ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1
บทที่ 1
    ณ... มหานครเซราฟ
    \"องค์หญิง... องค์หญิงเพคะ คอยหม่อมฉันด้วยเพคะ\" สาวใช้คนสนิทของเจ้าหญิงเอวาเนสร้องเรียกเจ้าหญิงของตน \"ก็ตามข้ามาให้ทันซิ จะตามมาทำไมก็ไม่รู้ ข้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ ข้าก็อายุเท่าเจ้านั่นแหละ มาเรียน แล้วข้าก็จะไปหาเจ้าพี่ ข้าไม่ได้หนีไปเที่ยวนอกวังซักหน่อย\" เสียงหวานใสปานระฆังแก้วดังขึ้น ผู้พูดเป็นเด็กสาววัยประมาณ 16 ปี นางมีเส้นผมยาวสยายสีดำสนิท ที่บัดนี้ถักเป็นเปียเส้นเล็กๆ ถี่ยิบ แล้วแซมด้วยไหมสีทอง ดวงตาสีน้ำนมคู่งาม ที่ยังไม่สิ้นแววแห่งความเป็นเด็ก คิ้วคู่เรียวและโก่งโดยธรรมชาติ จมูกโด่งเชิด แสดงให้เห็นถึงความรั้น ริมฝีปากบางเป็นมุมกระจับ ส่อความแก่นแก้วไม่กลัวใคร นางอยู่ในพระภูษาสีฟ้าอ่อน ที่ช่วยขับผิวขาวนวลเนียนของนาง ให้ขาวยิ่งขึ้นไปอีก นางเป็นผู้มีความงามที่สุดในนครแห่งนี้ แต่ดูเหมือนนางจะไม่ใส่ใจกับความงามของตัวเองนัก
    \"อ๊ะ... เจ้าพี่.. เจ้าพี่เพคะ\" เจ้าหญิงเอวาเนสร้องเรียกผู้เป็นพี่ชาย ทันทีที่เห็นพระพักตร์
    \"มีอะไรหรือ เอวา\" เสียงนุ่มๆ อ่อนโยนของเจ้าชายอีลาสดังขึ้น ผู้พูดเป็นเด็กหนุ่มวัยประมาณ 16 ปี มีเส้นผมสีดำสนิท และดวงตาสีน้ำนมที่บัดนี้ส่อแววขันและสงสัยในเวลาเดียวกัน คิ้วเข้มหนา จมูกโด่งพองาม ริมฝีปากบางๆ สีแดงจางๆ ที่ผู้หญิงหลายคนอยากจะจุมพิตนัก เขาอยู่ในชุดเจ้าชายตามปกติ ผิวสีแทนที่เกิดจากการประดาบกับเหล่าทหารเป็นประจำ บวกกับนิสัยอ่อนโยนและใจเย็น ทำให้สาวๆ หลงใหลนัก
    \"เจ้าพี่เพคะ พาน้องไปเที่ยวนอกวังหน่อยซิ นะเพคะ\" ผู้เป็นน้องอ้อนพี่ชาย ที่บัดนี้เกิดรอยยิ้มเอ็นดู พร้อมกับส่ายหน้าช้าๆ พลางตอบว่า \"ไม่ได้หรอก เจ้าลืมไปแล้วรึไง เอวา ว่าท่านพ่อสั่งว่า วันนี้ห้ามออกไปเที่ยวเล่นที่ไหน เพราะจะต้องอยู่ต้อนรับแขก พี่พาเจ้าไปไม่ได้จริงๆ เอวา\" คำตอบที่ไม่ได้ดั่งใจ ทำให้เจ้าหญิงเอวาเนสค้อนพี่ชายทันที พลางตรัสอย่างโกรธๆ ว่า \"แขกที่ท่านพ่อว่า เป็นใคร สำคัญมาจากที่ไหนกันเพคะ ถึงต้องให้เจ้าพี่กับน้องอยู่ต้อนรับด้วย\" เจ้าชายอีลาสถอนใจ พลางตอบว่า \"ก็ราชาคาตัส ราชินีวีเลล่า และเจ้าชายเคอัส แห่งมหานครโรรีอัส นครแห่งเวทมนตร์ เหมือนกับเมืองเราไงล่ะ.. อ๊ะ.. ท่านพ่อทรงเรียกแล้ว ไปกันเถอะ เอวา ไม่ต้องไปแต่งตัวอีกหรอก น้องพี่น่ะงามอยู่แล้ว หากเจ้าจะยิ้มซักหน่อย\" เจ้าหญิงเอวาเนสค้อนพี่ชายอีกหน แล้วจึงเดินไปพร้อมกับพี่ชาย พลางตรัสว่า \"ยังกับน้องจะสนใจ ว่าตัวเองจะงามแค่ไหน ฮึ!\"
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ณ... ท้องพระโรงใหญ่
    \"อ้าว.. มาพอดี.. อีลาส เอวาเนส.. มาทักทายแขกของเราหน่อยซิ\" ราชาทราดัสตรัส พลางแย้มสรวลอย่างอารมณ์ดี ทางเบื้องซ้ายของท่านนั้น มีบุคคลสามคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว คนแรกคือ ราชาคาตัส ผู้มีเส้นผมสีน้ำตาลทอง และดวงตาสีฟ้า ถัดไปคือ ราชินีวีเลล่า ผู้มีเส้นผมสีดำสนิท และดวงตาสีม่วงคู่งาม ถัดไปคือ เจ้าชายเคอัส ผู้มีดวงหน้าหล่อเหลาคมเข้ม (ชนิดที่บาดหัวใจสาวๆ กระจุย) เส้นผมสีน้ำตาลทองเหมือนของบิดา และดวงตาสีม่วงลึกลับเหมือนของมารดา ที่ทอดมาจับนิ่งที่เจ้าหญิงเอวาเนส ทันทีที่นางและเจ้าชายอีลาสก้าวเข้าไปในห้องนั้น แล้วยิ้มมุมปากนิดๆ เจ้าหญิงเอวาเนสมองอย่างโมโหนิดๆ พลางนั่งลงตรงข้ามกับเจ้าชายเคอัสพอดี
    \"อืม... นี่น่ะหรือเพคะ เจ้าหญิงเอวาเนส งามสมคำร่ำลือจริงๆ\" ราชินีวีเลล่าตรัสขึ้น พลางทอดสายตามาจับที่เจ้าหญิงเอวาเนส แล้วแย้มสรวล
    \"อย่างนี้ผ่านรึยังล่ะ เคอัส หืม?\" ราชาคาตัสตรัสขึ้น พลางหันไปมองหน้าพระโอรสของพระองค์ ที่บัดนี้สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เจ้าหญิงเอวาเนสไม่เปลี่ยน พลางตอบว่า \"ถ้าในด้านความงามล่ะก็ ผ่านขอรับ ท่านพ่อ แต่เรื่องนิสัยและความรู้ความสามารถ ลูกยังไม่รู้ ขอเวลาศึกษาอีก 2 อาทิตย์นะขอรับ\"
    \"เอางั้นหรือ ตามใจเจ้าซิ งั้นถ้าพ่อกับแม่จะกลับก่อน คงไม่มีปัญหาใช่มั้ย ข้าฝากลูกข้าด้วยนะ ทราดัส งั้น... ข้ากลับล่ะ โชคดีนะลูกพ่อ\" ราชาคาตัสยิ้มให้บุตรชาย พลางก้าวออกจากห้องนั้นไปพร้อมกับราชาทราดัสและเจ้าชายอีลาส ดังนั้น ในห้องนั้นจึงเหลือแค่เจ้าชายเคอัสกับเจ้าหญิงเอวาเนสเท่านั้น
    \"นี่! เจ้า ที่พ่อเจ้าพูดหมายความยังไง แล้วทำไมต้องมาศึกษาข้า..\" เจ้าหญิงเอวาเนสยังพูดไม่ทันจบ เจ้าชายเคอัสก็พูดสวนขึ้นมา \"นี่ เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่เนี่ย ก็ที่ข้าบอกว่าจะศึกษาเจ้าน่ะ มันก็เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้ว ในการที่จะเลือกคู่หมั้น ไม่ใช่รึ\"
    \"ห๊า! คู่หมั้น! แล้วทำไมข้าต้องมาให้เจ้าเลือกด้วยห๊า เจ้าหญิงมีเป็นร้อยเป็นพัน ตัดข้าไปซักคน คงไม่เป็นไรหรอก เจ้ารีบกลับไปกับพ่อแม่เจ้าดีกว่า\" เจ้าหญิงเอวาเนสทำตาโต โดยที่ไม่รู้เลยว่า มันช่วยเสริมความน่ารักของตัวเองได้มากขนาดไหน
