ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EYE :: คำสาปร้ายผูกเงื่อนรัก

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่2 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 57









    2

     

     

     

                คุณยังคงบังเอิญโชคดีที่มีหลักฐานที่อยู่อย่างแน่ชัดสินะ...คราวนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่แอนเดอร์สันที่เป็นผู้สอบปากคำเขา แต่เป็นชายอายุมากกว่าที่หน้าโหดสุดๆ เขาคงมาเพื่อเค้นคอผู้สงสัยให้รู้สึกกลัวฉนว่ามันได้ผลชะงัดเลยถ้าไม่ติดที่ว่าฉันเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรซักอย่าง

                ค่ะ ฉันจำเป็นต้องตรวจสุขภาพทุกเดือน...เจ้าหน้าที่โกแลนซ์ เขาแนะนำตัวว่าอย่างนั้นน่ะนะ มีสีหน้าเครียดขึงอย่างเห็นได้ชัด

                ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือมิสเอมส์...เขายอมแพ้ที่จะหาข้อมูลที่เขาต้องการซึ่งฉันไม่มีให้ ฉันลุกขึ้นยืนเต็ความสูงก่อนจะโค้งอำลาเขาอย่างเก้ๆกังๆ

                “เดี๋ยวผมไปส่งนะครับมิสเอมส์...

                อลิสค่ะ เรียกว่าอลิสก็ได้ทันทีที่ฉันออกจากห้องสอบสวน คุณตำรวจที่แอนเดอ์สันที่คงจะยืนรออยู่ด้านนอกก็เดินเข้ามาคุยกับฉันอย่างเป็นมิตร

                ครับอลิส...งั้นให้ผมไปส่งเถอะนะครับฉันลังเลนิดหน่อยเพราะไม่อยากรบกวนเขาเท่าไหร่ คิดซะว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องบริการประชาชนนะครับ

                ค่ะ...ฉันตอบตกลงในที่สุดก่อนจะเดินตามคุณตำรวจแอนเดอร์สัน พลางคิดไปถึงเหตุการณ์อันแสนน่าตกใจที่เกิดขึ้นติดๆกัน

                ฉันคิดว่าบางทีนี่อาจจะเป็นความบังเอิญที่ยากจะเชื่อสำหรับใครหลายคนเลยล่ะ

     

     

     

                อลิส!”ทันทีที่ฉันก้าวลงจากรถ ฉันก็พบกับมิสเฮนสัน อาจารย์วิชาวรรณกรรมที่เป็นเสมือนพี่สาวและที่ปรึกษาของฉัน...ฉันและเธอเข้าใจกันและกันดีราวกับเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันเชียวล่ะ

                อาจจะเพราะเราเป็นลูกครึ่งไทย อเมริกันเหมือนกันก็ได้

                อาจารย์ของฉันน่ะค่ะลิลลี่ เฮนสัน...มิสเฮนสันคะ นี่เจ้าหน้าที่รีฟฟ์ แอนเดอร์สันจากสถานีตำรวจคอลลินครอสค่ะฉันแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกันก่อนทั้งสองคนจะทักทายกันน้อยๆ

                สวัสดีค่ะ...ลูกศิษย์ของฉันไปทำความเดือดร้อนให้คุณหรือเปล่าคะมิสเฮนสันหันมาแซวฉันอย่างสนุกสนาน

                ไม่รับครับ...ตรงกันข้าม เราต่างหากที่รบกวนเวลาของอลิสเจ้าหน้าที่แอนเดอร์สันตอบอย่างเป็นมิตร เมื่อเห็นท่าทางเป็นกันเองของตำรวจหนุ่มคุณอาจารย์คนสวยก็เอาไหล่มาชนกับไหล่ฉันด้วยท่าทางล้อเลียน

                อ่อค่ะ...ถ้าลูกศิษย์ฉันสร้างความเดือดร้อนอะไรให้คุณมาบอกฉันเลยนะคะ ฉันจะจัดการตีหล่อนให้เองคนอเมริกันอย่างเจ้าหน้าที่แอนเดอร์สันคงจะไม่คุ้นเคยเกี่ยวกับการทำโทษตามแบบฉบับเอเชียเสียเท่าไหร่ เขาขมวดคิ่วน้อยๆอย่างสงสัยซึ่งทำให้ฉันกับอาจารย์หันไปมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน

