ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rock me remix...[yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : Boy that i loved[100%]

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 52


    ตอนที่ 2
    Boy that I loved
    100% แล้ว อภัยพอดีวันอาทิตย์เราเองก็ปั่นอย่างเร็วสุดๆแล้ว
    ------------------------------------------------------------------------------------------



    ภายในห้องทำงานขนาดใหญ่ของบ้าน ไม่ใช่สิ...บางทีอาจต้องเรียกมันว่า คฤหาสน์
     

    มือหนาของชายที่อยู่ภายในห้องค่อยๆแหวกผ้าม่านลายวิกตอเรียขึ้น แสงแดดอ่อนๆของยามกลางวันแทรกเข้ามาเบาๆในห้องที่มืดสลัว ดวงตาสีน้ำตาลทองบ่งแววเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัด เบื้องหน้าของเค้าเป็นสวนที่มีน้ำพุแบบตะวันตกขนาดใหญ่ประดับอยู่ น้ำจากยอดไหลช้าๆอย่างสวยงามโดยมีรูปปั้นภูติยอกน้ำเล่น
     

    ไม่ใช่...ยังไม่ใช่
     

    ว่าแล้วดวงตาคู่นั้นก็มองลอดผ่านหน้าต่างบานใหญ่ ข้างบนนั้นเป็นท้องฟ้าที่กว้างขวางไร้ที่สิ้นสุด ดวงตาของเขาเหม่อลอย ปุยเมฆสีขาวที่ค่อยๆลอยผ่านไปๆตามแรงลมในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส
     

    ใช่...แบบนั้นแหละ ชั้นอยากเป็นเหมือนก้อนเมฆพวกนั้น
     

    มือถูกเลื่อนกลับมา ผ้าม่านปิดลงพร้อมๆกับภาพของภายนอก ชายหนุ่มเจ้าของผมสีทองน้ำตาล(เช่นเดียวกับดวงตา)ค่อยๆพิงลงกับเก้าอี้สีดำตัวใหญ่
     

    บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่ต้องเลิกฝันบ้าๆนี่เสียที…
     

    ว่าแล้วก็หาวหนึ่งทีก่อนจะหมุนเก้าอี้ตัวใหญ่กลับไปหาโต๊ะทำงาน โต๊ะทำงานที่ทำจากไม้ชั้นดีถูกเคลือบด้วยสีเคลือบจนมันวาว บนโต๊ะมีข้าวของมากมายวางอยู่อย่างเป็นระเบียบ ชายหนุ่มอายุราวๆ 20 กว่าปีในชุดของนักศึกษามหาลัย เค้าจับปากกาโลเหล็กก่อนจะจ้องเขม็งไปที่กระดาษแผ่นหนึ่ง ดวงตาพรางไล่อ่านไปเรื่อยๆก่อนจะเขียนอะไรบางอย่างลงไป
     

    เสียงแคะประตูดังขึ้น ก่อนที่น้ำเสียงหนึ่งจะเอ่ยออกมาอย่างสุภาพ
     

    “ขออนุญาตเข้าไปนะครับ คุณหนู” เด็กหนุ่มพรางมองไปสักนิด ก่อนจะตอบ
     

    “อืม...” ดูเหมือนน้ำเสียงจะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ เพราะเค้าเองถึงจะคุณหนูขนาดไหนก็ไม่อยากให้ใครมาเรียกเค้าแบบนั้น
     

    สิ้นเสียงเปิดประตู ชายอายุราวปลายๆสามสิบในชุดสูทสีดำก็ปรากฏ
     

    “เรียบร้อยรึยังครับ”
     

    “อืม…” -___- ชายหนุ่มว่าพรางยื่นกระดาษที่เค้าพึ่งเขียน ชายคนนั้นเดินเข้ามาเพื่อรับมัน ระยะห่างของโต๊ะกับประตูก็ราวๆ 10 กว่าเมตรได้
     

    เค้าหยิบกระดาษสีขาวมันแผ่นนั้นขึ้นมา ก่อนจะมองตัวหนังสือที่ถูกเขียนเพิ่มใหม่ ตัวเขียนแบบอังกฤษถูกเขียนเป็นเส้นเดียวกันจนดูยุ่งเหยิงไปหมด ถ้าให้เด็กอนุบาลดูก็เรียกได้อย่างเดียวว่าไก่เขี่ย แต่เค้าก็พยักหน้าอย่างพอใจมากๆ
     