    \"อืม... เจ้านี่แตกต่างจากเจ้าหญิงทั่วๆ ไปแหะ แต่.. เอาเป็นว่า ข้าจะอยู่ที่นี่ 2 อาทิตย์ แล้วก็อยู่ห้องเดียวกับเจ้าด้วยนะ ขอบอกให้รู้นะคร้าบบ เจ้าหญิงคนสวย ว่าเจ้าไม่มีสิทธิ์จะมาสั่งข้าให้ไปทำโน่นทำนี่ ยกเว้นข้าอยากจะทำจริงๆ แล้วตอนนี้ข้าก็อยากไปดูห้องนอนของข้า โอเค๊\" เจ้าชายเคอัสตอบด้วยเสียงกวนประสาท และยักคิ้วให้เจ้าหญิงเอวาเนสนิดๆ
    \"เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสั่งข้า ห๊า! ข้า..\" เจ้าหญิงเอวาเนสพูดขึ้นมาด้วยความโมโหสุดขีด พร้อมกับยืนขึ้น แต่พริบตานั้นเจ้าชายเคอัสก็หายตัวมายืนอยู่ข้างหลังเธอ พร้อมกับกระซิบใส่หูเธอเบาๆ ว่า \"ก็พ่อเจ้าบอกว่า ถ้าเจ้าไม่ยอมทำตามคำสั่งข้า เจ้าก็จะโดนลงโทษน่ะสิ ว่าแต่.. จะไปไม่ไปล่ะหืม? ทีเนี้ย\"
    \"เจ้า! เฮ้อ... ไปก็ไป แต่อย่าเพิ่งคิดว่าข้ากลัวเจ้านะ ข้าไม่อยากขัดใจท่านพ่อต่างหาก\" เจ้าหญิงเอวาเนสพูด พลางเดินออกไปจากห้องนั้น โดยเจ้าชายเคอัสยิ้มนิดๆ แล้วเดินตามนางไป...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ณ.. ห้องบรรทมของเจ้าหญิงเอวาเนส
    \"เอ้า! นี่แหละ ห้องของเจ้า\" เจ้าหญิงเอวาเนสพูดสะบัดๆ พลางเดินนำเข้าไปในห้องบรรทม ซึ่งแต่ก่อนมีเตียงอยู่เพียงเตียงเดียว แต่บัดนี้ได้มีเตียงเพิ่มขึ้นมาอีกเตียงหนึ่ง เจ้าชายเคอัสกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง แล้วยิ้มออกมานิดๆ พลางพูดว่า \"เอาล่ะ ข้าพอใจแล้ว ทีนี้ ข้าอยากไปเดินเที่ยวเล่นในเมืองซักหน่อย เจ้าพาข้าไปหน่อยซิ\" เจ้าหญิงเอวาเนสเผลอยิ้มออกมา เพราะนางอยากจะไปเดินเล่นในเมืองอยู่พอดี นางถามว่า \"เจ้าอยากไปจริงๆ เหรอ ไปสิ ข้าก็อยากไปเหมือนกัน แต่เจ้าพี่ไม่ยอมพาข้าไป...\" แล้วนางก็หยุดพูดกระทันหัน เพราะเจ้าชายเคอัสจ้องหน้านางไม่วางตา พลางพูดว่า \"ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะไม่พักที่นี่ แต่เจ้าต้องไปที่นครโรรีอัสของข้า ในฐานะ..คู่หมั้น..ของข้า\" เจ้าหญิงเอวาเนสชะงักไป แล้วนางก็พูดเสียงสั่นๆ ว่า \"อะ.. อะไรนะ ข้าต้องไปกับเจ้า ในฐานะคู่หมั้น! หมายความว่าไง\" เจ้าชายเคอัสยิ้มนิดๆ ก่อนที่จะตอบว่า \"ก็หมายความว่า ..ข้าเลือกเจ้า..ไงล่ะ เจ้าหญิงเอวาเนส กราฟีล่า ซาเวียร์ แห่งมหานครเซราฟ พระคู่หมั้นของเจ้าชายเคอัส โรเจอรัส ฟรังซิส แห่งมหานครโรรีอัส\"
    เจ้าหญิงเอวาเนสยืนตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า \"ไม่ได้นะ เจ้าเลือกข้าไม่ได้...\" นางยังพูดไม่ทันจบ เจ้าชายเคอัสก็พูดขึ้นมาว่า \"ทำไมข้าถึงเลือกเจ้าไม่ได้ล่ะ ข้าจะบอกเหตุผลที่ข้าเลือกเจ้าให้ฟังก็แล้วกัน ข้อแรก เจ้าเป็นหญิงที่งามกว่าผู้หญิงทุกคนที่ข้าเคยพบเห็นมาในชีวิตของข้า ข้อสอง เจ้าเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าไล่ข้า ข้อสาม เจ้าเป็นหญิงที่แปลกและแตกต่างจากหญิงอื่นนัก โดยที่เจ้าไม่ได้ทำท่าสนใจข้าเลย แถมยังทำท่ารำคาญข้าอีกต่างหาก ข้อสี่ เจ้าทำให้ข้าอยากเอาชนะเจ้า จบแล้ว เหตุผลของข้า\"
    \"ตะ.. แต่ว่า..\" เจ้าหญิงเอวาเนสยังพูดไม่ทันจบ เสียงพระบิดาของนางก็ดังขึ้นอย่างอารมณ์ดี \"เคอัส เจ้าเลือกเอวารึ เอาสิ พานางไปเลย แต่ดูแลดีๆ ด้วยล่ะ\" เจ้าชายเคอัสยิ้มน้อยๆ ก่อนจะโค้งคำนับราชาทราดัส พลางพูดว่า \"ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ แต่ดูเหมือนว่า ตอนนี้นางจะไม่ยอมไปกับข้า ท่านเกลี้ยกล่อมให้ข้าหน่อยเถิดพะย่ะค่ะ\" ราชาทราดัสยิ้มอย่างอารมณ์ดี พลางตอบว่า \"ได้สิ -- เอวา เมื่อเคอัสเลือกเจ้า ทำไมเจ้าไม่ไปกับเขาเล่า เอาล่ะ.. ถือซะว่า เป็นการไปเที่ยวต่างแดนครั้งแรกของเจ้าก็แล้วกัน ข้าให้มาเรียนจัดกระเป๋าให้เจ้าแล้ว\" พูดจบ พระบิดาของนางก็เดินออกจากห้อง โดยทิ้งให้เจ้าหญิงเอวาเนสยืนงงอยู่อย่างนั้น
    \"นะ.. นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตข้าเนี่ย เพราะเจ้าแท้ๆ เลย โอ๊ย! ท่านพ่อก็ไม่ช่วยข้า กลับไล่ข้าซะอีก เฮ้อ... ยังไงข้าก็ต้องไปอยู่ดีใช่มั้ย\" นางหันมาถามเจ้าชายเคอัส ที่ยืนอมยิ้มอยู่ พลางตอบว่า \"ใช่ ยังไงๆ เจ้าก็ต้องไปอยู่ดี ถึงเจ้าไม่อยากไปแค่ไหนก็ตามทีเถอะ เอ้า ไปสิ\" ว่าแล้ว เจ้าชายเคอัสก็จับข้อมือนาง แล้วก็ดึงให้ออกไปจากห้อง เจ้าหญิงเอวาเนสทำตาโต พลางสะบัดข้อมือเต็มแรง พลางพูดว่า \"ปล่อยข้านะ ข้าเดินเองได้\" เจ้าชายเคอัสเลิกคิ้วนิดๆ ก่อนจะจับข้อมือนางแน่นขึ้นไปอีก และตอบว่า \"ข้าก็ไม่ได้บอกว่า เจ้าเดินไม่ได้นี่ ข้าจะให้เจ้าเดินเร็วๆ ต่างหาก เพราะเดี๋ยวจะมืด แล้วจะเดินทางกันลำบาก ขอบอกว่า เราต้องเดินทางผ่านอีกหลายเมืองนะ กว่าจะถึงเมืองของข้า เอ้า นี่ กระเป๋าของเจ้า\" พริบตาเดียว กระเป๋าผ้าไหมสีเงินเป็นประกายของนาง ก็มาอยู่ในมือเจ้าชายเคอัส และเขาก็ยื่นส่งให้นาง แล้วพานางเดินเร็วกว่าเมื่อกี้เสียอีก จนเมื่อออกมาจากพระราชวังแล้ว เขาก็พานางเดินไปที่ประตูตรวจคนเข้าและออกของเมืองเซราฟทันที
    \"นี่ เจ้า จะรีบไปไหนเนี่ย แล้วเจ้าจะไปไหนต่อล่ะ\" เจ้าหญิงเอวาเนสถาม เมื่อผ่านประตูเมืองเซราฟมาแล้ว
