ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บริษัทรับวิจารณ์นิยายบรรเจิดจริง (-_- )d

    ลำดับตอนที่ #73 : Lazeyra ผลึกจากสวรรค์ ภาค อัญมณีปรากฎ [ผู้วิจารณ์ : Moji]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 92
      0
      26 เม.ย. 53

    แบบฟอร์มฝากวิจารณ์นิยาย 

    ชื่อนิยาย :: Lazeyra ผลึกจากสวรรค์ ภาค อัญมณีปรากฎ 

    นามปากกา :: axis 

    แนวนิยาย :: แฟนตาซี

    ลิงค์หรือแบนเนอร์ ::

    Rewrite-lazeyra ผลึกจากสวรรค์ ภาค อัญมณีปรากฎ

    ผู้วิจารณ์ :: Moji

    สิ่งที่อยากจะฝาก :: ขอบคุณล่วงหน้าครับ

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    วิจารณ์นิยายเรื่อง  Lazeyra ผลึกจากสวรรค์ ภาค อัญมณีปรากฎ 

     

    เริ่มการวิจารณ์นิยายเรื่อง  Lazeyra ผลึกจากสวรรค์ ภาค อัญมณีปรากฏ 

     

    พล็อตเรื่อง

                    เป็นพล็อตที่เห็นได้ทั่วๆ ไปในนิยายแฟนตาซี พระเอกกำพร้าพ่อแม่ มีชะตากรรมที่ต้องเข้าไปพัวพันกับของวิเศษที่อาจนำมาซึ่งสงคราม ไม่ใช่แนวที่แปลกใหม่ ไม่โดดเด่นอะไร (แต่เรื่องไหนๆ ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมาก)

     

    ฉาก

                    ให้คะแนนพิเศษเรื่องเมืองหลักทั้งหลายที่กำหนดให้มีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องสภาพอากาศ ภูมิประเทศ ความก้าวล้ำของเทคโนโลยี โดยส่วนตัวชอบเมืองโซปาต้าที่เป็นเมืองเวทย์ลอยอยู่บนฟ้า ส่วนเรื่องคิดสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ขึ้นมาใหม่ อย่างผ้าเรติชัน เฟคาร์ท สิ่งเหล่านี้บ่งบอกและแสดงถึงกลิ่นไอของความเป็นแฟนตาซี แสดงว่าผู้เขียนใส่ใจกับรายละเอียดและตั้งใจกับงานเขียนเรื่องนี้ในระดับหนึ่ง

     

    ตัวละคร

                    เฉพาะตัวละครหลักที่ปรากฏอยู่ในตอนนี้ถือว่าเยอะพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่มีปัญหาเรื่องการกระจายบทให้สมดุลทั่วถึง แต่หากต่อไปมีมากกว่านี้อีก ผู้เขียนต้องเริ่มทำการบ้านในเรื่องบทให้มากขึ้น เพราะงานจะหนักขึ้นแน่นอนเมื่อตัวละครเยอะขึ้น โดยเฉพาะเมื่อโผล่มาในฉากเดียวกัน(อย่างตอนบทนำ ซึ่งจะพูดในลำดับต่อไป) บางคนอาจมีบทบาทน้อยลงจนหลุดหายไปเลย นั่นคือสิ่งที่ต้องระวัง ส่วนนิสัย พฤติกรรมต่างๆ ตัวละครมีลักษณะนิสัยคล้ายๆ กัน ยังไม่ถือว่าแตกต่าง โดดเด่น การสื่ออารมณ์และการกระทำยังขาดมิติอยู่ ลองปรับนิสัยต่างๆ ให้ละเอียดและมีความชัดเจนในแต่ละตัวละครอีกหน่อย

     