                มิสเฮนสันเธอหมายถึงทำโทษน่ะค่ะ...อย่างการกักบริเวณ ตัดค่าขนม อะไรแนวๆนี้ฉันยิ้มให้ผู้ชายร่างสูงตรงหน้าน้อยๆ เขาพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจก่อนจะยิ้มออกมาบ้าง

                อ่อ...ยังไงก็อย่าทำโทษกันรุนแรงมากไปเชียวนะครับ...ผมขอตัวก่อนดีกว่า แล้วเจอกันอลิส แล้วพบกันครับมิสเฮนสันฉันกับอาจารย์สาวโค้งลาคนตัวสูงเล็กน้อยก่อนจะโบกมือลาเขาที่เปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถและขับรถออกไป

                อะไรน่ะ...นึกว่ากำลังเดือดร้อน แล้วไอ้บรรยากาศที่ชมพูฟุ้งออกมาถึงนี่คืออะไรมิสเฮนสันยังคงกระแซะฉันอย่างอารมณ์ดี

                เดือดร้อนน่ะสิ...นั่นไงล่ะฉันชี้ไปยังบรรดาขามุงห่างๆที่มองมาทางเราอย่างไม่วางตา ฉายาแม่มดอลิสของฉันอาจจะแพร่สะพัดไปไกลจนทั่วทั้งเมืองแล้วฉันยักไหล่ก่อนจะกวาดสายตาไปมองพวกเขา

                และแน่นอนพวกเขาหลบตาฉันกันอย่างหวาดกลัว

                ใช่ที่ไหน...ฉันก็คุยกับเธอมาตั้งแต่วันแรกที่เธอกลับมาเรียน ตอนนี้ยังสบายดีอยู่เลย...เป็นแม่มดที่สาปเฉพาะคนที่เพิ่งรู้จักหรือไงล่ะมิสเฮนสันยีหัวฉันอย่างอารมณ์ดี อ้อ ไปก่อนละอธิการบดีท่านเรียกพบน่ะ...แล้วเจอกันยัยแม่มด

                เธอโบกมือลาฉันก่อนจะเดินไปยังทิศทางของตึกอธิการอย่างอารมณ์ดี

                เชอะ...ถ้าฉันสาปใครได้ฉันจะสาปคนบางคนก่อนเป็นอันดับแรกเลยฉันส่ายหัวก่อนจะหันกลับไปยังทิศทางอีกทางเพื่อไปยังแคนทีนที่จิลรออยู่

                เป๊าะ!

                ฉันรู้สึกถึงแรงกระทบน้อยๆที่หัวก่อนจะตามมาด้วยของเหลวเหนียวหนืดที่มีกลิ่น...เหม็นมาก! ฉันหยิบออกมาดูและพบว่ามันเป็นเปลือกไข่ไก่แถมยังเป็นไข่เน่าแล้วอีกต่างหาก และในชั่ววินาทีต่อมาบรรดาสารพัดไข่เน่าและอะไรต่อมิอะไรก็ถูกปามาทางฉันมากมายอย่างไม่รู้ทิศรู้ทาง

                “ยัยแม่มดต้องถูกขับไล่!”ฉันรู้สึกชาและเหนอะหนะไปหมดจากแรงกระทบรอบทิศทาง ซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ จนกระทั้งฉันไม่รู้สึกถึงแรงเห่านั้นแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองรอบๆตัว

                ฉันเงยขึ้นไปมองข้างบนระเบียงชั้นสองที่เป็นทิศทางของไข่ใบแรก

                ไงอลิส...ใบหน้าหล่อเหลากระตุกยิ้มให้ฉันอย่างเย้ยหยัน จะสาปฉันด้วยอีกคนหรือเปล่าคุณแม่มดดวงตาคมรีราวกับดวงตาของเหยี่ยวที่แสนดุร้ายกำลังมองมาที่ฉันด้วยสายตาของสัตว์ร้ายที่จ้องจะขย้ำคอเหยื่อ

                ฉันมองไปรอบๆบริเวณใกล้ๆเขาทุกคนหดหัวหลบหน้าฉันกันหมด พวกขี้ขลาดที่กล้าทำแต่ไม่กล้ารับผลที่จะเกิด ...พวกน่าสมเพชที่น่าขยะแขยงยิ่งกว่าแม่มดอย่างฉันเสียอีก!