    \"ข้าจะขึ้นเหนือ ไปที่เมืองสแควร์เรียส และที่สำคัญ เราต้องเดินทางทางป่า เพราะฉะนั้น ข้าถึงรีบไงล่ะ อ้อ! แล้วอย่าเรียกข้าว่า เจ้าชายเคอัส อีกนะ ส่วนข้าก็จะไม่เรียกเจ้าว่า เจ้าหญิงเอวาเนส เหมือนกัน\" เจ้าชายเคอัสบอก พลางพานางเดินมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือทันที
    \"อ้าว! แล้วเจ้าจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าอย่างไรเล่า\" เจ้าหญิงเอวาเนสถาม พลางเลิกคิ้วนิดๆ
    \"เรียกข้าว่า เคอัส แล้วข้าจะเรียกเจ้าว่า เอวา เพราะเมืองสแควร์เรียสที่เราจะไปนี้ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยภัยอันตรายทั้งปวง ทั้งโจร ลักพาตัว เรียกค่าไถ่ สารพัด เพราะฉะนั้น อย่าให้ใครรู้เด็ดขาดว่า เจ้าคือ เจ้าหญิงเอวาเนส กราฟีล่า ซาเวียร์ แห่งนครเซราฟ และข้าคือ เจ้าชายเคอัส โรเจอรัส ฟรังซิส แห่งนครโรรีอัส เอาล่ะ... ไปกันต่อเถอะ\" เจ้าชายเคอัสตรัส พลางดึงข้อมือนางให้เดินตามไป ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษๆ  ทั้งสองจึงหยุดพัก
    \"เอาล่ะ เจ้าจะทานอะไรมั้ย เดี๋ยวข้าเสกมาให้\" เจ้าชายเคอัสถาม พลางยิ้มจางๆ
    \"ไม่ล่ะ ข้าไม่หิว... แล้วเจ้าล่ะ\" เจ้าหญิงเอวาเนสถาม
    \"ข้าก็ไม่หิวเหมือนกัน งั้น... เจ้าจะนอนเลยมั้ย\" เจ้าชายเคอัสถาม
    \"ก็ดีเหมือนกัน ข้าง่วงจะตายอยู่แล้ว เดี๋ยวเจอกันพรุ่งนี้นะ เอ่อ... เคอัส\" เจ้าหญิงเอวาเนสตรัส พลางล้มตัวลงนอน จากนั้น นางก็หลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้นางสะดุ้งตื่นขึ้นมา และเมื่อเหลือบไปข้างๆ ตัว นางก็ต้องตกใจมาก เพราะเจ้าชายเคอัสนั้น นอนตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่ นางจึงเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเขาทันที แล้วก็ต้องสะดุ้ง เพราะมันร้อนราวกับไฟ นางรีบเสกอ่างน้ำและผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ขึ้นมา แล้วนางจึงนำผ้าขนหนูลงไปชุบน้ำ บิดหมาดๆ แล้วจึงนำไปเช็ดหน้าเช็ดตาของเจ้าชายเคอัส แล้วนำไปวางบนหน้าผากที่ไข้ยังไม่ยอมลด แล้วนางก็นั่งเฝ้าไข้เขา พลางคิดว่า \'ตานี่ ถ้าอยู่เฉยๆ ไม่กวนประสาท ก็หล่อดีเหมือนกันแหะ เผลอๆ จะหล่อกว่าเจ้าพี่ซะอีก\' แล้วนางก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งถึงตอนเช้า...
    \"อะ...อืม... เช้าแล้วเหรอเนี่ย แล้วเอวาล่ะ\" เจ้าชายเคอัสครางออกมาเบาๆ พลางกวาดสายตามองหาเจ้าหญิงคนงาม แล้วเขาก็เห็นเธอนั่งหลับพิงต้นไม้อยู่ เขายิ้มออกมานิดๆ แล้วก็ค่อยๆ เดินไปนั่งใกล้ๆ นาง พลางมองดวงหน้าอันงดงามเกินกว่าหญิงใด คิ้วคู่เรียวที่มักจะขมวดใส่เขาเสมอ จมูกโด่งที่มักจะเชิดใส่ ดวงตาสีน้ำนมคู่งามที่บัดนี้ปิดสนิท ริมฝีปากบางเป็นมุมกระจับ เส้นผมสีดำสนิทยาวสลวย เขายิ้มนิดๆ แล้วจึงเขย่าตัวนางเบาๆ พลางร้องเรียก \"เอวาๆ ตื่นได้แล้ว เช้าแล้ว...\"
    \"อืม.. อีกนิดน่า มาเรียน จะรีบไปไหนเล่า..\" เจ้าหญิงเอวาเนสพึมพำเบาๆ พลางพลิกตัวไปอีกด้าน
    \"จะรีบไปสแควร์เรียส อืม.. ดี ไม่ยอมตื่นใช่มั้ย\" เจ้าชายเคอัสยิ้มเจ้าเล่ห์ พลางขยับเข้าไปใกล้เจ้าหญิงผู้เลอโฉมมากขึ้น แล้วก็ก้มลงหอมแก้มเนียนเบาๆ ทำให้เจ้าหญิงเอวาเนสลืมตาขึ้นมาทันที แล้วนางก็ต้องตกใจ เพราะดวงตาสีม่วงของเจ้าชายเคอัสอยู่ใกล้แค่เอื้อม นางรีบผลักเขาออก แล้วก็ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว พลางพูดตะกุกตะกัก \"จะ... เจ้า..\" แล้วก็พูดไม่ออกไปซะดื้อๆ เจ้าชายเคอัสอมยิ้ม พลางพูดว่า \"เฮ้อ กว่าจะตื่นได้นะเจ้าเนี่ย เพิ่งจะรู้ว่า เจ้าหญิงอย่างเจ้าจะขี้เซาด้วย\"
    \"ก็เจ้านั่นแหละ ดันไม่สบาย ข้าเลยต้องนั่งเฝ้าไข้เจ้าไงล่ะ ง่วงจะตาย\" เจ้าหญิงเอวาเนสต่อว่าเบาๆ แก้มเป็นสีชมพูจางๆ
    \"อ๋อ.. แสดงว่า เจ้าเป็นห่วงข้างั้นซิ แหม... ซาบซึ้งใจจริงๆ\" เจ้าชายเคอัสบอก พลางยิ้มกว้าง
    \"ข้าเนี่ยนะ เป็นห่วงเจ้า ฮึ! ข้ากลัวว่า ถ้าเจ้าตายไป จะไม่มีใครนำทางน่ะซิ ข้าไม่ได้เป็นห่วงเจ้า จำไว้ด้วย\" เจ้าหญิงเอวาเนสพูด พลางเชิดหน้าใส่เขา
    \"ขอให้มันจริงเถอะคร้าบบ แล้วนี่เราจะไปกันได้รึยังล่ะครับ องค์หญิง\" เจ้าชายเคอัสพูดประชดๆ ทำให้เจ้าหญิงเอวาเนสหัวเราะนิดๆ แล้วจึงตอบว่า \"ก็ไปซิ ใครเอาช้างมาฉุดเจ้าไว้ล่ะ..\" ว่าแล้วนางก็เดินนำไป แต่ไปได้ไม่ทันไร นางก็สะดุดรากไม้ล้มลงไปกองกับพื้น
    \"โอ๊ย! เจ็บ..\" เด็กสาวร้องออกมาเบาๆ เมื่อพยายามจะลุกขึ้น เจ้าชายเคอัสรีบเดินมาดูอาการ พลางถามว่า \"นี่ไปเดินอีท่าไหนเข้าเนี่ย เฮ้อ.. ข้อเท้าบวมเป่งเชียว เดี๋ยวค่อยไปหาหมอในเมืองสแควร์เรียสก็แล้วกัน\"
    \"แล้วข้าจะเดินไปยัง.. ว๊าย! เจ้าปล่อยข้านะ ปล่อยๆๆๆๆ ...\" เจ้าหญิงเอวาเนสร้องออกมาลั่นป่า พลางทุบร่างที่กำลังอุ้มร่างบางของนางขึ้นมา
    \"ไม่ปล่อยซะอย่าง จะทำไม อย่าดื้อน่า เจ้าทุบให้ตาย ข้าก็ไม่เจ็บหรอก\" เจ้าชายเคอัสกล่าวออกมาเรียบๆ พลางกระชับร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขนให้แน่นขึ้น
    \"เจ้านี่มัน... เฮ้อ... ก็ได้.. ตามใจ.. เจ้าแน่ใจนะว่า ตัวข้าไม่หนักน่ะ\" เจ้าหญิงเอวาเนสเอ่ยถามขึ้น เจ้าชายเคอัสยิ้มบางๆ พลางตอบว่า \"เจ้าน่ะ ตัวเบาจะตาย กินอะไรบ้างรึเปล่าเนี่ย\"
