คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #101 : เคน Chapter 18 ของเก่า
“ อะไรน่ะ “ ผมเอ่ยถาม เมื่อกี้เหมือนจะได้ยินเสียงใครบางคนแทรกเข้ามา แล้วพวกเราก็ถูกโจมตี มีคนแอบฟังเรื่องของพวกเรางั้นเหรอ!
“ ไงคิยะ..” เสียงหนึ่งเอ่ยทักขึ้น ผมมองไอตาส้มที่กำลังก่อลูกไฟสีเพลิงออกมาก้อนใหญ่ยักษ์ พระเจ้า!! คนที่ไม่อยากให้รู้ความลับมากที่สุด มันดันโผล่หัวออกมาในตอนนี้ซะแล้วสิ!
“ ก็คิด ๆ อยู่แล้ว..ว่าทำไมมันถึงคุ้นเคยดีนัก แกคงจะจำฉันไม่ได้เลยสักนิดล่ะสิเคน!” เซย์แหกปากดังลั่น ก่อนลูกไฟที่เจ้านั่นก่อเมื่อครู่จะกลายเป็นมังกร ( แบบจีน ) พันล้อมรอบตัวเอาไว้
“ เก็บเรื่องที่อยากถามเอาไว้ก่อนแล้วกัน!” พี่คิยะหันมาตะโกนตอบผม ก่อนพี่คิยะจะเริ่มก่อลูกบอลน้ำขึ้นมาในฝ่ามือ
“ อย่าหวังเลย!” เซย์สบถ ก่อนมังกรสีเพลิงนั่นจะพุ่งพรวดเข้ามาหาพี่คิยะ ทว่ามันกลับถูกปีกของนกยักษ์ที่ตัวเป็นน้ำสะบัดออกไป
นกฟินิกซ์..
“ คิดแล้วว่ามันต้องมีคนทรยศ! แล้วมันก็คือเธอคิยะ..เธอกล้ามากนะ ที่ปิดเรื่องหมอนั่นไม่ให้ฉันรู้!” เซย์กล่าวด้วยสายตาเกรี้ยวกราด ผมมองเจ้านั่นด้วยความไม่เข้าใจ ไม่เหลือเลย สายตาทะเล้นของเจ้านั่น จะมีก็เพียงกองเพลิงรูปมังกร ที่เด่นชัดอยู่ในดวงตาทั้งสองข้างของเซย์
“ เธอคิดจะแก้แค้นเขา เพราะเรื่องเก่านั่นเหรอ..เข้าใจหน่อยสิคิยะ ตอนนั่น เขายังไม่รู้เรื่อง!” พี่คิยะตะโกนตอบ ก่อนนกฟินิกซ์สีฟ้าจะพ่นน้ำออกมาจากปาก ทว่าฝ่ายมังกรของเซย์ก็จัดการใช้หางสะบัดน้ำนั่นจนกระเด็นออกไป
“ ไม่รู้เรื่อง..ฉันให้อภัยมันไม่ลงหรอกนะ!”
“ เธอกำลังพูดเรื่องอะไรน่ะ! พอรู้ว่าฉันเป็นแวมไพร์ ก็เลยต้องรีบฆ่าฉันงั้นเหรอ!” ผมตระโกนถามเซย์ รอบๆ บริเวณเริ่มเต็มไปด้วยไฟที่ลุกลามขึ้นเรื่อยๆ ต้นกุหลาบนับสิบถูกเผาไปด้วยกองเพลิง..
สองคนนั่นกำลังพูดถึงเรื่องอะไรแน่..
ไม่เข้าใจเลยสักนิด..
“ หึ..ลบความจำเจ้านั่นไปรึไง คิยะ!! เจ้านั่นถึงลืมเรื่องที่เคยทำไว้ได้ลงคอน่ะ!” เซย์ตะคอก ผมมองเห็นแววตาของเจ้านั่นที่เริ่มมีน้ำใสๆ ปริ่มออกมา..ใช่ มันกำลังร้องไห้ แล้วนั่นมันเพราะอะไรกันล่ะ ?