                “อย่าทำหน้าตาน่ากลัวแบบนั้นสิอลิส...มันจะยิ่งเหมือนแม่มดนะฉันกำหมัดแน่นอย่างพยายามกลั้นอารมณ์โกรธ ถอนหายใจก่อนจะถอดเอาผ้าปิดตาที่ชุ่มเหม็อนไปด้วยเมือกของไข่ดิบเน่า ฉันมองดูสภาพตัวเองอย่างหงุดหงิด

                บางทีนะบางที...

                ถ้าฉันสามารถสาปใครซักคนให้ล้มตายหายไปจากชีวิตฉันได้ ฉันคงเลือกเขาเป็นคนแรกและคนเดียวที่ฉันจะทำแบบนั้น

                คอนเวย์ เจฟเฟอร์สัน...

                เกิดอะไรขึ้น!”เสียงของจิลดังขึ้นพ้อมกับเสียงฝีเท้าหนักๆสม่ำเสมอที่วิ่งมาทางนี้ ฉันถูกกระชากเข้าไปใกล้ๆร่างสูงทั้กำลังหอบหายใจเพราะความเหนื่อยจากการรีบร้อนวิ่งมาถึงตัวฉันฉัน แกทำอะไรอลิสไอ้คอนเวย์!”

                จิลพยายามจะเช็ดคราบเหนียวๆที่เริ่มจะหนืดขึ้นเพราะทำปฏิกิริยากับอากาศ กว่าจะรู้ตัวเขายกชายเสื้อขึ้นเช็ดหน้าเช็ดตาฉันจนฉัน ฉันหลับตาแน่นเมื่อเขาใช้มือเชยคางฉันขึ้นเพื่อที่เขาจะได้เช็ดมันอย่างถนัด

                สาระเลวเอ๊ย!”จิลเริ่มหงุดหงิดที่เช็ดเท่าไหร่ก็ไม่หมดซักที มันเข้าตาเธอหรือเปล่าอลิส

                ฉันส่ายตาเป็นคำตอบทั้งๆที่ยังหลับตา

                ไอ้คอนเวย์!”ฉันจับมือของเขาไว้พลางส่ายหน้าเมื่อรู้ว่าเขาคิดจะไปจัดการเจ้าตัวต้นเหตุที่ยังยืนผิวปากสบายอารมณ์อยู่บนระเบียง

                เหอะ...แม่งเอ๊ย ไม่เห็นจะสนุกซักนิดเป็นคอนเวย์ที่สบถออกมา ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังจะความนหาความสนุกอะไรกับการแกล้งฉัน แต่ถ้าหวังว่าฉันจะตอบโต้เป็นอีบ้าให้เขาหัวเราะเยาะล่ะก็บอกเลยคิดผิด

                เพราะฉัน...ไม่ได้กล้าหาญอะไรขนาดนั้น

                ยอมรับเถอะ เขาเป็นลูกชายของนายกเทศบาลของเมืองนี้ และฉันเป็นแค่เด็กกำพร้าที่เพิ่งจะอายุ 19 ที่อยู่ตัวคนเดียวและไม่มีแบ็คดีๆที่ไหน ไม่มีใครอยากเอาไม้ซีกไปงั้นไม้ซุงหรอก

                แค่อดทนไว้...จนกว่าพวกเขาจะเบื่อไปเอง

                ลืมตาหน่อยได้มั๊ยอลิส ฉันจะดูว่าอะไรมันเข้าตาเธอหรือเปล่าฉันขมวดคิ้วอย่างลังเลเกี่ยวกับคำขอของเขาเล็กน้อย ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันซ่อนมันไว้ภายใต้ผ้าปิดตา และผมหน้าของตัวเองอยู่ตลอด เพราะเหตุผลบางอย่างที่ฉันไม่อยากจะให้ใครได้เห็น  ฉันแค่อยากรู้ว่ามีอะไรเข้าตาเธอมั๊ย...