    \"มันเรื่องของข้าไม่ใช่รึไง มีหน้าที่อะไรก็ทำไปซิ\" เจ้าหญิงเอวาเนสเอ่ยขึ้น แล้วทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลยแม้แต่คำเดียว จนกระทั่งเข้าเขตเมืองสแควร์เรียส ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้มีแต่พวกโจรทั้งนั้น จะมีพวกหมอ นักบวช หรือพวกคนดีๆ อยู่ไม่กี่คน เมื่อทั้งสองเข้าไปในเมือง ก็กลายเป็นจุดรวมสายตาของผู้คนทันที
    \"นี่.. เจ้า.. ข้ารู้สึกว่า เรารีบไปให้พ้นๆ จากเมืองนี้เถอะ ไม่น่าไว้วางใจเลย\" เจ้าหญิงเอวาเนสกระซิบ พลางมองไปรอบๆ อย่างหวาดๆ
    \"ข้าก็อยากไปเหมือนกัน แต่ข้าต้องพาเจ้าไปหาหมอก่อนน่ะซิ\" เจ้าชายเคอัสกระซิบตอบ พลางรีบสาวเท้าเดินอย่างรวดเร็ว แต่แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่ง ลักษณะท่าทางเป็นโจรเต็มร้อย ก้าวพรวดมาขวางทางทั้งสองไว้ พลางยิ้มแสยะ แล้วตะคอกว่า \"เฮ้ย! ไอ้น้องชาย เอาเงินมาแบ่งกันใช้มั่งดิ ท่าทางจะรวย อ้อ! แล้วก็ส่งผู้หญิงมาด้วยก็ดีนะ\" เจ้าชายเคอัสยิ้มเย็นๆ พลางตอบว่า \"แล้วเรื่องอะไรผมจะให้พี่ล่ะครับ ผมว่า ทางที่ดีพี่หลบไปดีกว่า ผมรีบ\" โจรคนนั้นกระพริบตาปริบๆ แล้วก็ตะโกนว่า \"เฮ้ย! ท่าทางมึงจะยังไม่รู้จักกูดีพอ พวกเรา.. ลุยโว้ย\" ว่าแล้ว โจรนับสิบก็เข้ามารุมเจ้าชายเคอัส ซึ่งส่ายหน้าอย่างเบื่อๆ พลางตะโกนว่า \"ถ้ามีใครตาย จะมาโทษผมไม่ได้นะ.. ซิลิสซิต้า!\" พอขาดคำ เสียงระเบิดก็ดังขึ้น และก็มีควันสีเทาหนาทึบเต็มไปหมด บรรดาผู้คนต่างจับจ้องมองดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปอย่างสนใจ เมื่อควันจางลง ทุกคนก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่อบรรดาเหล่าโจรที่เข้าไปทำร้ายเจ้าชายเคอัส ต่างนอนตายกันหมด แต่เจ้าชายเคอัสและเจ้าหญิงเอวาเนสไม่ได้รับบาดเจ็บซักนิด เจ้าชายเคอัสส่ายหน้าอีกครั้ง แล้วก็เดินจากไป
    \"ซิลิสซิต้า... เวทย์โจมตีชั้นสูง ที่มีรัศมีแพร่กระจายไปไกลจากจุดศูนย์กลางได้ตามใจปรารถนาของผู้ร่ายเวทย์ แต่ก็ใช่ว่าจะใช้กันได้ง่ายๆ เพราะต้องรวบรวมพลังจิตอย่างมาก... เจ้าใช้เป็นด้วยเหรอ เก่งเหมือนกันนี่ เจ้าพี่ข้ายังร่ายไม่ได้เลย ยากสุดๆ ว่าแต่.. ทำไมต้องเอาถึงตายด้วย เอาแค่บาดเจ็บก็น่าจะพอแล้วนี่\" เจ้าหญิงเอวาเนสเอ่ยถาม
    \"มันบังอาจไปยุ่งกับเจ้านี่ อารมณ์โกรธเลยพุ่งปื้ด ถ้าจะเอาแค่เงิน ข้าก็จะเอาแค่บาดเจ็บอยู่หรอก อยากรนหาที่ตายเองทำไมล่ะ ช่วยไม่ได้\" เจ้าชายเคอัสตอบ พลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
    \"หา! แค่นี้เนี่ยนะที่ถึงกับต้องฆ่าพวกเค้า เจ้านี่มัน... จริงๆ เลย\" เจ้าหญิงเอวาเนสตำหนิเบาๆ
    \"อ้าว! แล้วข้าทำไม่ถูกรึไง อย่าลืมซิ เจ้าเป็นคู่หมั้นข้านะ หรือว่าจะให้ข้าส่งเจ้าไปให้โจรพวกนั้นล่ะ\" เจ้าชายเคอัสถาม พลางขมวดคิ้ว
    \"เจ้า... โอ๊ย.. เลิกพูดถึงมันเถอะ ถึงแล้วรึไง\" เจ้าหญิงเอวาเนสเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าเจ้าชายเคอัสเดินมาหยุดที่หน้ากระท่อมไม้หลังหนึ่ง แล้วก็เดินเข้าไป พลางตะโกนเรียก \"ท่านหมอ! ท่านหมอครับ..\" ทันใดนั้น ก็มีชายชราคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องๆ หนึ่ง พลางเขม้นมองผู้มาเยือน แล้วจึงอุทานว่า \"อ้าว! เจ้าชาย เชิญขอรับ เชิญ แล้วนั่นอุ้มหญิงงามที่ไหนมาด้วยขอรับ\" เจ้าชายเคอัสยิ้มนิดๆ พลางวางเจ้าหญิงเอวาเนสลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง แล้วจึงเอ่ยว่า \"คู่หมั้นข้าเองน่ะ แต่เผอิญนางซุ่มซ่าม เลยขาแพลง ฝากด้วยนะครับ ท่านหมอ เดี๋ยวข้าจะไปทำธุระซักหน่อย..\" ว่าแล้ว เขาก็เดินออกจากกระท่อมไป นายแพทย์ชราคนนั้นยิ้มนิดๆ พลางก้มตัวลงร่ายเวทย์รักษาใส่ข้อเท้าของนาง แล้วจึงพูดว่า \"ท่านคงจะเป็นเจ้าหญิงซินะขอรับ ข้าขอบอกเลยนะขอรับ ว่าท่านนี่เป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด มีผู้หญิงมากมายที่อยากจะเป็นคู่หมั้นของเจ้าชายเคอัส แต่ก็ไม่มีวาสนาพอ\"
    \"หมอนี่ดีวิเศษมาจากไหนกันคะ ไม่เคยพูดดีๆ กับข้าเกินสิบคำเลยมั้ง กวนประสาทก็ที่หนึ่ง\" เจ้าหญิงเอวาเนสเอ่ยขึ้นอย่างฉุนๆ พลางเชิดหน้าขึ้น
    \"เจ้าชายเคอัสน่ะ เป็นผู้ชายที่ดีที่สุดที่ข้าเคยเห็นมาเลยนะขอรับ หน้าตาก็ดี เก่งไปซะทุกอย่าง แถมยังเป็นเชื้อพระวงศ์อีก เรียกง่ายๆ ว่า เพอร์เฟ็ค นั่นแหละขอรับ\" นายแพทย์ชราผู้นั้นเอ่ยขึ้น
    \"แต่ข้าว่า...\" นางยังพูดไม่ทันจบ เจ้าชายเคอัสก็ก้าวพรวดเข้ามาในกระท่อม ทำให้นางต้องกลืนคำพูดเข้าไปแทบไม่ทัน
    \"ไง.. นินทาอะไรข้าอีกล่ะ เอวา ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวก็มืดพอดี.. ข้าลาล่ะครับ ท่านหมอ\" เจ้าชายเคอัสเอ่ยขึ้น พลางดึงมือนางให้เดินออกจากกระท่อมไปอย่างรวดเร็ว...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุยกับผู้เขียน
    เฮ้อ.... จบบทซะที อาจจะยาวไปนิดนะคะ อย่าเพิ่งเบื่อกันน้า แต่อาจจะอัพช้าหน่อย เพราะเปิดเทอมแล้ว ยังไงๆ ก็เม้นท์ด้วยนะคะ พลีสๆๆๆๆๆๆๆ จะได้มีกำลังใจแต่งต่อนะคะ ^-^