แล้วผมเคยทำอะไรไว้งั้นเหรอ..? หรือแรงอาฆาตพวกแวมไพร์ของเซย์มันจะกระตุกขึ้นมา..เจ้านั่นเลยโมโหโกรธจัดเป็นธรรมดา..
“ นึกไม่ออกเหรอเคน! เรื่องของคิโตมิยะนะ!!” เสียงของเซย์ดังก้องเข้ามาในสมอง ทั้งสองคนนั่นยังคงสู้กันไม่หยุด นกฟินิกซ์และมังกรตัวโต กำลังบินว่อนไปมาอยู่ทั่วท้องฟ้า
แม้มันจะเป็นคืนเดือนมืด..แต่แสงจากพลังทั้งสองนั้น ก็ทำให้ผมเห็นภาพทุกอย่างชัดเจน..
“ คิโตมิยะ..” ผมทวนนามสกุลนั้นอีกครั้ง มันก็เป็นแค่นามสกุลของไอตาส้มไม่ใช่เหรอ..? งั้น..เรื่องที่เจ้านั่นกำลังให้ผมนึก มันคืออะไรกันล่ะ..
“ ซ่าา “ เสียงน้ำที่ตกลงมา เมื่อมังกรสีเพลิงและฟินิกซ์สีครามพ่นไฟและน้ำออกมาพร้อมกัน ทั้งสองอย่างปะทะกันอย่างจัง แต่ดูเหมือนฝ่ายน้ำของพี่คิยะจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
แล้วจะให้ผมช่วยยังไงล่ะ...ทำยังไงดี ?
จะใช้ดาบอัคคีต่อสู้กับมังกรตัวยักษ์งั้นเหรอ..เรื่องพระเอกขี่ม้าขาวแล้วใช้ดาบกับกระจกสู้กับมังกรน่ะ มันมีแต่ในวอลดิสนีย์อะไรแบบนั้นนะ! ผมคงจะเอาแอ็คซอร์ออกไปฆ่ามังกรของเซย์ไม่ได้อยู่แล้ว
“ แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ “ ผมบอกกับตัวเอง เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากปากพี่คิยะช้าๆ ต่างจากเซย์ที่ดูจะไม่เป็นอะไรเลย
ต้องตามแฝดมาช่วย...
ใช่..แล้วผมจะตามพวกนั้นมายังไงล่ะ..
“ เคนจัง ดื่มน้ำนี้ซะ!” พี่คิยะตะโกนบอก ก่อนจะใช้มืออีกข้าง สร้างลูกบอลน้ำขึ้นแล้วยื่นมันมาให้ผม
กลิ่นไอนี้เนี้ยนะ! มันไม่ใช่เวลามาล้อเล่นนะ! ถึงมันอาจจะเป็นวิธีตายที่เจ็บน้อยๆ กว่าโดนไอมังกรยักษ์นั่นพุ่งใส่ก็เถอะ!
“ กินเข้าไปซะ!!” ไม่รีรอ พี่คิยะก็จัดการยัดมันเข้าปากผมทันที
“ เรียก..เรียกดาบอัคคีออกมา!” สิ้นประโยค ร่างของพี่คิยะก็ถูกโจมตีด้วยหางของมังกรเพลิงนั่น ก่อนจะตามมาด้วยเซย์ที่กำลังยืนประจันหน้าของผม
“ ตอนแรก..ฉันคิดว่าคงจะไม่ใช่นาย..แต่พอได้ยินเรื่องที่นายคุยกัน..ฉันก็เริ่มมั่นใจขึ้นมาทันที “ เซย์บอกก่อนน้ำตาที่ไหลออกมาจะกลายเป็นไฟแล้วมอดดับไปเอง
“ นายจำได้มั้ยเรื่องของคิโตมิยะ “
“ เธอกำลังอยากจะพูดอะไรกันแน่!” ผมตะโกนถาม ยัยนี้จะมาเพ้ออะไรอีกล่ะ ถ้าอยากจะฆ่า..ก็ฆ่ากันเลยดีกว่า มาพูดอะไรให้ค้างคาใจก่อนตายน่ะ ดวงวิญญาณผมจะไม่สงบสุขนะ!