                ก็บอกว่าไม่มีไงล่ะ...

                อลิส...อย่าดื้อสิ ถ้าไมระวังมันอาจติดเชื้อได้ไม่ใช่เหรอเขาถอนหายใจอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ฉันชั่งใจอยู่เล็กน้อยและยอมลืมตาให้เขาดูในที่สุด จิลชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะกลืน้ำลายลงคอช้าๆอย่างยากลำบาก

                มันเป็นสีแดง?ฉันพยักหน้ากับคำถามของเขาก่อนจะก้มลงไปหยิบกระเป๋าเพื่อความหาผ้าปิดตาอันใหม่ โอ้พระเจ้า...มันเหมือนของจริงมากอลิส เหมือนจนฉัน...

                ระวัง!...”เสียงเล็กของใครบางคนดังขึ้นก่อนที่ฉันและจิลเลี่ยนจะสังเกตุเห็นกระถางต้นไม้ขนาดกลางที่ตกมายังที่ที่เรายืนอยู่

                เพล้ง!!

                ฉันถูกจิลดึงเข้าสู้อ้อมกอดและก้าวออกมาจากจุดอันตรายอย่างหวุดหวิด ก่อนที่เราทั้งอยู่จะทรุดตัวลงนั่งอย่างแข้งขาอ่อน

                ฮ่าๆ...ฉันโดนคำสาปแม่มดเล่นงานด้วยอีกคนแล้วมั้งเนี่ยจิลพูดติดตลก เธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่าเขาก้มลงสำรวจตามร่างกายที่มอมแมมเละเทะของฉันว่ามีแผลตรงไหนหรือเปล่า ฉันสายหน้าอย่างเหวอๆเพราะตกใจไม่หาย

                กระถางนั้นมั้นเฉียดตาซ้ายของฉันไปนิดเดียวน่ะสิ!

                “ไอ้เวรคอนเวย์อีกหรือไงวะ!...นี่กะจะฆ่ากับหรือไงจิลสบถอย่างหัวเสีย เธอแน่ใจนะว่าไม่เจ็บไม่ปวดตรงไหนฉันได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา

                ขอโทษนะคะฉันไม่ระวังเอง...เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชะโงกหน้าออกมาจากระเบียง อาจารย์ให้ฉันมารดน้ำมัน แต่ฉันทำหลุดมือน่ะค่ะ ขอโทษนะคะเพราะแสงพระอาทิตย์ส่องมาทำให้ฉันที่เงยหน้าขึ้นไปมองเธอเห็นหน้าเธอไม่ชัด รู้แค่ว่าเธอมีผมสั้นสีบลอนด์และมีโครงหน้าที่เรียวเล็กพอประมาณ รอตรงนั้นแป๊บนึงนะคะ!”

                ว่าจบเธอก็ผลุบหายไปในอาคาร ปล่อยให้ฉันกับจิลมองหน้ากันก่อนจะยักไหล่อย่างงงๆกับเธอคนเมื่อกี๊

                เอ่อ ฉันว่าเธอใส่ผ้าคาดตาก่อนเถอะ ฉันว่ายัยผู้หญิงนั่นคงกำลังมาทางเราฉันพยกหน้าก่อนจะหยิบเอาผ้าคาดตาแบบสายผูกออกมาสวมคาดกับตาที่ฉันพยายามจะซ่อนมันไว้

                ฉันขอโทษจริงๆนะคะ...เธอเอ่ยขอโทษทันที่ที่ก้าวมาถึงฉันก่อนจะยกมือขึ้นปิดจมูกและเอามันลงแทบจะทันทีด้วยสีหน้าเกรงใจ

