ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EYE :: คำสาปร้ายผูกเงื่อนรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 57







    บทนำ

     

     

     

     

                พ่อคะแม่คะ...เรากำลังจะไปที่ไหนกันคะเด็กสาววัย17ปีในชุดสีชมพูดูน่ารักน่าชังเกาะพนักพิงเบาะรถของผู้เป็นแม่ จ้องมองทางเบื้องหน้า ดวงตาเรียวหวานตามแบบฉบับเอเชียของผู้เป็นแม่รับกับจมูกโด่งได้รูปแบบสาวยุโรปจากผู้เป็นพ่อเข้ากับได้ดีอย่างประหลาด ริมฝีปากเล็กคลี่ยิ้มจนดวงตาหวานยกหยีคล้ายพระจันทร์เสี้ยว

                ความลับจ้ะอัญญรินท์ เอมส์ผู้เป็นแม่ตอบสาวน้อยช่างสงสัยเพียงเท่านั้นก่อนจะหันไปสบตากับสามีผู้ซึ่งกำลังยิ้มกริ่มอย่างคนที่พึงพอใจต่ออะไรบางอย่าง

                บางอย่างที่คิดว่าลูกสาวของพวกเขาจะดีใจที่ได้เห็นมัน

                เชอะ...อลิสไม่รู้แล้วก็ได้มุ่ยหน้าใส่ทั้งสองคนก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่เบาะรถพลางกอดอกหันไปมองนอกหน้าต่างด้วยท่าทางแสนงอน

                เอาไว้พอไปถึง อลิสจะต้องร้องว้าวแน่นอนล่ะผู้เป็นพ่อหัวเราะน้อยๆก่อนจะตั้งใจมองถนนที่เริ่มมีเมฆมืดครึ้มตั้งเค้า อะไรกัน...ฝนจะตกหรอเนี่ย...สงสัยคงต้องรีบแล้วล่ะท่าจะตกแรง เป็นพายุรึเปล่านะ

                อย่ารีบร้อนมากนะคะคุณ...ถนนแถวนี้ยิ่งอันตราย ยิ่งโค้งหน้ามีหน้าผาด้วยผู้เป็นภรรยาเอ่ยบอกสามีอย่างกังวลใจ เพราะถนนแห่งนี้เป็นถนนทางเลียบเขา ทางโค้งก็มีมากมายซ้ำยังดูวังเวงจนน่าใจหาย

                เอาน่า...โค้งข้างหน้าก็ถึงแล้วหันไปสบตาภรรยาให้เธอคลายกังวลก่อนจะหันไปตั้งใจขับรถเพื่อให้เร่งไปถึงที่หมายก่อนพายุฝนจะมาถึง โธ่...ตกจนได้แต่ทว่าไม่ทันซะแล้ว พายุฝนลูกใหญ่ตกลงมาจนทางข้างหน้าพร่ามัวไปหมด คุณหมอเอมส์เปิดไฟหน้ารถเพื่อส่องทางข้างหน้าก่อนจะเหยียบคันเร่งมากกว่าเก่าเพราะอยากจะให้รีบถึงที่หมายเร็ว

                อลิสทอดมองน้ำฝนที่ตกกระทบหน้าต่างภายนอกตัวรถอย่างเหม่อลอย เธอเองก็เหมือนเด็กสาวทุกคนที่ชอบเวลาที่ฝนตก และคิดว่ามันเป็นอะไรที่โรแมนติกซึ่งบางที ถ้าเธอสามารถรู้ได้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ เธออาจจะเกลียดสายฝนไปเลยก็ได้

                ปัง!

                เสียงดังจากด้านหลังตัวรถทำให้คนในรถสะดุ้ง ก่อนที่ชั่ววินาทีต่อมารถเก๋งสี่ประตูสีดำวาวของครอบครัวเอมส์จะส่ายอย่างบ้าคลั่ง เอดิสัน เอมส์พยายามประคองรถที่ส่ายพลางประคองสติในชั่ววินาทีชีวิต เด็กหญิงอลิสผู้เป็นคนเดียวที่ไม่มีเข็มขัดยึดเธอกับเบาะรถกระแทกประตูอย่างจังจนหัวแตก

                ปี๊ดดด~

                “คุณคะ ระวัง!!”

               

                และนั่น...เป็นเสียงสุดท้ายที่เด็กน้อยอลิส เอมส์ได้ยินในวันนั้น...