“ หึ..ถ้านึกไม่ออก ฉันก็อยากจะช่วยเตือนความจำให้หรอกนะ..แต่ก่อนหน้านั่น เอาไว้ถาม เวลาเจอฉันที่นรกก็แล้วกัน!!” เซย์ตวาดก่อนเจ้านั่นจะปล่อยลูกไฟสีส้มมาที่ผมอย่างเร็ว
“ อ..แอ็คซอร์!!”
“ คิดว่าจะทันรึไง!!”
“ อุก...” สิ้นเสียงสุดท้าย ผมมองดูร่างตรงหน้าที่ร่วงลงมาในอ้อมแขนของผม ผ้าคลุมสีดำขาดเป็นชิ้นๆ ร่างของคนคุ้นเคยเริ่มกลับมาอยู่ในชุดชมพูสีกลีบซากุระ
“ มินะทู!!” ผมตะโกนเรียกชื่อเธอด้วยความตกใจ กลีบซากุระนับสิบปลิวว่อนไปทั่วร่างของผมกับเธอ
“ แฮ่กๆ..” ร่างของสองแฝดที่ดูเหมือนเพิ่งจะวิ่งมาถึง สองคนนั่นรีบชักอาวุธออกมา ก่อนจะรีบวิ่งมาขวางระหว่างผมกับเซย์
“ ยัยบ้า! ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่า! “ ไนน์หันมาตะโกนใส่มินะทู ที่เลือดกบปาก ก่อนจะสั่งให้ผมลากยัยนี้ออกไปจากตรงนั้น
ผมลากยัยนั่นมายังที่ที่พี่คิยะนั่งอยู่ ดูเหมือนอาการของพี่คิยะก็ใช่ย่อยเช่นกัน
นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันภายในวันนี้เนี้ย!
“ อยากปกป้องพวกมันซะเหลือเกินนะ!!” เซย์ตวาดก่อนจะสร้างมังกรไฟขึ้นมาอีกตัว
“ เธอทำบ้าอะไรน่ะ!!” ผมก้มหน้าลงไปมองหน้าของมินะทู กลีบซากุระยังคงบินว่อนไปมา ยัยนี่..เจ็บตัวเพราะเข้ามาขวางลูกไฟให้ผม..
ทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วยล่ะ..
“ แย่ล่ะสิ..เธอโดนพลังเล่นแร่แปรธาตุกับพลังเวทของเซย์เข้าไปน่ะ.” พี่คิยะบอกก่อนจะใช้มือไปอังตรงบริเวณที่ยัยมินะทูโดนพลังอัดเข้าไป แสงสีฟ้าสว่างขึ้นอย่างช้าๆ
“ พี่คิยะ มันไม่มีทางอื่นเหรอ ทำแบบนี้น่ะ พี่ก็จะเจ็บตัวไปด้วยนะ!” ผมบอก เช่นเดียวกับยัยนั่นที่พยายามใช้มือของตัวเองจับมือของพี่คิยะไว้ เชิงบอกว่าหยุด
“ สองแฝดน่ะ สู้เซย์ไม่ไหวหรอก เวลาที่ยัยนั่นโกรธ มีคนเดียวเท่านั้นที่พอจะสู้ได้ คนที่มีพลังแปรธาตุเหมือนกัน “ พี่คิยะอธิบาย แล้วคนแบบนั้นจะหามาจากไหนเล่า!! เวลาแบบนี้ มันคงไม่มีมานอนสลบอยู่หรอก..
“ ไปตามชินโดมาซะเคน..” พี่คิยะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง แล้วหมอนั่นมาเกี่ยวอะไรในเวลาแบบนี้กันล่ะ..จะลากเจ้านั่นมาตายรึไง!? ถึงไอชินโดจะแรงควายมันก็สู้เซย์ไม่ได้หรอก!
