ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บริษัทรับวิจารณ์นิยายบรรเจิดจริง (-_- )d

    ลำดับตอนที่ #65 : One-Way-Ticket ความฝันเหนือทางรถไฟ [ผู้วิจารณ์ : Moji]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 179
      0
      23 เม.ย. 53

    แบบฟอร์มฝากวิจารณ์นิยาย 

    ชื่อนิยาย :: One-Way-Ticket ความฝันเหนือทางรถไฟ

    นามปากกา ::  Ryusuke

    แนวนิยาย :: สังคม

    ลิงค์หรือแบนเนอร์ :: http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=604939

    ผู้วิจารณ์ :: Moji
    สิ่งที่อยากจะฝาก :: ก็จะไปต่างประเทศวันที่ 9 เมษานี้ครับ เป็นไปได้อยากเห็นคำวิจารณ์ก่อนจะไปเมืองนอก

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    วิจารณ์นิยายเรื่อง  One-Way-Ticket ความฝันเหนือทางรถไฟ

     

    ไม่พูดพร่ำทำเพลง เริ่มเลยแล้วกันนะ

     

    พล็อตเรื่อง   และการบรรยาย

    แนวทางการดำเนินเนื้อเรื่องเป็นมุมที่ไม่ใช่ว่าแปลกใหม่ แต่มีนักเขียน(รุ่นใหม่)น้อยคนจะฉีกออกมาเขียนนวนิยายแนวนี้  เนื่องจากค่อนข้างเขียนได้ยาก การบรรยายต้องมากและเมื่ออ่านแล้วต้องสามารถทำให้ผู้อ่านเข้าใจ รับรู้ และรู้สึกมีอารมณ์ร่วมตามไปด้วย อาศัยแค่คำพูดตัวละครอย่างเดียวนั้นไม่เข้าใจ พฤติกรรมต่างๆ ที่ต้องบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรต้องชัดเจน ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ ผู้เขียนทำได้ค่อนข้างดี  มีการเชื่อมโยงตัวละคร โดยผู้เขียนค่อยๆ เปิดเผยเรื่องราวโดยใช้เหตุการณ์ฆาตกรรมที่ลุ้นระทึก เป็นตัวดึงดูดผู้อ่านให้ติดตามตอนต่อไปเรื่อยๆ  สร้างความขัดแจ้งจากความต้องการของผู้คนกับสิ่งแวดล้อมได้ดี ถ้าคิดเป็นคะแนนก็ราวๆ 7.5 (จากเต็ม 10)

    สำหรับคะแนนที่หัก  คือเรื่องการใช้คำซ้ำ  และการเว้นวรรคตัวอักษร ซึ่งเรื่องนี้ปรากฏเยอะมาก

    เรื่องแรก การใช้คำซ้ำ ซึ่งทำให้นิยายเรื่องนี้รูสึกน่าอึดอัดหงุดหงิดมากเหมือนกัน มันเหมือนกับการนั่งอ่านประโคที่เป็นเรื่องเดียวกัน แต่ไร้ซึ่งคำเชื่อมต่อประโยค บอกเล่าแบบทื่อๆ  อย่างเช่นในช่วงสุดท้ายของตอนที่ 9  หากลองแยกออกเป็นแต่ละบรรทัด จะสังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น

    หนูกรีดร้องดังก้องไปทั่วป่า

    หนูหวังจะหาคนช่วย    

    หนูลนลานวิ่งหนีไปด้วยความตกใจกลัว

    หนูสับสน 

     

       ลองอ่านใหม่โดยตัดตัวอักษรสีดำที่ถูกขีดทับ และอ่านแทนที่โดยอักษรสีแดง

        

    หนูกรีดร้องดังก้องไปทั่วป่า หนูหวังจะหาคนช่วย     หนูลนลานวิ่งหนีไปด้วยความตกใจกลัว

                    หนูสับสน  หวาดหวั่น หลงทางวิ่งหนีไปอย่างสะเปะสะปะ  ไร้ทิศทาง   ไร้จุดหมาย ปลายทาง

                    หนูคิดเพียงหนี หนีไปให้พ้น จากชายในเงามืด หนีเอาตัวรอด และหวังว่า  ทั้งหมดจะเป็นแค่เพียงความฝัน