     

     


     

     

     

     

     

     

                ซ่า

                หญิงสาวใบหน้าหวานจัดชะงักกึก มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำสีด่างที่เจือกลิ่นอับของดิน ที่พอจะเดาได้ว่าเป็นน้ำจากการล้างผ้าขี้ริ้ว

                อา...เสื้อของเธอเป็นสีขาวซะด้วย

                คิกคิก~…ยัยแม่มดอลิส คิกคิก~…”เสียงหัวเราะดังขึ้นจากเหนือหัวของเธอดูจากความดังของมันแล้วคงจะอยู่ชั้นบนซักชั้น และรอคอยเวลาที่เธอจะเดินผ่านทางนี้เพื่อไปยังทางออกจากประตูมหาวิทยาลัย

                บ้าชิบสบถเบาๆก่อนจะดึกเอาผ้าปิดตาสีขาวที่บัดนี้เปียกชุ่มแถมยังกระดำกระด่างจากการซึมซับน้ำอะไรซักอย่างที่คนพวกนั้นเทลงมา

                ว๊ายๆ ถอดแล้วๆ ถอดผ้าปิดตาออกมาแล้ว อย่าไปมองเชียวนะเดียวถูกสาป! คิกคิก~”กรอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะก้มหน้าก้มตาตรวจดูว่าเสื้อสีขาวของเธอเปียกแนบเนื้อไปแค่ไหน

                คิกคิก~…ยัยตัวซวยเสียงซุบซิบนินทายังคงดังลอดมาเป็นระยะ ตัวซวยที่ถูกพูดถึงได้แต่ถอนหายใจและหยิบเอาผ้าปิดตาสำรองในกระเป๋าขึ้นมาคาดกับบริเวณตาขวาอย่างช่ำชอง

                มันชินซะแล้วล่ะ...ปากก็บอกว่ากลัวคำสาปจากตัวเธอ แต่การกระทำนี่สิไม่เห็นจะแสดงว่าว่ากลัวให้เห็นตรงไหน

                คอยดูเหอะ วันไหนหมดความอดทนจะลองไล่สาปให้หมด!

                ซ่า~

                “กรี๊ด!...ทำอะไรของนายน่ะวอลเตอร์! ชุดของฉันซื้อมาแพงนะยะ!”เสียงโวยวายเรียกชื่อที่คุ้นเคยเรียกความสนใจให้หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีดำสนิทหันกลับไปเลยหน้าขึ้นดูเหตุการณ์

                มีแค่เสื้อเธอเท่านั้นหรือไงที่แพง...เสื้อตัวนั้นฉันซื้อให้อลิสก็แพงโว๊ย!!...นี่แหน่ะๆชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่แฝงไปด้วยความขี้เล่น ส่วนสูงที่สมส่วนกับร่างกายที่ดูผอมบางแต่กลับซ่อนกล้ามเนื้อน่ากัดไว้อย่างร้ายกาจ จิลเลี่ยน วอลเตอร์ หรือจิล เพื่อนเพียงคนเดียวในเมืองนี้ของเธอ และเป็นคนเดียวที่กล้าเข้าหาเธอโดยไม่หวาดกลัวกับคำสาปหรือเกรงกลัวต่อพวกชอบกลั่นแกล้งที่มีเกลื่อนในเมืองนี้

                หน็อย!...นายทำแบบนี้อยากโดนหมายหัวไปด้วยอีกคนหรือไง!”สาวๆนักแกล้งพยายามหลบกระสุนน้ำจากปืนฉีดน้ำสีสันฉูดฉาดในมือของจิลเลี่ยนไปพลางก็ตะโกนด่าทอต่อว่าคนตัวสูงกว่าไปพลาง

                เอาเลยสิ! เหอะ บารมีไอ้คอนเวย์กับพวกโรคจิตฮันเซลเกรเทลนั่นมันจะแน่ซักแค่ไหนเชียว...บอกให้นะเมแกน ถ้ามันทำอะไรฉันได้มันทำไปนานแล้ว!”นั่นเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ เห็นหลักลอยและติดดินแบบนี้ แต่จิลเลียนเป็นถึงลูกชายของเอลเลียต วอลเตอร์ เจ้าพ่อค่ายหนังยักษ์ใหญ่ในฮอลลีวู๊ดที่เป็นที่นับหน้าถือตาทางสังคม และแน่นอน สาวๆเกือบค่อนเมืองอยากสานสัมพันธ์กับเขาเพื่อใช้เป็นสะพานก้าวไปสู่พ่อเขากันทั้งนั้น

                และแน่นอนว่าเขาปฏิญาณว่าจะไม่พลาดท่าให้พวกหล่อนเด็ดขาด!