“ ถ้าเธอกับชินโดร่วมมือกันบางทีอาจจะเอาชนะเซย์ได้ก็ได้นะ!” พี่คิยะบอกก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผมไว้ มือที่เต็มไปด้วยเลือด..ของพี่คิยะ
“ ทำไมต้องเป็นหมอนั่นล่ะ..ไอชินโดก็มนุษย์ธรรมดานะ!” ผมบอก ก่อนมินะทูจะยันตัวลุกนั่งขื้นมา
“ เธอจะไปไหน!” ผมถาม เมื่อยัยนั่นกำลังจะเดินไปหาพวกแฝด
“ mene pois !! ( หลบไปซะ!!)” ยัยนั่นตะโกน ผมรีบวิ่งเข้าไปหามินะทูทันที ทว่าร่างของผม แล้วก็พวกแฝด กลับถูกเหล่ากลีบซากุระมากมายเข้ามาพันรอบตัวจนลอยขึ้น
“ Älä usko, hän jatkaa taistelua yksin!! ( เธอคงไม่คิดไปสู้เองคนเดียวหรอกนะ!!)” ไนท์ตะโกนคำว่าอะไรสักอย่างที่เป็นภาษากิสเทส มือทั้งสองของพวกเราทุกคนเริ่มถูกซากุระเหล่านั้นพันธนาการเอาไว้ทันที เมื่อพยายามขยับตัว
“ Auttaneet minua viime kerralla .. todella pitää sin sinulle vanhempi sisko tai veli ( ให้ฉันได้ช่วยครั้งสุดท้าย..ถือว่าเป็นการไถ่บาปต่อท่าน ท่านพี่ )“ มินะทูพูดอะไรสักอย่างก่อนจะหันมามองหน้าผมด้วยน้ำตา
อะไรกัน..ยัยนั่นคงไม่คิดเหมือนนางเอกในนิยาย ที่คิดจะสละชีพตัวเองเพื่อปกป้องตัวเอกหรอกนะ!? ความจริงผมต้องเก่งที่สุดไม่ใช่เหรอ..แต่ดูยังไง ผมก็เหมือนกับพวกไร้ซึ่งความสามารถชัด ๆ
“ อย่าทำบ้าๆ นะ!” ผมตะโกนออกไป ก่อนเหล่าโครงกระดูกนับร้อยตัวจะผุดขึ้นมาจากผืนดิน
มือของมินะทูชี้ไปข้างหน้าเหมือนสั่งการ เหล่ากองทัพโครงกระดูกก็เดินหน้าไปทันที แต่ระหว่างนั้นเซย์เองก็สั่งให้มังกรยักษ์ พ่นไฟใส่พวกโครงกระดูก
“ Tappaa se ( ฆ่ามัน )”
เหล่าโครงกระดูกพร้อมใจกันส่งเสียงร้อง ดูเหมือนไฟของเซย์จะไม่มีความหมายอะไรเลยกับเหล่าโครงกระดูก ที่สำคัญ..เจ้านั่นน่าจะกำลังอ่อนแรง..
“ พวกแก!!” เซย์กัดฟันกรอดด้วยความโกรธ มังกรยักษ์ตัวหนึ่งเริ่มแตกตัวเป็นลูกบอลไฟนับร้อย ก่อนพวกมันจะพุ่งเข้าใส่กองทับกระดูก
“ Ford ( ลุย! ) “ มินะทูออกคำสั่ง ผมดูยัยนั่นที่เริ่มจะอ่อนแรงเช่นกัน มินะทูสำลักเลือดออกมาอีกครั้ง
แต่มัน..ไม่ใช่สีแดง..มันเป็นเลือดสีเขียว
“ นั่นมันพลังวิญญาณ... ดวงวิญญาณของยัยนั่นกำลังจะแตก!!” ไนท์ตะโกนบอก จู่ๆ ร่างกายของผมมันก็พยายามดิ้นรนไปเอง และแน่นอนว่าดอกซากุระก็ยิ่งรัดผมแน่นขึ้น
ไม่รู้เลยว่าผมกำลังจะทำอะไร..รู้เพียงแต่..
ผมอยากจะช่วย..ช่วยยัยนั่น!