                    หนูไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่คืนนี้คงเป็นคืนที่เศร้ามากที่สุดสำหรับเธอ เธอคนที่หนูเป็น   

                    น้ำตาของหนูไหลรินไปทั่วร่าง   ภายใต้เงามืดของต้นไม้สูงหนาทึบ

                    แสงจันทร์เล็ดลอนผ่านความมืดหม่นของป่าเข้ามาเพียงน้อยนิด 

                    ชายในเงามืดเริ่มที่จะตามหนูทัน   หนูเงยหน้าขึ้นมองหาความช่วยเหลือจากท้องฟ้า

                    แต่ความมืดมิดของกลางคืนที่ไม่มี กระทั้งแสงดาว และ แสงจันทร์

                    หนูเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ในใจร้ำอยากนั่งอยู่ตรงนี้   ร้องหาให้คนมาช่วยเหลือ

                    ชายในเงามืดใกล้จะเคือบคลานเข้ามาถึงตัวหนูใกล้   หนูวิ่งหนีต่อไปอย่างไม่คิดชีวิต       

    หนู แต่ไม่นานหนูกลับทรุดตัวลงไปกับพื้นด้วยความอ่อนล้า  เสื้อผ้าขอหนูเปรอะเปื้อนและขาดวิ่น  

                    ร่างกายชองหนูบอบช้าเต็มไปด้วยบาดแผล   ทั้งจากการกระทำของมนุษย์และธรรมชาติที่แวดล้อมอยู่  

                    หนูตัดสินใจใช้มือทั้งสองข้างยันกายลุกขึ้นยืน  เดินซัดเซต่อไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย

    หนูจนเกือบจะหนีชายในเงามืดพ้น แต่โชคชะตากลับไปเข้าข้างหนู   ทางข้างเบื้องหน้าคือลำธารที่ไหลว

                    หนูหยุดอยู่ที่โขดหิน  หนูหันหลังกลับไป หนูหันหลังเดินกลับไปพยายามจะหาทางอื่น  แต่ก็สายไปเสียแล้ว

        ชายในเงามืดเข้ามาใกล้ตัวหนู มือที่ไร้ร่างของเขา พยายามที่จะจับตัวหนู

        หนูลื่นลมจากโขดหิน หงายหลังลงไปสู่ลำธาร  เย็นเฉียบที่ไหลวอย่างไม่ปราณี

       ศีรษะของหนูกระแทกเข้ากับหิน  สายน้ำใสๆ  ถูกย้อมเป็นสีชมพูเข้มปนแดง

    การหลีกเลี่ยงใช้คำซ้ำจะช่วยให้ภาษาบรรยายสละสลวยขึ้น อ่านได้ลื่นไหล   แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องแทรกคำเชื่อมต่างๆ เข้าไปแทนให้เหมาะสม อย่างเช่นพวกคำว่า ก่อนที่ ก่อนจะ ซึ่ง อัน  หรือคำแสดงกิริยาท่าทางต่างๆ ของมนุษย์ ซึ่งงานเขียนชิ้นนี้ค่อนข้างจะขาดหายในเรื่องนี้ค่ะ  ทำให้บางครั้งตัวละครขาดมิติ อารมณ์ที่บางครั้งคนอ่านกำลังเริ่มลุ้นๆ ตาม ก็มีอันสะดุด กั๊กๆ อีกแล้ว  โดยบทที่ยกตัวอย่างนั้นจะเห็นได้ชัดเจนเลยทีเดียว แนะนำให้เพิ่มด้านนี้เข้าไปให้มาก และลองหาหนังสือคลังคำมาอ่าน จะช่วยได้มากค่ะ

     

    ต่อมาเรื่องการเว้นวรรค 

    การเว้นวรรคที่ถูกต้องเป็นเรื่องสำคัญมากทั้งในหลักภาษาไทย และการเขียนนิยาย

    หากเว้นผิด ความหมายผิด เว้นไม่เหมาะสม การอ่านก็สะดุดตาม ไม่ลื่นไหล เพราะผู้อ่านจะหยุดตามการเว้นวรรคนั้น ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะ งง! จนต้องวกกลับมาอ่านอีกครั้งหรือสองครั้ง ถึงจะเข้าใจ ซึ่งนิยายเรื่องนี้ เว้นวรรคอย่างที่ไม่ควรเว้นเยอะมากๆ (ขอย้ำว่ามากๆ)

