ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฝากใจ...ไปกับจันทร์

    ลำดับตอนที่ #2 : ลำดับตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 49


    บทที่ 1

     

                    ณ... บ้านกฤษฎาลักษณ์

     

                    วันเวลาได้หมุนผ่านไปเร็วนัก ราวกับว่า เมื่อเรากระพริบตาเพียงครั้งเดียว กาลเวลาก็ผ่านไปอีก 10 ปี... เช่นเดียวกับชายหนุ่มวัย 19 ปี ซึ่งขณะนี้กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ แต่แล้วก็ถูกขัดจังหวะโดยเสียงหวานใสของหญิงสาววัย 18 ปี ที่อาศัยอยู่ข้างบ้านของเขานั่นเอง

     

                    "พี่ต้น... พี่ต้นคะ ขนมถ้วยฟู ของโปรดพี่ต้นมาแล้วค่ะ กุลทำสุดฝีมือเลยนะคะ ถ้ากินไม่หมด กุลโกรธจริงๆ ด้วย..." กุลธิดาพูดเสียงใส เป็นผลให้รวิชนนท์มองหญิงสาวอย่างเอ็นดู... นับจากวันที่เขาช่วยเธอจากพวกเด็กเกเร ก็เป็นเวลา 10 กว่าปีมาแล้ว... ตอนนี้ไม่มีภาพของเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก ถักเปียสองข้างให้เขาเห็นอีกแล้ว... มีแต่ภาพหญิงสาวหน้าตาสวยน่ารัก แก้มสีชมพูเปล่งปลั่ง... ดวงตากลมโตสีดำสนิทประดุจนิล ที่มักจะมองเขาอย่างชื่นชม... เส้นผมสีดำสนิทยาวตรง ที่มักจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ อยู่เสมอ... คิ้วคู่เรียวได้รูปสวย... จมูกโด่งปลายงอนนิดๆ... ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อตามธรรมชาติ... ลำคอเรียวยาวระหง... ผิวขาวอมชมพูเนียนละเอียด... รูปร่างสูงโปร่ง... ส่วนสัดอย่างที่ผู้หญิงทุกคนต้องการ ซ่อนอยู่ใต้เสื้อยืดสีขาวสะอาดลายหัวใจสีชมพู และกระโปรงสีชมพูอ่อนพอดีเข่า... แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งกับเสียงใสที่ดังขึ้นมาว่า

     

                    "พี่ต้นคะ ทำไมไม่กินล่ะคะ เดี๋ยวขนมก็เย็นหมดหรอก เอาแต่จ้องหน้ากุลอยู่ได้..." กุลธิดาเอ่ยขึ้น พลางเลื่อนจานขนมไปไว้ตรงหน้าชายหนุ่ม

     

                    "กินเข้าไปแล้ว พี่จะท้องเสียมั้ยเนี่ย..." รวิชนนท์พูดแหย่หญิงสาว ที่ทำท่างอนขึ้นมาทันที

     

                    "ถ้ากลัวท้องเสีย ก็เอาคืนมาค่ะ..." กุลธิดาพูดงอนๆ พลางคว้าจานขนมขึ้นมา แต่ก็ถูกรวิชนนท์ดึงมือไว้ซะก่อน

     

                    "โธ่เอ๊ย ยายกุล พี่ล้อเล่นน่า... เอาขนมมาให้พี่ชิมหน่อยซิ... อย่างอนน่า... เดี๋ยวไม่น่ารักนะ" รวิชนนท์พูดปนหัวเราะ พลางเอาส้อมไปจิ้มขนมขึ้นมากิน

     

                    "อร่อยมั้ยคะ... ถ้าอร่อย พี่ต้นต้องกินให้หมดเลยนะคะ... พี่ต้นอ่านหนังสืออีกแล้ว พักบ้างสิคะ ร้อยวันพันปีกุลเห็นพี่ต้นขลุกอยู่กับหนังสือทุกที แถมมีแต่หนังสือแพทย์... ไม่เบื่อบ้างเหรอคะ" กุลธิดาถาม พลางจ้องมองหนังสือเล่มหนาในมือของชายหนุ่ม

     

                    "อ้าว! กุล พี่อยากเป็นหมอ แล้วพี่ก็เรียนคณะแพทยศาสตร์ ถ้าพี่เบื่อหนังสือแพทย์ พี่ก็บ้าสุดๆ..." รวิชนนท์ตอบขำๆ ก่อนที่จะถามหญิงสาวกลับ

     

                    "แล้วกุลล่ะ พรุ่งนี้มหาลัยก็เปิดแล้ว ทำไมไม่อ่านหนังสือ... คณะอักษรศาสตร์ไม่ได้เรียนกันง่ายๆ หรอกนะ..." รวิชนนท์บอกอย่างห่วงใย

     

                    "กุลอ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ ทุกเล่ม ทุกบท ทุกหน้า ทุกบรรทัด ทุกตัวอักษร อยู่ในหัวกุลหมดแล้วค่ะ" กุลธิดาตอบอย่างภาคภูมิใจ