“ tappaa tappaa tappaa ( ฆ่า ฆ่า ฆ่า ) “ เหล่ากองทับกระดูกยังคงส่งเสียงกู่ร้อง ต่างจากเซย์ที่ดูเหมือนจะเริ่มจนมุม
“ อย่าขยับน่าเคน! นายกำลังทำยัยนั่นเสียพลังไปเรื่อยๆ นะ “ ไนน์ร้องบอกผม เจ้านั่นยังคงนั่งอยู่ในท่าใจเย็น พวกซากุระทั้งหลาย เลยไม่ได้พันตัวของหมอนั่นไว้
“ จะให้ฉันทนดูเฉยๆ เหรอ!!” ผมตะโกนถาม
“ รอดูให้จบเถอะเคนจัง..ยัยนั่นกำลังจะจบเกมแล้ว “ไนท์บอกผมก่อนจะจ้องมองสถานการณ์เบื้องล่างต่อไป
ผมมองดูพี่คิยะที่สลบไปแล้ว..
ผมเป็นตัวปัญหามากๆ เลยสินะ..ทุกคนถึงต้องมาเจ็บตัวเพราะผม
ถ้าไม่ต้องมาปกป้องผมสักคน.. เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น..
“ โถ่เว้ย!!” เซย์ร้องตะโกนเสียงดัง ก่อนเจ้านั่นจะกระโดดขึ้นตัวมังกรไฟยักษ์ไป
“ ฝากไว้ก่อนเถอะ..ฉันจะต้องแก้แค้นแวมไพร์อย่างแกให้ได้!” หมอนั่นบอกทิ้งท้าย ก่อนมังกรไฟยักษ์จะบินสูงขึ้นไปอีก..
“ Voi eiVoi eiVoi ei ( ไม่ไหวแล้ว..) “ มินะทูร้องบอกก่อนกลีบซากุระทั้งหลายจะเริ่มพาตัวของผมและแฝดลงมาบนพื้นดิน..ก่อนมันจะปลิวออกไปจากตัวผมอย่างช้าๆ
คราวนี้โครงกระดูกนำสิบเริ่มหันมารุมล้อมพวกเราแทน แต่ก็ต้องหลบไปโดยดี เมื่อมินะทูกำลังเดินแหวกฝูงโครงกระดูกเข้ามาหาผม
“ Fell ..Fell ( เฟล เฟล ) “ มินะทูร้องเรียกก่อนจะยื่นมือมาเหมือนกำลังโหยหาผม ผมรีบวิ่งเข้าไปพยุงยัยนั่นไว้ ก่อนเราทั้งสองจะล้มลงไปนั่งด้วยกัน
เลือดสีเขียวยังคงไหลออกมาจากปากมินะทูไม่หยุด กลีบซากุระทั้งหมดที่เคยปลิวว่อนรอบๆ ตัวเธอ เริ่มหายไป..บนฟ้า
“ ม..มาเรีย..สินะ “ ผมบอก ยัยนั่นใช้มือทั้งสองที่เปื้อนไปด้วยเลือดสีเขียวลูบไล้ใบหน้าผม สองแฝดเริ่มเขามานั่งประชิดตัวยัยนั่น
“ อาการแบบนี้ไม่ไหวแล้ว พลังวิญญาณไม่เหลือแล้ว..” ไนท์บอก
“ Että hän ei kuolla toisen kerran ! ( ไหนเธอบอกว่าจะไม่ตายครั้งที่สองไง!)” ผมมองดูไนท์ที่พยายามสื่อสารอะไรบางอย่างกับมินะทู เมื่อจบประโยค ยัยนั่นก็ได้แต่ส่งยิ้มบางๆ มาให้พวกเราทั้งสาม
“ Pahoillaan -mutta en voi pitää tämän lupauksen uudelleen ( ขอโทษ แต่ฉันรักษาสัญญานั่นไม่ได้อีกแล้ว ) “ มินะทูบอกก่อนจะร้องไห้ออกมา ขาทั้งสองของยัยนั่นเริ่มสลายไป เหมือนเศษทรายที่กำลังลอยขึ้นฟ้า
“ Päästöt-free hey ( ปลดปล่อย..เฮ้!)” เหล่าโครงกระดูกนับร้อยโห่ร้องเหมือนกำลังดีใจก่อนร่างของพวกนั่นจะเริ่มสลายไปแบบเดียวกับมินะทู
“ นี้มันอะไรกัน..” ผมบอกก่อนจะกอดร่างของมินะทูเอาไว้
“ พวกเขากำลังจะไปสู่สุขคติ รวมทั้งยัยนี่ด้วย “ ไนน์อธิบาย ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปอย่างเงียบๆ
“ ไม่จริงใช่มั้ย..” ผมถาม จู่ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาเองโดยไม่ได้ตั้งใจ ความรู้สึกต่างๆ มันไหลออกมาโดยที่ผมไม่เข้าใจเลยสักนิด..