    อย่างเช่นตอนที่ 7 ซึ่งผู้เขียนเว้นวรรคไว้

     

    ผมรู้ !   แม่ผม  ไม่ฟื้น  ขึ้นมาหรอก   แต่คนอย่างมันไม่สมควรอยู่บนโลกนี้

    พายัพ   มันทำธุรกิจ   บังหน้า   ทำตัวเป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ   แต่จริงๆ

    แล้วมันค้ายาจนรวย

    น้องมันเป็นตำรวจ   เลยปกปิดเรื่องได้   พอมันรวยขึ้นมา   มันก็ยัดเงิน

    จนน้องมันได้เป็น   ผู้บัญชาการตำรวจผมรู้ !   แม่ผม  ไม่ฟื้น  ขึ้นมาหรอก   แต่คนอย่างมันไม่สมควรอยู่บนโลกนี้

    พายัพ   มันทำธุรกิจ   บังหน้า   ทำตัวเป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ   แต่จริงๆ

    แล้วมันค้ายาจนรวย

    น้องมันเป็นตำรวจ   เลยปกปิดเรื่องได้   พอมันรวยขึ้นมา   มันก็ยัดเงิน

    จนน้องมันได้เป็น   ผู้บัญชาการตำรวจ

    เมื่อ 10 ปีก่อน  มัน   จะมาซื้อ   ที่ดิน   แม่ผม  มาสร้าง  พายัพ   ทาวเวอร์

    แม่ผม   ไม่ขาย   มันเลยส่งคนมารุมกระทืบแม่ผม

    จนแม่ผมตาย   มันปลอมลายเซ็นแม่ผม   และ  ติดสินบน   กรมที่ดิน

    จนได้ที่ดินใบ

    แล้วก็สร้าง   พายัพทาวเวอร์

                                                                                               

                    เมื่ออ่านตามการเว้นวรรคตามที่พิมพ์ไว้ มันทำให้อ่านสะดุด กึกๆ กักๆ และงงอย่างที่กล่าวไป รวมทั้งการขึ้นบรรทัดใหม่ ความจริงทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมา สามารถต่อเป็นย่อหน้าเดียวกันได้ ไม่ต้องขึ้นบรรทัดใหม่

     

    ตัวละคร

                    ถือว่าทำได้ดีแล้วค่ะ ทั้งทางด้านจำนวนตัวละครถือว่าค่อนข้างเยอะ แต่ผู้เขียนสามารถกระจายบทได้อย่างลงตัว ไม่ใช่แค่เพียงให้ใครเด่นเพียงคนเดียว และปล่อยให้ตัวละครที่เหลือซึ่งสร้างขึ้นมากลายเป็นแค่องค์ประกอบที่ไร้ค่า  ส่วนด้านพฤติกรรม

    ทั้งอารมณ์ความคับแค้น อึมครึม ตื่นตกใจ งุนงง ฯ ทำได้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจเช่นกัน แต่ก็อย่างที่บอกในตอนแรก การเขียนบรรยายถือว่าสำคัญที่สุด เมื่อภาษาสะดุด อารมณ์ต่างๆ ที่กำลังคล้อยตามจึงสะดุดหยุดลงตามไปด้วย

     

                    สรุปแล้วเรื่องน่าสนใจ แนวงานเขียนแบบนี้ท้าทายและสาหัสเอาการค่ะ หากไม่มีความตั้งใจและไม่มั่นศึกษาข้อมูลและรายละเอียด ไม่มีทางเขียนไปจนตลอดรอดฝั่งได้แน่ๆ ซึ่งเท่าที่อ่านมา 9 ตอน ผู้เขียนได้แสดงให้เห็นว่ามีความสามารถและความอดทน  หากมั่นฝึกฝนต่อๆ ไป  ก็จะมีประสบการณ์ที่ดี  ซึ่งนำไปปรับใช้ให้กับงานเขียนชิ้นนี้ให้ดีเยี่ยมขึ้น

                    ขอให้ประสบความสำเร็จนะคะ

     

     

    MOJI...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×