                “หน็อยไอ้บ้าเอ๊ย...พวกเราอุตส่าห์ละเว้นแกไว้แล้วเชียวนะเป็นเสียงทุ้มของพวกนักแกล้งกลุ่มใหม่ จิลเลี่ยนซึ่งตอนนี้โดนขนาบข้างด้วยกลุ่มนักแกล้งประจำมหาวิทยาลัย

                แหม...เล่นมาหน้าหลังแบบนี้ กระสุนหมดแล้วเสียด้วยมองปืนฉีดน้ำของตัวเองก่อนจะส่งยิ้มแหยให้ชายร่างสูงสามสี่คนที่เยื้องย่างมาทางเขา เผ่นล่ะ!”

                ว่าจบ จิลเลี่ยน วอลเตอร์ก็ทำสิ่งที่น่าหวาดเสียวจนคนที่มุงดูเหตุการณ์อยู่อุทานอย่างตกใจ ร่างสูงสมส่วนกระโดดจากระเบียงชั้นสองลงมาตรงหน้าของอลิส เอมส์พร้อมยิ้มร่าอย่างสนุกสนาน

                ไปกันเถอะ...พยากรณ์อากาศบอกวันนี้ฝนจะตกนะJ

     




     

                เช้าวันนี้เป็นอีกวันที่อีรอสยูคึกคักไปด้วยเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจ บรรดานักศึกษามุงทั้งหลายยืนมองเจ้าหน้าที่ตำรวจนับสิบนายที่กำลังยืนมองรูปถ่ายในมือหน้าดำคร่ำเครียด บ้างก็พูดคุยอยู่กับนักศึกษากลุ่มหนึ่งเพื่อสืบหาข้อมูล

                นั่นไงเธอล่ะ...

                เสียงฮือฮาดึงขึ้นอีกครั้งเมื่อหญิงสาวหน้าหวานผมสีดำสนิทมีผ้าคาดตาปิดตาขวาที่เธอไม่ค่อยพิศมัยมันซักเท่าไหร่ปรากฎตัวขึ้น อลิสมองเห็นความกดดันจากสายตาของคนรอบข้างที่แทบจะแหวกออกห่างจากเธอก่อนจะหยุดลงที่กลุ่มนายตำรวจหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่เดินเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าเครียดขึง

                ผมเจ้าหน้าที่ รีฟฟ์ แอนเดอร์สัน จากสำนักงานตำรวจคอนลินครอสครับ...คุณคืออลิส เอมส์ใช่มั๊ยครับ...คนถูกถามพยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงยืนยันว่าคนที่เขาถามถึงคือเธอ รู้จักเมแกน ฮาร์เปอร์หรือเปล่าครับ

                ไม่มีใครในอีรอสไม่รู้จักเธอหรอกค่ะ...เธอเป็นดาวเด่นของทีมเชียร์หลีดเดอร์อลิสพยักหน้าน้อยๆก่อนจะตอบคำถามกับเจ้าหน้าที่หนุ่มตรงหน้า

                “คุณมีความแค้นอะไรกับเธอหรือเปล่าครับฉันส่ายหัวเป็นเชิงปฏิเสธ อย่าหาว่านางเอกจัดอะไรเลยนะ ฉันไม่ได้แค้นเคืองอะไรกับเหตุการณ์เมื่อวานทั้งนั้นแหละ

                แต่คงมีแต่เธอเท่านั้นที่ดูจะคั่งแค้นฉันเสียเต็มประดา

                เธอถูกพบเป็นศพอยู่ที่เขื่อนหลังเมืองเมื่อเช้านี้...คุณ พอจะไปให้ปากคำกับเราที่โรงพักได้มั๊ยครับ...

     















    ---------------------
    TALKTALKTALK
    12/07/14 - หว่ายยย เปิดมาก็มีตายเลยแง จิลน่ารักเนอะ ตอนเขียนไปพร่ำไปก็หวั่นไหวให้จิลตลอด หวั่นไหวมากด้วยแง T////T ยังๆๆๆ ตราบใดที่หนุ่มๆยังเปิดตัวไม่หมดเราจะไม่ปักธง เราจะสร้างโมเม้นไปเรื่อย เราจะฟินกับหนุ่มๆไปพร้อมกับอลิส งิงิ ย้ำอีกที นี่คือนิยายรัก นิยายรัก นิยายรัก... ///-/// 










     

     © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×