    “แค่นี้ใช่มั้ย...งั้นชั้นก็คงกลับได้แล้วสินะ” เด็กหนุ่มว่าอย่างเบื่อๆแขนของเค้าถูกเลื่อนมาวางรองศีรษะก่อนจะหมุนเก้าอี้ไปข้างๆ และลุกออกไป
     

    “เดี๋ยวสิครับ พรุ่งนี้วันหยุดแท้ๆคุณหนูน่าจะอยู่ต่อ...” เค้าพูดออกมาเป็นเชิงข้อร้อง
     

    “แต่ชั้นมีงานหนะ…” สิ้นคำกล่าวชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องไป
     

    ทางเดินพรมกว้างประมาณ 2 เมตร ชายหนุ่มผมสีทองน้ำตาลค่อยๆเดินไปตามทางที่คุ้นเคยระหว่างทางก็ผ่านห้องนับสิบได้กว่าจะถึงบันไดทางลง ผนังถูกประดับด้วยรูปราคาแพงกับไฟทางเดินสีทองลายแบบตะวันตก ระเบียงกว้างขนาดใหญ่ของชั้นสองถูกขนาบข้างด้วยบันไดหินอ่อนขาวนวลที่โค้งหน่อยๆ ชายหนุ่มเดินลงมาจากชั้นสอง ภายในห้องโถงชั้นแรกค่อนข้างใหญ่และถูกประดับตกแต่งอย่างประณีต สาวใช้ต่างขะมักเขม้นทำงานของตน แต่ชายหนุ่มไม่ได้สนใจมัน หลังจากก้าวผ่านบันไดขั้นสุดท้าย เค้าก็มุ่งไปยังประตูทางออกทันที
     

    ก้าวแรกที่พ้นผ่านตัวบ้าน(คฤหาสน์) ลมในช่วงบ่ายกำลังพัดเอาไอเย็นๆปะทะกับตัวเค้า เสื้อสีขาวที่ถูกถอดเอาเน็ทไทและปลดกระดุมบนออก คอเสื้อกว้างขึ้นพอประมาณเผยให้เห็นแผ่นอกสีขาวรางๆ เสื้อของเค้าพลิ้วไปตามลมก่อนจะปรากฏรอยสักสีดำสนิทที่บ่าด้านซ้าย
     

    ชายหนุ่มหันไปรับลมสักพักก่อนจะเดินไปยังรถสปอร์ตสีดำที่จอดอยู่ต่อจากทางลง
     

    “พี่ซินกี่...” เสียงหวานดังมาจากด้านหลังก่อนที่เค้าจะได้แตะกับประตูรถ หญิงสาวผมทองในชุดกระโปรงแบบสุภาพ (ที่เค้าใส่กันในพวกงานแต่งงานอะค่ะ - คนเขียน) เธอถือแก้วน้ำชาใบเล็กมองเค้าจากบนระเบียงทางลง

     
    “มีอะไร...”

     
    “จะกลับแล้วหรอ พรุ่งนี้วันหยุดแท้ๆ” เธอพูดแบบงอนๆ แต่ซินกิก็ตอบแบบที่เค้าตอบกับเหมือนกับที่พูดกับชายชุดสูทเมื่อครู่ หลังพูดเสร็จก็เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง ก่อนจะขับจากไป

     
    สายตาของเธอมองรถของพี่ชายที่กำลังจะออกพ้นจากประตู เธอถอนหายใจก่อนจะเดินกลับเข้าตัวบ้าน เธอนั่งลงกับโต๊ะที่มีเหยือกชาแล้วแก้วอีกสองสามใบวางอยู่ แต่แล้วก็สะดุดตาลงเมื่อเด็กชายอายุ 14-15 กำลังลงมาจากชั้นสอง

     
                    “ยุน” เธอเรียกชื่อเด็กชายคนนั้นเบาๆ สีผมและสีตาของเค้าก็เหมือนๆกับเธอและซินกิ เด็กคนนี้เป็นลูกคนสุดท้องของบ้าน


                
    “พี่ซินกิออกไปละหรอพี่เซมิ” เด็กคนนั้นพูดแบบงอนๆ ก่อนจะเทชาขาวลงแก้วแล้วดื่มกับพี่สาวของเค้า


     “อืม...” เธอพูดก่อนจะหลับตาลงพร้อมๆกับจิบชาอย่างสงบ
     
     
    [ต่อ+เปลี่ยนคน]
     
     
     หน้าต่างทุกบานถูกปิดทับด้วยผ้าม่านจนมิด ไฟในห้องถูกเปิดออกทั้งที่นาฬิกายังเดินเลยบ่ายสามมาเพียงไม่กี่สิบนาที เสียงเครื่องแอร์ดังเบาๆชวนทำให้รู้สึกหนาว แต่ดูเหมือนว่าสองชีวิตที่อยู่ภายในห้องกลับไม่รู้หนาว แถมเนื้อตัวก็เต็มไปด้วยเหงื่อเสียด้วยซ้ำ...
     