    บทสนทนาและการดำเนินเรื่อง

                    บทสนทนาระหว่างตัวละครหลายครั้งยืดเยื้อเกินไป หรือไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องของแต่ละตอน ทำให้เนื้อเรื่องมันยืดยาวออกไป กว่าจะเข้าเนื้อหาจุดประสงค์จริงนั้นถือว่านานมาก อ่านแล้วรู้สึกเบื่อๆ แนะนำให้ปรับให้กระชับขึ้น จำนวนในแต่ละบทไม่ต้องยาวขนาดนั้นก็ได้ บทสนทนาไหนที่ตัดได้ให้ตัดออก ใส่นำหนักและเหตุผลหลักๆ ลงไปในแต่ละการสนทนา ดำเนินเรื่องให้เร็ว ตัดเข้าไคลแมกซ์ให้เร็วขึ้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้อ่านอยากติดตามอ่านในตอนต่อๆ ไป ไม่ใช่ยืดยาวจนเบื่อซะก่อน

     

    การเปิดเรื่อง

                    เรื่องนี้ใช้การเปิดแบบบู้แอคชั่น ซึ่งเป็นแนวทางที่ดี เพราะเป็นการกระตุ้นผู้อ่านให้มีความตื่นเต้น และอยากติดตามเนื้อเรื่องต่อไป แต่การกระทำเช่นนี้ การบรรยายต้องละเอียด ภาษาลื่นไหล อ่านเจ้าใจง่ายเพราะจะทำให้จินตนาการตามได้ ซึ่งในบทนำของเรื่องนี้เกี่ยวกับการบรรยาย ผู้เขียนถือว่าสอบตก เป็นฉากวุ่นวายโกลาหลที่อ่านแล้วงงมาก ฉากตัดไปตัดมาแบบก้าวกระโดด จำนวนคนที่เยอะแยะทำให้เขียนใส่บทให้กับตัวละครได้ยากลำบาก กระจายบทได้คนละนิดคนละหน่อย ซึ่งอ่านแล้วงง งงกับสารพัดสีผม มีทั้งน้ำเงิน แดง แดงแบบกลีบกุหลาบ อ่านแล้วสงสัยว่าตกลงมีใครบ้าง แล้วที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้คือตัวละครตัวไหนกันแน่ ลองไปรีไรท์บทนี้ดูอีกครั้ง ตัดการบรรยายให้เข้าชื่อตัวละครเร็วๆ จะทำให้บรรยายง่ายขึ้นกว่าการใช้ลักษณะรูปกายภายนอกเป็นตัวบอกเล่า

     

    การบรรยาย

                    ยังไม่ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่ต้องชมอย่างหนึ่งว่าให้ความสำคัญกับการบรรยาย ไม่ใช่มีแต่บทสนทนาของตัวละครราวกับดูละครโทรทัศน์ แต่ผู้เขียนต้องปรับปรุงในเรื่องการใช้ภาษาซึ่งมีทั้งการเลือกใช้คำที่ไม่เหมาะสม คำซ้ำซ้อน หลายครั้งใช้ศัพท์หรูเกินไป อ่านแล้วสะดุด ไม่ลื่นไหน มันแบบว่ากึกๆ กั๊กๆ อ่ะนะ

                    ยกตัวอย่างการใช้ศัพท์หรู

                    แสงจันทร์จากจันทร์เต็มดวงและดาราจำนวนมากฉาดฉายแสงกระจ่างในค่ำคืนนี้ สายลมพัดโบกระเรี่ยไม่หยุดหย่อน นำพาความหนาวเย็นมาสู่ค่ำคืน เพียงแต่ค่ำคืนนี้คงไม่ใช่ค่ำคืนที่สงบสุขเสียหรอก

                    ในย่อหน้านี้ใช้ศัพท์หรูเกินความจำเป็น อย่างดารา ฉาดฉายแสง โบกระเรื่อย ซึ่งอ่านแล้วรู้สึกเอียน นอกจากนั้นแล้วยังมีการใช้คำซ้ำซ้อน ซึ่งก็คือคำว่า ฉาย,แสง,กระจ่าย ทั้งสามคำมีความหมายเหมือนกันหมด คือความสว่าง ในด้านใช้คำซ้ำ ในย่อหน้าเดียวกันแค่สามบรรทัด มีคำว่าค่ำคืนอยู่ถึง 4 ที่ ลองเลี่ยงไปใช้คำอื่นหรือบรรยายแบบอื่นจะช่วยได้ แต่ความจริงการบรรยายแบบนี้ถือว่ามีจุดที่ผู้เขียนมองข้ามไปอย่างหนึ่ง หากคืนไหนพระจันทร์เต็มดวง จะไม่มีดาว เพราะแสงสว่างจากพระจันทร์จะบดบังแสงอันน้อยนิดของดาวจนหมด หากต้องการดาวเยอะๆ ต้องเป็นคืนเดือนมืดเท่านั้น ฉะนั้นเลือกเอาว่าจะเอาพระจันทร์หรือดาว ^___^