    ณ... มหานครเซราฟ
    \"องค์หญิง... องค์หญิงเพคะ คอยหม่อมฉันด้วยเพคะ\" สาวใช้คนสนิทของเจ้าหญิงเอวาเนสร้องเรียกเจ้าหญิงของตน \"ก็ตามข้ามาให้ทันซิ จะตามมาทำไมก็ไม่รู้ ข้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ ข้าก็อายุเท่าเจ้านั่นแหละ มาเรียน แล้วข้าก็จะไปหาเจ้าพี่ ข้าไม่ได้หนีไปเที่ยวนอกวังซักหน่อย\" เสียงหวานใสปานระฆังแก้วดังขึ้น ผู้พูดเป็นเด็กสาววัยประมาณ 16 ปี นางมีเส้นผมยาวสยายสีดำสนิท ที่บัดนี้ถักเป็นเปียเส้นเล็กๆ ถี่ยิบ แล้วแซมด้วยไหมสีทอง ดวงตาสีน้ำนมคู่งาม ที่ยังไม่สิ้นแววแห่งความเป็นเด็ก คิ้วคู่เรียวและโก่งโดยธรรมชาติ จมูกโด่งเชิด แสดงให้เห็นถึงความรั้น ริมฝีปากบางเป็นมุมกระจับ ส่อความแก่นแก้วไม่กลัวใคร นางอยู่ในพระภูษาสีฟ้าอ่อน ที่ช่วยขับผิวขาวนวลเนียนของนาง ให้ขาวยิ่งขึ้นไปอีก นางเป็นผู้มีความงามที่สุดในนครแห่งนี้ แต่ดูเหมือนนางจะไม่ใส่ใจกับความงามของตัวเองนัก
    \"อ๊ะ... เจ้าพี่.. เจ้าพี่เพคะ\" เจ้าหญิงเอวาเนสร้องเรียกผู้เป็นพี่ชาย ทันทีที่เห็นพระพักตร์
    \"มีอะไรหรือ เอวา\" เสียงนุ่มๆ อ่อนโยนของเจ้าชายอีลาสดังขึ้น ผู้พูดเป็นเด็กหนุ่มวัยประมาณ 16 ปี มีเส้นผมสีดำสนิท และดวงตาสีน้ำนมที่บัดนี้ส่อแววขันและสงสัยในเวลาเดียวกัน คิ้วเข้มหนา จมูกโด่งพองาม ริมฝีปากบางๆ สีแดงจางๆ ที่ผู้หญิงหลายคนอยากจะจุมพิตนัก เขาอยู่ในชุดเจ้าชายตามปกติ ผิวสีแทนที่เกิดจากการประดาบกับเหล่าทหารเป็นประจำ บวกกับนิสัยอ่อนโยนและใจเย็น ทำให้สาวๆ หลงใหลนัก
    \"เจ้าพี่เพคะ พาน้องไปเที่ยวนอกวังหน่อยซิ นะเพคะ\" ผู้เป็นน้องอ้อนพี่ชาย ที่บัดนี้เกิดรอยยิ้มเอ็นดู พร้อมกับส่ายหน้าช้าๆ พลางตอบว่า \"ไม่ได้หรอก เจ้าลืมไปแล้วรึไง เอวา ว่าท่านพ่อสั่งว่า วันนี้ห้ามออกไปเที่ยวเล่นที่ไหน เพราะจะต้องอยู่ต้อนรับแขก พี่พาเจ้าไปไม่ได้จริงๆ เอวา\" คำตอบที่ไม่ได้ดั่งใจ ทำให้เจ้าหญิงเอวาเนสค้อนพี่ชายทันที พลางตรัสอย่างโกรธๆ ว่า \"แขกที่ท่านพ่อว่า เป็นใคร สำคัญมาจากที่ไหนกันเพคะ ถึงต้องให้เจ้าพี่กับน้องอยู่ต้อนรับด้วย\" เจ้าชายอีลาสถอนใจ พลางตอบว่า \"ก็ราชาคาตัส ราชินีวีเลล่า และเจ้าชายเคอัส แห่งมหานครโรรีอัส นครแห่งเวทมนตร์ เหมือนกับเมืองเราไงล่ะ.. อ๊ะ.. ท่านพ่อทรงเรียกแล้ว ไปกันเถอะ เอวา ไม่ต้องไปแต่งตัวอีกหรอก น้องพี่น่ะงามอยู่แล้ว หากเจ้าจะยิ้มซักหน่อย\" เจ้าหญิงเอวาเนสค้อนพี่ชายอีกหน แล้วจึงเดินไปพร้อมกับพี่ชาย พลางตรัสว่า \"ยังกับน้องจะสนใจ ว่าตัวเองจะงามแค่ไหน ฮึ!\"
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ณ... ท้องพระโรงใหญ่
    \"อ้าว.. มาพอดี.. อีลาส เอวาเนส.. มาทักทายแขกของเราหน่อยซิ\" ราชาทราดัสตรัส พลางแย้มสรวลอย่างอารมณ์ดี ทางเบื้องซ้ายของท่านนั้น มีบุคคลสามคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว คนแรกคือ ราชาคาตัส ผู้มีเส้นผมสีน้ำตาลทอง และดวงตาสีฟ้า ถัดไปคือ ราชินีวีเลล่า ผู้มีเส้นผมสีดำสนิท และดวงตาสีม่วงคู่งาม ถัดไปคือ เจ้าชายเคอัส ผู้มีดวงหน้าหล่อเหลาคมเข้ม (ชนิดที่บาดหัวใจสาวๆ กระจุย) เส้นผมสีน้ำตาลทองเหมือนของบิดา และดวงตาสีม่วงลึกลับเหมือนของมารดา ที่ทอดมาจับนิ่งที่เจ้าหญิงเอวาเนส ทันทีที่นางและเจ้าชายอีลาสก้าวเข้าไปในห้องนั้น แล้วยิ้มมุมปากนิดๆ เจ้าหญิงเอวาเนสมองอย่างโมโหนิดๆ พลางนั่งลงตรงข้ามกับเจ้าชายเคอัสพอดี
    \"อืม... นี่น่ะหรือเพคะ เจ้าหญิงเอวาเนส งามสมคำร่ำลือจริงๆ\" ราชินีวีเลล่าตรัสขึ้น พลางทอดสายตามาจับที่เจ้าหญิงเอวาเนส แล้วแย้มสรวล
    \"อย่างนี้ผ่านรึยังล่ะ เคอัส หืม?\" ราชาคาตัสตรัสขึ้น พลางหันไปมองหน้าพระโอรสของพระองค์ ที่บัดนี้สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เจ้าหญิงเอวาเนสไม่เปลี่ยน พลางตอบว่า \"ถ้าในด้านความงามล่ะก็ ผ่านขอรับ ท่านพ่อ แต่เรื่องนิสัยและความรู้ความสามารถ ลูกยังไม่รู้ ขอเวลาศึกษาอีก 2 อาทิตย์นะขอรับ\"
    \"เอางั้นหรือ ตามใจเจ้าซิ งั้นถ้าพ่อกับแม่จะกลับก่อน คงไม่มีปัญหาใช่มั้ย ข้าฝากลูกข้าด้วยนะ ทราดัส งั้น... ข้ากลับล่ะ โชคดีนะลูกพ่อ\" ราชาคาตัสยิ้มให้บุตรชาย พลางก้าวออกจากห้องนั้นไปพร้อมกับราชาทราดัสและเจ้าชายอีลาส ดังนั้น ในห้องนั้นจึงเหลือแค่เจ้าชายเคอัสกับเจ้าหญิงเอวาเนสเท่านั้น
    \"นี่! เจ้า ที่พ่อเจ้าพูดหมายความยังไง แล้วทำไมต้องมาศึกษาข้า..\" เจ้าหญิงเอวาเนสยังพูดไม่ทันจบ เจ้าชายเคอัสก็พูดสวนขึ้นมา \"นี่ เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่เนี่ย ก็ที่ข้าบอกว่าจะศึกษาเจ้าน่ะ มันก็เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้ว ในการที่จะเลือกคู่หมั้น ไม่ใช่รึ\"
    \"ห๊า! คู่หมั้น! แล้วทำไมข้าต้องมาให้เจ้าเลือกด้วยห๊า เจ้าหญิงมีเป็นร้อยเป็นพัน ตัดข้าไปซักคน คงไม่เป็นไรหรอก เจ้ารีบกลับไปกับพ่อแม่เจ้าดีกว่า\" เจ้าหญิงเอวาเนสทำตาโต โดยที่ไม่รู้เลยว่า มันช่วยเสริมความน่ารักของตัวเองได้มากขนาดไหน