     สภาพของคนร่างใหญ่ถูกนั่งทับด้วยคนที่ตัวเล็กกว่าตน ทั้งคู่เปลือยเปล่าบอกได้อย่างเดียวว่าเค้าทั้งคู่...
     

      มีเซ็กซ์กัน...
     

      เด็กหนุ่มร่างเล็กกว่าค่อยๆขยับตัวพร้อมกับเสียงหายใจที่เหนื่อยหอบ ผมสีดำสนิทของเค้าดูยุ่งเหยิงหน่อยๆ คิ้วเหนือดวงตาสีดำตกลงราวกับว่ากำลังข่มอารมณ์บางอย่างของตน ทั้งๆที่อีกคนกลับปล่อยตัวปล่อยใจไปอารมณ์และความรู้สึกร้อนผ่าวอย่างเต็มที่
     

     “เจ้าหนู เร็วอีกหน่อยสิ” เขาพูดอย่างแผ่วเบา พร้อมๆกับเสียงหายใจที่ดังถี่ คนที่ตัวเล็กกว่าพยักหน้าหงึกๆอย่างรู้ความ ก่อนจะจัดการจังหวะของตนให้ถี่ขึ้น แต่สักพักคนข้างล่างก็เริ่มปริปากอีก
     

     “เร็วอีกสิ ชั้นจะไม่ไหวแล้วนะ!”
     

      คนที่จะไม่ไหวคือชั้นต่างหากละเฟ้ย...ชิ -___-
     
      
                  แต่ถึงจะคิดยังไงก็ยังเอ่ยปากขานรับอย่างสุภาพ
     

      “เดี๋ยวสิฮะ” ดวงตาข้างหนึ่งเลื่อนลงปิดก่อนจะเอ่ยอย่างยั่ว “มันเจ็บ...”
     

       ไม่...ไม่...ไม่เลย เหนื่อยต่างหากโว้ย!! -*-
     

        ได้ผล ดูเหมือนคนที่นอนอยู่ข้างล่างจะยอมสงบให้สักพัก เขาเองก็ถือโอกาสหยุดพร้อมกับหายใจออกมาทางปากอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะรีบทำต่อ
     

        เมื่อไหร่จะเสร็จสักที... - -
     

         “อื่อ...”
     

        เด็กหนุ่มเริ่มขยับตัวจนจังหวะเข้าที่เหมือนเดิม เค้าก้มตัวลงเอามือวางกุมเบาๆที่ยอดอกของชายคนนั้น ก่อนจะค่อยๆเคลื่อนตัวเอาใบหน้าของเค้าไปแนบข้างๆหู
     

        “ใกล้ยังฮะ” เสียงเอ่ยออกมาอย่างน่ารัก
     

        “อือ...” เสียงครางยาว เด็กหนุ่มเริ่มเป่าไอร้อนเบาๆก่อนจะเลียหู แล้วกัดอย่างหมั่นเขี้ยว...
     

        เรียบร้อย
     

    ร่างของเด็กหนุ่มเคลื่อนขึ้นช้าๆอย่างเหนื่อยหอบ ก่อนจะลุกไปนั่งข้างๆชายที่นอนอยู่ มือข้างหนึ่งพรางดึงถุงยางออก พอถุงยางพ้นแท่งนั้น น้ำสีขาวขุ่นก็ไหลเยิ้มออกมา เด็กหนุ่มจัดการทิ้งมันลงถังขยะ
     

    “เฮ้อ...” ร่างใหญ่ดันตัวขึ้นมา ก่อนจะเอาแขนกว้างๆโอบคนข้างตัวไว้ ซึ่งดูเหมือนเด็กหนุ่มก็ทำตัวเป็นหุ่นดีๆให้ ร่างเล็กหันมาจ้องตาสักพักก่อนก่อนจะเลียที่ขอบคอขอชายคนนั้น แต่สักพักทั้งคู่ก็เริ่มผละจากกัน ชายหนุ่มตรงไปที่ห้องน้ำ ส่วนเด็กหนุ่มก็เริ่มกลับไปแต่งตัว
     