     

                    "ครับๆ... พี่กรกับพี่เตยยังไม่กลับมาอีกเหรอ กุล ออกไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว..." รวิชนนท์ถามหญิงสาวด้วยความเป็นห่วงผู้เป็นพี่

     

                    "ยังไม่กลับเลยค่ะ... พี่ต้นไม่ไว้ใจพี่กรเหรอคะ..." กุลธิดาถามเบาๆ

     

                    "ไม่ใช่อย่างนั้นนะกุล... พี่แค่เป็นห่วงพี่เตยกับพี่กร กลัวจะขับรถไม่ระวัง.. ขนมหมดแล้วจ๊ะกุล..." รวิชนนท์เอ่ยขึ้น

     

                    "อ้าว! หมดตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย พี่ต้นจะกินอีกมั้ยคะ เดี๋ยวกุลไปเอามาให้..." กุลธิดาบอก แต่ชายหนุ่มห้ามไว้ซะก่อน

     

                    "พอแล้วจ๊ะ.. กุล.. พี่ถามกุลจริงๆ เถอะนะ กุลอย่าโกหกพี่นะ... กุลมีแฟนแล้วรึยัง" รวิชนนท์ถามอย่างจริงจัง ดวงตาสีดำสนิทคมกริบจับจ้องอยู่ที่ดวงตาคู่สวยของกุลธิดา แต่หญิงสาวกลับหลบตาคมคู่นั้น และไม่ตอบคำถาม

     

                    "กุล... ไหนว่าจะไม่โกหกพี่ไง เราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ..." ชายหนุ่มพยายามตะล่อมถามให้ได้ โดยที่ไม่รู้เลยว่าคำพูดประโยคนั้นทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของกุลธิดาเจ็บปวดประดุจเอามีดกรีดลงไปตรงกลางหัวใจ ...ค่ะ เราเป็นพี่น้องกัน ก็แค่... พี่น้องในสายตาของพี่ แต่สำหรับกุลแล้ว... หญิงสาวคิดอย่างน้อยใจนิดๆ พลางถอนใจยาว แล้วเธอจึงส่งยิ้มเฝื่อนๆ ให้ชายหนุ่ม ก่อนที่จะตอบคำถามนั้นว่า

     

                    โธ่... พี่ต้นขา แล้วพี่จะสนใจไปทำไมล่ะคะว่ากุลมีแฟนแล้วหรือยังไม่มี เพราะถึงยังไงกุลก็ยังเป็นน้องสาวคนดีของพี่ต้นคนเดิมแหละค่ะ จริงมั้ยคะ

     

                    หญิงสาวบอกเสียงหวานราวกับน้ำตาลเชื่อม ทำให้ชายหนุ่มอดที่จะมองอย่างเอ็นดูแกมหมั่นไส้ไม่ได้ เขาจึงเอื้อมมือไปลูบศีรษะของผู้ที่เขาคิดว่าเปรียบเสมือนน้องสาวเรื่อยมาเบาๆ อย่างเอ็นดู ก่อนจะถามต่อไปว่า

     

                    โอเคจ๊ะ แต่พี่ว่า ขี้อ้อนอย่างนี้นะ ต้องมีหนุ่มๆ มาจีบเต็มไปหมดแน่เลย เพียงแต่ว่ากุลไม่ยอมเลือกสักคน จริงมั้ยจ๊ะ น้องสาวจอมขี้อ้อนของพี่

     

                    ชายหนุ่มถามมาอีก แต่คราวนี้ถามแบบกระเซ้าเย้าแหย่ ไม่ได้จริงจังเหมือนเมื่อกี้นี้ แต่มันก็ทำให้หญิงสาวน้อยใจอีกจนได้ ...ก็ที่กุลไม่ยอมเลือกสักคนน่ะ ก็เพราะกุลรอพี่ต้นอยู่นี่ไงล่ะคะ แต่พี่ต้นนี่ก็... โอ๊ย! ไม่รู้จะพูดยังไง... หญิงสาวคิดอย่างปลงๆ ก็พี่ต้นของเธอน่ะ ฉลาดได้สารพัดเรื่อง ยกเว้นอยู่เรื่องเดียวนี่แหละ เฮ้อ...

     

                    เออ... พี่ต้นคะ เข้าไปในบ้านเถอะค่ะ ข้างนอกเนี่ยร้อนจะตาย งั้นกุลขอไปด้วยนะคะ ในบ้านกุลเนี่ยไม่มีใครอยู่สักคน เซ็งจะตาย

     

                    กุลธิดาบอกเสียงใส พลางหันไปดึงแขนชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ให้ลุกขึ้น แล้วทั้งสองจึงเดินเข้าไปในบ้านของรวิชนนท์ด้วยกัน เดินไปพลางคุยไปพลางอย่างมีความสุข...

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×