    \"อืม... เจ้านี่แตกต่างจากเจ้าหญิงทั่วๆ ไปแหะ แต่.. เอาเป็นว่า ข้าจะอยู่ที่นี่ 2 อาทิตย์ แล้วก็อยู่ห้องเดียวกับเจ้าด้วยนะ ขอบอกให้รู้นะคร้าบบ เจ้าหญิงคนสวย ว่าเจ้าไม่มีสิทธิ์จะมาสั่งข้าให้ไปทำโน่นทำนี่ ยกเว้นข้าอยากจะทำจริงๆ แล้วตอนนี้ข้าก็อยากไปดูห้องนอนของข้า โอเค๊\" เจ้าชายเคอัสตอบด้วยเสียงกวนประสาท และยักคิ้วให้เจ้าหญิงเอวาเนสนิดๆ
    \"เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสั่งข้า ห๊า! ข้า..\" เจ้าหญิงเอวาเนสพูดขึ้นมาด้วยความโมโหสุดขีด พร้อมกับยืนขึ้น แต่พริบตานั้นเจ้าชายเคอัสก็หายตัวมายืนอยู่ข้างหลังเธอ พร้อมกับกระซิบใส่หูเธอเบาๆ ว่า \"ก็พ่อเจ้าบอกว่า ถ้าเจ้าไม่ยอมทำตามคำสั่งข้า เจ้าก็จะโดนลงโทษน่ะสิ ว่าแต่.. จะไปไม่ไปล่ะหืม? ทีเนี้ย\"
    \"เจ้า! เฮ้อ... ไปก็ไป แต่อย่าเพิ่งคิดว่าข้ากลัวเจ้านะ ข้าไม่อยากขัดใจท่านพ่อต่างหาก\" เจ้าหญิงเอวาเนสพูด พลางเดินออกไปจากห้องนั้น โดยเจ้าชายเคอัสยิ้มนิดๆ แล้วเดินตามนางไป...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ณ.. ห้องบรรทมของเจ้าหญิงเอวาเนส
    \"เอ้า! นี่แหละ ห้องของเจ้า\" เจ้าหญิงเอวาเนสพูดสะบัดๆ พลางเดินนำเข้าไปในห้องบรรทม ซึ่งแต่ก่อนมีเตียงอยู่เพียงเตียงเดียว แต่บัดนี้ได้มีเตียงเพิ่มขึ้นมาอีกเตียงหนึ่ง เจ้าชายเคอัสกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง แล้วยิ้มออกมานิดๆ พลางพูดว่า \"เอาล่ะ ข้าพอใจแล้ว ทีนี้ ข้าอยากไปเดินเที่ยวเล่นในเมืองซักหน่อย เจ้าพาข้าไปหน่อยซิ\" เจ้าหญิงเอวาเนสเผลอยิ้มออกมา เพราะนางอยากจะไปเดินเล่นในเมืองอยู่พอดี นางถามว่า \"เจ้าอยากไปจริงๆ เหรอ ไปสิ ข้าก็อยากไปเหมือนกัน แต่เจ้าพี่ไม่ยอมพาข้าไป...\" แล้วนางก็หยุดพูดกระทันหัน เพราะเจ้าชายเคอัสจ้องหน้านางไม่วางตา พลางพูดว่า \"ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะไม่พักที่นี่ แต่เจ้าต้องไปที่นครโรรีอัสของข้า ในฐานะ..คู่หมั้น..ของข้า\" เจ้าหญิงเอวาเนสชะงักไป แล้วนางก็พูดเสียงสั่นๆ ว่า \"อะ.. อะไรนะ ข้าต้องไปกับเจ้า ในฐานะคู่หมั้น! หมายความว่าไง\" เจ้าชายเคอัสยิ้มนิดๆ ก่อนที่จะตอบว่า \"ก็หมายความว่า ..ข้าเลือกเจ้า..ไงล่ะ เจ้าหญิงเอวาเนส กราฟีล่า ซาเวียร์ แห่งมหานครเซราฟ พระคู่หมั้นของเจ้าชายเคอัส โรเจอรัส ฟรังซิส แห่งมหานครโรรีอัส\"
    เจ้าหญิงเอวาเนสยืนตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า \"ไม่ได้นะ เจ้าเลือกข้าไม่ได้...\" นางยังพูดไม่ทันจบ เจ้าชายเคอัสก็พูดขึ้นมาว่า \"ทำไมข้าถึงเลือกเจ้าไม่ได้ล่ะ ข้าจะบอกเหตุผลที่ข้าเลือกเจ้าให้ฟังก็แล้วกัน ข้อแรก เจ้าเป็นหญิงที่งามกว่าผู้หญิงทุกคนที่ข้าเคยพบเห็นมาในชีวิตของข้า ข้อสอง เจ้าเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าไล่ข้า ข้อสาม เจ้าเป็นหญิงที่แปลกและแตกต่างจากหญิงอื่นนัก โดยที่เจ้าไม่ได้ทำท่าสนใจข้าเลย แถมยังทำท่ารำคาญข้าอีกต่างหาก ข้อสี่ เจ้าทำให้ข้าอยากเอาชนะเจ้า จบแล้ว เหตุผลของข้า\"
    \"ตะ.. แต่ว่า..\" เจ้าหญิงเอวาเนสยังพูดไม่ทันจบ เสียงพระบิดาของนางก็ดังขึ้นอย่างอารมณ์ดี \"เคอัส เจ้าเลือกเอวารึ เอาสิ พานางไปเลย แต่ดูแลดีๆ ด้วยล่ะ\" เจ้าชายเคอัสยิ้มน้อยๆ ก่อนจะโค้งคำนับราชาทราดัส พลางพูดว่า \"ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ แต่ดูเหมือนว่า ตอนนี้นางจะไม่ยอมไปกับข้า ท่านเกลี้ยกล่อมให้ข้าหน่อยเถิดพะย่ะค่ะ\" ราชาทราดัสยิ้มอย่างอารมณ์ดี พลางตอบว่า \"ได้สิ -- เอวา เมื่อเคอัสเลือกเจ้า ทำไมเจ้าไม่ไปกับเขาเล่า เอาล่ะ.. ถือซะว่า เป็นการไปเที่ยวต่างแดนครั้งแรกของเจ้าก็แล้วกัน ข้าให้มาเรียนจัดกระเป๋าให้เจ้าแล้ว\" พูดจบ พระบิดาของนางก็เดินออกจากห้อง โดยทิ้งให้เจ้าหญิงเอวาเนสยืนงงอยู่อย่างนั้น
    \"นะ.. นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตข้าเนี่ย เพราะเจ้าแท้ๆ เลย โอ๊ย! ท่านพ่อก็ไม่ช่วยข้า กลับไล่ข้าซะอีก เฮ้อ... ยังไงข้าก็ต้องไปอยู่ดีใช่มั้ย\" นางหันมาถามเจ้าชายเคอัส ที่ยืนอมยิ้มอยู่ พลางตอบว่า \"ใช่ ยังไงๆ เจ้าก็ต้องไปอยู่ดี ถึงเจ้าไม่อยากไปแค่ไหนก็ตามทีเถอะ เอ้า ไปสิ\" ว่าแล้ว เจ้าชายเคอัสก็จับข้อมือนาง แล้วก็ดึงให้ออกไปจากห้อง เจ้าหญิงเอวาเนสทำตาโต พลางสะบัดข้อมือเต็มแรง พลางพูดว่า \"ปล่อยข้านะ ข้าเดินเองได้\" เจ้าชายเคอัสเลิกคิ้วนิดๆ ก่อนจะจับข้อมือนางแน่นขึ้นไปอีก และตอบว่า \"ข้าก็ไม่ได้บอกว่า เจ้าเดินไม่ได้นี่ ข้าจะให้เจ้าเดินเร็วๆ ต่างหาก เพราะเดี๋ยวจะมืด แล้วจะเดินทางกันลำบาก ขอบอกว่า เราต้องเดินทางผ่านอีกหลายเมืองนะ กว่าจะถึงเมืองของข้า เอ้า นี่ กระเป๋าของเจ้า\" พริบตาเดียว กระเป๋าผ้าไหมสีเงินเป็นประกายของนาง ก็มาอยู่ในมือเจ้าชายเคอัส และเขาก็ยื่นส่งให้นาง แล้วพานางเดินเร็วกว่าเมื่อกี้เสียอีก จนเมื่อออกมาจากพระราชวังแล้ว เขาก็พานางเดินไปที่ประตูตรวจคนเข้าและออกของเมืองเซราฟทันที
    \"นี่ เจ้า จะรีบไปไหนเนี่ย แล้วเจ้าจะไปไหนต่อล่ะ\" เจ้าหญิงเอวาเนสถาม เมื่อผ่านประตูเมืองเซราฟมาแล้ว