     เสื้อนักเรียนเครื่องแบบของเด็กมัธยมปลายถูกวางบนพื้นอย่างดี เด็กหนุ่มคว้ามันก่อนจะพาดคลุมตัวแล้วติดกระดุม พอเค้าสวมกางเกงเสร็จสรรพ ก็เริ่มเก็บข้าวของอย่างอื่นใส่กระเป๋าสะพาย ขวดครีมหล่อลื่นถูกเก็บลงกระเป๋า ซึ่งก็ยังมีอุปกรณ์อยู่หลายอย่าง เรียกว่าเป็นพวกมืออาชีพอะไรทำนองนั้น ซิบถูกเลื่อนเพื่อปิด เค้าลุกขึ้นก่อนจะพาดกระเป๋าเป้ลงที่บ่าข้างหนึ่ง
     

    ชายคนนั้นเดินออกจากห้องน้ำ(พร้อมผ้าขนหนูหมัดปิดท่อนล่าง)ก่อนจะเดินมาประกบข้างเด็กหนุ่ม เค้าสอดแบงก์หนักสองสามใบลงกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะจับหน้าเด็กหนุ่มมาคลอเคลีย ซึ่งเค้าก็ยอมเคลียตามอย่างน่ารัก
     

    “แล้วชั้นจะจ้างเธออีก…”
     
     
    หลังที่ประตูปิดลง เด็กหนุ่มนามเคียวยะก้าวออกมา แทนที่เค้าจะก้าวลงบันไดต่อไปเลย แต่กลับยืนนิ่งอยู่หน้าประตู
     

    โรคจิต...เฮือก! คิดแล้วขนลุก T0T
     

    ว่าแล้วไอ่ท่าทางน่ารักออดอ้อนเมื่อครู่หายไปราวกับไม่เคยมีมาก่อน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆผมคงไม่ต้องมาทำอะไรพิลึกๆกลับพวกผู้ชายแปลกๆพวกนี้หรอก T^T
     

    เด็กหนุ่มในชุดนักนักเรียนมัธยมเอามือล่วงไปที่กระเป๋าเสื้อ แล้วเอาเงินออกมาดู
     

    ทิปหนะ...ไม่ใช่ค่าจ้างของผมหรอก - . - ถ้าทำแล้วรับเงินก็ไม่ต่างจากพวกขายตัวทั่วไปเสะ ผมจะถูกจ้างผ่านนายหน้ามาก่อนถึงจะทำเรื่องพวกนี้ได้ เด็กหนุ่มเก็บเงินลงกระเป๋ากางเกงแล้วเดินลงบันไดของอพาร์ทเมนต์ช้าๆ ตัวของเค้ากำลังโชกไปด้วยเหงื่อ ซึ่งมันก็เป็นปกติหลังจากที่เสร็จงานแต่ละครั้ง
     

    เคียวยะคว้ามือถือออกจากกระเป๋า(ประมาณแนวๆว่าN70นะ - -) เด็กหนุ่มกดปุ่มค้างเพื่อเปิดมัน เสียงสว่างปรากฏที่จอ ก่อนข้อความต้อนรับจะโพล่ขึ้นมาตามๆมา
     

    ‘พี่เคียว ^0^’
     

    แน่นอนมันไม่ใช่ข้อความต้อนรับมาตรฐาน แต่ข้อความนี่เรียวมิเป็นคนพิมพ์เปลี่ยนให้ ตอนที่เค้าออกจากบ้าน แน่นอนก่อนหน้าเธอไม่เคยแตะเครื่องของเค้าด้วยซ้ำ ตอนนี้...ก็ประมาณสองปีแล้วที่ผมออกจากบ้านมา...เร็วแหะ
     

    ดวงตาที่เคยกลมโตของเค้าดูขวางขึ้นแต่แววฉลาดลึกอ่านยากก็ยังอยู่ ใบหน้าอ่อนโลกเริ่มดูกร้านขึ้นตามวัยที่ฮอร์โมนกำลังแรง...
     