                ไม่เป็นไรค่ะฉันเข้าใจฉันเข้าใจทั้งเรื่องอุบัติเหตุเมื่อครู่และตั้งใจจะบอกเข้าใจเรื่องที่เธอยืนห่างฉันเกือบว่านั่นด้วย

                ฉันเองก็เหม็นจนไม่รู้จมูกจะยังใช้การได้อยู่มั๊ยด้วยซ้ำ

                ฉัน เอมิลี่ค่ะ...เอมิลี่ ลีหล่อนยื่นมืออกมาข้างหน้าฉันจึงเอื้อมไปจับเบาๆ คุณคืออลิส เอมส์และจิลเลี่ยน วอลเตอร์คนดังของอีรอส!”เธอยิ้มกว้างอย่างร่าเริง

                ฉันไม่ใช่คนดังอะไรหรอกนะ...

                น้อยไปสิ...ไม่มีซอกมุมไหนของอีรอสที่ไม่จับกลุ่มพูดคุยเรื่องคุณเลยนะบางทีฉันก็รู้สึกกดดันกับตาใสแป๋วเหมือนลูกหมาน้อยนี่ ฉันเงยหน้ามองเธอชัดๆ (พอดีเธอสูงกว่าฉันน่ะ) ใบหน้าเธอค่อนไปทางชียแทบทุกกระเบียดนิ้ว ดวงตากลมโตรับกับจมูกโด่งที่ไม่ได้โด่งมากมายเหมือนทางยุโรปเข้ากันดีกับใบหน้าเรียวเล็กและผิดขาวอมชมพูดูน่าทะนุถนอม หุ่นดีแบบคนชอบเล่นกีฬา เรียกได้เพอร์เฟ็คน่ามองไปเสียทุกส่วน

                เพียงแต่เธอสูงจนฉันรู้สึกหมั่นไส้...

                เอาล่ะเอมิลี่ ลี ฉันรู้ว่าเธออาจจะอยากคุยต่อ...แต่เรา ฉันหมายถึงฉันและอลิสคงต้องรีบไปจัดการกับเนื้อตัวที่มอมแมมนี่ซะก่อนเอมิลี่ยักไหล่ก่อนจะพยักหน้า

                อาจริงด้วยสิ...ยินดีที่ได้พบตัวเป็นๆนะคนดัง!”เธอโบกมือลาพวกเราก่อนจะหันหลังกลับแล้ววิ่งขึ้นตึกไปด้วยท่าทางสดใสร่าเริง

                ประหลาดคน...ฉันว่าวันนี้เธอกลับบ้านเถอะ ไปเดี๋ยวฉันไปส่ง

     

     

     

                ฉันจ้องมองใบหน้าของตัวเองในกระจกอย่างรู้สึกสับสน

                คำสาปมีอยู่จริง?

                ฟุ้งซ่านละฉันส่ายหัวไล่ความคิดก่อนจะตบแก้มตัวเองสองสามทีเรียกสติ ฉันนี่ต้องติดโรคเพ้อเจ้อจากพวกที่เอาแต่พร่ำพูดเรื่องคำสาปๆๆ

                นี่มันปี 2014 ยุคที่มีสมาร์ทโฟนแค่เครื่องเดียวก็สบายไป 108 อย่างแล้ว!

                กุกกัก กุกกัก ...เพล้ง!

                เพราะในบ้านที่เงียบแสนเงียบและวัถุดิบส่วนใหญ่ของที่นี่ทำมาจากหินและกระจกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เสียงภายในบ้านสะท้อนดังมาตามทางเดิน ฉันสะดุ้งกับเสียงบางอย่างที่แตกจากฉันล่าง

                หมาป่า?

                เสือ?

                อื่นๆ?

                อย่าหาว่าฉันเว่อร์อย่างนู้นอย่างนี้เลยนะ แต่บ้านของฉันเป็นบ้านกลางเขา หลังบ้านออกไปเป็นป่าทึบที่ไม่รู้จะมีสิงสาราสัตว์สาระพัดจะอันตรายอะไรบ้าง

                วิตกไว้ซักหน่อยเผื่อจะตกอยู่ในอันตราย

                บรื๊นน~

                เพล้ง!