    \"ข้าจะขึ้นเหนือ ไปที่เมืองสแควร์เรียส และที่สำคัญ เราต้องเดินทางทางป่า เพราะฉะนั้น ข้าถึงรีบไงล่ะ อ้อ! แล้วอย่าเรียกข้าว่า เจ้าชายเคอัส อีกนะ ส่วนข้าก็จะไม่เรียกเจ้าว่า เจ้าหญิงเอวาเนส เหมือนกัน\" เจ้าชายเคอัสบอก พลางพานางเดินมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือทันที
    \"อ้าว! แล้วเจ้าจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าอย่างไรเล่า\" เจ้าหญิงเอวาเนสถาม พลางเลิกคิ้วนิดๆ
    \"เรียกข้าว่า เคอัส แล้วข้าจะเรียกเจ้าว่า เอวา เพราะเมืองสแควร์เรียสที่เราจะไปนี้ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยภัยอันตรายทั้งปวง ทั้งโจร ลักพาตัว เรียกค่าไถ่ สารพัด เพราะฉะนั้น อย่าให้ใครรู้เด็ดขาดว่า เจ้าคือ เจ้าหญิงเอวาเนส กราฟีล่า ซาเวียร์ แห่งนครเซราฟ และข้าคือ เจ้าชายเคอัส โรเจอรัส ฟรังซิส แห่งนครโรรีอัส เอาล่ะ... ไปกันต่อเถอะ\" เจ้าชายเคอัสตรัส พลางดึงข้อมือนางให้เดินตามไป ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษๆ  ทั้งสองจึงหยุดพัก
    \"เอาล่ะ เจ้าจะทานอะไรมั้ย เดี๋ยวข้าเสกมาให้\" เจ้าชายเคอัสถาม พลางยิ้มจางๆ
    \"ไม่ล่ะ ข้าไม่หิว... แล้วเจ้าล่ะ\" เจ้าหญิงเอวาเนสถาม
    \"ข้าก็ไม่หิวเหมือนกัน งั้น... เจ้าจะนอนเลยมั้ย\" เจ้าชายเคอัสถาม
    \"ก็ดีเหมือนกัน ข้าง่วงจะตายอยู่แล้ว เดี๋ยวเจอกันพรุ่งนี้นะ เอ่อ... เคอัส\" เจ้าหญิงเอวาเนสตรัส พลางล้มตัวลงนอน จากนั้น นางก็หลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้นางสะดุ้งตื่นขึ้นมา และเมื่อเหลือบไปข้างๆ ตัว นางก็ต้องตกใจมาก เพราะเจ้าชายเคอัสนั้น นอนตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่ นางจึงเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเขาทันที แล้วก็ต้องสะดุ้ง เพราะมันร้อนราวกับไฟ นางรีบเสกอ่างน้ำและผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ขึ้นมา แล้วนางจึงนำผ้าขนหนูลงไปชุบน้ำ บิดหมาดๆ แล้วจึงนำไปเช็ดหน้าเช็ดตาของเจ้าชายเคอัส แล้วนำไปวางบนหน้าผากที่ไข้ยังไม่ยอมลด แล้วนางก็นั่งเฝ้าไข้เขา พลางคิดว่า \'ตานี่ ถ้าอยู่เฉยๆ ไม่กวนประสาท ก็หล่อดีเหมือนกันแหะ เผลอๆ จะหล่อกว่าเจ้าพี่ซะอีก\' แล้วนางก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งถึงตอนเช้า...
    \"อะ...อืม... เช้าแล้วเหรอเนี่ย แล้วเอวาล่ะ\" เจ้าชายเคอัสครางออกมาเบาๆ พลางกวาดสายตามองหาเจ้าหญิงคนงาม แล้วเขาก็เห็นเธอนั่งหลับพิงต้นไม้อยู่ เขายิ้มออกมานิดๆ แล้วก็ค่อยๆ เดินไปนั่งใกล้ๆ นาง พลางมองดวงหน้าอันงดงามเกินกว่าหญิงใด คิ้วคู่เรียวที่มักจะขมวดใส่เขาเสมอ จมูกโด่งที่มักจะเชิดใส่ ดวงตาสีน้ำนมคู่งามที่บัดนี้ปิดสนิท ริมฝีปากบางเป็นมุมกระจับ เส้นผมสีดำสนิทยาวสลวย เขายิ้มนิดๆ แล้วจึงเขย่าตัวนางเบาๆ พลางร้องเรียก \"เอวาๆ ตื่นได้แล้ว เช้าแล้ว...\"
    \"อืม.. อีกนิดน่า มาเรียน จะรีบไปไหนเล่า..\" เจ้าหญิงเอวาเนสพึมพำเบาๆ พลางพลิกตัวไปอีกด้าน
    \"จะรีบไปสแควร์เรียส อืม.. ดี ไม่ยอมตื่นใช่มั้ย\" เจ้าชายเคอัสยิ้มเจ้าเล่ห์ พลางขยับเข้าไปใกล้เจ้าหญิงผู้เลอโฉมมากขึ้น แล้วก็ก้มลงหอมแก้มเนียนเบาๆ ทำให้เจ้าหญิงเอวาเนสลืมตาขึ้นมาทันที แล้วนางก็ต้องตกใจ เพราะดวงตาสีม่วงของเจ้าชายเคอัสอยู่ใกล้แค่เอื้อม นางรีบผลักเขาออก แล้วก็ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว พลางพูดตะกุกตะกัก \"จะ... เจ้า..\" แล้วก็พูดไม่ออกไปซะดื้อๆ เจ้าชายเคอัสอมยิ้ม พลางพูดว่า \"เฮ้อ กว่าจะตื่นได้นะเจ้าเนี่ย เพิ่งจะรู้ว่า เจ้าหญิงอย่างเจ้าจะขี้เซาด้วย\"
    \"ก็เจ้านั่นแหละ ดันไม่สบาย ข้าเลยต้องนั่งเฝ้าไข้เจ้าไงล่ะ ง่วงจะตาย\" เจ้าหญิงเอวาเนสต่อว่าเบาๆ แก้มเป็นสีชมพูจางๆ
    \"อ๋อ.. แสดงว่า เจ้าเป็นห่วงข้างั้นซิ แหม... ซาบซึ้งใจจริงๆ\" เจ้าชายเคอัสบอก พลางยิ้มกว้าง
    \"ข้าเนี่ยนะ เป็นห่วงเจ้า ฮึ! ข้ากลัวว่า ถ้าเจ้าตายไป จะไม่มีใครนำทางน่ะซิ ข้าไม่ได้เป็นห่วงเจ้า จำไว้ด้วย\" เจ้าหญิงเอวาเนสพูด พลางเชิดหน้าใส่เขา
    \"ขอให้มันจริงเถอะคร้าบบ แล้วนี่เราจะไปกันได้รึยังล่ะครับ องค์หญิง\" เจ้าชายเคอัสพูดประชดๆ ทำให้เจ้าหญิงเอวาเนสหัวเราะนิดๆ แล้วจึงตอบว่า \"ก็ไปซิ ใครเอาช้างมาฉุดเจ้าไว้ล่ะ..\" ว่าแล้วนางก็เดินนำไป แต่ไปได้ไม่ทันไร นางก็สะดุดรากไม้ล้มลงไปกองกับพื้น
    \"โอ๊ย! เจ็บ..\" เด็กสาวร้องออกมาเบาๆ เมื่อพยายามจะลุกขึ้น เจ้าชายเคอัสรีบเดินมาดูอาการ พลางถามว่า \"นี่ไปเดินอีท่าไหนเข้าเนี่ย เฮ้อ.. ข้อเท้าบวมเป่งเชียว เดี๋ยวค่อยไปหาหมอในเมืองสแควร์เรียสก็แล้วกัน\"
    \"แล้วข้าจะเดินไปยัง.. ว๊าย! เจ้าปล่อยข้านะ ปล่อยๆๆๆๆ ...\" เจ้าหญิงเอวาเนสร้องออกมาลั่นป่า พลางทุบร่างที่กำลังอุ้มร่างบางของนางขึ้นมา
    \"ไม่ปล่อยซะอย่าง จะทำไม อย่าดื้อน่า เจ้าทุบให้ตาย ข้าก็ไม่เจ็บหรอก\" เจ้าชายเคอัสกล่าวออกมาเรียบๆ พลางกระชับร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขนให้แน่นขึ้น
    \"เจ้านี่มัน... เฮ้อ... ก็ได้.. ตามใจ.. เจ้าแน่ใจนะว่า ตัวข้าไม่หนักน่ะ\" เจ้าหญิงเอวาเนสเอ่ยถามขึ้น เจ้าชายเคอัสยิ้มบางๆ พลางตอบว่า \"เจ้าน่ะ ตัวเบาจะตาย กินอะไรบ้างรึเปล่าเนี่ย\"