    เครื่องโทรศัพท์สั่นเป็นสัญญาณว่ามีสายเข้า เด็กหนุ่มกวาดตาดูชื่อที่ปรากฏบนจอ เค้ากดรับก่อนจะวางแนบหูโดยไม่พูดอะไร เท้าทั้งสองก็ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ
     

    เสียงเงียบดังสักพักก่อนที่ปลายสายจะพูดเสียงแจ๋ว
     

    “พี่เคียวว” เสียงเด็กสาวที่คุ้นเคย “ตะกี้ปิดเครื่องทำไม”
     

    “มันจำเป็นหนะ...เหมือนเดิม” เคียวยะพูดเสียงเรียบซึ่งไอ่ที่ว่าเหมือนเดินนี่ เค้ากับน้องสาวรู้กันดีว่าหมายความว่ายังไง
     
    “ว้า...” เธอพูดเสียงปนเศร้าหน่อยๆแต่มันก็ชินแล้วที่พี่ชายของเธอพูดแบบนี้ “นี่ๆแล้ว...” เรียวมิเริ่มเปลี่ยนเรื่อง
     
    “ไอ่หมอนั่นโทรหาพี่ยัง” เธอเริ่มพูดเสียงแจ่มขึ้น ซึ่งก็ทำให้เคียวยะงงกับคำว่า ‘ไอ่หมอนั่น’
     

    “ใคร” เค้ารีบถามกลับ
     

    “ก็ไอ่คนที่มาจีบหนูหนะ” -___-
     

    อ้อ.......คือว่างี้ฮะ พอดีผมเป็นพวกหวงน้องสาว(เพราะว่ายิ่งมันโตก็ยิ่งสวยขึ้นทุกวันจะให้ไม่หวงได้ไง...เน๊อะ)ดังนั้นเวลาถ้ามีใครมาขอเบอร์แล้วปฏิเสธไม่ได้ ก็ให้เอาเบอร์ผมให้ไป เพราะเดี๋ยวผมจะจัดการด่าให้เอง พวกนั้นแค่ได้ยินเสียงผู้ชายด้วยกันก็กดสายทิ้งแล้วหละ -___- แถมไม่มีการโทรมาซ้ำสองแบบร้อยเปอร์เซ็นท์
     

    “อิอิ ช่วงนี้มีคนมาจีบหนูเยอะเลย” เด็กสาวเริ่มเปรยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข ซึ่งก็คนเป็นพี่ก็บอกได้ใจได้อย่างเดียวว่า...แน่นอน แม่ของเค้าเป็นครูสอนเด็กอนุบาลทางบ้านถ้าตัดหนี้พวกนี้ออกก็จัดได้ว่าฐานะค่อนข้างดีอยู่ทีเดียว แล้วรูปของเรียวมิที่ถ่ายส่งให้ เรียกได้ว่า...สวย...น่ารัก แต่ก็ขาดอีกอย่างเดียวที่เค้ายังคอมเฟิร์มไม่ได้
     
                   
    ร่างของหญิงสาวในชุดทำงานค่อยๆเดินเข้าไปให้บ้านหลังจากที่พึ่งกลับมาทำงาน ดวงหน้าของเธอดูอายุราวๆต้นสี่สิบแล้วแต่ก็ยังถือได้ว่าสวยอ่อนเยาว์ ใบหน้าดูอารมณ์ดีหลังจากที่ทำงาน แต่ก็ดูไม่ได้มีความสุขอะไรหนักเลย และเมื่อเห็นอะไรบางอย่างในห้องก็เริ่มตะหวาดอย่างผู้ดี
     

    “เรียวมิ! แม่บอกแล้วไงว่าเวลาคุยโทรศัพท์ห้ามลงไปนอนกับพื้น” นั้นไง เอาอีกแล้ว
     

     “ก็แหม...” เด็กสาวเริ่มเสียงหงุด
     

     “แล้วก็บาร์บี้นั้นอีก ซื้อมาตั้งแพงใครบอกให้เอาไปขยี้ผมซะเสียหมด” แม่ก็ยังต่อว่าแต่เด็กสาวก็พูดแก้ตัวเสียงงอน
     

     “ก็มัน มันมือดีหนิ” สวยอย่างเดียว แต่พฤติกรรมอนาจอย่าบอกใคร
     

     “แล้วนั้นคุยกับใครอยู่หนะ” แม่เริ่มใจเย็นขึ้น น้ำเสียงดูเหมือนปกติ แต่ก็ยังดังลอดผ่านโทรศัพท์
     

     “พี่เคียว” เธอตอบ ดวงหน้าของหญิงสาวเริ่มเปลี่ยนเป็นเศร้าหน่อยๆคิ้วของเธอตก ก่อนจะขอโทรศัพท์มาคุย...
     

