านมากที่สุด

    ขออภัยแด่คนที่รอ 3p พอดีไอเดียนี้มันแล่นขึ้นมาเลยต้องรีบเขียน ในเมื่อในหนังสือมันจบทำร้าย มโนสาววายก็กลับมาจิ้นในความเป็นจริงเนี่ยแหละ 55

    เผื่อคนที่ยังไม่รู้นะคะ ชื่อของคนแสดงนิวท์ คือโทมัสค่ะ แล้วคนแสดงมินโฮคือกีฮงลี การมโนต้องมโนยันโลกแห่งความจริงค่ะ เป็นอดีตชาติหรือโลกคู่ขนานก็ได้

    นี้ไม่ใช่ฟิคยาวนะคะ  มีพล็อตเรื่องตามชื่อเรื่องเลยค่ะ once again อารมณ์ประมาณว่า ขออีกสักครั้ง อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ แค่อาจจะมีพาร์ทของมินโฮมา เลยลงแบบตอนยาวเอาไว้ดีกว่าค่ะ

    สำหรับคนที่สามพีหรือตอนต่อของ in the past รอไปก่อนนะคะ พอดีเรื่องนี้มาแรงแซงโค้งรีบแต่งมาอัพค่ะ//โดนถีบ

    ขอบคุณทุกคนที่หลงเข้ามาอ่านและทุกคอมเม้นเหมือนเดิมค่ะ > /\ <

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×