                “นังแม่มดต้องถูกขับไล่!”เสียงเครื่องยนต์รถดังกระหึ่มอยู่ทางหน้าบ้าน ฉันถอนหายใจทันทีเมื่อในที่สุดก็รู้สาเหตุ

                เทศกาลขับไล่ไม่รู้จบ...

                วู้ววว~”ฉันชะโงกออกไปดูก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นว่าพุ่มไม้ที่ฉันลงทุนนั่งปลูกและดูแลมันด้วยตัวเองถูกทำลายและเหยียบย่ำจนย่อยยับ พวกบ้านี่ใจร้ายเกินไปแล้ว

                นั่นเป็นต้นไม้ที่บริสุทธิ์ไม่รู้เรื่องรู้ราวนะ!

                “ออกไป! ออกไป! ออกไป!”เสียงตะโกนจากอดัมส์แฟนหนุ่มของเมแกนทำให้บรรดาแก๊งมอเตอร์ไซค์พากันตะโกนตามอย่างฮึกเหิม

                กุกกัก กุกกัก~

                ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อหินก้อนแล้วก้อนเล่ามากระทบกับหน้าต่างตรงหน้าฉันพอดี พอมองลงไปยังที่มาก็เห็นคอนเวย์ เจฟเฟอร์สันกำลังกอดออกยิ้มกริ่มพร้อมกับพวกที่ใส่โม่งปิดบังหน้าตาช่วยกันเขวี้ยงหินเหล่านั้นขึ้นมา ฉันมองเขาที่เหมือนพยายามจะพูดอะไรซักอย่างก่อนจะกรอกตาอย่างหงุดหงิด

                แม่มด ต้อง ถูก กำจัด

                ฉันมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น นี่มันมากเกินไปแล้ว! คนพวกนี้เริ่มจะคลุ้มคลั่งเกินไปแล้ว!

                ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาใกล้บ้านฉันพร้อมกับถังน้ำมันแกลอนใหญ่ นี่มันมากเกินกว่าที่มนุษย์เขาทำ ฉันวิ่งไปหยิบสมาร์ทโฟนในกระเป๋าก่อนจะวิ่งไปหยิบเสื้อเปื้อนคราบไข่ที่อยู่ในตะกร้ามาค้นหานามบัตรของรีฟฟ์

                ฉันต้องแจ้งความ!

                “วู้วว ไปโว๊ย ปล่อยมันตายในนั้นนั่นแหละ!”เสียงของใครบางคนดังขึ้นพร้อมกับกลิ่นเหม็นหืนเหมือนน้ำมันเครื่องกำลังไหม้ ฉันพยายามควบคุมมือไม่ให้สั่น ค่อยๆกดเบอร์โทรศัพท์ที่เห็นในนามบัตรอย่างใจเย็น

                บ้านของฉัน บ้านที่พ่อของฉันเหลือไว้ให้ บ้านที่เป็นเหมือนของดูต่างหน้าพ่อกับแม่ที่เสียไป บ้านที่ฉันใช้ซุกหัวนอนตลอดเวลา

                ฉันจะฆ่าพวกเขา! ฉันจะฆ่าพวกเขาแน่สาบานเลย!

                [รีฟฟ์ แอนเดอร์สันพูด...]

                เปรี้ยง!

                “กรี๊ดดดดดด~!!!”

                ซ่า~

                ฉันสะดุ้งกับเสียงคล้ายกับฟ้าผ่าที่ดังกึกก้องทั่วบริเวณเป็นจังหวะเดียวกับที่ปลายสายรับโทรศัพท์ ฉันหันไปมองข้างนอกที่อยู่ๆก็มีสายฝนโปรยปรายกระหน่ำลงมาอย่างไม่มีปรี่ไม่มีขลุ่ย

                “กรี๊ดดด อดัมส์!....กรี๊ดดดดเสียงกรีดร้องของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นก่อนจะมีเสียงโวยวายจากข้างนอกดังลอดเข้ามา