     เวลาผ่านไปสักพักเคียวยะก็เก็บโทรศัพท์เมื่อปลายสายวางโทรศัพท์ไป เด็กหนุ่มเดินตามฟุตบาทของถนนสายใหญ่ ริมทางมีต้นไม้ปลูกเป็นหย่อมๆให้ร่มเงา ในช่วงบ่ายที่อากาศร้อนมันทำให้รู้สึกเย็นขึ้นบ้าง เด็กหนุ่มเดินไปเรื่อยๆก่อนจะแวะที่โรงอาบน้ำแห่งหนึ่ง
     

     เค้าเดินเข้าไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์อย่างคุ้นเคย เนื่องจากเป็นลูกค้าประจำของที่นี่เลยก็ว่าได้ หลังจากจ่ายเงินเสร็จเด็กหนุ่มก็เดินเข้าไปยังโซนไม้แคบๆที่ถูกกั้นเป็นห้องๆ เค้าเลือกเข้าไปที่ห้องๆหนึ่ง
     

    ภายในมีฟักบัวที่ทำจากโลหะมันวาวแขวนอยู่ บรรยากาศที่มีแสงลอดผ่านจากกำแพงฝ้าด้านบนให้บรรยากาศครึ้มๆเย็นๆสมกับเป็นโรงอาบน้ำ เด็กหนุ่มเปิดตู้ไม้ที่แขวนติดกับฝาข้างประตู ในตู้มีผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนหนึ่งวางอยู่ เค้าหยิบมันแล้วนำไปวางไว้นอกตู้ แล้วจัดการถอดเสื้อและกางเกงที่สวมอยู่ เขาพับมันวางในที่ๆเคยเป็นที่วางผ้าเช็ดตัวแล้วปิดตู้ไว้
     

    เด็กหนุ่มเดินเข้าสู่โซนอีกโซนซึ่งกั้นด้วยการก่อกำแพงเล็กๆสูงประมาณ 2-3 นิ้ว ก่อนที่เคียวยะจะได้เปิดฝักบัว รอบๆตัวเค้าก็พอมีเสียงน้ำตกกระทบพื้นของลูกค้าคนอื่นๆ เด็กหนุ่มคว้าฝักบัวก่อนจะเปิดมัน เค้าพรมน้ำจนทั่วตัว ก่อนจะแขวนฝักบัวอยู่กับที่แขวน เด็กหนุ่มนั่งบนม้านั่งตัวเล็กๆ ปล่อยให้หยดน้ำปะทะตั้งแต่หัวจรดเท้า เด็กหนุ่มนั่งกอดเข่าแล้วก้มหน้าลงชิด...ราวกับนั่งอยู่กลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ
     

    ถึงแม้เค้าจะดูเคยชินกับสิ่งที่เค้าทำ แต่มันทำให้เค้าเป็นคนเก็บกดโดยไม่รู้ตัว...
     

    ดวงตาสีดำมองแบบไร้ความรู้สึกไปยังที่ระหว่างข้อเท้าของตน มีแต่น้ำเรียบๆที่มีหยดน้ำผล่อยปะทะในบางครั้ง ในหัวของเคียวยะเริ่มคิดอะไรเรื่อยเปื้อย แต่ไม่นานเคียวยะก็หลุดออกจากภวังค์อย่างรวดเร็วแล้วจัดการอาบน้ำจนเสร็จ


    เด็กหนุ่มจัดการเช็ดตัวจนแห้งแล้วแต่งตัว เค้าจัดการทุกอย่างๆรวดเร็ว ก่อนจะเดินไปยังล็อคเกอร์เก็บของ เด็กหนุ่มหยิบเป้ของตน จากนั้นก็เดินลิ่วๆออกไป
     

    เสียงแดดยังคงอยู่ตอนนี้ก็ราวๆบ่ายสี่แล้ว หลังจากออกมา นัยน์ตาของเคียวยะแลซ้ายแลขวาอย่างเคยชิน ก่อนที่ดวงตาของเค้าจับจ้องไปยังต้นไม้ต้นหนึ่งที่อยู่ห่างกับตัวเค้าพอประมาณ
     

    “ออกมาเถอะ ผมเห็นคุณแล้ว” เคียวยะพูดอย่างสงบ
     

     “งั้นเหรอ” เสียงหนึ่งดังมาจากหลังต้นไม้ต้นนั้น ดูจากน้ำเสียงแล้วคนๆนั้นเป็นผู้ชาย
     