    ส่วนการเลือกใช้คำมาบรรยายก็สำคัญเช่นกัน เพราะจะทำให้อ่านเพลิน ไม่สะดุด และจินตนาการได้ง่าย ยกตัวอย่าง

    นีโอไม่รู้ตัวเองเลยว่ากี่ปีแล้วนะที่ได้ลิ้มลองช็อกโกแลตเป็นรั้งแรกตอนนั้น ไม่ลื่นไหน มันแบบว่ากึกๆ กั๊กๆเด็กหนุ่มก็ติดใจและชอบกินมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตบาร์ เค้ก หรือแม้แต่จำพวกเครื่องดื่ม เขาก็ชอบหมดจนเป็นดั่งปัจจุบัน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับช็อกโกแลตละก็ เขาไม่พลาดและคำนวณผลที่ได้ผิดแม้แต่ครั้งเดียวเลย

    อ่านจบแล้วงงๆ และรู้สึกขัดๆ กับการใช้ภาษาบรรยาย

    ลองเปลี่ยนเป็น

    นีโอไม่รู้ตัวเลยว่ากี่ปีแล้วที่เขาได้ลิ้มลองช็อกโกแลตเป็นครั้งแรก แต่ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเขาก็ติดใจในรสชาติอันหวานนุ่มนั้นมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแลตบาร์ เค้ก หรือแม้แต่จำพวกเครื่องดื่ม หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับช็อกโกแลตแล้วล่ะก็ นีโอไม่มีทางพลาดอย่างแน่นอน

     

                    อย่างที่บอก การบรรยายถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการเขียนนิยาย หากภาษาไม่ลื่นไหล อ่านสะดุด จินตนาการตามไม่ได้ อ่านไม่รู้เรื่อง ความสนุกก็จะหดหายตามไปด้วย ลองฝึกโดยหลังจากที่เขียนเสร็จ ให้อ่านทบทวนหลายๆ ครั้ง แก้ไขตรงจุดที่ติดขัด จะทำให้ง่านเขียนดีขึ้น

     

                    เรื่องสุดท้ายที่อยากฝาก คือการใช้คำเอฟเฟกทั้งหลาย อันได้แก่ ปัง ตูม พลั่ก เคร้ง ตุบ ฯลฯ ไม่ว่าผู้เขียนจะจำมาจากงานเขียนเรื่องไหนก็ตาม แต่อยากบอกว่าตามหลักการของการเขียนนิยายนั้น การใช้คำเหล่านี้แทบทุกครั้งเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง พยายามหลีกเลี่ยงอย่าใช้เยอะจนเกินความจำเป็น นานๆ ทีโผล่มาได้ และให้เปลี่ยนไปใช้ภาษาบรรยายแทน

                    เช่น

                    สวยจัง -- นีโอคิด แต่แล้วจู่ๆ ไฟฟ้าในเขตพระราชวังหลวงก็ดับลง ซึ่งเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ….

                    เราไม่จำเป็นต้องใส่คำเอฟเฟก เพราะคนอ่านจะคิดตามเสียงนั้นๆ อยู่ในหัวอยู่แล้ว

     

                    สุดท้ายก็ขอให้มั่นพัฒนางานเขียนให้ดีๆ ยิ่งขึ้นไป เป็นกำลังใจให้ อย่าเพิ่งท้อจนเลิกไปเสียก่อนล่ะ เป็นกำลังให้นะ

     

     

                                                                                                                                    Moji…

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×