                [อลิส...นั่นอลิสหรือเปล่า...] ปลายสายพยายามเรียกฉันซึ่งมัวแต่พะวงอยู่กับเสียงวุ่นวายของนอกที่จ๊อกแจ๊กจอแจยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

                พวกเขาพยายามจะเผาบ้านของฉัน...พวกเขาพยายามจะฆ่าฉัน...ฉันทรุดตัวลงร้องไห้อยู่ข้างๆประตูห้องน้ำ พยายามกลั้นสะอื้นของตัวเองอย่างยากลำบาก นี่มันเกินไปแล้ว...พวกเขาทำเกินไป

                [ทำใจดีๆไว้อลิส ฉันจะไปที่นั่นให้เร็วที่สุด ออกมาจากบ้านก่อนเถอะ...] ปลายสายพยายามจะปลอบโยนฉัน ฉันส่ายหน้าถึงแม้จะรู้ว่าเขามองไม่เห็น

                ถ้าฉันออกไปพวกเขาต้องฆ่าฉันแน่!”ฉันมองออกไปข้างนอกอย่างไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งยืนเปียกฝนอยู่ตรงบริเวณระเบียงพร้อมมือที่มีแผลมากมาย

                [อลิส!...เกิดอะไรขึ้น...] สายฝนที่โปรยปรายทำให้ผู้ชายข้างนอกยิ่งดูน่ากลัวขึ้นไปใหญ่

                ตึง! ตึง! ตึง!

                ผู้ชายคนนั้นใช้มือทุบกระจกอย่างบ้าคลั่ง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นมอของเขามีเลือดออกมามากขึ้นเพราะแรงปะทะอย่างประตูกระจกที่ระเบียง

                หมับ!

                “กรี๊ด...

                อยากตายอยู่ที่นี่หรือไง หนีสิวะ!”มือหนาเอื้อมมาปิดปากฉันที่กำลังจะกรีดร้อง ก่อนจะดึงฉันออกจากประตูออกมาอย่างรีบร้อน

                คุณเข้ามาได้ยังไง...ถ้าอย่างนั้นพวกเขา...ฉันถามผู้ชายตัวสูงในชุดหนังสีดำที่กำลังดึงมือฉันให้วิ่งตาม มองไปตามทางเดินที่มืดสลัวแต่ในที่สุดฉันก็สังเกตได้ว่าเขาพาฉันไปยังทิศทางด้านตวันตกซึ่งเป็นส่วนที่ฉันไม่ได้เข้าไปใช้มันเลยตลอด 1 ปีที่ฉันมาอยู่ในคฤหาสถ์เพราะมันใหญ่เกินไปสำหรับคนเดียวยังไงล่ะ นี่มัน...

                เออ ฉันเห็นฝั่งนู้นมันวุ่นวายฉันเลยมาจากฝั่งนี้...เขาหันมาพูดด้วยท่าทางเนือยๆและเปลี่ยนจากวิ่งมาเป็นก้าวเดินแบบเร็วๆแทนึ่งฉันที่ขาสั้นกว่าเขามากก็ยังคงต้องวิ่งอยู่ดีเพราะช่วงก้าวของเรามันต่างกันจนเกินไป เขาก้าวยาวพาฉันไปยังอีกฝั่ง แล้วก็วางใจเถอะ...พวกนั้นหนีไปแล้วเพราะฟ้าผ่าเมื่อกี๊...

                ฟ้าผ่า?...ฉันทวนคำอย่างไม่เข้าใจ เขาหยุดเดินก่อนจะหันมามองฉันด้วสายตาเนือยๆเหมือนเบื่อที่จะเล่นเกมส์ตอบคำถามเต็มทน

                อยู่ๆก็มีฟ้าผ่าเข้ากลางกระหม่อมของผู้ชายที่เหมือนจะเป็นหัวโจกคนนึงในกลุ่ม...ตายคาที่เลยล่ะฉันชะงักทันทีก่อนจะบีบมือเขาแน่น