     ร่างของชายหนุ่มก้าวออกมา เจ้าของผมสีทองน้ำตาลที่เคียวยะจำได้จนสนิทใจก็โผล่ออกมา 


    และพอโผล่ๆได้เพียงแปบเดียวก็ยิ้มร่า แล้วเอ่ย
     

    “ไง เคียวคุง” ถึงหมอนี่จะรู้จักชื่อเค้าได้ไงก็ไม่รู้ แต่ตามตรงเค้าไม่รู้เจ้านี่จักเลยสักนิด
     

      ซึ่งเคียวยะก็ทำเพียงมองด้วยหางตาอย่างเบื่อๆก่อนจะทำท่าเหมือนจะเดินหนี
     

      “ดะ...เดี๋ยวสิ” ชายคนนั้นรีบค้าน
     

      “แล้วจะทำไม วันนี้นายตามชั้นตั้งแต่ตอนไหน” เคียวยะหันมา
     

       “กะ...ก็ จากอพาร์ทเมนต์แถวย่านซาซาโซนหนะ” คำพูดติดๆขัดๆไม่ใช่ว่าจะดูเขินอะไรแต่เหมือนเพราะหน้าดุๆของเด็กหนุ่มมากกว่า เหงื่อของเค้าไหลออกมานิดๆทั้งๆที่กำลังยิ้มร่า
     

       “อืม...งั้นไปละ” เคียวยะเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะทำท่าเหมือนจะเดินจากไปอีกครั้ง
     

       “นี่อย่าเย็นชากับชั้นนักสิ” ชายหนุ่มเริ่มยิ้มแหย่ เพราะทั้งที่เค้าไม่กล้าด้วยซ้ำที่จะทำแบบนี้ แต่ก็ต้องทำให้ได้ ถึงแม้จะอับอายขายหน้าอยู่หน่อยๆ ขอให้ได้คุยกับเจ้านี่ก็ยังดี แต่เจ้าของผมสีดำนั้นก็เมินเค้าอีกเหมือนเดิมดื้อๆ
     

                    “เลิกตื้อชั้นสักที” คำพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินโบกมือลาไล่หลัง ถ้าไม่ติดที่ว่าชายหนุ่มคนนั้นอายุมากกว่าเค้า คงไม่ยอมพูดแบบมีสัมมาคารวะอย่างคนมารยาทดีหรอก
     

        แต่ก็ผิดคาดเมื่อชายหนุ่มคว้าแขนของเค้าไว้อย่างไม่เกรงกลัว หมอนี่ไม่เคยกล้าแบบนี้มาก่อน เคียวยะหันไป ชายหนุ่มก็เคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆ
     

         “เดี๋ยวสิ” ชายคนนั้นพูดเสียงเรียบ ดวงหน้าที่เคยยิ้ม ดวงตามีแววจริงจัง แล้วพูดต่อ “แล้วนายไปทำอะไรที่อพาร์ทเมนต์นั้นหละ”
     

        “ไปหาเพื่อนหนะ” เคียวยะพูดอย่างไม่มีมูลความจริงเลยสักนิด
     

        “แล้วไปทำอะไรให้เหงื่อชุ่มขนาดนั้นหละ สีหน้าของนายตอนนั้นก็ไม่ดีด้วยชั้นว่านะ”
     

        คิ้วของชายตรงหน้าตกลงอย่างเป็นห่วงแบบจริงใจ เพราะดวงตาก็ออกจะกล้าๆกลัวๆอยู่สักหน่อยเคียวยะถึงกลับอึ้งแบบไม่รู้จะพูดต่อยังไง
     

         “นี่...นายไปทำอะไรหนะ” ชายคนนั้นพูดเสียงคล่อยอย่างรอฟังคำตอบ “นายโดนเพื่อนทำร้ายรึเปล่า”
     

         “ไม่มีอะไรหรอก” คำพูดทิ้งท้ายของชายคนนั้นทำให้เคียวยะเริ่มคิดออก “ชั้นกับมันแข่งกันอบซาวน่าตอนกลางวันเสกๆหนะ” พรางคิดเคียวยะก็รู้สึกว่าไอ่คำแก้ตัวที่เค้าพูดมันออกจะปัญญาอ่อนสิ้นดี แต่เหมือนจะใช้ได้ผลเมื่อชายตรงหน้าเริ่มยิ้มเหมือนเดิม
     