“ Loppujen lopuksi meidän on osa uudelleen ( ในที่สุด เราก็ต้องจากกันอีกครั้ง ) ” ยัยนั่นพูดอะไรสักอย่างที่ผมไม่เข้าใจ..ผมรีบกอดยัยนั่นให้กระชับแน่นขึ้นทันที บางที..ถ้าผมทำแบบนี้ ร่างของยัยนี่อาจจะไม่หายไปก็ได้..
“ เธอ..จะตายเหรอ..”
“ Olen erittäin iloinen voidessani tavata teidät uudelleen ( ข้าดีใจมากๆ ที่ได้พบกับท่านอีก )“
“ ไม่รู้ทำไม..แต่ฉันไม่อยากให้เธอตาย..ฉันมันบ้าตั้งแต่พาเธอออกมาจากที่นั่น”
“ Valitettavaa .. emme voineet tavanneet toisiaanValitettavaa .. emme voineet tavanneet toisiaan ( น่าเสียดาย..ที่เราอาจจะไม่ได้เจอกันอีก ) “
“ เธออยากจะบอกอะไรกันแน่..” ผมถาม เธอไม่พูดอะไรอีกแล้ว มีเพียงแต่รอยยิ้มเศร้า ๆ ที่ส่งมาให้ เหมือนเราทั้งสองกำลังพยายามสื่อสารกับตัวเองในกระจก ไม่มีคำตอบ..และไม่มีอะไรที่เข้าใจเลย..
“ Fell ( เฟล ) “ ยัยนั่นพูดเบาๆ นี้คงจะเป็นชื่อของชายคนนั้นที่ผมเคยเห็นในฝันสินะ.. ร่างของเธอตอนนี้ เหลือเพียงแค่ส่วนหน้าอกจนถึงใบหน้าเท่านั้น..
เธอกำลังจะจากผมไป...
ทำไม..ไม่มีใครช่วยเธอได้เลยล่ะ! เวทมนตร์น่ะ มันช่วยชีวิตคนไม่ได้เหรอ!! ถ้างั้นหนังแฟนตาซีบ้าบอต่างๆ ที่ผมเคยดู มันก็โกหกทั้งเพสิ!
“ ไม่รู้ทำไม..ฉันไม่อยากให้เธอไปจากฉัน..ไม่อยากเลยสักนิด ทั้งๆ ที่ฉันก็ออกจะรำคาญเธอด้วยซ้ำ..” ผมบอก ยัยนั่นไม่เถียง..หรือไม่ด่าอะไรผมเลย.. นั้นสินะ..ก็เราคุยกันไม่รู้เรื่องนี่..
“ Hei ( ลาก่อน..) “
“ เธอจะไปแล้วสินะ..”
“ คิมิ โอะ..ไอชิเตรุ” คำพูดที่ทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนร่างทั้งร่างของมินะทูจะหายไป..อะไรกัน..ทั้ง ๆ ที่เราเพิ่งเจอกันได้วันเดียวแท้ๆ....
“ Huraa ( เย้!!)” พวกโครงกระดูกที่เหลือสลายหายไปหมดแล้ว จะทิ้งไว้ก็เพียงเสียงโห่ร้องดีใจของพวกเขา..
ยัยนั่นจากไปแล้ว..
แถมยังทิ้งคำน้ำเน่าส่งท้ายไว้อีก...
“ รู้มั้ยมินะทู..เวลาจากกันน่ะ..เขาต้องพูดว่าลาก่อน.. ไม่ใช่พูดว่า ฉันรักเธอซะหน่อย...”
ความคิดเห็น