                เป็นไปไม่ได้...ฉันส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด เขาถอนหายใจและยักไหล่ให้ฉันน้อยๆเหมือนจนปัญญาจะอธิบาย

                แต่มันเป็นไปแล้ว...เขาบอกแค่นั้นก่อนจะลากฉันให้เดินต่อไปยังทางเชื่อมไปทางคฤหาสถ์ทิศตะวันตก บ้านเธอนี่ใหญ่เป็นบ้า...ขนาดที่ว่ามีคนแอบมาอยู่เจ้าของบ้านยังไม่รู้ตัวเลย

                เขาปล่อยมือฉันทันทีเมื่อเรามาถึงโซนรับแขกทางทิศตะวันตก และปล่อยให้ฉันยืนงงกับสภาพห้องที่สะอาดจนไม่น่าเชื่อว่าจะไม่มีผู้อยู่อาศัยมากว่า 1 ปีแถมตัวฉันซึ่งเป็นเจ้าของก็ไม่เคยทำความสะอาดเลยซักครั้ง

                “!!”ฉันผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นกล่องอาหารสำเร็จรูปวางกองกันบนโต๊ะรับแขก กวาดตาไปรอบทิศทางอย่างประเมินดูคร่าวๆมันสะอาดกว่าที่ฉันเพิ่งเห็นครั้งล่าสุดตอนมาเอาโซฟาจากฝั่งนี้ไปเปลี่ยนเพราะมันไม่เข้ากับห้องรับแขกทางฝั่งนู้น และตรงโซฟาที่พูดถึงก็มีถุงนอนพร้อมผ้าห่มอย่างดีพาดอยู่

                ฉันบังเอิญได้ยินเสียงวุ่นวายจากฝั่งโน้นเลยแอบไปดู...เธอเนี่ยมีแต่ศัตรูจริงๆหมอนั่นพูดก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาตัวใหญ่นั่นอย่างคุ้นเคย และหยิบเอาถุงมันฝรั่งทอดมี่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมากิน

                ฉันควรจะตกใจเรื่องอะไรก่อนดีล่ะ ระหว่างที่เพิ่งจะเฉียดตายจากการถูกย่างสดไปพร้อมกับบ้าน หรือผู้ชายตรงหน้าที่ดูจะคุ้นเคยกับบ้านของฉันเหลือเกิน!

               

               

     

     

               

               

     

               



     











     

    -------------
    TALKTALKTALK

    15/07/17 - 100% ว๊ายยยย เลือกไม่ถูกเลยว่าจะเลือกเพื่อนที่แสนดีจิลหรือหนุ่มSคอนเวย์ แต่ช้าแต่ แต่! คนสุดท้ายมาวินสุดอะไรสุดดด นี่ตกลงผิดที่บ้านยัยนางเอกมันใหญ่เกินไปหรือไอ้คนมา(แอบ)อาศัยมันหน้าด้าน แหมเล่นซะคุ้นเคยเบยพ่อคุณณ ตอนนี้มีตายหนึ่งว่ะคุณ...แถมจิลยอดรักเรายังเกือบหัวแตกหวุดหวิด T^T
    มาแล้วๆ เดี๋ยวเราจะทำตารางอัพเดตนิยายดีกว่าว่าวันไหนลงเรื่องไหนเผื่อจะมีแรงกระตุ้นบ้าง ฮาาา บายน้าแล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าา~



    12/07/14 - ขึ้นโรงพักเป็นว่าเล่นเลยนางเอกเรา T^T เปิดตัวผู้ชายสายSแล้วค่ะบันซายยยยย \(^0^)/ พวกเธอเอ๋ยจงมาเป็นสาวกหนุ่มS! แต่สำหรับเรายังไงเราก็รักนิโคไลไปแล้ว แอร๊ยยย -///- เจอกันอีก 80% ที่เหลือพร้อมการเปิดตัวอันครึกโครมของแม่มดน้อยอลิส ไม่ใช่! การเปิดตัวของผู้ชายค่าาาา ^[]^ #ร่าเริงเป็นพิเศษเพื่ออะไร 555555555555555 บายยยยยย

     


    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×