        “งั้นหรอกเหรอ งั้นก็ดี ชั้นกังวลเกินเหตุไปสินะ”  ^ ^
     

        “ปล่อยนะ” คนตัวเล็กกว่าเริ่มท้วงแล้วยกข้อแขนของตนที่คนตรงหน้าจับไว้แน่น
     

        “วันนี้นายว่างมั้ย” ชายตรงหน้ายังถามด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน “ไปหาอะไรดื่มกับชั้นก่อน"
     

         พอได้ยินคำถามเคียวยะก็เริ่มทำสีหน้าไม่พอไปเล็กน้อย

     
         เอาอีกแล้ว...นายจะถามชั้นกี่ครั้งคำตอบก็เหมือนเดิมน่า

     
          “ไม่”


                     "นี่ชั้นตามนายจนเหนื่อยแล้วหนะ เมื่อไหร่จะใจอ่อนสักที" ชายคนนั้นพูดเสียงอ้อนถึงแม้จะไม่เข้ากับหน้าตา ซึ่งดวงหน้าของเจ้าตัวก็กั้นความอายเต็มที่ 


                      
          ใช่...ไอ่หน้าหล่อนี่ตามเค้าก็หนึ่งปีสี่เดือนได้แล้ว -___- มันอาจจะทำให้เค้ายอมใจอ่อนเพราะดูเหมือนจะทุ่มเทเอามากๆ แต่ติดที่ว่าเค้าไม่ชอบผู้ชายเลยใจอ่อนให้ไม่ได้เด็ดขาดนะสิ ชุดนักศึกษามหาลัยที่หมอนี่ใส่ น่าจะมาจากมหาลัยชื่อดังแถวๆนี้ เค้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมหมอนี่ถึงตามได้ตามดี


                      "ไม่..." เคียวยะตะหวาดอีกรอบแต่ค่อนข้างจะไว้หน้าทีเดียว เด็กหนุ่มเริ่มแกะมือของคนตัวใหญ่ออก แววตาของเคียวยะค่อนข้างจะจริงจังและหงุดหงิด ซึ่งคนตรงหน้ามองมันสักพักก่อนจะถอนหายใจแล้วปล่อยให้แต่โดยดี


                     "ก็ได้..." ชายหนุ่มเจ้าของผมสีทองพูดเสียงคล่อยก่อนจะยืดตัวตรงเหมือนเดิม ดวงตาของเค้าตอนนี้ไม่ต้องทายว่าเป็นยังไง เคียวยะแลมันอย่างไม่ใยดีก่อนจะเดินไปอีกทาง ซึ่งเมื่อชายหนุ่มเห็นกระนั้นก็เริ่มเดินกลับไปอย่างช้าๆ ดวงหน้าก้มลงราวๆกับคนผิดหวังยังไงยังงั้น


                    เด็กหนุ่มผมสีดำสนิทหลังจากเดินไปตามทางตนได้เพียงไม่กี่ก้าว เค้าหันกลับมาก่อนแลชายหนุ่มผมทองที่เดินไปอีกทางอย่างเชื่องช้า ดูเหมือนจะผิดหวังอะไรทำนองนั้น


                    ช่างสิ...ไงพรุ่งนี้ก็มาเหมือนเดิม... -___-


                    แต่ถึงกระนั้น...

                
                   "นะ...นี่" เคียวยะหันตัวกลับมา ดวงตากลมวาวจ้องไปยังชายหนุ่มที่เหมือนกำลังจะหันกลับมา นัยน์ตาสีทองน้ำตาลจ้องกลับ


                   เด็กหนุ่มก้มหน้าลงก่อนนัยน์ตาสีดำของเคียวยะหลบไปอีกข้าง ซึ่งในสายตาของใครอีกคนก็เรียกได้ว่าดูน่ารักทีเดียว


                   "ก็ได้..."


    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    จบตอน

    ฮือๆไม่มั่นใจฉากเอ็นซีเลย(อันนี้ยังถือว่าน้อยอยู่ ตอนหลังๆที่ต้องเขียนเสะ T^T) เนื่องจากพึ่งหัดเขียนใหม่ คิดว่านี่น่าจะเป็นปัญหาของคนที่เริ่มแต่งวายเลยละมั้ง 

    ยังไงก็ช่วยคอมเมนต์ติชมด้วยค่ะ อยากให้แก้ไขตรงไหนก็บอกได้ และที่สำคัญขอบคุณคอมเมนต์กำลังใจทุกๆคอมเม้นต์ค่ะ ^ ^

    มาอัพวันจันทร์คงยังไม่สายไปสินะ T^T ....
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2025

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×