    \"มันเรื่องของข้าไม่ใช่รึไง มีหน้าที่อะไรก็ทำไปซิ\" เจ้าหญิงเอวาเนสเอ่ยขึ้น แล้วทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลยแม้แต่คำเดียว จนกระทั่งเข้าเขตเมืองสแควร์เรียส ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้มีแต่พวกโจรทั้งนั้น จะมีพวกหมอ นักบวช หรือพวกคนดีๆ อยู่ไม่กี่คน เมื่อทั้งสองเข้าไปในเมือง ก็กลายเป็นจุดรวมสายตาของผู้คนทันที
    \"นี่.. เจ้า.. ข้ารู้สึกว่า เรารีบไปให้พ้นๆ จากเมืองนี้เถอะ ไม่น่าไว้วางใจเลย\" เจ้าหญิงเอวาเนสกระซิบ พลางมองไปรอบๆ อย่างหวาดๆ
    \"ข้าก็อยากไปเหมือนกัน แต่ข้าต้องพาเจ้าไปหาหมอก่อนน่ะซิ\" เจ้าชายเคอัสกระซิบตอบ พลางรีบสาวเท้าเดินอย่างรวดเร็ว แต่แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่ง ลักษณะท่าทางเป็นโจรเต็มร้อย ก้าวพรวดมาขวางทางทั้งสองไว้ พลางยิ้มแสยะ แล้วตะคอกว่า \"เฮ้ย! ไอ้น้องชาย เอาเงินมาแบ่งกันใช้มั่งดิ ท่าทางจะรวย อ้อ! แล้วก็ส่งผู้หญิงมาด้วยก็ดีนะ\" เจ้าชายเคอัสยิ้มเย็นๆ พลางตอบว่า \"แล้วเรื่องอะไรผมจะให้พี่ล่ะครับ ผมว่า ทางที่ดีพี่หลบไปดีกว่า ผมรีบ\" โจรคนนั้นกระพริบตาปริบๆ แล้วก็ตะโกนว่า \"เฮ้ย! ท่าทางมึงจะยังไม่รู้จักกูดีพอ พวกเรา.. ลุยโว้ย\" ว่าแล้ว โจรนับสิบก็เข้ามารุมเจ้าชายเคอัส ซึ่งส่ายหน้าอย่างเบื่อๆ พลางตะโกนว่า \"ถ้ามีใครตาย จะมาโทษผมไม่ได้นะ.. ซิลิสซิต้า!\" พอขาดคำ เสียงระเบิดก็ดังขึ้น และก็มีควันสีเทาหนาทึบเต็มไปหมด บรรดาผู้คนต่างจับจ้องมองดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปอย่างสนใจ เมื่อควันจางลง ทุกคนก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่อบรรดาเหล่าโจรที่เข้าไปทำร้ายเจ้าชายเคอัส ต่างนอนตายกันหมด แต่เจ้าชายเคอัสและเจ้าหญิงเอวาเนสไม่ได้รับบาดเจ็บซักนิด เจ้าชายเคอัสส่ายหน้าอีกครั้ง แล้วก็เดินจากไป
    \"ซิลิสซิต้า... เวทย์โจมตีชั้นสูง ที่มีรัศมีแพร่กระจายไปไกลจากจุดศูนย์กลางได้ตามใจปรารถนาของผู้ร่ายเวทย์ แต่ก็ใช่ว่าจะใช้กันได้ง่ายๆ เพราะต้องรวบรวมพลังจิตอย่างมาก... เจ้าใช้เป็นด้วยเหรอ เก่งเหมือนกันนี่ เจ้าพี่ข้ายังร่ายไม่ได้เลย ยากสุดๆ ว่าแต่.. ทำไมต้องเอาถึงตายด้วย เอาแค่บาดเจ็บก็น่าจะพอแล้วนี่\" เจ้าหญิงเอวาเนสเอ่ยถาม
    \"มันบังอาจไปยุ่งกับเจ้านี่ อารมณ์โกรธเลยพุ่งปื้ด ถ้าจะเอาแค่เงิน ข้าก็จะเอาแค่บาดเจ็บอยู่หรอก อยากรนหาที่ตายเองทำไมล่ะ ช่วยไม่ได้\" เจ้าชายเคอัสตอบ พลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
    \"หา! แค่นี้เนี่ยนะที่ถึงกับต้องฆ่าพวกเค้า เจ้านี่มัน... จริงๆ เลย\" เจ้าหญิงเอวาเนสตำหนิเบาๆ
    \"อ้าว! แล้วข้าทำไม่ถูกรึไง อย่าลืมซิ เจ้าเป็นคู่หมั้นข้านะ หรือว่าจะให้ข้าส่งเจ้าไปให้โจรพวกนั้นล่ะ\" เจ้าชายเคอัสถาม พลางขมวดคิ้ว
    \"เจ้า... โอ๊ย.. เลิกพูดถึงมันเถอะ ถึงแล้วรึไง\" เจ้าหญิงเอวาเนสเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าเจ้าชายเคอัสเดินมาหยุดที่หน้ากระท่อมไม้หลังหนึ่ง แล้วก็เดินเข้าไป พลางตะโกนเรียก \"ท่านหมอ! ท่านหมอครับ..\" ทันใดนั้น ก็มีชายชราคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องๆ หนึ่ง พลางเขม้นมองผู้มาเยือน แล้วจึงอุทานว่า \"อ้าว! เจ้าชาย เชิญขอรับ เชิญ แล้วนั่นอุ้มหญิงงามที่ไหนมาด้วยขอรับ\" เจ้าชายเคอัสยิ้มนิดๆ พลางวางเจ้าหญิงเอวาเนสลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง แล้วจึงเอ่ยว่า \"คู่หมั้นข้าเองน่ะ แต่เผอิญนางซุ่มซ่าม เลยขาแพลง ฝากด้วยนะครับ ท่านหมอ เดี๋ยวข้าจะไปทำธุระซักหน่อย..\" ว่าแล้ว เขาก็เดินออกจากกระท่อมไป นายแพทย์ชราคนนั้นยิ้มนิดๆ พลางก้มตัวลงร่ายเวทย์รักษาใส่ข้อเท้าของนาง แล้วจึงพูดว่า \"ท่านคงจะเป็นเจ้าหญิงซินะขอรับ ข้าขอบอกเลยนะขอรับ ว่าท่านนี่เป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด มีผู้หญิงมากมายที่อยากจะเป็นคู่หมั้นของเจ้าชายเคอัส แต่ก็ไม่มีวาสนาพอ\"
    \"หมอนี่ดีวิเศษมาจากไหนกันคะ ไม่เคยพูดดีๆ กับข้าเกินสิบคำเลยมั้ง กวนประสาทก็ที่หนึ่ง\" เจ้าหญิงเอวาเนสเอ่ยขึ้นอย่างฉุนๆ พลางเชิดหน้าขึ้น
    \"เจ้าชายเคอัสน่ะ เป็นผู้ชายที่ดีที่สุดที่ข้าเคยเห็นมาเลยนะขอรับ หน้าตาก็ดี เก่งไปซะทุกอย่าง แถมยังเป็นเชื้อพระวงศ์อีก เรียกง่ายๆ ว่า เพอร์เฟ็ค นั่นแหละขอรับ\" นายแพทย์ชราผู้นั้นเอ่ยขึ้น
    \"แต่ข้าว่า...\" นางยังพูดไม่ทันจบ เจ้าชายเคอัสก็ก้าวพรวดเข้ามาในกระท่อม ทำให้นางต้องกลืนคำพูดเข้าไปแทบไม่ทัน
    \"ไง.. นินทาอะไรข้าอีกล่ะ เอวา ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวก็มืดพอดี.. ข้าลาล่ะครับ ท่านหมอ\" เจ้าชายเคอัสเอ่ยขึ้น พลางดึงมือนางให้เดินออกจากกระท่อมไปอย่างรวดเร็ว...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุยกับผู้เขียน
    เฮ้อ.... จบบทซะที อาจจะยาวไปนิดนะคะ อย่าเพิ่งเบื่อกันน้า แต่อาจจะอัพช้าหน่อย เพราะเปิดเทอมแล้ว ยังไงๆ ก็เม้นท์ด้วยนะคะ พลีสๆๆๆๆๆๆๆ จะได้มีกำลังใจแต่งต่อนะคะ ^-^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น